เรื่อง เมียสยบเสือ
ตอนที่ 4 เมื่อพ่อเสือมาเจอกระซู่สาว
วันที่รู้ว่าตัวเองอกหักร้อยเปอร์เซ็นต์ ดันเป็นวันที่ตัวเองเสียบริสุทธิ์ที่เก็บรักษามานานให้ผู้ชายแปลกหน้า จะโทษใครได้นอกจากตัวเอง แอบละอายใจเองที่ one night stand กับผู้ชายที่ไม่ได้รู้สึกอะไรด้วย แอบโกรธโลกใบนี้ อายหมอแต่ต้องรักตัวเอง ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าได้ป้องกันรึเปล่า เอาให้ชัวร์คือต้องกินยาคุมฉุกเฉินกันไว้ดีกว่าแก้ทีหลัง…
อยู่คนเดียวต้องทำให้สมองไม่คิดฟุ้งซ่านให้เกิดประโยชน์คือ วาดแพลนร้านเสื้อผ้าในฝัน ร้านเสื้อผ้าที่มีตัวเองเป็นเจ้าของแบรนด์ มันกำลังจะเป็นรูปเป็นร่าง
“ สวยเลยนะเนี่ย ” ทันทีที่พี่สะใภ้เห็นแพลนร่างของเซียมซีต้องเอ่ยชมออกมา
“ นี่ใคร ดีไซเนอร์เซียมซีคนสวยนะคะ ”
“ ไปดูสถานที่ จะได้ให้ช่างจัดการให้เลย ” พี่ชายเอ่ย
“ ร้านเสื้อผ้าเล็กๆของเซียมใกล้จะเกิดขึ้นแล้ว ”
หนึ่งอาทิตย์เต็มที่กลับมาอยู่เมืองไทย ถึงเวลาต้องไปหาเพื่อนรักอย่างมิวแล้ว มิวช่วยครอบครัวดูแลธุรกิจร้านอาหาร เซียมซีเข้าไปอย่างไม่บอกกล่าวเพื่อน ให้มิวกำลังยืนคุยอยู่กับพนักงานเดินดิ่งเข้าไปดึงกระเป๋าแกล้งเพื่อนทันที
“ ว๊าย…อีเซียมซี !! ”
มิวตกใจอุทานเสียงดัง แต่พอเห็นหน้าว่าเป็นเซียมซีเข้ามากอดทันทีอย่างดีใจ
“ มึงกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมไม่บอกกูว่ะ ”
“ เซอร์ไพรส์ไง ”
“ มึงกลับมากี่วันว่ะ ”
“ กูกลับมาอยู่ที่นี่ ”
“ จริงเหรอว่ะ ”
“ อืม…พ่อแม่มึงเป็นไงบ้าง กูจะไปไหว้ท่านสักหน่อย ”
“ คงไม่ได้ว่ะ ” มิวเอ่ยตอบด้วยสีหน้าไม่ค่อยสู้ดี
“ ทำไม มีอะไรที่มึงไม่บอกกูรึเปล่า ”
“ พ่อแม่กูแยกทางกัน พ่อกูมีเมียน้อย แม่กูเสียใจมากตรอมใจเสียไปเมื่อปีที่แล้ว ”
“ แล้วทำไมมึงไม่บอกกู ”
“ กูไม่อยากให้มึงมาทุกข์กับเรื่องของกู แค่เรื่องมึงเองมึงก็ทุกข์หนักมากพออยู่แล้ว ”
“ ตอนนี้เป็นไงบ้าง ”
“ กูเริ่มโอเคขึ้น กูกับพ่อมีสิทธิ์ในร้านอาหารนี้คนละครึ่ง กูดูแลแค่เรื่องพนักงาน เรื่องเงินพ่อให้เมียน้อยเป็นคนจัดการ ”
“ ทำไมเป็นไงว่ะ ”
“ ทำไงได้ว่ะ ชื่อร้านนี้เป็นของพ่อ กูไม่มีสิทธิ์อะไรมากอยู่แล้ว ”
ติ้ง…
“ อีเซียมซี มึงจะบ้าเหรอ ” มิวตกใจเมื่อเห็นสลิปเงินที่เซียมโอนเงินเข้าไปให้
“ กูไม่ได้บ้า มึงเป็นเพื่อนกู มึงลำบากกูต้องช่วย ห้าแสนนีาคงช่วยเปลี่ยนชีวิตมึงได้นะ ”
“ ………. ”
“ อย่ามาดราม่าน้ำตาแตกใส่กูนะ ”
“ ขอบใจนะมึง กูจะรีบหามาคืนมึง ”
“ ไม่ต้องคืน ตอบแทนที่มึงเป็นเพื่อนรักของกู และกูกลับมาเปิดร้านเสื้อผ้าในฝัน กูต้องมีมึงอยู่ข้างๆนะ ”
“ อีเซียมซี ฮือ… ” มิวเข้าไปกอดเซียมซี เพื่อนแท้คือไม่ทิ้งกันในยามลำบาก อย่างเซียมซีที่รู้ว่ามิวกำลังลำลากรีบช่วยเหลือทันทีอย่างไม่หวังผล…
สนามแข่งรถที่เซียมซีต้องมาลองเครื่องยนต์หรือเรียกง่ายๆว่ามาขับรถให้คุ้นชินกับตัวรถและสนาม มาถึงที่สนามแข่งรถกำลังจะเดินไปที่ห้องแต่งตัว เห็นบลูผู้ชายที่เคย one night stand เดินเข้ามากับเพื่อน ที่ท่าทางเพิ่งจะมาถึงเหมือนกัน
“ เพิ่งมาถึงเหรอ ” บลูเอ่ยถามด้วยแววตาที่เป็นมิตร แต่แอบแฝงอะไรบางอย่าง
“ ค่ะ ”
“ ให้เดินไปส่งไหม ”
“ ว่างเหรอคะ ”
“ ก็ว่างนะ ”
“ ถ้าว่างก็ช่วยไปหายใจไกลๆ ”
“ ……… ” พูดจบก็เดินผ่านหน้าบลูกับเพื่อนมายังห้องแต่งตัวของสนามเลย
ระหว่างที่รถเช็กสภาพรถ หัวหน้าชินของเซียมซีเดินเข้ามาบอกว่าเจ้าของสนามอยากลองนั่งรถคู่ขนานไปด้วย ซึ่งทำเซียมซีไม่ค่อยพอใจเป็นอย่างมาก
“ ทำไมต้องนั่ง ปกติพี่ฉิงนั่งกับเซียมอยู่แล้ว ”
“ ทุกทีมต้องเปลี่ยนคนนั่งข้างเพื่อความบริสุทธิ์ใจ กูเลยต้องมาบอกมึงนี่ไง ”
“ ไม่อ่ะ…ถ้าไม่ใช่พี่ฉิง เซียมขับคนเดียวได้ ” เซียมเริ่มแสดงอาการไม่ค่อยพอใจ
“ แต่มึงจะนอกคอกเป็นแกะดำคนเดียวไม่ได้นะ ”
“ คนนั่งข้างๆมีหน้าที่อ่านความเร็ว คอยเช็กความร้อนของรถ ให้คนธรรมดามานั่งเขาจะรู้เหรอ มีแต่สร้างภาระให้เซียมเปล่าๆ ”
“ ทีมอื่นเขาตกลงหมดแล้วนะ ถ้ามึงไม่ตกลง เราคงไม่ได้ลงแข่ง มึงอย่าลืมนี่สนามของเขา ” ฉิงรุ่นพี่ในทีมเอ่ยอีกคน
“ ………… ”
สุดท้ายเซียมซีจำต้องยอมตกลง เข้ามาห้องรับรองเพื่อคุยรายละเอียด แล้วก็ต้องเจอหน้าผู้ชายที่ไม่อยากเจออย่างบลู
