“ก็ยืนให้กอด” แม้สีหน้าจะบ่งบอกว่าไม่ค่อยจะสบอารมณ์แต่ริมฝีปากแดงคล้ำก็กดลงมาที่หน้าผากก่อนจะไล่มาถึงแก้ม ฉันจึงหลับตาลงรับสัมผัสที่ฉันชื่นชอบอย่างเต็มใจ “ปากฉันไม่สกปรก”
“หือ?” มึนงงไม่น้อยแต่ก็ไม่ทันได้รับคำตอบดีริมฝีปากของรามก็แนบลงมาซะก่อนจึงเป็นเหตุให้เขาได้ตวัดลิ้นอยู่ในโพรงปากของฉันอยู่นานหลายนาที ฉันไม่ปล่อยให้เขาจูบอย่างเดียวแต่กลับจูบตอบเขาอย่างดูดดื่มกระทั่งรามเป็นฝ่ายผละจูบออกมามองสบตากับฉันอีกครั้ง
“ปากฉันมีไว้แค่จูบ” เลิกคิ้วขึ้นหลับตาลงรับสัมผัสจากฝ่ามืออุ่นร้อนที่เคลื่อนมาตามกรอบหน้าและไล่ต่ำมายังลำคอ บีบเบาๆ จนฉันรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก “เธอคนเดียว”
“...” ลืมตาขึ้นมารามก็ยกยิ้มมุมปากและรอยยิ้มแบบนี้ทำให้ฉันหน้าร้อน หัวใจเต้นแรงอีกเท่าตัวเมื่อฝ่ามือหนาที่หยุดบีบคลึงตรงลำคอก็ลากไล้มาถึงทรวงอกที่ไม่ได้สวมใส่ชั้นใน ฝ่ามือหนาใหญ่กอบกุมและบีบเค้นจนฉันบิดหน้าไปด้วยความเสียวซ่านเพราะนอกจากจะเป็นฝ่ามือที่นวดคลึงนิ้วชี้และนิ้วโป้งก็เล่นบีบบี้ขยี้ยอดอกของฉันจนมันเสียวถึงสมอง
“เลีย” โน้มใบหน้าลงมาแนบชิดพลางใช้ลิ้นแลบมายังใบหู “กัด”
“อ๊ะ”
“ขบ” ซอกคอรับรู้ถึงแรงดูดดึงซึ่งการทำแบบนี้คือการจองจำด้วยรอยคิสมาร์ก “ดูด”
เลื่อนใบหน้าต่ำมาที่ทรวงอกครอบครองยอดอกฉันด้วยอุ้งปากร้อนระอุทะลุเสื้อเชิ้ตของเขา ฝ่ามืออีกข้างประคองแผ่นหลังฉันเอาไว้ขณะที่เงยหน้าขึ้นมองด้านบนและจิกนิ้วลงที่ไหล่หนา “ระ ราม”
เสียงดูดกลืนยอดอกดังเข้ามาในโสตประสาท รับรู้ถึงความชุ่มช่ำจากน้ำลายของรามที่ยังคงดูดดึงยอดอกของฉันไม่หยุด สลับกันทำอยู่แบบนั้นเรียกเสียงร้องครวญครางจนฉันอดรนทนไม่ไหว
“พอแล้ว...” น้ำเสียงแหบพร่าเอ่ยและดันศีรษะของเขาออก มองเสื้อเชิ้ตสีเทาตรงยอดอกเปียกไปหมดรามก็ขยับใบหน้าขึ้นมาจูบฉันอีกครั้ง กอดรัดราวกับไม่ต้องการให้ฉันถอยห่างจากอ้อมกอดนี้
“เป็นของเธอ” ฉันเข้าใจถึงความหมายของเขาดีเลยทีเดียว “จำไว้”
รามก็ตอกย้ำฉันอีกครั้งแต่ครั้งนี้คือ... บนเตียงที่แสนจะเร้าร้อนราวกับว่าต้องการกันและกันมานานมากแค่ไหน ฉันไม่รับรู้อะไรทั้งนั้นนอกซะจากจะมองคนที่เคลื่อนไหวสะโพกอยู่ด้านบน กระหน่ำทิ่มแทงเข้ามาไม่หยุดยั้ง ฉันทำได้เพียงนอนให้เขาเสพความสุขจากร่างกายและฉันเองก็เสพสุขจากร่างกายของรามซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกระทั่งถุงยางที่มีมันหมดลงรามก็ทิ้งตัวลงซบลงที่ซอกคอของฉันหอบหายใจเหนื่อยไม่ต่างจากฉันที่กอดรัดร่างสูงใหญ่ที่มีเหงื่อท่วมตัวทั้งที่เราเพิ่งจะอาบน้ำไป
“ไม่พอ” บอกแค่นั้นก็ชันตัวขึ้น แยกขาทั้งสองของฉันออก ส่ายหน้าไปมาเพราะถ้าหากรามทำอีกมันเท่ากับว่า... เขาจะสดกับฉันซึ่งมันเสี่ยงมากทีเดียวจึงเอาฝ่ามือทั้งสองยันหน้าท้องเขาเอาไว้ขณะที่ลำกายใหญ่จดจ่ออยู่ปากทางเข้า
“เดี๋ยวท้อง” รามไม่ฟังกลับแทรกตัวตนเข้ามาจนสุดทาง ฉันแอ่นตัวขึ้นเมื่อฝ่ามือของรามประคองเอวฉันไว้และกระหน่ำเอวเข้ามาไม่ยั้ง และเพราะสัมผัสแบบไร้ถุงยางทำให้ทั้งฉันและเขาต่างพากันเสพสมอีกนับครั้งไม่ถ้วนในยามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยพายุที่รุนแรง ทว่าพายุที่ว่าคือบนเตียงใหญ่ที่มีเราสองคนบรรเลงเพลงรักกันอยู่
รามรู้ดี... ถึงได้ปล่อยเข้ามาในกายของฉันเยอะ ฉันกินยาคุมอยู่ตลอดตั้งแต่คบหากันแม้ว่าเวลามีเซ็กซ์รามจะสวมถุงเพื่อป้องกัน แต่มาตอนนี้เขากลับไม่สนใจอะไรเพราะรู้อยู่แล้วว่ายังไงฉันก็ควบคุมตัวเองได้
“แอล” น้ำเสียงแหบพร่าเรียกชื่อฉันจังหวะที่เร็วถี่เกิดเสียงดังกระทบเนื้อ ฉันเลื่อนฝ่ามือไปจิกท่อนแขนของเขากัดปากตัวเองเมื่อร่างกายมันตอบสนองเขาอีกในไม่ช้านี้
“เร็วกว่านี้ อ๊ะ!”
