‘ราม นายจำฉันได้ไหม?’
‘อืม’
‘งั้นก็ต้องจำเรื่องนั้นได้’
‘...’
‘นายจะเป็นแฟนกับฉันได้หรือเปล่า?’
เปลือกตาของผมค่อยๆ เปิดขึ้นรับแสงแดดยามเช้า ก่อนจะยกมือปิดบังความสว่างและเอี้ยวตัวไปมองแผ่นหลังบอบบางที่กำลังดึงผ้าม่านสีน้ำเงินและนำไปผูกอย่างสวยงาม จากนั้นก็หันมาเท้าเอวมองผมด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง
“ตื่นได้แล้ว” น้ำเสียงแหบนิดๆ ของเธอบวกกับใบหน้าสวยคม ผมสีดำยาวปะบ่า ดวงตากลมโตจับจ้องผมก่อนจะเดินสาวเท้าขึ้นมานั่งบนเตียงพลางเอื้อมมือมายีเส้นผม “ผมก็ยาว ไม่คิดจะตัดเหรอ?”
“ยุ่ง” ปัดมือเธอออกไปจากศีรษะ “ปลุกทำไม”
“วันนี้นายมีเรียน” เธอถอนหายใจก่อนจะดันแผ่นหลังผมให้ลงจากเตียงและเธอก็จัดการเตียงนอนให้ผมจากที่มันยับยู่ยี่อยู่ตอนนี้กลับกลายเป็นเตียงนอนใหม่ที่เรียบร้อย “อยากกินอะไรตอนเช้า”
หันมามองสบตากับผมที่กำลังลุกขึ้นหยิบผ้าขนหนูพาดไหล่ก่อนจะถอดบ็อกเซอร์ออกพลางยืนเท้าเอวให้คนตรงหน้าเห็น... และคนตรงหน้าของผมได้ขึ้นชื่อว่าเป็น ‘แฟน’
“ไม่รู้” ตอบกลับไปแต่แอลแฟนของผมก็หยิบหมอนโยนเขวี้ยงใส่
“งั้นไปอาบน้ำ มายืนโชว์อยู่ได้”
“หึ” ผมหัวเราะในลำคอเมื่อเห็นแก้มนวลแดงระเรื่อ “ก็เห็นอยู่”
“รู้” เธอทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก
“หรือจะบอกว่าไม่เคย”
“ราม” ผมไม่ได้เกรงกลัวกับสีหน้าและท่าทางของเธอเลยนักนิด ไม่คิดจะต่อปากต่อคำอะไรกับเธอ ผมก็เดินเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำเพื่อทำให้ตัวเองได้ตื่นจากการนอนหลับและดันไปฝันถึงคำพูดของแอลในวันที่เจอกันครั้งแรก
ผมกับเธอเราคบหากันเป็นแฟนได้หลายเดือนแล้ว แต่เป็นการคบหาที่ผมไม่ได้เต็มใจนัก อาจจะเพราะว่าแอลต้องการผมก็เลยเออออไปด้วย หากแต่ว่าการมีเธอในชีวิตก็ใช่ว่าจะทำให้ผมหยุดเรื่องความเจ้าชู้ของตัวเองลง แอลไม่รู้หรือรู้อันนี้ผมไม่ทราบ แต่ถ้าหากเธอเลือกที่จะเข้ามาอยู่ในชีวิตของผมแล้ว ก็ต้องรับให้ได้ถึงตัวตนจริงๆ ของผม
ว่าผมไม่ใช่รามเกียรติ์คนเดิมที่เธอเคยรู้จัก
ประตูห้องถูกเปิดออกพร้อมกับผมที่สวมชุดนักศึกษาเรียบร้อยแล้ว ผมยกมือทั้งสองขึ้นก่อนจะรวบเส้นผมสีดำปนน้ำตาลของตัวเองมัดรวบไว้ที่ท้ายทอย มองแผ่นหลังของเธอที่กำลังง่วนกับการทำอาหารเช้าให้กับผมที่คอนโด แม้ว่าเราสองคนจะเป็นแฟนกัน แต่แอลก็ไม่ได้มาค้างที่ห้องของผมบ่อย อาจเพราะว่าเธอมีบ้านที่ต้องให้กลับไปมากกว่า
“พี่เอ็ม ทำไมไม่บอกแอลอ่า” ผมเดินไปนั่งเก้าอี้ตรงเคาน์เตอร์เท้าคางมองแอลที่ยังคงไม่รับรู้กับการมาของผม “แต่แอลก็มีส่วนต้องช่วยพี่เอ็มนะ”