“ ผมนั่งกับรถหมายเลย 31 นะคับ ” โบว์เอ่ย
“ ไม่ต้อง ! ” อยู่ๆบลูก็เอ่ยเสียงดังอย่างทันทีทันใด
“ กูนั่งรถคันนี้เอง ”
“ เอาเป็นว่าคุณบลูนั่ง เซียมซีโอเครึเปล่า ? ” หัวหน้าชินเอ่ยถาม
“ ไม่ได้ติดอะไร ”
“ งั้นถือว่าเอาตามนี้แล้วกันนะคับ ”
คนที่ไม่อยากเจออยากออกห่างมากที่สุดก็ต้องมาอยู่ใกล้กันที่สุด เซียมซีเข้าไปนั่งในรถที่มีบลูในชุดเซฟตี้เข้าไปนั่งในรถด้วย รถเริ่มออกตัวสัญชาติเสือก็เริ่มออกลายทำงาน
“ ไม่ยักรู้ว่าเป็นนักแข่งรถด้วย ” ประโยคแรกที่บลูเอ่ยขึ้น
“ ก็รู้ซะสิ ”
“ เก่งไม่เบาหนิ ”
“ ก็พอรู้ ”
“ คิดถึงเรื่องคืนนั้นไหมว่ะ ? ”
“ ถ้าไม่อยากช็อกตาย ก็ช่วยเงียบปาก ” เซียมซีไม่ได้หลงคารมแถมยังเป็นคู่ต่อสู้ของบลูอีกด้วย เสือกับกระซู่ได้มาเจอกันแล้ว
“ อย่าดุนักสิ คืนนั้นไม่ได้ดุเหมือนตอนนี้เลยนะ ”
“ ……...…. ”
“ คุยกันได้ อย่างน้อยเราก็คนเคยๆกัน ไม่ต้องอึดอัด ”
“ ……....… ”
เซียมซีกัดฟันแน่น เร่งความเร็วจนบลูต้องหาที่จับไว้แน่น หน้าเริ่มซีดแต่เก็บอาการไว้ บลูไม่พูดเปล่าเอามือแตะขาของเซียมซีเบาๆอย่างแทะโลม เซียมซีเหยียบคันเร่งเพิ่มความเร็ว ทำบลูนั่งไม่ติดต้องปล่อยมือหาที่จับหลับตาปี๋
“ มึงจะพากูไปตายรึไงว่ะ ”
“ ไม่ต้องขอกูก็พาไป ”
รถเซียมซีเข้าเส้นชัยเป็นคันแรกอีกครั้ง ที่ทำบลูหายใจไม่ทั่วท้อง แต่ต้องเก็กหล่อว่าไม่กลัวเพื่อรักษาฟอร์มตัวเองทั้งที่ตอนนี้ขายังสั่นไม่หาย
“ กูคิดถึงเรื่องคืนนั้นของเราจังเลยว่ะ ”
“ …………. ” เซียมซีมองหน้าบลูตาขวางแต่ไม่พูดอะไร ลงจากรถไป
“ กูอยากสนิทกับมึงกว่านี้ เราไปต่อกันหน่อยไหม...เมีย ”
บลูลงจากรถก่อนจะเอ่ยขึ้น เซียมซีมองหน้าบลู ก่อนจะถอดหมวกกันน็อกแล้วเดินไปที่บลู แล้ว…
ตุ๊บ !!
“ โอ๊ยยยย !! ”
“ เฮ๊ย !! ”
เซียมซีฟาดหมวกกันน็อคเข้าไปที่หัวของบลูอย่างแรง จนบลูล้มกลางอากาศไปกองกับพื้นอย่างลืมตัว ทำทุกคนตกใจ ทีมของเซียมซีรีบเข้ามาห้าม
“ คิดว่าน่าจะต้องไปต่อโรงบาลมากกว่านะ ”
“ …………. ”
.........................
“ หัวกะโหลกร้าวไหมว่ะ ”
“ สมองยังสั่งงานได้ไหมว่ะ ”
“ ไอ้พวกเหี้* กูยังปกติ ” บลูด่ากราดใส่ไทน์กับคิงส์ที่แซวตนที่ถูกเซียมซีนักแข่งรถสาวสวยใช้หมวกกันน็อคฟาดจนหัวแตก
“ เฮียบลูชอบหมวกกันน็อคเหรอคับ ” โบว์น้องชายแซวพร้อมมือที่ทำแผลให้พี่ชายไปด้วย
“ ไอ้โบว์ !! ”
ผั้ว !!
“ โอ๊ย !! เฮียตบมาได้ ผมแค่แซวเล่นเอง ”
“ กูไม่เล่นกับมึง ” บลูตบหัวน้องชายทันทีที่แซวตน
“ ว่าแต่เฮียบลูไปทำอะไรให้โดนคุณเซียมซีฟาดได้ล่ะคับ ผมสงสัย ”
“ เออ…กูก็อยากรู้เหมือนไอ้โบว์ ” ไทน์เอ่ยอีกคน
“ หรือว่ามึงลวนลามเขาในรถว่ะ ” คิงส์ออกความคิดคาดเดา
“ ไม่ใช่เว้ย พวกมึงนี่สงสัยไม่เข้าเรื่อง ไม่มีเหี้*ไรทั้งนั้น ” บลูโบ๊ยไม่ยอมเอ่ยตอบออกไปอย่างไม่ให้เสียชั้นเชิงเสือ
“ งั้นดีเลย เฮียๆต้องหลีกทางให้ผม เพราะว่าผมจะจีบคุณเซียมซี ” โบว์เอ่ย
“ ไม่ได้ !! ”
“ อะไรอ่ะเฮีย ”
“ ไหนบอกมึงไม่ได้สนใจเขาไง แล้วจะห้ามไอ้โบว์ทำไมว่ะ ” ไทน์เอ่ย
“ แปลกๆนะมึง ” คิงส์เอ่ยอีกคน
“ กูไม่ได้สนใจเซียมซี แต่ใครห้ามยุ่งกับเซียมซี ”
“ มึงไม่ได้ชอบ แต่ห้ามใครยุ่ง ” ไทน์เอ่ยถาม
“ เออ ”
“ โอเค ถือว่ากูเข้าใจว่ามึงไม่ได้ชอบเขาแล้วกัน ”
“ เออ…กูไม่ได้ชอบ ”
ร้านสักลายที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว มีลายสักที่ออกแบบเฉพาะของร้าน เจาะตลาดกลุ่มวัยรุ่น กลุ่มนักศึกษาและกลุ่มที่ชื่นชอบในเสพติดความเจ็บปวดในการสักลาย การมาสักที่ร้านต้องจองคิวล่วงหน้าเท่านั้น
“ มาสักตามที่นัดไว้ คิวที่ 7 ค่ะ ” มีผู้หญิงเข้ามาเอ่ยคุยกับลูกน้อง มีผู้หญิงสองคน หนึ่งในนั้นคือเซียมซีที่กำลังมองลายสักในร้ายอย่างไม่ได้สนใจอะไร
“ สักกี่คนคับ ”
“ 2 ค่ะ ”
“ เข้าห้อง 1 คนนึงอีกคนเข้าห้อง 2 นะคับ ”
“ กูสักคนนี้เอง ”
“ ………... ” บลูเอ่ยขึ้น ท่ามกลางทุกคนที่มองอย่างตกใจ ต่างจากไทน์และคิงส์ที่นั่งอยู่ในห้องกระจกเห็นทุกอย่าง ได้แต่มองหน้ากันพร้อมรอยยิ้มมีเล่ห์นัยให้กัน เซียมซีมองหน้าบลูแต่ไม่พูดอะไร
“ สักลายไหน ? ”
