ละครฉากใหญ่

2484 Words
“น้องเอวาแน่ใจนะคะว่าเข้าไปคนเดียวได้ ให้พี่ลูซี่ไปด้วยดีไหมคะ?” “ไม่เป็นไรค่ะ พี่ชายของเอวาอยู่ในนั้น พี่ลูซี่กลับไปพักเถอะ พรุ่งนี้มีงานเช้านี่คะ” “อืม งั้นถ้ามีอะไรก็โทรมานะ” “ค่ะ” หลังจากเสร็จงาน เอวาก็แวะมาที่งานแต่งงานที่ธาราเคยชวนซึ่งงานถูกจัดที่โรงแรมสุดหรูและค่อนข้างเป็นส่วนตัว ตลอดทางเดินเข้าไป เอวาถูกจับตามองจากคนรอบข้าง จนกระทั่งเจอเข้ากับโรมัน ที่ยืนอยู่ในกลุ่มเพื่อนของเขา “พี่โรม!...” แล้วก็...นั่นมัน...พี่ราม... เอวาตะโกนเรียกโรมันโดยไม่ได้มองเลยว่าในกลุ่มของเขานั้นมีคนที่เธอไม่อยากเจออยู่ เธอถึงกับชะงักเมื่อมองไปเห็นรามินทร์ก่อนจะแกล้งยิ้มกว้างเหมือนไม่ได้รู้สึกอะไรเดินเข้าไปหา “นึกว่าจะมาไม่ได้” “แหม ได้สิคะ งานแต่งของเพื่อนพี่โรมทั้งที” โรมันถามขึ้นอย่างนึกแปลกใจที่เอวามาได้เพราะเธอบอกว่าทำงาน ส่วนเอวาเดินเข้ามาควงแขนของโรมันอย่างเป็นธรรมชาติสุดๆ “เอวา นี่น้องเอวาที่เป็นดาราใช่ไหมครับ?” ศิวะที่ยืนอยู่ในกลุ่มรีบถามขึ้นอย่างตื่นเต้น เมื่อเธอกำลังโด่งดังมีหรือเขาจะไม่รู้จัก “ค่ะ...” “พี่ชื่อศิวะ ยินดีที่ได้รู้จักครับ” ศิวะรีบยื่นมือไปทำความรู้จัก ซึ่งเอวาก็ตอบสนองกลับอย่างรวดเร็ว จนรามินทร์ที่มองอยู่เริ่มไม่พอใจ “นี่เพื่อนพี่ ศิวะ นี่ราม ส่วนคนที่แต่งงานคือไอ้เทพ” โรมันแนะนำออกมาทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่าเอวานั้นรู้จักเพื่อนของเขาทุกคนโดยเฉพาะกับรามินทร์ “ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนเลยนะคะ” เอวาพูดขึ้นพร้อมกับส่งยิ้มไปให้ทุกคน “แล้วธารล่ะคะ” “อยู่ในห้องนั้นน่ะ ไปหาสิ” “ค่ะ” และเอวาก็เดินไปหาธาราที่นั่งพักอยู่ในห้องพักแขกเพราะท้องที่โตเต็มที่ทำให้เดินเหินไม่สะดวก “อะไรวะ ลูกพี่ลูกน้องแกเหรอ?” พอเอวาเดินไปแล้ว ศิวะรีบถามขึ้น ซึ่งก็ไม่ต่างจากรามินทร์ที่กำลังแปลกใจที่เอวารู้จักกับโรมัน “ก็...ตอนนี้เป็นน้องสาวแล้ว อย่าคิดจีบนะ ฉันไม่ยกให้ใครหรอก” โรมันแกล้งพูดกันท่า เมื่อเขารู้สึกถึงความไม่ปกติระหว่างรามินทร์กับเอวาแล้ว ซึ่งสาเหตุมันอาจมาจากเขาก็เป็นได้ “อะไรกัน แกไม่เห็นใจหนุ่มโสดอย่างฉันเลยรึไง ฉันน่ะ รักใครรักจริงพร้อมแต่งเลยนะเว้ย ว่าแต่ น้องสาวแกหน้าคุ้นๆนะ เหมือนฉันเคยเห็นที่ไหนเลย” ศิวะที่มองตามเอวาไปแต่เขากลับนึกไม่ออกว่าเคยเจอเธอที่ไหน ทั้งๆที่งานแต่งของโรมันเขาเคยจีบเธอแท้ๆ “จะเคยเห็นได้ไง พึ่งย้ายมาอยู่ไทย” “อ้อ สเปคฉันเลย...” ศิวะยังคงเพ้อพร้อมทั้งเริ่มกลับมามีสายตามุ่งมั่นเหมือนกับตอนที่ตามจีบวารีไม่มีผิด “แกไม่เหมาะกับเอวาหรอก ถ้าเป็นไอ้รามยังเหมาะกว่าอีก อย่างแกน่ะตีกันตายตั้งแต่คบกันยังไม่ถึงอาทิตย์แน่นอน” โรมันพูดขึ้นพร้อมกับดูท่าทีของรามินทร์ ซึ่งรามินทร์ก็เอาแต่ก้มหน้ามองแก้วในมืออย่างไม่สนใจสิ่งรอบข้าง เมื่อเขากำลังคิดถึงท่าทีและสิ่งที่เอวาแสดงออกมา “ฉันขอตัวก่อนนะ” รามินทร์บอกขึ้น ก่อนจะเดินหนีออกไป “อ่าว ไอ้นี่ก็อีกคน มันเป็นไรไม่รู้ ตั้งแต่กลับมาจากงานแต่งแกมันก็แปลกๆ” โรมันมองตามรามินทร์ไปด้วยสายตาแห่งความข้องใจ เมื่อเขาต้องรู้ให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเอวาและรามินทร์ เอวาที่เคยคลั่งไคล้รามินทร์กลับดูเฉยชาเหมือนไม่เคยรู้จักกันแบบนั้น หมับ! พี่ราม... “มาคุยกันหน่อย” รามินทร์ที่รอโอกาสจนกระทั่งเห็นว่าเอวากำลังเดินอยู่คนเดียวรีบเข้าไปหาแล้วคว้าแขนของเธอเอาไว้ ส่วนเอวา ถึงจะไม่พร้อมจะเผชิญหน้ากับเขาแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ “พี่...พี่รามใช่ไหมคะ มีอะไรกับเอวารึเปล่าคะ?” พอเขาพาเธอออกมายืนอยู่นอกสวนที่ห่างจากคนอื่นๆ เอวาก็ทำหน้าใสซื่อแล้วถามออกมา จนรามินทร์ที่มองอยู่ยิ่งขัดใจเข้าไปใหญ่ “ทำไม...ทำไมเธอต้องทำแบบนั้น” เขาถามขึ้นพร้อมกับจ้องมองเธออย่างค้นหา “เอวาเหรอคะ? เอวาทำอะไร” เธอยังคงถามเขาเหมือนกับไม่ได้รู้เรื่องราวที่ผ่านมาจนรามินทร์ที่เริ่มทนไม่ไหวเดินเข้ามาใกล้แล้วจับสองแขนของเอวาเอาไว้พร้อมกับมองอย่างเริ่มโมโห “อย่ามาทำเสแสร้ง เธอเข้าหาฉันแล้วก็หายไป แล้วตอนนี้กลับมาทำเป็นเหมือนไม่เคยรู้จัก คิดว่าฉันโง่มากรึไงห๊ะ!” “อะไรคะ พี่รามพูดอะไรเอวาไม่เห็นเข้าใจเลย” เอวายังคงแกล้งที่จะไม่รู้จักเขา “เธอคิดว่าฉันจะเชื่อเหรอ เธอต้องการอะไรกันแน่ บอกฉันมา” เอวาเจ็บจนเผลอร้องออกมาเมื่อเขาดันเผลอบีบแขนของเธอแน่นขึ้นเรื่อยๆ “พี่รามพูดเรื่องอะไร เอวาไม่เห็นเข้าใจ ปล่อยนะคะ เอวาเจ็บ” “ไอ้ราม! นี่แกทำอะไรน้องเอวาวะ!” ศิวะที่เดินเข้ามาเห็นรีบถามขึ้นพร้อมกับเดินเข้ามาหา จนรามินทร์ยอมปล่อยมือออกจากแขนของเอวา “เอ่อ ไม่มีอะไรหรอกค่ะ เอวาจะล้ม พี่รามเลยช่วยจับเอาไว้ แต่จับแรงไปหน่อย...” เอวารีบบอก “อ้อ เหรอ พี่ก็นึกว่ามีเรื่องอะไร” “แล้วนี่มาตามเอวาเหรอคะ งั้นไปกันเถอะค่ะ” “ห๊ะ? เอ่อ ครับๆ” เอวารีบเดินไปกอดแขนศิวะแล้วดึงให้เขาเดินออกมาจากตรงนั้นทันที ส่วนรามินทร์ได้แต่มองตามเอวาไปอย่างโกรธเคืองเมื่อคิดว่าเธอกำลังปั่นหัวเขาอยู่ ทั้งๆที่เขาไม่ควรสนใจเธอแต่เขากลับทำแบบนั้นไม่ได้ “ราม? นี่รามจริงๆด้วย ซ่าร่านึกว่าตาฝาด มาทำอะไรที่นี่คะ” ขณะที่ความโกรธกำลังพุ่งขึ้นเรื่อยๆ ซาร่า สาวสวยที่รามินทร์เคยควงก็เดินเข้ามาพร้อมกับยิ้มกว้าง “บังเอิญจังเลยนะคะ พอดีซาร่ามาประชุมที่นี่ สนใจไปดื่มต่อกันไหม...คืนนี้ซาร่าว่าง...” และซาร่าก็เปิดทางสวาทให้กับรามินทร์อย่างเต็มที่ เมื่อล่าสุดที่เจอกันที่ผับนั้นอยู่ดีๆรามินทร์ก็หายตัวไป เธอเลยได้แต่แห้งเหี่ยวเมื่ออุตส่าคิดว่าจะถูกเขาลากขึ้นเตียง “เอาไว้วันหลังเถอะ วันนี้ผมไม่สะดวก ขอตัวก่อนนะ” รามินทร์ปฏิเสธแล้วเดินเลี่ยงออกไป ปล่อยให้ซาร่าได้แต่มองตามเขาอย่างเสียดาย เมื่อเธอชอบรามินทร์อย่างที่ไม่เคยชอบใครมาก่อน ส่วนรามินทร์ พอเดินกลับเข้ามาในงานเขาก็เอาแต่มองหาเอวา และก็เจอเธออยู่กับศิวะพร้อมเพื่อนๆที่เคยเรียนด้วยกันกับเขา เธอดูมีความสุขและผ่อนคลายทั้งๆที่เขาเครียดจนแทบบ้า “พี่โรมไปไหนเนี่ย...พรุ่งนี้มีงานเช้าด้วยสิ หรือกลับแท็กซี่ดี...” หลังจากร่วมสนุกกับกลุ่มเพื่อนของศิวะจนดึกดื่น เอวาก็เลยขอตัวแยกออกมาเมื่อเธออยากกลับไปพักผ่อนแล้ว แต่เดินทั่วงานก็ไม่เจอโรมันกับธารา “เอวา หาไอ้โรมอยู่เหรอ?” “ค่ะ พี่ศิวะเห็นบ้างไหมคะ?” “มันโทรมาบอกพี่ว่าเมียมันปวดท้อง เห็นว่าลูกดิ้นหนักเลยพากลับก่อน ฝากพี่ไปส่งเราน่ะ จะกลับแล้วใช่ไหม?” “ค่ะ” เป็นศิวะที่เดินเข้ามาอาสาจะไปส่ง เมื่อโรมันโทรมาบอกให้เขาช่วยดูแลเธอ “เดี๋ยวฉันไปส่งเอง คู่ขาแกถามหาน่ะ ไปสิ” และคนที่รอเวลาอย่างรามินทร์ก็เดินเข้ามาหา ทำเอาศิวะถึงกับอ้าปากค้างกับสิ่งที่รามินทร์พูดออกมา “คู่ขาบ้าอะไร ฉันน่ะ...” “ไปสิ ไหนว่าอยากกลับ” ไม่พูดเปล่า แต่รามินทร์ยังเดินมาจับแขนของเอวาแล้วดึงพาเดินออกไปทันที ปล่อยให้ศิวะได้แต่มองตามด้วยท่าทางตกใจระคนแปลกใจกับสิ่งที่รามินทร์ทำ ส่วนรามินทร์ เขาไม่สนใจอะไรทั้งนั้น เมื่อเขาคงอยู่เฉยไม่ได้อย่างแน่นอนกับสิ่งที่เอวาทำกับเขา “ขึ้นไป” เขาลากเธอออกมาจนถึงรถ ก่อนจะบอกขึ้น และเอวาก็ทำตามอย่างง่ายดาย อะไรของเขา...