คอนโดเฌอแตม..
ฉันเพิ่งวางสายจากยัยหมวยเพื่อนตัวดีที่เกือบจะพาฉันซวย มันน่าโมโหจริงๆ และตอนนี้ฉันก็โกรธยัยหมวยไม่หาย ยัยนั่นก็ทำได้แต่ขอโทษขอโพยอ้างแค่ว่าตอนที่รับงานมาเจ้เพนนีก็บอกรายละเอียดของงานก็แค่เอนเตอร์เทนแขกและไม่คิดว่างานมันจะเรตขนาดนั้น แต่เพราะเรื่องจำนวนเงินที่มากอยู่ทำให้ยัยหมวยตกปากรับงานไป แต่ก็นั่นแหละ..คนที่ซวยกลับกลายเป็นฉันแทน ดีที่ได้ผู้ชายคนนั้นช่วยไว้ ไม่งั้นฉันจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้ ดูแล้วเขาก็คงไม่ธรรมดา มีลูกน้องติดตามเยอะขนาดนั้นมันก็ดูแปลกๆ เหมือนกัน ฟังจากที่พวกเขาพูดคุยกันในเรื่องธุรกิจก็ดูไม่ค่อยชอบมาพากล
ช่างเถอะ..มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฉันสักหน่อย
‘..แม็กเครย์..’
ทำไมนะ ฉันถึงรู้สึกคุ้นกับน้ำเสียงและวิธีการพูดของเขาจัง น้ำเสียงทุ้มต่ำที่ฟังดูมีอำนาจแบบนั้นมันทำให้คิดถึงผู้ชายคนนั้น ผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตฉันไว้
บ้าน่ายัยเฌอ.. มันจะเป็นไปได้ยังไง ฉันอาจจะคิดเพ้อเจ้อไปเองมากกว่า แต่มันมีบางสิ่งบางอย่างในตัวผู้ชายคนนั้นที่ทำให้ฉันอยากรู้จักเขาให้มากกว่านี้ ฉันอยากพิสูจน์ว่าลางสังหรณ์ของตัวเองจะถูกต้องไหม สามปีแล้วที่ฉันเฝ้าแต่คิดถึงผู้ชายคนนั้นมาตลอดและก็คิดว่าในชีวิตนี้คงจะไม่ได้เจอคนที่ช่วยฉันไว้อีกเป็นครั้งที่สองแน่ ถ้าวันนั้นฉันรู้ชื่อเขาหรือเห็นหน้าเขาเพียงเล็กน้อยก็ยังดี คงจะหาตัวเขาได้บ้างแต่นี่มันมืดตันไปหมด
ความจำของฉันดีมากนะ ยิ่งคนที่สมควรต้องจดจำด้วยแล้วฉันไม่เคยลืม.. แต่เขาก็อาจจะไม่ใช่ผู้ชายคนนั้นเหมือนที่ฉันคิดก็ได้
ฉันนั่งมองดูเสื้อสูทแบรนด์ชื่อดังสนนราคาเหยียบแสนที่แขวนอยู่ตรงตู้เสื้อผ้าอยู่สักพักใหญ่ๆ ในหัวสมองครุ่นคิดถึงแต่ชื่อและใบหน้าของเขา ฉันรู้สึกเหมือนจะเคยได้ยินชื่อแบบนี้จากที่ไหนสักที่หนึ่ง พอคิดได้แบบนั้น ฉันก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาพิมพ์ชื่อเขาในช่องการค้นหาในหน้ากูเกิ้ล
ถึงว่าสิ..เหมือนฉันจะเคยได้ยินชื่อของเขาจากที่ไหนสักที่หนึ่ง ทั้งที่เขาก็นักธุรกิจชื่อดังแต่ทำไมข้อมูลของเขาถึงมีน้อยนิดจังแถมเป็นข่าวเก่าๆ ทั้งนั้น เนื้อข่าวบอกแค่ว่าเป็นนักธุรกิจที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ นอกจากนั้นก็ไม่มีข้อมูลอะไรเลย เรื่องส่วนตัวก็แทบไม่มีปรากฏในหน้าข่าวเลยด้วยซ้ำ ฉันกวาดสายตาอ่านข้อความในข่าวอย่างละเอียด
แม็กเครย์ อัศว์วัชรโสภณ นักธุรกิจหนุ่มรูปหล่อเชื้อสายไทย-อังกฤษ-รัสเซีย ที่ก้าวเข้ามาเขย่าวงการอสังหาริมทรัพทย์เมืองไทย เขาเป็นนักธุรกิจหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรงที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่ยังอายุน้อย ถึงแม้เขาจะเป็นหนุ่มเนื้อหอมมากที่สุดคนหนึ่งในแวดวงธุรกิจเมืองไทย แต่ในด้านชีวิตส่วนตัว เขาเป็นชายหนุ่มที่หวงความเป็นส่วนตัวและค่อนข้างเก็บตัวจึงแทบไม่ค่อยมีข่าวของเขาปรากฏบนสื่อต่างๆ มากนัก
