มหาวิทยาลัย.. / คณะบริหารธุรกิจ
กลุ่มนักศึกษาชายหญิงทั้งปี 2 และปี 3 กำลังนั่งจับกลุ่มพูดคุยขณะที่มองดูรุ่นน้องปี 1 ที่กำลังทำกิจกรรมรวมของคณะอยู่
“ เด็กปีหนึ่งนั่นชื่ออะไรวะ ” รามเอ่ยถามขึ้นทันที เมื่อสายตาสะดุดเข้ากับรุ่นน้องสาวคนหนึ่งที่กำลังยืนอยู่หน้าเวที
“ คนไหน?”
“ สวยๆ ผมยาวๆ ที่ยืนตรงหน้าเวทีอะ ”
“ ชื่อเฌอแตมมั้ง น้องรหัสอิเฟิร์นมันอะ ” ดาด้าหันขวับมามองตามเป้าหมายที่เพื่อนชี้ให้ดู สายตามองสอดส่องดูกลุ่มเด็กปีหนึ่งที่กำลังทำกิจกรรมของคณะอยู่
“ น่ารักสัสๆ คนนี้กูจองนะ ”
“ จองส้นตีนไรของมึง เบิกตากว้างๆแล้วหันไปมองรอบๆบ้างเพื่อน มีมึงคนเดียวที่ไหนที่เล็งน้องมัน ” คอปเตอร์ยกยิ้มมุมปากพลางยักคิ้วหลิ่วตาส่งให้ราม
“ เชี่ย! อย่าบอกว่ารวมถึงพวกมึงด้วย ”
“ เออดิ..ใครดีใครได้โว๊ย ฮ่าๆ ” พีเจพูดแทรกขึ้นมา
“ เออ..เดี๋ยวกูจะจีบน้องมันให้พวกมึงดู ” รามยักไหล่อย่างไม่สนใจ สายตายังคงจับจ้องหญิงสาวไม่วางตา
“ จะคอยดูว่ะ เออ..ช่วงก่อนเห็นไอ้เวย์มันตามจีบอยู่พักหนึ่ง ตอนนี้น่าจะถอยแล้วว่ะ เห็นมันบอกว่าจีบยากฉิบหาย ” คอปเตอร์พูดขณะที่สายตาก็มองไปทางรุ่นน้องสาวที่เป็นหัวข้อสนทนา
“ ปากเก่งก็งี้ ของอย่างนี้มันอยู่ที่ฝีมือว่ะ ” รามยกยิ้มมุมปาก
“ เหอะ!! ถ้าจีบติดกูให้เลยสามหมื่น ”
“ พูดแล้วอย่าคืนคำนะโว๊ย!! ”
“ เออๆ ” คอปเตอร์พยักหน้ารับ
คอนโดเฌอแตม
เสียงโทรศัพท์ที่ดังต่อเนื่องอยู่บนโต๊ะทำให้หญิงสาวหยิบมันขึ้นมามองดู สายตามองชื่อปรากฏอยู่บนหน้าจอก่อนจะกดรับสาย
“เฌอ แกทำอะไรอยู่อะ? ” คนปลายสายรีบพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงร้อนรน
“ เพิ่งอาบน้ำเสร็จ แกมีอะไรหรือเปล่า? ”
“ เฌอออ..ฉันมีเรื่องอยากขอร้องให้แกช่วยหน่อยอะ ”
“ เรื่องอะไร? เอ่อ..แล้วตอนนี้แกอยู่ไหนอะ ไม่ได้ไปทำงานที่แกบอกเหรอ ”
“ตอนนี้อยู่โรงบาล.. แม่ฉันลื่นหกล้มในห้องน้ำอะแก ตอนนี้ก็กำลังรอหมอตรวจดูอาการอยู่ ”
“ หา!! แล้วแม่แกเป็นอะไรมากหรือเปล่า ”
“ เห็นหมอบอกคร่าวๆว่าแขนอาจจะหัก กำลังรอผลเอกซเรย์อยู่ ทำไงดี.. คืนนี้คงไปทำงานที่คลับนั่นไม่ได้แล้ว เอ่อ..แล้วฉันก็รับเงินค้าจ้างของคุณเพนนีมาก่อนล่วงหน้าแล้วด้วย เพิ่งจะเอาไปจ่ายค่าเทอมกับค่าเช่าบ้านเมื่อวันก่อนนี้เอง ถ้าเกิดไม่ไปมีปัญหาตามมาแน่ๆ เฌอ! แกช่วยฉันหน่อยไหม คืนนี้ช่วยไปทำงานแทนฉันหน่อยได้ไหมอะ ”
“ ฉันไม่ชอบแล้วก็ไม่ถนัดงานเอนเตอร์เทนแบบนี้ แกก็รู้ดี ” เฌอแตมถอนหายใจออกมาอย่างหนักใจ
“ อืม ฉันรู้ว่าแกลำบากใจ มันฉุกละหุกจริงๆ ฉันไม่รู้จะหาใครไปแทนจริงๆอะแก แค่ชงเหล้าและนั่งเป็นเพื่อนลูกค้าวีไอพีเท่านั้นเอง ถึงเวลาเลิกงานก็กลับได้เลยอะแก ..ไหว้ล่ะเฌอ แกช่วยฉันหน่อยนะ ”
“ งานมันมีแค่ที่แกบอกจริงๆใช่ไหม ไม่มีอย่างอื่นอีกนะ ”
“ มีแค่นั้นจริงๆ ฉันไม่รับงานอย่างอื่น แกก็รู้นิ แกเป็นเพื่อนฉันนะเฌอ..ถ้ามันเป็นงานเสี่ยงๆหรืองานอย่างนั้นฉันก็ไม่ให้แกไปทำหรอก ”
“ เออๆ ก็ได้ แกส่งรายละเอียดแล้วก็โลเคชั่นคลับนั้นมาให้ฉันหน่อย ” เธอพ่นลมหายใจออกมาหนักๆ ขณะที่สายตามองดูข้อความที่เพื่อนสาวส่งมาให้
“ ขอบคุณแกมากๆเลยนะ รอดตายแล้วฉัน..รอแป๊บนะเดี๋ยวส่งไปให้ ” หมวยยิ้มออกมาอย่างดีใจและโล่งอกที่เพื่อนสาวรับปาก
EMMARION Club and Lounge /ห้อง King Royal Exclusive Lounge
เฌอแตมก้มลงมองดูชุดเดรสสั้นเกาะอกสีดำที่ตัวเองสวมใส่อยู่ครู่หนึ่ง สายตามองดูผู้ชายในชุดสูทสีดำหลายคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าห้องด้วยความแปลกใจ เพราะเธอมาสายกว่าเวลาไปเกือบครึ่งชั่วโมง พวกเขาพูดคุยและสอบถามเธออยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเปิดประตูให้หญิงสาวเดินเข้าไปในห้อง เฌอแตมสำรวจสายตามองดูห้องกว้างๆที่ตกแต่งและประดับประดาไปด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่ดูหรูหรา ซึ่งมันแตกต่างจากคลับแบบทั่วๆไปที่เธอเคยเห็นมา ตรงกลางห้องมีผู้คนจำนวนหนึ่งทั้งชายและหญิงที่กำลังนั่งพูดคุยกันอยู่
ไม่ใช่แค่ในห้องนี้ที่ทำให้เฌอแตมแปลกใจ เธอรู้สึกแปลกใจมาตั้งแต่ก้าวเท้าเข้ามาเหยียบที่นี่แล้ว มันดูแตกต่างจากผับและเลานจ์ทั่วๆไป ผู้คนที่มาเที่ยวที่นี่ล้วนดูมีคลาสและดูเหมือนไม่ใช่ลูกค้าแบบปกติทั่วไปที่เธอเคยเห็น เธอครุ่นคิดในใจขณะมองดูผู้หญิงหน้าตาสะสวยหลายคนที่นั่งอยู่ข้างๆผู้ชายพวกนั้นที่ดูจากการแต่งตัวที่ดูภูมิฐานด้วยเสื้อผ้าแบรนด์เนมแล้วคงจะเป็นลูกค้าวีไอพี
‘..เห็นหมวยบอกว่ามันเป็นงานดูแลลูกค้าวีไอพีพิเศษที่นานๆครั้งจะมีเข้ามาทีแล้วงานนี้เงินค้าจ้างดีมาก ดูจากสถานที่หรูหราไฮโซแบบนี้ มันก็คงจะจริงอย่างที่เพื่อนบอก ...เอาน่าเฌอแตม แกต้องทำได้สิ ชงเหล้าและดูแลลูกค้าเท่านั้นเอง ..แค่สี่ชั่วโมงเอง นั่งแป๊บๆก็จบแล้ว..’ ฉันพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ
ฉันยืนเก้ๆกังๆอยู่ครู่หนึ่งเพราะรู้ตัวดีว่ามาสายมาก และในเวลานี้ทุกคนในห้องต่างก็หันมามองฉันแทบเป็นตาเดียว ฉันสอดส่องสายตาไปมองรอบๆเพื่อหาที่นั่ง มองดูผู้ชายคนหนึ่งที่นั่งดื่มเหล้าอยู่เงียบๆ และที่นั่งข้างๆเขาก็ยังว่างอยู่ ฉันตัดสินใจเดินเข้าไปหย่อนตัวลงนั่งข้างๆเขาทันทีท่ามกลางสายตาทุกคู่ที่มองจ้องมา
“ ใครบอกให้เธอมานั่งตรงนี้ ” แม็กเครย์ตวัดสายตาขึ้นมามองเธออย่างไม่ชอบใจนัก มือหนาที่กำลังแกว่งแก้วเหล้าในมือเล่นหยุดชะงักลงทันที
“ คะ? เอ่อ..หนูเห็นที่นั่งตรงนี้ยังว่างอยู่ หนูขอโทษที่ไม่ได้ขออนุญาตคุณก่อนนะคะ ”
“ ลุกออกไป ”
“ ตะแต่ว่า..”
ฉันกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่เมื่อเห็นสายตาดุดันคู่นั้นจ้องหน้าเขม็ง ฉันหันไปมองรอบๆห้องที่ตอนนี้ก็ไม่มีที่นั่งว่างๆเหลืออยู่เลยก่อนจะหันกลับมามองใบหน้าหล่อเหลาแต่เรียบเฉยของเขาอยู่อึดใจหนึ่ง รู้สึกถึงรังสีอะไรบางอย่างที่แผ่ออกมาจากตัวเขาและมันทำให้ฉันเกิดความรู้สึกลัว
“ พูดภาษาคนไม่รู้เรื่อง! ” เขากระแทกเสียงตอบกลับด้วยความหงุดหงิด
“ ขะขอโทษค่ะ ” เธอหน้าเสียไปแทบทันทีที่ได้ยินคำพูดที่แสดงออกว่าไม่พอใจของชายหนุ่ม เฌอแตมรีบขยับตัวออกห่างจากเขาอัตโนมัติ
ชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนโซฟาข้างๆ และกำลังมองดูสถานการณ์อยู่เงียบๆ ชายหนุ่มเค้นหัวเราะออกมาเบาๆพลางส่ายหน้าไปมาเมื่อได้ยินคำพูดและท่าทางของเพื่อนสนิท
“ ไม่เอาน่าแม็กซ์ มึงกำลังทำให้เด็กมันกลัว งานวันนี้ก็คุยลงตัวเรียบร้อยดีทุกอย่าง หัดผ่อนคลายบ้างเถอะวะ ”
“ ใช่ กูเห็นมึงแล้วเมื่อยหน้าแทนชะมัด ” โนเอลยกยิ้มมุมปาก มือหนายกขึ้นโอบไหล่สาวๆทั้งคู่ที่นั่งข้างๆไว้ พวกเธอก็ยิ้มแย้มและรีบชงเหล้าให้ชายหนุ่มอย่างรู้งาน
“ เรื่องของกูไหม ”
“ แล้วแต่มึงก็แล้วกัน เอาใจยากชะมัด” ดีแลนส่ายหน้าไปมากับคำตอบเย็นชาของเพื่อนสนิท
“…”
“ เด็กใหม่? ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน ย้ายมานั่งบนตักฉันแทนก็ได้นะ ” ดีแลนยกยิ้มมุมปากพลางตบมือลงบนหน้าขาตัวเอง เวลานี้ข้างๆเขาก็มีสาวสวยสองนางนั่งขนาบข้างอยู่ก่อนแล้ว
พิธานที่นั่งฟังอยู่เงียบๆ หันมามองหน้าเด็กสาวที่นั่งอยู่ข้างๆแม็กเครย์ด้วยสายตากระลิ่มกระเลี่ย มือหนาก็บีบขย้ำหน้าอกของสาวสวยที่นั่งอยู่ข้างๆไปด้วย
“ ถ้าคุณแม็กเครย์ไม่สนใจ งั้นให้เธอมานั่งข้างๆผมแทนก็แล้วกัน หนูมานั่งนี่สิ” พิธานเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม แต่เป็นรอยยิ้มที่มันดูน่ากลัวในความรู้สึกของคนที่ถูกมอง
“...” เฌอแตมส่ายหน้าปฏิเสธเป็นพัลวน
ฉันนั่งฟังบทสนทนาทั้งหมดของพวกเขาด้วยความรู้สึกหงุดหงิด สายตาบ่งบอกความรังเกียจออกมาอย่างชัดเจนเมื่อเห็นพวกเขากอดจูบลูบคลำผู้หญิงเหล่านั้น และดูเหมือนพวกเธอต่างก็เต็มใจแถมยังสนองตอบพวกเขากลับเช่นกัน ภาพชวนกระอักกระอ่วนใจทำให้ฉันเบือนหน้าหนีไปมองทางอื่น ใบหน้าเริ่มร้อนผ่าวด้วยความกระดากอาย
‘…พวกผู้ชายทกคนก็เหมือนกันหมด เห็นผู้หญิงเป็นแค่สิ่งของที่มีไว้ตอบสนองความต้องการของตัวเองเท่านั้นเหรอไง...’