ก็จะไม่ยุ่งแล้วไง ยังจะอะไรอีก... พอขึ้นมาบนรถ เอวาอดคิดขึ้นในใจไม่ได้ ตอนที่เธอตามตื๊อเขาก็เอาแต่ขับไล่ไสส่ง แต่พอมาตอนนี้เขากลับเอาแต่ตามติดทั้งๆที่เธออยากถอยห่าง “พี่รามมีอะไรรึเปล่าคะ?” เธอแกล้งถามออกมา ก่อนรถจะจอดลงข้างทาง “ฉันรู้ว่าเธอจำได้ เธอทำแบบนั้นทำไม” รามินทร์หันมาถามอย่างจริงจัง “พี่รามพูดอะไร เอวาไม่...” หมับ!! “อ๊ะ!” รามินทร์ถึงกับหมดความอดทนคว้าเข้าที่แขนของเอวาด้วยความโมโห “เธอเล่นตลกอะไรกับฉันห๊ะ!” “เอวาไม่เข้าใจ อ๊ะ! เอวาเจ็บนะคะ” เอวาเริ่มดิ้นเมื่อเขาบีบแรงขึ้นเรื่อยๆจนรามินทร์เริ่มคลายมือลงเมื่อดันเผลอตัวทำแรงเกินไป เขามองเอวานิ่ง เมื่อทำยังไงเธอก็ไม่ยอมรับ “พี่รามจะพาเอวาไปไหนคะ...” “..............” และรามินทร์ก็ไม่พูดอะไรขึ้นมาอีก เขาขับรถตรงไปยังเส้นทางที่คุ้นเคยโดยมีเอวานั่งอย่างเริ่มวิตก เธอมองทางข้างหน้าอย่างไม่คุ้นชินเมื่อมันไม่ใช่เส้นทางกลับคอนโดของเธอ ไม่นานรามินทร์ก็พาเธอมาหยุดอยู่ที่บ้านหลังเล็ก “ลงไป” “ไม่...ทำไมเอวาต้องลง นี่ไม่ใช่บ้านของเอวาสักหน่อย” “ฉันบอกให้ลงไป” และพอเขาเน้นเสียงบอกออกมาอีกครั้ง เอวาจึงค่อยๆเปิดประตูออกไป เธอมองไปรอบๆบ้านอย่างหวาดระแวง เมื่อมันดูเงียบและมืดเกินกว่าจะมีคนอยู่ “จะยืนทำอะไร เข้าไปสิ” และเอวาก็เดินตามเขาเข้าไปในบ้าน ซึ่งข้างนอกดูเล็กก็จริงแต่ข้างในกลับถูกตกแต่งเอาไว้อย่างลงตัวจนเธออดทึ่งไม่ได้ “เอวาอยากกลับ...” “ถ้าไม่ยอมพูดความจริงก็อย่าหวังว่าจะปล่อยกลับ” “พี่รามต้องการความจริงอะไรจากเอวาก็บอกมาสิคะ เอวาไม่มีความจริงอะไรจะบอกสักนิด” เอวายังคงปากแข็ง เมื่อตอนนี้เธอไม่ได้อยากยุ่งเกี่ยวกับเขาอีกแล้ว เธอมองเขาด้วยสายตาไม่พอใจ เมื่อเขาเริ่มทำเกินกว่าเหตุที่พาเธอมาที่นี่ “เธอรู้จักกับไอ้โรมได้ยังไง หรือว่าที่เข้าหาฉันเพราะว่ามัน” “................” เอวาถึงกับพูดไม่ออก เธอรีบหันหน้าหลบเมื่อที่เขาพูดมันดันเป็นความจริง “หึหึ ใช่สินะ ทำไม มันให้เธอมาแยกฉันออกจากเมียมันรึไง” “พูดเรื่องอะไร เอวาจะกลับบ้าน” หมับ! “ว๊าย! นี่! ปล่อยเอวานะ อ๊ายยยย พี่ราม!!” ผลั๊ก! “พะ...พี่ราม...จะทำอะไร...