ฉันกวาดสายตาลงมองชื่อบริษัทอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะคว้ากระดาษโน๊ตสีเขียวมิ้นท์บนโต๊ะขึ้นมาจดชื่อของบริษัทที่เห็นในหน้าเว็บไซต์ลงไป และนำกระดาษไปติดบนบอร์ดไม้ก๊อกที่ตั้งอยู่บนโต๊ะทำงาน
วันนี้ฉันมีเรียนคาบเช้าตอนสายๆ ถ้าแวะไปที่บริษัทของเขาเพื่อเอาเสื้อสูทไปคืน เสร็จแล้วก็ไปมหาลัยต่อดูเวลาแล้วน่าจะทันอยู่ สายตาเหลือบขึ้นมองเวลาอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะรีบเดินเข้าไปทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำ
บริษัท A.W.S ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด
ฉันยืนมองป้ายบริษัทขนาดใหญ่ตรงด้านหน้าบริษัทด้วยสายตาอึ้งและทึ่งพลางสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ขณะที่มือถือถุงใส่เสื้อสูทของเขาไว้แน่น ก่อนจะสาวเท้ายาวๆ เข้าไปด้านในบริษัท สายตาสอดส่องดูโต๊ะประชาสัมพันธ์ที่มีหญิงสาวหน้าตาดีสองคนนั่งทำงานอยู่
“เอ่อ..ขอโทษนะคะ หนูมาหาคุณแม็กเครย์ค่ะ”
“ได้นัดหมายท่านไว้ก่อนแล้วหรือเปล่าคะ” เธอกวาดสายตาสำรวจหญิงสาวที่ใส่ชุดนักศึกษาอยู่ครู่หนึ่ง
“ไม่ค่ะ หนูจะเอาของมาคืนค่ะ”
“เอาของมาคืนเหรอคะ? คุณชื่ออะไรคะฉันจะได้บอกเลขาท่านประธานได้ถูก” พนักงานสาวมองหน้าหญิงสาวตรงหน้าอย่างสงสัยอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกดสายโทรศัพท์ขึ้นไปสอบถามเลขาหน้าห้องของท่านประธาน
“เฌอแตมค่ะ”
“เอ่อ..รอสักครู่นะคะ”
ฉันยืนฟังบทสนทนาของเธอด้วยใจที่เต้นตุ๊มๆ ต่อมๆ ลุ้นไปด้วยว่าเขาจะยอมให้ฉันขึ้นไปพบไหมแต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อพนักงานสาวบอกกลับมาว่าให้ฉันฝากเสื้อสูทไว้ที่นี่เลย เดี๋ยวจะมีคนเอาขึ้นไปให้ท่านประธานเอง
“เอ่อ..งั้นไม่เป็นไรค่ะ หนูขอรออยู่ตรงนี้ก็แล้วกันนะคะ” ฉันพูดตอบพนักงานสาวได้ไม่เต็มเสียงนัก สายตาเหลือบมองดูเวลาในหน้าจอโทรัศัพท์ที่ใกล้ถึงเวลาที่ฉันต้องกลับไปที่มหาลัยแล้ว แต่ฉันอยากเจอเขาด้วยมากกว่าและอยากถามอะไรบางอย่างที่ค้างคาใจกับเขาด้วย
สามชั่วโมงผ่านไป..
สุดท้ายฉันก็ไม่ได้ไปเรียนคาบเช้าเพราะมัวแต่นั่งรอเขาอยู่ที่นี่ สายตาก้มลงมองดูเวลาสลับกับมองดูพนักงานชายหญิงที่เดินออกมาจากตัวลิฟต์เพราะเป็นเวลาพักเที่ยงแล้ว สักพักใหญ่ๆ ร่างสูงโปร่งของชายหนุ่มที่ดูคุ้นตาก็เดินออกมาจากลิฟต์ที่เปิดออกพร้อมกับลูกน้องสองคนที่เดินตามหลังเขาออกมา
ฉันรีบลุกขึ้นยืนขณะที่มือก็ถือถุงใส่เสื้อสูทไว้แน่น พลางสูดหายใจเข้าปอดลึกๆ ก่อนจะทำใจกล้าเดินตรงเข้าไปหาชายหนุ่มร่างสูงที่มองจ้องฉันด้วยสายตาเรียบเฉย แค่สบสายตาคมกริบคู่นั้นมันก็ทำให้หัวใจของฉันเต้นแรงผิดจังหวะ สายตามองดูลูกน้องสองและหนึ่งในสองคนนั้น เขาคือคนที่ฉันเจอที่คลับเมื่อคืนนั่นเอง ทันทีที่ก้าวเท้าเข้าไปใกล้แมกเครย์ พวกเขาก็เดินเข้ามาขวางทางฉันเอาไว้พร้อมกับสายตาดุดันที่จ้องหน้าฉันเขม็ง