5 เครื่องดักฟัง

1350 Words
หลายวันผ่านไป... ทับทิมเองก็ยังคงพยายามทุกวิถีทางเพื่อที่จะสามารถเข้าไปยังห้องทำงานของเพทายให้ได้ ทว่าการรักษาความปลอดภัยอย่างรัดกุมของที่นี่ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเอาซะเลย แต่แล้วขณะที่หญิงสาวกำลังนั่งถอนหายใจอยู่ด้วยความหัวเสียนั้น "อลินญา ทำเอกสารของครูพี่แอ๋มที่เหลือไว้เสร็จหรือยัง" เสียงดวงจิตเอ่ยถามอลินขึ้น ทับทิมที่ได้ยินแบบนั้นก็ยืนลอบแอบฟังอยู่อีกด้าน "เสร็จแล้วค่ะ" "เสร็จแล้วก็รีบเอาไปส่ง เดี๋ยวคุณเพทายกลับมา จะได้ดู" "ค่ะ" ร่างบางพยักหน้ารับคำ คนดูแลมูลนิธิก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ ค่อย ๆ สาวเท้าเดินออกไป ทำให้ทับทิมที่ยืนได้ยินทุกอย่างชะงักนิ่งนึกคิดอะไรบางอย่างขี้นมาในหัว "ฟู่ว" เสียงพ่นลมหายใจของอลินดังขึ้น ทับทิมจึงเหลือบแอบมองไปยังใบหน้าใสของรุ่นน้องสาวที่ดูเป็นห่วงเป็นใยเด็กน้อยนามว่าพลอยใสที่กำลังดูไม่สดใสเหมือนทุกครั้งจากอาการป่วยไม่สบาย ยิ่งพอได้เห็นท่าทีพวกนั้น ทับทิมก็ยิ่งรู้สึกเข้าทาง สองเท้าเรียวค่อย ๆ เดินตรงเข้าไปยังรุ่นน้องคนสนิท "น้องพลอยยังไม่ดีขึ้นอีกเหรอ" "ยังเลยค่ะ" อลินตอบพร้อมกับแสดงสีหน้าเป็นกังวลออกมา ทับทิมที่เห็นจึงเอ่ย "ว่าแต่คุณดวงจิตมาทำไมเหรอ จะพาน้องพลอยไปหาหมอเหรอ" เจ้าของใบหน้าสวยแสร้งถาม "ไม่ใช่ค่ะ คุณดวงจิตมาให้อลินไปส่งเอกสารที่ห้องคุณเพทาย แต่ว่า..." ว่าแล้ว คนตัวเล็กก็หันไปจ้องมองเด็กน้อยที่นอนหนาวสั่นอยู่ "เอกสารอะไร สำคัญเหรอ" "เอกสารที่ครูพี่แอ๋มทำเอาไว้น่ะค่ะ พอดีคุณดวงจิตให้อลินรับหน้าที่ทำแทนต่อ" "อ๋อ...ถ้างั้น...ให้พี่ไปส่งแทนไหม" "คะ?" "พี่ไปส่งแทนเรา เราจะได้อยู่ดูแลน้องพลอยไง เพราะพี่คงดูแลแทนไม่ได้ พี่ดูแลเด็กป่วยไม่ค่อยเก่งน่ะ" "แต่ว่า..." "ให้พี่ไปส่งแทนดีกว่า พี่ไม่แอบดูหรืออะไรหรอก พี่สัญญา" ทับทิมยังคงเอ่ยพลางจ้องมองไปยังรุ่นน้องตัวเล็กด้วยแววตาแสดงออกมาถึงความจริงใจ ซึ่งอลินเองก็ไม่ได้คิดกับคนตรงหน้าในแง่ลบแบบนั้น แต่เพราะเธอกลัวว่าดวงจิตจะต่อว่าเอาได้ ทว่าเมื่อเหลือบไปเห็นท่าทีของเด็กน้อยคนสนิท สุดท้ายอลินก็จำต้องยอมให้รุ่นพี่คนสวยไปส่งเอกสารแทน "ยังไงฝากบอกป้าน้อยด้วยนะคะว่าอลินไม่ว่างจริง ๆ " เรียวปากเล็กเอ่ยกำชับ เพราะกลัวว่าจะถูกต่อว่าเอาได้ ทับทิมที่ได้ยินแบบนั้นก็เอ่ยบอกอีกคนให้สบายใจ ว่าจะคุยกับป้าน้อยป้าแม่บ้านที่คอยดูแลที่นี่ให้เอง หลังจากที่ทุกอย่างเป็นไปตามแผน ทับทิมก็ลอบยิ้มพอใจหยิบเอกสารที่ต้องนำไปวางยังห้องทำงานของเพทายเดินออกไปด้วยแววตาร้ายพอใจไม่ปกปิด โดยใช้เวลาไม่นาน หญิงสาวเจ้าของรูปร่างสวยดูดีก็เดินตรงเข้าไปภายในห้องทำงานหรูของเป้าหมายอย่างง่ายดาย โดยมีแม่บ้านสูงวัยเป็นคนเปิดประตูให้ "ขอบคุณมาก ๆ เลยนะคะป้าน้อย..." "...ป้าน้อยต้องอยู่ทำความสะอาดต่อใช่ไหมคะ" ทับทิมแสร้งถามชวนคุยด้วยท่าทีเป็นกันเองไม่มีพิษภัย แม่บ้านสูงวัยที่ไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมของสปายสาวก็ยิ้มพยักหน้าตอบกลับ "ใช่จ้า เดี๋ยววันนี้คุณเขาจะกลับมา" "วันนี้เหรอคะ" "อื้ม ช่วงเย็น ๆ ค่ำ ๆ น่ะลูก" น้อยตอบกลับไปตามประสา ขณะที่ทับทิมก็ยกยิ้มมุมปากแสดงความพึงพอใจออกมาอีกครั้ง มือเรียวค่อย ๆ เลื่อนลงไปหยิบเครื่องดักฟังขนาดเล็กที่เธอซื้อมาด้วยราคาที่แพงพอสมควรขึ้นมา โดยระหว่างนั้น หญิงสาวก็พยายามชวนป้าแม่บ้านพูดขึ้นเพื่อเบี่ยงความสนใจ "ป้าน้อยอยู่ที่นี่มานานแล้วเหรอคะ" "ใช่จ้า ป้าอยู่มาตั้งแต่ก่อนที่คุณเพทายเขาจะมาซื้อเป็นของคุณเขาเลย" "อ๋อ คุณเพทายนี่เขาดู...ใจดีจังเลยนะคะ" สิ้นเสียงทับทิมแสร้งเอ่ย น้อยก็ยิ้มบาง ๆ ไม่ตอบอะไรกลับ ก่อนที่ทับทิมจะใช้จังหวะที่หญิงสูงวัยเผลอในการหยิบเครื่องดักฟังของตัวเองติดเข้าไปยังจุดอับสายตาที่ยากจะสามารถมองเห็น ซึ่งหลังจากที่ทับทิมติดเสร็จ น้อยก็หันมามองร่างสวยที่ยืนอยู่ทันที ทว่าทับทิมก็ไม่ได้แสดงท่าทีตื่นตกใจอะไรออกมา ใบหน้าสวยยังคงมีรอยยิ้มจริงใจเป็นกันเองอยู่อย่างนั้น "หนูไม่รบกวนป้าน้อยแล้วดีกว่าค่ะ แต่ยังไง...ก็อย่าบอกคุณดวงจิตว่าหนูมาส่งเอกสารแทนน้องอลินนะคะ น้องกลัวโดนคุณดวงจิตดุ" เรียวปากสวยยิ้มหวานบอก แม่บ้านสูงวัยที่ได้ยินแบบนั้นก็หัวเราะยิ้มรับรู้ "จ้า ป้าไม่บอกหรอกลูก" "ขอบคุณนะคะ" ใบหน้าสวยยังคงเปื้อนรอยยิ้มหวานดูดี กระทั่งเดินออกมาจากห้อง รอยยิ้มหวานพวกนั้นก็แปรเปลี่ยนเป็นเรียบนิ่งพอใจ อีกด้าน "การต่อเติมชั้นใต้ดินไปถึงไหนแล้ว" เสียงทุ้มของมาเฟียหนุ่มถามลูกน้องคนสนิทของตัวเองขึ้นพลางใช้สายตาคมจ้องมองไปยังกาสิโนขนาดใหญ่ตรงหน้าที่เขาได้ทำการร่วมลงทุนกับเพื่อนสนิทของตัวเองรวมถึงมีหุ้นส่วนย่อยอีกสองสามคน "ประมาณ 70% ได้แล้วครับ" "..." เจ้าของใบหน้าหล่อก็พยักหน้ารับรู้พร้อมกับเคลื่อนมือลงไปหมายจะหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ ทว่า... "คุณเจย์เดน" เสียงหวานของใครบางคนดังขึ้นทำให้ร่างสูงใบหน้าแบดบอยชะงักหันไปมอง แล้วรอยยิ้มมุมปากก็ต้องฉายขึ้นมา "ไง" หมับ! หญิงสาวสวยในชุดเดรสเซ็กซี่ที่เข้ามาใหม่รีบสาวเท้าเดินเข้าไปกอดเอวแกร่งของมาเฟียหนุ่มทันทีด้วยความสนิทสนมตามประสา...คู่ขาคนโปรด "นีน่า คิดถึงคุณเจย์เดนจังเลยค่ะ" "คิดถึงแค่ฉันเหรอ" "คะ?" ร่างบางผละถามคนตรงหน้าแววตางุนงง "ฉันนึกว่าเธอ..." ว่าแล้ว มือใหญ่ก็ค่อย ๆ จับมือเรียวเคลื่อนเข้ามาจับเข้าที่เป้ากางเกงของตัวเอง "...จะคิดถึงรสชาติคxxของฉันซะอีก" "อ อ๊ะ! คุณเจย์เดน!" นีน่าเอ่ยพลางแสร้งแสดงท่าทีเขินอายออกมากับสิ่งที่ได้ยิน ซึ่งก็เพียงชั่วครู่เท่านั้น หลังจากที่มาเฟียหนุ่มลากเข้าประเด็น หญิงสาวก็เปลี่ยนแววตาจากดูอ้อนในตอนแรกเป็นยั่วยวน "รสชาติดีแบบนั้น จะไม่คิดถึงได้ยังไงกันล่ะคะ" "หึ" ร่างสูงที่ได้ยินแบบนั้นก็แสยะยิ้มมุมปากขึ้นด้วยความพอใจกับการเชิญชวนยั่วยวนของอีกคน เพราะนีน่าเป็นแบบนี้ เขาจึงยกให้เธอเป็นคู่ขาคนโปรดที่รู้ใจของเขา...เธอเป็นงานและคอยตามใจเขาทุกอย่างไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม ทว่าขณะที่สองคนกำลังจะเริ่มมีปฏิกิริยาบางอย่างต่อกัน "ถึงเวลานัดคุณเพทายแล้วครับ" เสียงกนต์ธรเอ่ยขึ้น ทำให้เจย์เดนที่ได้ยินอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหัวเสียที่ถูกขัดจังหวะ "ก็ช้าหน่อย ไม่ได้หรือไง!" "คุณเพทายแจ้งไว้ว่ามีงานที่ต้องเคลียร์ต่อครับ ให้มาตรงเวลา" "โถ่เว้ย!" ริมฝีปากหนาสบถอย่างหงุดหงิดไม่หยุด นีน่าที่เห็นจึงรีบคล้องแขนอ้อน "ไม่เป็นไรนะคะ คุยธุระเสร็จแล้ว ค่อยกลับมาหานีน่าก็ได้" "..." "ไม่หงุดหงิดสิคะ เดี๋ยวคืนนี้นีน่าใส่ชุดโปรดที่คุณเจย์เดนชอบรอนะ" สิ้นเสียงคู่ขาคนโปรดเอ่ยจบ ใบหน้าหล่อก็เริ่มแสดงออกมาถึงความอารมณ์ดีขึ้นในทันที "ได้ งั้นเดี๋ยวฉันรีบกลับ" "ค่ะ นีน่าจะรอนะคะ" "อืม...เตรียมตัวไว้ให้ดีเถอะ หึ"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD