ดวงตาคู่หนักอึ้งฝืนลืมขึ้นมองภาพเลือนรางท่ามกลางแสงไฟริบหรี่ด้วยความไม่เข้าใจ ยิ่งพยายามลืมตาแต่ลืมแทบไม่ขึ้น ณรชญา หรือ ณิช ก็ยิ่งไม่เข้าใจ
หญิงสาววัยยี่สิบสองปีหมาด ๆ เมื่อเดือนที่แล้วพยายามขบคิด วันนี้เธอถูกรบเร้าให้มาร่วมงานวันเกิดของเพื่อนสนิทที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่งซึ่งพี่ชายของเพื่อนเป็นเจ้าของแต่เธอจำได้ว่าไม่ได้แตะต้องเครื่องดื่มที่ผสมแอลกอฮอร์เลยแม้แต่น้อยแต่...
ทำไมร่างกายของเธอถึงได้หนักและรู้สึกกระสับกระส่ายชอบกล?
เกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของเธอ?
“ตื่นแล้วเหรอ รีบตื่นจัง” น้ำเสียงคุ้นเคยดังมาจากด้านข้างส่งผลให้หญิงสาวต้องหันไปตามเสียงและเพ่งสายตามอง ภาพนั้นไม่ได้ชัดเจนมากนักแต่ก็พอจะเห็นว่าร่างที่นั่งอยู่ข้าง ๆ พื้นที่ที่เธอนอนอยู่นั้นเป็นผณิตา หรือ ตาต้า เพื่อนสนิทที่รบเร้าให้เธอมาร่วมงานวันเกิดที่กำลังมองมาด้วยใบหน้ายิ้ม ๆ
แต่แปลก...ทำไมยิ้มของผณิตาถึงดูไม่น่าไว้ใจเอาซะเลย?
“ตาต้า นี่มันอะไรกัน”
“ก็ไม่อะไรหรอก ก็แค่...ช่วยแกหาค่าห้องไง” ผณิตายกยิ้มตอบพร้อมกับยื่นมือมาสัมผัสใบหน้าของเพื่อนสาวที่กำลังพยายามลุกขึ้นจากเตียงที่ตัวเธอพามานอน “นอนต่อเถอะ เดี๋ยวก็ได้เงิน”
“หมายความว่ายังไง”
“ก็ช่วงนี้แกกำลังเดือดร้อนเรื่องเงินไม่ใช่หรือไง ฉันก็แค่...ช่วย” เพื่อนที่กลายเป็นคนไม่น่าไว้ใจพูดแล้วก็ส่ายหน้าเบา ๆ ทันทีที่ได้เห็นสายตาของเพื่อนสาวที่มองมาด้วยความหวาดกลัวและกรุ่นโกรธ “จุ๊ ๆ อย่ามองฉันแบบนั้นสิแก นี่ฉันช่วยแกอยู่นะ แกก็กำลังเดือดร้อน ไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าห้องอยู่นี่ นอนกับเสี่ยเขาสักคืน เราแบ่งเงินกันคนละครึ่งก็หมดปัญหาแล้ว งานง่ายได้เงินไวแบบนี้ดีจะตายไป”
“ต้า...แกทำแบบนี้กับฉันได้ยังไง ฉันเป็นเพื่อนแกนะ”
สายตาตัดพ้อถูกส่งให้แต่ผณิตากลับไม่ได้นำพา สิ่งที่ทำอยู่ไม่ใช่ครั้งแรก ย่อมต้องพบสายตาแบบนี้มาบ้างแล้ว
ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะเธอช่วยกิจการค้าผู้หญิงของพี่ชายมาหลายปีแล้ว จะไม่ให้พบเจอสายตาแบบนี้ก็คงไม่ใช่ เธอเจอมาจนชินซะแล้ว ฉะนั้นต่อให้ณรชญาร้องไห้จนน้ำตาเป็นสายเลือด ก็ไม่ทำให้เธอเปลี่ยนใจ ผณิตายักไหล่อย่างช่วยไม่ได้ก่อนจะเลื่อนมือมาลูบไหล่เพื่อนเบา ๆ
“โธ่ อย่าตัดพ้อกันสิเพื่อน เพราะเป็นเพื่อนไง ฉันเลยหารคนละครึ่ง กับคนอื่นน่ะ ฉันเอาเต็ม ๆ เลยนะบอกให้ เอาน่า นอนนิ่ง ๆ พอยาออกฤทธิ์ก็ฟินแล้ว แล้วเดี๋ยวที่เหลือเสี่ยเขาทำเอง เสร็จงานก็ได้เงิน ง่าย ๆ”
“ตาต้า อย่าทำแบบนี้ พาฉันกลับเถอะ”
“กลับได้ยังไง...” ใบหน้าสะใจแปรเปลี่ยนเป็นมาดร้าย แววตาคู่นั้นที่มองมาไม่มีความเห็นใจเลยแม้แต่น้อย และ...ออกจะชิงชังเสียด้วย
เป็นสายตาที่ไม่เคยได้เห็นมาก่อน...