อย่านะ...” รามินทร์ดึงร่างที่กำลังจะเดินไปที่ประตูแล้วกระชากเข้าหาตัว ก่อนจะดึงเธอไปที่ห้องนอนแล้วผลักลงไปบนที่นอนใหญ่ ทำเอาเอวาถึงกับตกใจ เธอถอยหนีอย่างเริ่มหวาดกลัว “ทำไม? เธอช่ำชองเรื่องนี้นี่ อย่ามาทำเป็นกลัวหน่อยเลย ตอนนั้นเธอไม่ใช่เหรอที่ลากฉันเข้าห้อง” ไม่พูดเปล่า รามินทร์ค่อยๆถอดชุดสูทที่เขาใส่อยู่ออก “ไม่ใช่เอวา พี่ราม...พี่รามคงจำสับสน” “ถ้าจะบอกว่ามีแฝดหรือความจำเสื่อมเธอก็น่าจะทำให้เนียนกว่านี้” เอวามองหน้าเขาอย่างต้องการยืนยันในสิ่งที่เธอพูดโดยงัดเอาความสามารถด้านการแสดงออกมาอย่างเต็มที่ “ที่นี่ไม่ใช่เวที ไม่ต้องมาแสดงหรอก ฉันน่ะเป็นหมอ รู้ว่าใครแสดงใครเสแสร้ง” รามินทร์ยังยืนยันว่าสิ่งที่เขาคิดนั้นเป็นความจริงอย่างแน่นอน “แล้วยังไง ถ้ามันจริงแล้วยังไง!” และเอวาเองก็หมดความอดทนเช่นกัน เธอไม่เข้าใจรามินทร์เลยสักนิดว่าเขาต้องการอะไรจากเธอกันแน่ หรือแค่การยอมรับว่าเธอคือผู้หญิงที่คอยเอาแต่ตื๊อเขาเมื่อไม่กี่เดือนก่อน “ยอมรับแล้วสินะ หึหึ” “ถ้าใช่แล้วจะทำไม? เป็นคุณไม่ใช่เหรอที่เอาแต่ผลักไล่ไสส่งให้ฉันไปไกลๆ คุณทั้งรังเกียจเหยียดหยามฉันสารพัด แล้วยังต้องการอะไรจากฉันอีก” เอวาสารภาพออกมาเสียงดังพร้อมกับน้ำตาคลอเมื่อความเสียใจของเธอมันยังคงเด่นชัดอยู่ ยิ่งได้เห็นเขาเธอก็ยิ่งเสียใจกับเวลาที่ผ่านมา “มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ คืนนั้น...หลังจากวันนั้นเธอหายไปไหน แล้วทำไมเธอถึงต้องทำเหมือนกับไม่รู้จักฉันด้วย ทำไม” “ฉันไม่อยากพูดถึงมัน ขอให้มันจบลงแค่นั้น ฉันไม่อยากเจอไม่อยากรู้จักคุณอีกแล้ว ปล่อยฉันไปเถอะนะ ฉันจะไม่มาให้คุณเจอหน้าหรือถ้าไปเจอกันที่ไหนฉันจะทำเหมือนเราไม่เคยรู้จักกัน และฉัน...และฉันขอโทษกับเรื่องที่ผ่านมา...ฉัน...ฉันไม่น่ามาเจอคุณเลย ไม่น่ามาที่นี่เลยตั้งแต่แรก...” เกิดอะไรขึ้นกับผู้หญิงคนนี้กัน...ทำไมเธอถึงเป็นแบบนี้... รามินทร์มองร่างบางที่กำลังสั่นเทา สายตาเศร้าสร้อยที่เหมือนจะร้องไห้แต่เธอก็พยายามกลั้นมันเอาไว้ เธอต่างจากเมื่อหลายเดือนก่อนอย่างสิ้นเชิง เมื่อตอนนั้นเธอทั้งร่าเริง ดื้อด้าน ไม่สนใจหรือไม่แคร์อะไร ต่างกับตอนนี้ เธอดูอ่อนแอและโศกเศร้าอยู่ตลอดเวลาโดยเสแสร้งแกล้งทำว่าเธอนั้นไม่ได้เป็นอะไร นั่นคือสิ่งที่เขาเห็น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD