เช้าวันต่อมา
แดดร้อนกระทบผนังกระจกและทะลุผ่านผ้าม่านสีขาวเข้ามาในห้องที่เปิดแอร์เย็นฉ่ำ แม้ว่ามันจะเป็นแดดยามเช้าในฤดูร้อน แต่มันก็ไม่ได้ทำให้คนที่นอนอยู่บนเตียงรู้สึกระคายที่ผิวแต่อย่างใด กลับกันร่างเปลือยเปล่าของหญิงสาวที่เพิ่งผ่านสมรภูมิเดือดเมื่อคืนนั้นราวกับเปล่งแสงออกมาจางๆ ผิวที่ขาวจัดและใบหน้าอันสมบูรณ์แบบส่งให้เธอดูงดงามราวกับตุ๊กตากระเบื้อง
ผมยาวที่เคยรวบไว้บัดนี้กระจายปกคลุมแผ่นหลังของเธออย่างคลุมเครือ ตั้งแต่ลาดไหล่ขาวเนียนไปยังเนินอกอิ่มซึ่งเชิดขึ้นเล็กน้อยจากการหายใจที่สม่ำเสมอเต็มไปด้วยรอยจูบและรอยฟันสีแดงจางๆ
ภาพอันสวยงามนี้ปรากฏในครรลองสายตาของร่างสูงที่นั่งไขว้ขาจิบกาแฟอย่างสงบ แว่นตาไร้กรอบปรากฏบนใบหน้าหล่อเหลาของเขา แพขนตาหนาเบื้องหลังกรอบแว่นหลุบต่ำลง ริมฝีปากได้รูปมีรอยแดงอันเนื่องมาจากอุบัติเหตุเล็กๆ น้อยๆ เมื่อคืน
เช้านี้เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงขายาวสีดำ ดูเรียบร้อยราวกับว่าเมื่อคืนคนที่กลายร่างเป็นปีศาจร้ายไม่ใช่เขา หากแต่เมื่อสังเกตดีๆ จะพบว่าลำคอของชายหนุ่มมีรอยเล็บและรอยจูบสีชมพูอ่อน ซึ่งเขาไม่คิดจะปกปิดมันแม้แต่น้อย
และสภาพของหญิงสาวที่นอนหมดแรงอยู่บนเตียง แม้จะไม่เรียบร้อยและยังดูเย้ายวนอย่างยิ่ง หากจะให้พูดตามตรงเขาไม่คิดจะกลับไปจัดแจงให้มันเรียบร้อยแต่อย่างใด เพราะเอาเข้าจริง การชมทิวทัศน์ตรงหน้าก็สวยงามกว่าทิวทัศน์นอกระเบียงในยามเช้าเป็นอย่างมาก
ยิ่งเมื่อคิดถึงความบ้าคลั่งเมื่อคืนนี้ ดวงตาของชายหนุ่มก็เข้มขึ้นและเต็มไปด้วยความชั่วร้าย โดยเฉพาะรอยยิ้มพึงพอใจที่เกิดจากการกินเรียบ
อย่างไรก็ตามเขาไม่ใช่คนดีอยู่แล้ว อีกอย่างมีของหวานมาเสิร์ฟตรงหน้า ทั้งยังเป็นของหวานที่เขาพยายามเก็บไว้มาหลายปีด้วยความอดทน ตอนนี้ความอดทนได้สิ้นสุดลงแล้ว เขาจะปล่อยมันให้คนอื่นเชยชมได้อย่างไร
อยากรู้จริงๆ ว่าผู้หญิงที่เคยปากดี เมื่อตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองอยู่ในสภาพนี้จะเป็นยังไง
“อืม...”
ทว่าสวรรค์ก็ดูจะเป็นใจกับความคิดของชายหนุ่ม เมื่อร่างที่อยู่บนเตียงค่อยๆ ส่งเสียง แขนเรียวยกขึ้นสูงจนผ้าห่มร่นลงไปกองที่เอวคอด เผยให้เห็นร่องรอยที่เกิดจากความใคร่อันดุเดือดเมื่อคืน หญิงสาวยืดแขนบิดขี้เกียจ คิ้วเรียวสวยขมวดเป็นปมและหยีตาเนื่องจากแสงสว่างภายนอก
“โอย...เจ็บชะมัด” ความเจ็บปวดและความร้าวระบมที่แผ่ลามไปทั่วร่างกายทำให้จีนครวญครางออกมาอย่างไม่อดทน ด้วยความที่คิดว่าอยู่ในพื้นที่ส่วนตัวของตัวเองเธอจึงไม่ได้กลัวว่าใครจะมาเห็นท่าทางแปลกๆ ของตัวเอง
แต่ไม่นานนักความเจ็บปวดโดยเฉพาะตรงจุดอ่อนไหวของตัวเองทำให้ดวงตาที่หยีลงเบิกโพลง ทว่าด้วยแสงสว่างจ้าทำให้เธอตาพร่าไปชั่วขณะ จีนจึงเห็นเพียงเงาตะคุ่มตรงหน้า แต่เมื่อหญิงสาวค่อยๆ ปรือตาขึ้นอีกครั้งและเห็นว่าเงาตรงหน้าไม่ได้ตู้หรืออะไรแต่เป็นผู้ชาย
“เฮ้ย!” หญิงสาวทะลึ่งพรวดลุกขึ้นนั่งด้วยความตกใจ ความเย็นที่เข้ามาปะทะแผ่นหลังทำให้เธอก้มลงมองสภาพของตัวเอง และเมื่อเห็นว่าร่างกายของเธอเปลือยเปล่า ไม่ใช่แค่ท่อนบนแต่เป็นทั้งตัว ปากก็สั่นเทาอย่างห้ามไม่อยู่ “นี่มันเกิดอะไรขึ้น”
คนที่จิบกาแฟมองท่าทางตื่นตระหนกของจีนอย่างสงบและตอบเสียงเรียบ “เธอโดนใครก็ไม่รู้มอมยา จากนั้นเราก็มีอะไรกัน”
กระชับฉับไวเป็นพิเศษ
จีนรีบคว้าผ้าห่มจ้องมองบีมราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ “แกมอมยาฉันเหรอ?”
เขามองเธอด้วยสายตาเย็นชา “ไม่ใช่”
“แล้วทำไมแกถึง...” ปากของเธอสั่นจนไม่สามารถควบคุมน้ำเสียงของตัวเองได้ ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นทำให้เธอไม่สามารถขยับตัวไปมากกว่านี้ได้ ขณะเดียวกันมันก็ตกใจเกินกว่าจะทำอะไร ความทรงจำอันเลือนรางบอกกับเธอว่าเมื่อคืนเธอเกือบถูกผู้ชายสามคนฉุดไป
และเธอก็เห็นเขา
บีม...
ทันใดนั้นตัวของเธอก็สั่นเทาอย่างห้ามไม่อยู่ ถ้าหากบีมมาช่วยไว้ไม่ทัน นั่นก็หมายความว่าเธออาจจะถูกรุมโทรม แต่ขณะเดียวกันคนที่ช่วยเธอก็เป็นหมาป่าตัวหนึ่ง
เดิมทีจีนคิดว่าบีมไม่ได้ชอบผู้หญิง เธอจึงไม่ฝืนประคองสติอีกต่อไป
“เธอเป็นคนปล้ำฉัน” ก่อนที่จีนจะจินตนาการไปมากกว่านี้บีมก็พูดขึ้น เขาวางแก้วกาแฟไว้ที่หัวเตียงและกอดอกมองผู้หญิงที่ตื่นตระหนกตรงหน้า มีความสงสารเล็กน้อย แต่ไม่ได้มีความรู้สึกผิดเลย
เขาจะรู้สึกผิดได้ยังไง เขาไม่ได้เป็นคนเริ่ม อีกอย่าง...เขาชอบที่จะลงเอยแบบนี้
“คนอย่างแกใครก็บังคับไม่ได้” จีนขึ้นเสียงเล็กน้อย ทำตัวไม่ถูกที่เพื่อนสนิทจะกลายเป็นคนที่ได้ครั้งแรกของเธอไปแบบนี้
“ใช่ เธอพูดถูก” เขาว่า มุมปากขดเป็นรอยยิ้มชั่วร้ายเล็กน้อย บุคลิกของเขาต่างจากปกติ แต่ก็ไม่มากเกินไปจนจีนรู้สึกแปลก เว้นเสียแต่ว่าคนตรงหน้าเต็มไปด้วยรัศมีที่ทรงพลังและร้อนแรงผิดกับปกติที่สงบและใจเย็น “เมื่อคืนฉันย้ำแล้ว แต่เธอบอกว่า ‘เขาบอกว่าเกย์ไม่กินผู้หญิง แต่ตอนนี้ฉันอยากได้ผู้ชายสักคน ถ้าแกไม่โอเค ฉันจะไปหาคนอื่น’ ในเมื่อฉันไม่ใช่เกย์ และฉันโอเค จะให้เธอไปหาคนอื่นทำไม”
“บ้าน่า ฉัน...โอ๊ย” จีนขยับหนีโดยไม่รู้ตัว แต่ก็ต้องอุทานออกมาด้วยความเจ็บปวดเพราะดูเหมือนว่าเมื่อคืนมันจะไม่ใช่แค่มีอะไรกับเขาครั้งเดียวแล้วก็จบ แต่เธอก็เถียงอะไรบีมไม่ออกเพราะวิธีการพูดมันดูเหมือนจะเป็นตัวเธอมาก
ทันใดนั้นภาพตรงหน้าก็ไหววูบ บีมขยับขึ้นเตียง หญิงสาวตกใจจนหงายหลัง ร่างสูงคร่อมทับคนที่เกือบเปลือยตรงหน้า ลมหายใจร้อนของเขาเป่ารดใบหน้าของเธออย่างคลุมเครือ แต่มันก็เพียงพอที่จะทำให้จีนใจเต้นแรงจนทำอะไรไม่ถูก ใบหน้าสวยจึงแดงก่ำอย่างช่วยไม่ได้
ดวงตาคมเบื้องหลังแว่นตาใสกำลังจ้องลึกเข้าไปในจิตวิญญาณของเธอ ราวกับจะอ่านทะลุไปยังก้นบึ้งของหัวใจผู้คนได้ จีนพูดอะไรไม่ออกนอกจากกลั้นหายใจและกังวลว่าเขาจะทำอะไรต่อไปกับเธอ
ทว่าบีมกลับปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีขาวทีละเม็ด จนเผยให้เห็นกล้ามหน้าท้องเป็นลอนและร่องรอยสีเข้มบนตัว “ผลงานเธอไง”
“...” จีนเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ทันใดนั้นก็เถียงไม่ออกอีกครั้ง เพราะเธอเองก็มักจะจินตนาการถึงฉากเซ็กส์ที่ชื่นชอบเวลาอ่านนิยายวาย และเธอมักจะชอบเป็นพิเศษถ้าพระเอกจะฝากร่องรอยเอาไว้บนร่างกายของนายเอกอย่างคลุมเครือเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ
แต่เมื่อบีมบอกว่ามันเป็นสิ่งที่เธอทำ จีนก็ทำได้เพียงกลืนน้ำลายอึกใหญ่และมองเขาอย่างโง่งม “ฉันขอโทษ...เมื่อคืนฉันจำไม่ได้จริงๆ”
คำขอโทษมันไม่ได้พูดยากขนาดนั้น ถ้าเธอผิดจริงเธอก็ต้องยอมรับมันได้
“หึ...” บีมพ่นลมหายใจด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อย เพียงแค่มองตาเธอก็รู้แล้วว่าอีกฝ่ายจำอะไรไม่ได้จริงๆ
“แล้ว...เรื่องเมื่อคืนลืมไปได้มั้ย” หลังจากภาพตัดจีนก็แทบจำอะไรไม่ได้ เธอรู้ว่าสัมผัสอันคลุมเครือบางอย่างมันเกิดขึ้นจริง และเธออาจจะคิดว่ามันแค่ฝันไป ไม่ได้โฟกัสด้วยซ้ำว่าทำอะไรลงไปบ้าง เพราะเธอคิดว่ามันคือความฝันจึงไม่ได้ใส่ใจมาก
ยังจำได้อีกว่าเขาเร่าร้อนขนาดไหน
แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น เธอไม่สามารถสู้หน้าเขาได้อีกต่อไปแล้ว
“ลืมเหรอ? เธอคิดว่าหลังจากเราสองคนมีอะไรกันแล้วมันจะลืมได้เหรอจีน” บีมพูดรัวเร็วอย่างไม่พอใจ เสียงทุ้มต่ำของเขายิ่งทำให้จีนรู้สึกกดดันมากขึ้น
“แต่เราเป็นเพื่อนกันนะบีม ถ้าแกไม่ลืมเรื่องนี้ แล้วถ้าคนอื่นรู้จะทำยังไง”
“เธอกลัวคนอื่นรู้เรื่องของเราเหรอ?”
“ใช่...อึก!” ฉันไม่อยากเสียเพื่อนอย่างแกไป...แต่สุดท้ายจีนก็ไม่ได้พูดคำนั้น เพราะดวงตาของบีมกำลังกดดันเธออย่างหนัก ราวกับว่าหากพูดอะไรที่ไม่ถูกหู โทษของเธอคือประหารชีวิต
น่ากลัวยิ่งกว่าอำนาจของจักรพรรดิในซีรีส์จีนที่เธอชอบดูเสียอีก
“ธันวากับมะนาวยังคบกันได้ เธอกลัวอะไรจีน”
“แต่เราไม่ได้รักกัน...” ทันใดนั้นจีนก็แทบกัดลิ้นเพราะบีมมองเธอราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ
“งั้นเหรอ...แต่ฉันถือว่ะจีน” บีมหัวเราะ รู้สึกผิดหวังอยู่ลึกๆ ในใจ ผิดหวังมากที่คิดมาตลอดว่าความสนิทสนมที่ผู้หญิงตรงหน้ามีให้มันมีอะไรมากกว่าคำว่า ‘เพื่อน’
“...” จีนเห็นสายตาที่เจ็บปวดของเขา พานคิดไปว่าเขาเสียใจที่เธอพรากพรหมจรรย์ของเขาไปอย่างโหดเหี้ยมจึงไม่กล้าพูดอะไรมาก “ฉันขอโทษ”
“ขอโทษเรื่องอะไร” เขาถามเสียงเย็นชา อยากบีบคอผู้หญิงตรงหน้าแล้วเขย่าๆ ดูว่ามีอะไรอยู่ในหัวบ้าง ทว่าความจริงเขาไม่กล้าจะทำอะไรแบบนั้นเลยแม้แต่น้อย
จีนเม้มริมฝีปาก อยากจะปลอบโยนบีมที่เธอทำร้ายเขาอย่างโหดเหี้ยม “ขอโทษที่ทำลายความเชื่อใจของแกนะบีม แต่แกอย่าคิดมากได้ไหม พรหมจรรย์ที่เสียไปมันไม่มีอะไรเลย แกเป็นผู้ชาย การเสียครั้งแรกไปมันไม่ได้มีความหมายขนาดนั้น”
บีมสับสนกับคำพูดเมื่อครู่ของจีนไปพักหนึ่ง ทว่าหลังจากนั้นก็เข้าใจว่าผู้หญิงโง่ตรงหน้าหมายถึงอะไร “เธอคิดแบบนั้นเหรอ แล้วถ้าฉันถือล่ะ?”
“ถือยังไง?”
“ตระกูลของฉันถือเรื่องพรหมจรรย์มาก เธออาจจะไม่รู้”
“...” จีนกะพริบตาปริบๆ เพิ่งเคยเห็นผู้ชายที่ให้ความสำคัญกับพรหมจรรย์ขนาดนี้ “แหะๆ ฉันไม่รู้ แล้ว...ฉันต้องทำยังไง”
ทันใดนั้นลูกแกะตัวน้อยก็ตกหลุมพรางของหมาป่าตัวร้ายเต็มๆ บีมซ่อนแววตาอันตรายไว้ พูดโดยที่หน้าไม่เปลี่ยนสีว่า “สัญญาว่าจะช่วยฉันปีหนึ่ง”
“ช่วยยังไง?”
“อยู่กับฉันปีหนึ่ง” เขาว่า
“อะไรนะ ไม่ได้หรอกฉันมีพ่อมีแม่” จีนปฏิเสธอย่างรวดเร็ว
“โอ้...ถ้าแบบนั้นฉันว่าพ่อแม่เธอควรรู้เรื่องของพวกเราเร็วขึ้น” เขาว่า ขยับท่าทางราวกับต้องการจะลุกขึ้นและหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาปลดล็อก “เฮียแจ็คคงไม่ว่าอะไรหรอก”
“เดี๋ยว!” จีนรีบคว้าแขนของบีมไว้และมองอีกฝ่ายด้วยสายตาอ้อนวอน “ก็ได้ แต่อย่าบอกพ่อกับแม่แล้วก็เฮียได้มั้ย”
เธอไม่ใช่คนโง่จนไม่รู้ว่าการอยู่กับบีมหมายถึงอะไร แต่ถ้าบีมไปบอกพ่อกับแม่ว่าเธอและเขามีอะไรกัน ด้วยความที่ท่านทั้งสองเป็นคนมีชื่อเสียง พวกท่านจะไม่ปล่อยให้เธอและบีมเป็นเพื่อนกันอีกต่อไป และจะรีบเปลี่ยนจากสถานะคนที่นอนด้วยกันเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายโดยไม่ถามความสมัครใจของเธอเลยแม้แต่น้อย
เพราะความจริงแล้วจีนรับรู้มาตลอดว่าพ่อกับแม่และพี่ชายของเธอชอบบีมมาก ชอบมากจนอยากได้เป็นลูกเขย
แต่เธอไม่ได้รักเขาในเชิงชู้สาวนี่นา
“ถ้าครบหนึ่งปีแล้วแกจะลืมเรื่องของพวกเราใช่มั้ย”
บีมซ่อนความผิดหวังในดวงตาและตอบรับอย่างรวดเร็ว “อืม...”
เขาแค่อยากทดสอบจีนว่าเธอจะมีเขาในหัวใจหรือเปล่า แต่ดูเหมือนว่าเธอจะกลัวพ่อแม่รู้มากกว่าจะแคร์ว่าเขาต้องการอะไร
“สำหรับเธอการแต่งงานกับฉันมันน่ากลัวมากใช่ไหม” จู่ๆ เขาก็ถามขึ้น
“อืม” ด้วยความไม่คิดมากจีนจึงตอบพาซื่อ ไม่ได้รู้เลยว่าผู้ชายตรงหน้าจะเก็บเรื่องนี้ไว้ในใจแล้วรังแกเธอทบต้นทบดอกในภายหลัง