“ ลายนี้ ” เซียมซียื่นโทรศัพท์มือถือที่มีลายสักอยู่ในนั้น ซึ่งลายนี้ไม่เคยคุ้นตามาก่อน บลูมองหน้าเซียมซีแต่เจ้าตัวกลับนิ่งมองบลูกลับอย่างไม่หลบตา
“ ปริ้นลายนี้ เอาไปให้กู ”
“ คับเฮีย ” บลูยื่นโทรศัพท์มือถือของเซียมซีให้ลูกน้องเพื่อปริ้นลาย ก่อนจะพาเซียมซีไปรอที่ในห้องเพื่อเตรียมตัวสัก
“ สักตรงไหน ”
“ เอว ”
“ นอนดิ ” เซียมซีนอนลงไป ก่อนจะเปิดเสื้อตัวเองโชว์หน้าท้องที่ขาวเนียน ทำบลูที่เห็นกลืนน้ำลายเหงือกใหญ่เสียงดัง ใจเต้นแรงอย่างเก็บอาการไม่อยู่
“ ไปเช็ดเลือดกำเดาก่อนไหม ”
“ !!! ”
บลูตกใจเลิ่กลั่กรีบเช็ดจมูกตัวเอง ที่ไหนได้ไม่ได้มีเลยกำเดา ทำบลูเสียเซลฟ์ให้เซียมซีเข้าแล้ว จนต้องรีบเก็บอาการให้ปกติที่สุดจะเสียชั้นเชิงเสือไม่ได้ เซียมซีแอบจับได้ว่าตนเสียอาการ ต้องรีบหาอะไรทำไม่ให้ตัวเองหน้าแตกไปกว่าเดิม
“ สักเอวตรงไหน ”
“ ฝั่งขวา ” บลูเช็ดทำความสะอาดบริเวณเอวด้านฝั่งขวาที่เซียมซีจะสัก แต่ทว่า…
“ นั่นมันด้านซ้าย ”
“ !!! ” บลูตกใจชะงัก เมื่อตนเลิ่กลั่กจนเช็ดทำความสะอาดผิดด้าน
“ ไปตั้งสติก่อนไหม ”
“ ………... ” บลูเสียอาการจนแทบสักไม่ได้ เพราะผู้หญิงที่สักเป็นเซียนซีบวกกับความใกล้ชิด และความขาวที่แยงตาทำบลูใจเต้นแรงจนแทบคุมสติไม่อยู่
“ ลายสักได้แล้วคับเฮีย ”
“ วางไว้ก็ไปสิว่ะ ” บลูเก็กหน้าตะหวาดใส่ลูกน้อง เมื่อลูกน้องมองเอวของเซียมซี จนต้องหาอะไรมาปิดไว้
“ เฮียบลูหวงเหรอคับ ”
“ ไอ้นี่ !! ”
“ ไปแล้วคับๆ ” บลูที่หวงเซียมซีจนออกนอกหน้า รีบให้เซียมซีเลือกขนาดแบบกลบเกลื่อนอาการตัวเอง ก่อนจะรีบวางแบบและร่างเส้น
“ มึงเอาลายนี้มาจากไหน ”
“ วาดเอา ”
“ ใคร ? ”
“ แล้วพูดอยู่กับใครล่ะ ”
“ มึงวาดลายนี้เอง ? ”
“ อืม…ทำไม ” ลายสักที่เซียมซีสักเป็นลายค่อนข้างละเอียด ทำบลูตกใจในความสามารถ
“ เปล๊า ” บลูเริ่มลงเครื่องสัก คนที่นอนอยู่ไม่มีอาการเจ็บปวดสักนิด นอนเล่นโทรศัพท์มือถืออย่างสบายใจ เวลาผ่านไปร่วมสองชั่วโมง เซียมซีก็ยังคงไม่แสดงอาการของความเจ็บปวดออกมา