แต่เหตุการณ์ไม่คาดคิดที่เกิดขึ้นตรงหน้าก็ทำให้ฉันเบิกตากว้างอย่างตกใจ พวกเขาดึงชุดเกาะอกของพวกเธอลงมาจนถึงเอวคอดและก้มใบหน้าลงไปซุกไซ้ดูดเลียหน้าอกของพวกเธออย่างหื่นกระหาย สิ่งที่เห็นทำให้ฉันได้แต่นั่งชะงักตัวแข็งทื่อกับที่ พร้อมๆกับความหวาดกลัวที่เริ่มเข้ามาเกาะกุมหัวใจ แว็บแรก..ฉันอยากจะลุกหนีออกไปจากตรงนี้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่พอคิดถึงคำพูดของเพื่อนก็ได้แต่นั่งเงียบๆอยู่กับที่ตามเดิม
‘…ยัยหมวย ยัยเพื่อนบ้า งานเอนเตอร์เทนบ้าอะไรของแก พรุ่งนี้เถอะฉันจะเฉ่งแกให้ยับเลย...’
ฉันนั่งคิดในใจอย่างโมโห ริมฝีปากเม้มเข้าหากันจนเป็นเส้นตรง ในเมื่อมีทางเลือกอยู่แค่สองทาง ช้อยส์แรก.. เดินไปนั่งข้างผู้ชายพวกนั้นแล้วถูกทำแบบนั้น และช้อยส์สอง.. นั่งอยู่ข้างๆผู้ชายที่ดูจะแผ่รังสีอำมหิตอยู่ตลอดเวลาแบบเขา ..ฉันเลือกแบบหลังดีกว่า ดูแล้วมันจะเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยสำหรับฉันมากที่สุด เมื่อตัดสินใจได้แบบนั้นฉันก็ขยับตัวเข้าไปใกล้ๆผู้ชายที่ชื่อแม็กเครย์อย่างกล้าๆกลัวๆ
“ เอ่อ..ให้หนูนั่งตรงนี้เถอะนะคะ หนูจะไม่ทำอะไรให้คุณรู้สึกหงุดหงิดรำคาญใจ เอ่อ..ให้หนูช่วยชงเหล้าให้คุณเงียบๆก็ได้ ดะได้ไหมคะ ” เฌอแตมกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากเมื่อสายตาดุๆคู่นั้นสบสายตาตอบเธอ
“ หึ ” เขาเค้นเสียงหัวเราะต่ำๆออกมาจากในลำคอ เมื่อรู้ว่าหญิงสาวตรงหน้ากำลังคิดอะไรอยู่ มือหนาเลื่อนแก้วเหล้าที่ว่างเปล่าไปวางตรงหน้าของเธอ
“On The Rock ” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยบอก เขามองดูหญิงสาวตรงหน้าด้วยแววตาเรียบเฉยและไร้ความรู้สึกใดๆ
ฉันยิ้มออกมาอย่างดีใจรีบกุลีกุจอคีบน้ำแข็งใส่ลงไปในแก้วและค่อยๆเทน้ำสีเหลืองอำพันตามลงไป มือเล็กหยิบแก้วเหล้าส่งยื่นให้เขาอย่างระมัดระวัง
แม็กเครย์หยิบแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม ชายหนุ่มกวาดสายตามองดูเรือนร่างอวบอิ่มของหญิงสาวตรงหน้าอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะละความสนใจและหันกลับไปสนใจบทสนทนาของเพื่อนๆและคู่ค้าทางธุรกิจตามเดิม