เอ็มพี่ชายแท้ๆ ของเธอที่ทำงานอยู่ที่สำนักพิมพ์แห่งหนึ่ง เขาเป็นผู้ชายที่ค่อนข้างสุขุม ผมเคยเจอเขามาแล้วเพราะเขามักจะเก็บตัวเพื่อเก็บข้อมูลและทำงานเป็นนักเขียนที่แม้จะมีชื่อเสียงอยู่บ้าง แต่กว่าจะได้ส่งต้นฉบับให้กับสำนักพิมพ์ การเงินของทางบ้านแอลถึงได้มีปัญหามาเสมอและเธอจะต้องทำงานเพื่อแบ่งเบาภาระของพี่ชาย
“แอลรู้ เงินทองมันหายาก แต่แอลจะหาทางช่วยพี่เอ็มเองนะ ยังไงค่าบ้าน ค่าไฟ ค่าน้ำอีกเยอะแยะแอลจะจัดการเอง พี่เอ็มไปปั่นต้นฉบับเหอะ” พูดจบแอลก็วางสายไปก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ก็หันมาพร้อมกับจานอาหารที่เป็นแบบ Breakfast เธอก็ฉีกยิ้มให้กับผมพร้อมกับเลื่อนจานอาหารเช้ามาให้ ตามด้วยน้ำเปล่าหนึ่งแก้ว
“ไม่กิน” พอเห็นว่ามีแค่ของตัวเองจึงเอ่ยปากถาม
“ฉันกินมาแล้ว” เธอตอบก่อนจะก้มหน้าลงถอดผ้ากันเปื้อนสีดำออก อันที่จริงตั้งแต่มีแอลเข้ามาในชีวิตตู้เย็นของผมก็จะมีของสดและอาหารไว้พร้อมทั้งที่เมื่อก่อน จะมีก็แค่เบียร์กับน้ำเปล่าแค่นั้น “ฉันไปมหาลัยก่อน”
“ไปพร้อมกัน” ผมรีบเบรกร่างเล็กที่วิ่งไปอยู่ตรงหน้าประตูพลางสวมรองเท้าผ้าใบสีขาว เธอหันมายิ้มให้ผมก่อนจะโบกมือไปมา
“ฉันไปเอง รีบกินรีบไปเรียน วันนี้นายมีเรียนเก้าโมงเช้า” แอลสั่งเสร็จสัพก็รีบวิ่งออกจากห้องไป ผมถอนหายใจก่อนจะจัดการอาหารตรงหน้าจนหมดและออกจากห้องเพื่อตรงไปยังมหาลัย อันที่จริงแอลกับผมเราเรียนที่มหาลัยเดียวกันแต่คนละคณะ แอลเรียนคณะอักษรศาสตร์ปีสามซึ่งปีเดียวกับผม
“มาแต่เช้าเลยนะมึง” ไอ้ลี้เทียนเพื่อนสนิทของผมทักทายขณะที่โบกมือให้เมื่อผมมานั่งอยู่ที่โต๊ะหินอ่อนหน้าคณะนิเทศศาสตร์
“อือ” ผมตอบแค่นั้น ไม่พูดอะไรมากอาจด้วยเพราะว่าผมเป็นคนเนือยๆ เฉื่อยๆ และขี้เกียจพูดจึงเป็นพวกแบบถามคำตอบคำ จับใจความได้ยากจนเพื่อนอยากจะตบหน้า แต่มันก็ไม่กล้าพอที่จะทำแบบนั้นกับผม
“ไอ้ไฟช่วงนี้หายไปเลย ตามง้อน้องพะแพง”
“อือ” ถอนหายใจเมื่อได้ฟังเรื่องของไอ้ไฟเพื่อนสนิทอีกหนึ่งคนที่ตอนนี้ผมกับมันกำลังอยู่ในช่วงโกรธกันก็ว่าได้ เพราะผมดันไปจูบพะแพงและพูดว่าอยากได้เธอ ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าพะแพงคือใครสำหรับมัน
“วันนี้ไปคลับเฮียแซคกัน กูเหงาอะ ชวนไอ้ไฟก็ไม่ไป”
ผมผละใบหน้าจากสมาร์ทโฟนมองสบตากับไอ้เทียน
“อือ” ตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น เพื่อบอกให้ไอ้เทียนรู้ว่าผมชักจะรำคาญมันแล้ว สายตาก็จับจ้องมาที่หน้าจอสมาร์ทโฟนอีกครั้งก่อนจะกดเข้าแอปพลิเคชั่นของธนาคารแห่งหนึ่ง เลื่อนไปที่รายการโปรดก่อนจะหาชื่อของคนที่ต้องการจะใช้งาน
นางสาวนาราภัทร วีระธารา
เมื่อเจอชื่อที่ต้องการผมก็กดจำนวนเงินลงไป ก่อนจะจัดการโอนเงินจำนวน 50,000 บาทไปยังบัญชีของแอลเป็นอันเสร็จเรียบร้อย
“มึงทำไรวะ นัดสาวหรือไง?”