ตาคู่นั้นยังคงมองมาอย่างมาดร้ายก่อนที่ผณิตาจะเอ่ยต่อถึงสาเหตุที่แท้จริง “ขืนกลับ พี่วีเขาก็ไม่เลิกกับแกน่ะสิ”
“แกหมายความว่ายังไง” ไม่เข้าใจ...ณรชญาไม่เข้าใจสายตาคู่นั้นของเพื่อนที่เธอคิดว่าเป็นเพื่อนที่ดีมาโดยตลอดเลยจริง ๆ และคำพูดที่เอ่ยออกมาเธอก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน
“ก็หมายความว่าฉันชอบพี่วี อยากได้เขาไง แต่เขาดันรักคนไม่มีอะไรเลยแบบแก” ผณิตาพูดพลางก็เปลี่ยนจากลูบใบหน้าของเพื่อนที่แท้จริงแล้วเธอแสนชิงชังเป็นบีบปลายคาง เรื่องไหนจะทำให้ปวดใจได้เท่ากับคนที่ชอบไปรักคนอื่น ซ้ำคนอื่นคนนั้นยังเป็นเพื่อนของตัวเอง ผณิตาแทบบ้าในตอนที่รู้ว่าคนที่เธอชอบตั้งแต่สมัยเรียนมาคบหากับคนตรงหน้า แล้วเป็นแบบนี้คิดว่าเธอจะยอมหรือ
“ฉันพยายามทำมาทุกวิถีทางให้เขาหันมารักฉัน แต่เขาก็ไม่สนใจ ทางเดียวที่จะทำให้เขาหันมาหาฉันได้ ก็คือเขี่ยแกให้พ้นทาง มันช่วยไม่ได้นะ เขาอยากมาปรึกษาฉันเรื่องขอแกแต่งงานทำไมล่ะ”
“แต่ฉันเป็นเพื่อนแกนะต้า”
แม้ว่าร่างกายจะไร้เรี่ยวแรง และเริ่มทรมานทว่านั่นไม่เท่ากับความเจ็บปวดภายในใจ ผณิตาคือเพื่อนที่เธอไว้ใจ แต่เพื่อนที่ไว้ใจ กลับทำร้ายเธอเพียงเพราะเรื่องของผู้ชายเพียงคนเดียว
ทว่ากับบางคน เรื่องผู้ชายเพียงคนเดียวก็เป็นเรื่องใหญ่ที่ทำให้ถลำลึกได้ ผณิตายิ้มเยาะก่อนจะเอ่ยอย่างเก็บกด “เพื่อนเหรอ หึ ตั้งแต่แกคบกับพี่วีทั้งที่แกไม่ได้รักเขา ฉันก็เกลียดแกแล้ว เพื่อนอะไรกัน ไร้สาระ...ยอมรับชะตากรรมเถอะ วันนี้ฉันจะทำลายแกให้ย่อยยับ”
หากว่าณรชญาคบหากับคนที่เธอมีใจเพราะชอบพอกับชายหนุ่มมันยังพอให้เธอเกลียดน้อยลงบ้าง แต่ความจริงแล้วไม่ใช่เลย ณรชญาก็ไม่ได้ดีอะไรนักหรอก
“แกมันก็ไม่ได้ดีไปกว่าฉันหรอกยัยณิช แกก็เกาะพี่วีทั้งที่ไม่รักหลอกให้ความหวังเขาไปวัน ๆ เท่านั้น ไม่ได้ดีเดอะไรนักหรอก”
“แก...”