“ มึงมีแฟนรึเปล่า ? ” เมื่อสักเสร็จวางเครื่องมือ บลูเริ่มเช็ดเจลล้างรอยสัก เห็นเซียมซีไม่มีอาการเลยอยากถามทำความรู้จัก
“ ไม่มี ”
“ หน้าตาก็ดี ทำไมไม่มีแฟน ”
“ กลัวได้แฟนเป็นผู้ชายแบบคุณ ”
“ ระวังได้กูเป็นแฟนนะ ”
“ ทำไมต้องระวัง นิยายปรัมปรา ” ประโยคนี้ของเซียมซีทำบลูยิ่งชอบมาก ไม่เคยรู้สึกแบบนี้เลย ไม่เคยมีใครกล้าท้าทายตนแบบนี้
“ แต่มึงได้กูเป็นผัวแล้วหนิ จะกลัวทำไม ”
“ ………… ”
“ หรือว่าไม่จริงว่ะ ”
“ คราวที่แล้วหัวแตก คราวนี้อยากโดนอะไรอีกล่ะ ”
“ อยากโดนแทงแต่ไม่ใช่มีดนะ เป็นอย่างอื่น ” บลูมองไปลงไปที่ช่วงล่างของตัวเอง
“ เก็บไว้ใช้ก่อนตายดีกว่ามั้ง ”
“ ………… ”
เซียมซีมองบลูอย่างไม่หลบตา จ้องตากันแทบจะท้อง เมื่อแปะแผ่นกันน้ำให้ก็เป็นอันเสร็จ เซียมซีมองรอยสักในกระจก
“ เท่าไหร่ ? ” บลูไม่ตอบ ก่อนจะเดินไปใกล้ๆ ดันตัวเซียมซีไปติดกำแพง เอาแขนค้ำยันกำแพงกั้นไว้ เซียมซีอยู่ในอ้อมแขนของบลู
“ ฟรี...ถ้ามึงยอมเป็นแฟนกู ”
“ เท่าไหร่ ? ” เซียมซีกลับถามย้ำอย่างไม่ได้ยินสิ่งที่บลูถาม
“ หรือจะเป็นเมียกูดีล่ะ กูให้ฟรีตลอดชีวิต ” บลูเลื่อนหน้าเข้าไปใกล้ๆ ปลายจมูกชนปลายจมูกของเซียมซีอย่างพ่อเสืออยากได้เหยื่อมาก
“ ออกไป ”
“ เป็นแฟนกู มึงจะได้ออกไปจากห้องนี้ง่ายๆ ” บลูไม่พูดเปล่า จะประกบปากจุมพิตเซียมซี
“ ไม่ออกว่างั้น ”
“ ยอมเป็นแฟนกูสิ ”
พลั่ก !!
“ อ๊ะ…อือ ” เซียมซีกระทุ้งเข่าอย่างแรงไปที่น้องชายของบลูจนบลูจุก เอามือจับเป้าตัวเองตัวงอ
“ พอดีชอบผู้ชาย ไม่ได้ชอบตัวเงินตัวทองเหมือนคุณน่ะ ”
ผั้ว !!!
“ โอ๊ยย !! ”
เซียมซีออกไปจากห้อง ทิ้งให้บลูจุกและเจ็บจนหน้าเขียว บลูออกมาจากห้องเมื่ออาการดีขึ้น แต่ทว่า…
“ เฮ๊ย ทำไมสภาพเป็นงี้ว่ะ ” คิงส์ที่เห็นสภาพเพื่อนทักขึ้นทันที
“ อย่าบอกนะ ที่เซียมซีวางเงินแล้วออกไปเมื่อกี้ ? ”
“ เออ…มันต่อยกูตาเขียวเนี่ย ”
“ ฮ่าๆๆ ”
“ หัวเราะเหี้*ไรว่ะ คิดแล้วแค้นชิบหาย กูต้องเอาอีเซียมซีมาเป็นเมียให้ได้ อูยยย… ”
“ จากหัวมาเป้าตา คราวหน้าเป็นอะไรอีกว่ะ ”
“ ไอ้เหี้*คิงส์ ! ”
“ ฮ่าๆๆ ”