“เปล่า” เมื่อทำตามที่ตัวเองการเสร็จผมก็ยกข้อมือซ้ายดูเวลาซึ่งเหลืออีกสิบนาทีผมไปรอเรียนในคลาสเลยดีกว่า “โอนเงินให้แอล”
“หือ” ไอ้เทียนทำหน้ามึนงงเมื่อเดินข้างๆ ผมเพื่อเข้าไปยังคณะ “เมียมึงไม่มีเงินอ่อ”
“อือ”
“แหม ใส่ใจเก่งนะเนี่ย” ผมหันไปมองไอ้เทียนที่กอดคอผมพลางแซวด้วยสีหน้าปลาบปลื้ม “โอนให้เมียเท่าไหร่อะ?”
“ห้าหมื่น”
“เหี้ย!” ไอ้เทียนอุทานออกมาจนคนที่เดินสวนเราสองคนมองด้วยสีหน้าตกใจ “ทีกูยืมมึงสองหมื่น มึงบอกไม่มี”
“ก็ไม่มี” ตอบกลับไปเพราะมันคือเรื่องจริง “ของเก่ายังไม่คืน”
“เออ... กับเพื่อนบอกไม่มี กับเมียนี่โอนเก่งนะมึง” ผมไม่ฟังเสียงบ่นของไอ้เทียนและเดินเข้าคลาสเรียนเพื่อเข้าไปหลับ เอาจริงนะ ผมไม่เคยได้ความรู้จากการเข้าคลาสเรียนสักเท่าไหร่ที่มาก็เพราะไม่อยากขาดเรียน สำคัญคือแอลตามไปปลุกทุกวันแบบนั้นไม่อยากมาก็ต้องมาล่ะนะ
เลิกคลาสราวๆ สี่โมงเย็นได้ ผมก็เดินออกมาจากคณะพลันสายตาก็เหลือบไปเห็นแผ่นหลังที่คุ้นตากำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะหินอ่อน แต่ทว่ากลับมีผู้ชายจากคณะอื่นเข้ามาพูดคุยกับเธอด้วย ทำให้ผมล้วงมือลงกระเป๋ากางเกงถอนหายใจออกมายามจับจ้องภาพนั้น
“ยังจะมีคนกล้ามาคุยกับเมียมึงอีกเหรอวะ?” ไอ้เทียนตบบ่าผมพลางมองไปยังจุดนั้นเช่นเดียวกัน “กูไปรอที่คลับ”
สองเท้าเดินตรงไปหยุดตรงด้านหลังของแอลที่กำลังพูดคุยกับผู้ชายตรงหน้า จนมันเห็นผมก็ตกใจลุกขึ้นยืนก่อนจะยกมือเกาท้ายทอยตัวเอง แอลเมื่อเห็นผมมาก็ลุกขึ้นมาฉีกยิ้มกว้างให้
“ราม...”
“ยุ่งกับแอลทำไม?” ผมถามกลับด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้าง มันถึงกับไปไม่เป็นทันทีก่อนจะยกมือโบกไปมา
“ผมเปล่านะครับ แค่มาถามพี่แอล”
“อะไร” เดินไปหยุดตรงหน้ามัน “อยากเจ็บตัว?”
“ราม ใจเย็นสิ” ท่อนแขนถูกดึงเข้าหาคนตัวเล็กที่สูงเพียงหัวไหล่ของผมเท่านั้น “น้องเขามาถามเรื่องงานที่คณะ เขาเป็นเดือน”
“แล้ว” ผมไม่สนใจหรอกนะว่ามันจะมาถามเรื่องอะไร แต่ที่ผมสนคือ... มันมายุ่งกับของของผม
“ผมขอโทษครับ” ทุกคนรู้ดีว่าแอลคือแฟนของผม ฉะนั้นไม่มีใครกล้ามายุ่งกับเธอสักเท่าไหร่ แต่ก็จะมีบางส่วนที่ชอบท้าทายอำนาจของผมไง พอมันเดินจากไปผมก็หันมาเล่นงานยัยตัวดีที่ไม่ว่าผมจะทำยังไงก็มักจะมีคนพวกนี้เข้าหาแอล เธอสวย เธอน่ารักและเธอก็แกร่งมากด้วยถึงได้เป็นที่ต้องการของผู้ชายหลายๆ คน
“มาทำไม” ปกติแอลจะไม่มาที่คณะของผมถ้าหากไม่มีเรื่องจำเป็นจริงๆ เธอมักจะโทรหาหรือไม่ก็ส่งข้อความไลน์มาเท่านั้น
“นายโอนเงินมาให้ฉันใช่ไหม?” แอลไม่พูดเปล่าก็หยิบสมาร์ทโฟนรุ่นเดียวกับผมแต่คนละสีขึ้นมา ชูหน้าที่เป็นภาพว่ามีคนโอนเงินไปให้เธอห้าหมื่น เวลาและจำนวนเงินถูกต้องผมจึงพยักหน้ารับ “โอนมาทำไมอะ”