ณรชญาพูดไม่ออก แม้จะรู้สึกไม่พอใจอีกฝ่าย แต่เรื่องที่ผณิตาพูดมาก็เป็นเรื่องที่เธอเถียงไม่ออก มันเป็นความจริงที่เธอคบหากับวีรพลหรือพี่วีทั้งที่ไม่ได้คิดกับเขามากกว่าพี่น้อง...เธอเห็นเขาเป็นพี่ชายแสนดีเท่านั้น และกลัวจะเสียพี่ชายที่แสนดีไปหากตัดสัมพันธ์ จึงตกลงคบหากับเขามาโดยตลอด
ต่อให้มีเหตุผลในความเห็นแก่ตัว แต่เธอก็ไม่สามารถนำมาอ้างได้ว่าไม่ได้หลอกลวงความรู้สึกเขา
ยิ่งเห็นท่าทีนั้นผณิตาก็ทั้งเจ็บปวดและสะใจ เจ็บปวดที่สิ่งที่เธอพูดมันไม่ผิดจนคนตรงหน้าเถียงอะไรไม่ออก ส่วนที่สะใจก็เพราะวันนี้เธอจะได้เอาคืนแทนวีรพลที่ถูกคนตรงหน้าเล่นให้ความหวังไปไกลทั้งที่ไม่รู้สึกอะไร “ถือว่าฉันเอาคืนแทนพี่วีแล้วกันนะ...ชีวิตแกน่ะ ย่อยยับไปซะ”
“แกมันเลว ฉันไม่มีทางยอมให้แกสมหวัง” ต่อให้รู้สึกผิดกับวีรพลมาโดยตลอด แต่นั่นมันก็เป็นคนละเรื่องกับเรื่องนี้ หญิงสาวพยายามดิ้นรนแต่ก็ถูกผณิตาผลักลงไปกองบนเตียงอีกครั้ง
“เลิกบ้าแล้วอยู่นิ่ง ๆ ได้แล้ว เสี่ยเขาจะมาแล้ว จะหนีไปไหนได้”
ยิ่งเห็นณรชญาเจ็บปวดและพยายามกระเสือกกระสนหาทางหนีแต่ร่างกายก็ไม่เอื้ออำนวย มุมปากของผณิตาก็ยิ่งยกสูง การได้เห็นท่าทีแบบนี้ของคนที่เกลียดนี่มันดีจริง ๆ
ผณิตาลุกขึ้นเต็มความสูงก่อนจะหันหลังให้ ถึงเวลาที่เธอนัดกับลูกค้าเอาไว้แล้ว ต่อให้อยากจะสะใจกว่านี้ แต่รบกวนความสุขของลูกค้าก็คงจะไม่ดี “ไปล่ะนะ แล้วเจอกันตอนเสร็จงานนะจ้ะ ถึงตอนนั้น ฉันจะพาพี่วีมาเจอแกด้วย เตรียมใจให้ดีล่ะ...”
“อ้อ...แต่ตอนนั้นแกก็คงไม่มีสติมาสนใจพี่วีหรอกมั้ง คงจะร้องครางหาเสี่ยเขาเพราะฤทธิ์ยาอยู่”
“เลว!” คำด่าทอไล่หลังไม่ทำให้ผณิตาหันกลับมา ณรชญาทำได้เพียงหาหนทางพยุงตัวเองขึ้นจากเตียงและก้าวเดินไปที่ประตู หมายจะหาทางหนีจากชะตากรรมที่จะต้องเจอ ทว่าไม่ทันจะได้ก้าวไปถึง ประตูก็ถูกเปิด ก่อนที่ชายวัยกลางคนจะก้าวเข้ามาในห้องและยืนอยู่ตรงหน้า
“ว้าว สมราคาจริง ๆ แม่คุณเอ้ย”
ไม่เพียงแค่พูด แต่มือหยาบกร้านนั้นยังยื่นมาลูบใบหน้าและแสดงท่าทีหื่นกระหายให้ได้เห็นจนณรชญารู้สึกสะอิดสะเอียน คนถูกวางยาจนอ่อนแรงทำได้เพียงปัดป้องด้วยแรงอันน้อยนิดทั้งที่อยากจะสลัดให้หลุด
“ปล่อยฉันไปเถอะ ฉันไม่ได้ต้องการให้เป็นแบบนี้”
“ปล่อยได้ยังไง อั๊วจ่ายไปตั้งเท่าไหร่ ต้องเล่นสนุกให้สมราคาหน่อยสิ อาหนูอย่าดิ้นนักเลย เชื่อฮั๊ว เดี๋ยวลื้อก็ติดใจ หึหึ” ทรงทรัพย์ เสี่ยตัณหากลับที่จ่ายไปหลายแสนก็เพื่อจะได้ลิ้มลองสาวสวยที่น้องสาวของเจ้าของแก็งค้าผู้หญิงรายใหญ่มานำเสนอด้วยตัวเองเอ่ยอย่างหื่นกามก่อนจะย่างสามขุมเข้ามาหาหญิงสาว
ณรชญาก้าวถอยด้วยความหวาดกลัว ยิ่งถอย อีกฝ่ายก็ยิ่งตาม ในท้ายที่สุดเสี่ยวัยกลางคนก็กระโจนเข้าใส่อย่างหื่นกระหาย
“กรี๊ด!!!”