สุดเสียงฉันก็กรี๊ดออกมาลั่นห้องร่างกายกระตุก รามก็ค่อยๆ กระแทกกายเข้ามาอีกครั้งจนตอนนี้ท้องน้อยรับรู้ถึงน้ำรักของรามที่เข้ามาหลายต่อหลายหนที่ไม่ได้ป้องกัน ใบหน้าหล่อเหลาเซลงที่ลำคอของฉันแต่ยังไม่ถอนตัวตนออกไป
“เหนื่อย” แหงสิ! ก็ตัวเองเล่นจัดหนักไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ จนเวลาล่วงเลยมาเกือบตีสอง ฉันนอนนิ่งไม่ขยับไปไหนเลยเพราะว่ารามยังคงนอนทับฉันอยู่
“ราม” สะกิดไหล่หนาเขาก็ลืมตาขึ้นมามองฉัน “เอาออกก่อน”
“อะไร?”
“ก็...” จะต้องให้พูดอีกเหรอ ฉันกลืนน้ำลายลงคอก่อนจะบอกเขาให้เอามันออกจากร่างกายตัวเอง รามก็อมยิ้มที่ฉันพูดอะไรออกไปแบบนั้นแต่ก็ยอมทำตามที่ว่าจนรับรู้ถึงน้ำรักที่ค่อยๆ ไหลออกมาอย่างเชื่องช้า
“ฟังอีกที”
“อะไร?” ลุกขึ้นนั่งก่อนจะหยิบทิชชูมาเช็ดไปตามกลีบงามที่รามนั่งมองอยู่โดยที่ไม่ได้เขินอาย เพราะชินแล้วล่ะกับการที่รามจ้องมองฉันแบบนี้เวลาเราจบเรื่องบนเตียง
“ให้เอาอะไรออก”
“ราม” หน้าร้อนเห่อไปหมด จะให้พูดอะไรแบบนั้นออกมาได้ยังไงกัน ตอนพูดก็เขินนั่นแหละไม่ใช่ไม่เขิน! “แล้วไม่ กลัวฉันท้องหรือไงถึงได้... ทำแบบนี้”
“รับผิดชอบ” ตอบแค่นั้นก็ขยับไปนั่งพิงหัวเตียงหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ ฉันจึงนอนตะแคงข้างและขยับไปกอดท่อนแขนของเขามองใบหน้าหล่อเหลาด้านข้างที่หันทิศทางเพื่อไม่ให้ควันโดนตัวฉัน
“จะหยุดที่ฉัน” คำถามนี้ฉันอยากฟังมันนะ เพราะฉันก็คิดมาเสมอว่ายังไงรามก็คือคนที่ฉันอยากจะอยู่ด้วยกันตลอดไปจนถึงขั้นแต่งงานสร้างครอบครัวด้วยกัน แต่เป็นเพียงฉันที่คิดนะ เขาจะคิดเหมือนกันหรือเปล่าก็อีกเรื่อง
“ขึ้นอยู่กับอนาคต”
“หมายถึงถ้าฉันไม่ใช่ ก็คือไม่ใช่” รามหันมามองฉันสลับกับมองทีวี ทว่าคำตอบที่ได้มาทำให้สะอึกจนพูดอะไรไม่ออก
“อย่าพูดอะไรที่ยังมาไม่ถึง” เว้นจังหวะสำหรับคนที่พูดน้อย รามดูเหมือนจะหัวเสียมากพอควร “ตอนนี้ก็ตอนนี้”
“...”
“เข้าใจไหมแอล”
ฉันไม่ตอบอะไรแต่แสร้งทำเป็นว่าหลับ แต่ได้ยินทุกคำพูดของรามจนรับรู้ถึงความยุบของเตียงเพราะเขาลุกออกไป แต่ฉันก็สัมผัสได้ว่าผ้าห่มถูกคลุมตัวมาจนมิดคอ
ไม่รู้หรอกนะว่าในอนาคตรามจะเจอใครที่ดีกว่าฉันหรือเปล่า? หรือใครที่พอใจให้เขาได้ทำเรื่องส่วนตัวแบบไม่มีข้อครหา ใครที่จะไม่ทำให้รามรู้สึกรำคาญใจหรือหงุดหงิดเวลาพูดถึงเรื่องความสัมพันธ์ ต่อให้ฉันรักรามมากแค่ไหนถ้าหากเขาไม่ได้รักฉันและรักคนอื่นที่เข้ามา
เมื่อนั่น... ฉันจะเป็นฝ่ายไปเอง แม้ว่ามันจะเจ็บหรือใจสลายก็ตามที