ร่างเล็กบอบบางของเด็กหญิงตัวน้อยปั่นจักรยานหนีออกมาเที่ยวเล่นอย่างสนุกสนาน บิดามารดาหวงและไม่อยากให้เธอซุกซนมากเนื่องด้วยเป็นผู้หญิง แต่พี่ชายคนเดียวบอกว่าเกิดเป็นหญิงหรือเป็นชายไม่สำคัญ สำคัญที่เราเป็นคนสามารถทำอะไรก็ได้
“โอ๊ย!” ร่างเล็กๆ ของเด็กหญิงตัวน้อยล้มเพราะโดนเด็กผู้ชายปาหิน ก้อนเล็กๆ ใส่ เธอหลบและโดนดึงท้ายรถจักรยานเอาไว้จนหกล้มไม่เป็นท่า
“กางเกงเป้าขาดๆ” เด็กพวกนั้นมองร่างที่ล้มลงไปแล้วกางเกงเป้าขาดเห็นกางเกงในสีชมพูหวานแหวว “ใส่กางเกงในสีชมพูด้วย”
“อย่ามองนะ”
“จะมอง กางเกงในสีชมพู” เด็กผู้ชายพวกนั้นยังล้อเลียนอย่างสนุกสนาน
“เขาจะฟ้องพี่กริช” เพราะโดนรุมแกล้งจากหลายคน เด็กชายทั้งสามกระโดดโลดเต้นอยู่ข้างๆ แลบลิ้นปลิ้นตาใส่ ทำให้เด็กหญิงหน้างอ เบะปากทำท่าจะร้องไห้เพราะเจ็บเข่า
แก้วกัลยาทำท่าจะปล่อยโฮออกมาก็ต้องหยุดกึกเมื่อได้ยินเด็กชาย ทั้งสามร้องขึ้น
เด็กหนุ่มวัยที่โตกว่าดีดหน้าผากเด็กทั้งสามก่อนจะอบรมสั่งสอนว่า ไม่ควรแกล้งผู้หญิง เด็กทั้งสามวิ่งหนีหายไปแทบจะทันที
“มาครับ” คเชนทร์ถอดเสื้อคลุมรัดเอวให้เด็กน้อยเพื่อปกปิดที่กางเกง เป้าขาดจนเห็นกางเกงใน
“อย่าบอกใครเด็ดขาดนะคะว่าเขาใส่กางเกงในสีชมพู” เด็กน้อยรีบเอ่ยขอร้องตาปริบๆ
“ได้ครับ แต่ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนนะครับ”
“ข้อแลกเปลี่ยนอะไรเหรอคะ” เด็กหญิงแก้วกัลยาเอ่ยถาม
“โตขึ้นต้องแต่งงานกับพี่นะครับ”
“ทำไมต้องแต่งงานกับพี่ด้วยคะ”
“เพราะพี่เป็นคู่หมั้นของน้องแก้วไงครับ”
“คู่หมั้นคืออะไรเหรอคะ” เด็กน้อยถามอย่างไม่เข้าใจ
“โตขึ้นก็จะรู้เองครับ”
“ตอนนี้หนูก็โตแล้ว” เธอทำท่ายืดตัวให้สูงขึ้น แต่ยืดยังไงก็ไม่เท่าพี่ชายใจดีที่ช่วยเหลือเอาไว้ และยืนอยู่ด้านหน้า
“ยังโตไม่พอ มาครับ มาขี่หลังพี่” คเชนทร์นั่งยองๆ ลงตรงหน้า แก้วกัลยาปีนขึ้นไปบนหลังของเขาเพราะล้มเมื่อครู่ทำให้ปวดเข่าปวดแขนไปหมด คงปั่นจักรยานกลับเองไม่ไหว คเชนทร์หิ้วจักรยานคันเล็กๆ มาถือเอาไว้ด้วยมือ ข้างเดียวก่อนจะแบกเด็กน้อยพาเดินกลับบ้าน
“พี่ชื่ออะไรเหรอคะ”
“คเชนทร์ครับ เรียกพี่ว่าเชนนะครับคนดี” เสียงมอเตอร์ไซค์ของพี่ชาย วิ่งมาจอดอยู่ข้างๆ แก้วกัลยาโผไปกอดพี่ชายเมื่ออีกฝ่ายเข้ามาใกล้ คเชนทร์ปล่อยร่างน้อยให้พี่ชายของเธออย่างนุ่มนวลเด็กหญิงตัวน้อยรีบฟ้องพี่ชายทันทีว่าโดนแกล้ง
“เดี๋ยวพี่จะจัดการจับมาดีดไข่ให้หมด ไอ้พวกเด็กนรกนี่”
“ดีดไข่คืออะไรเหรอคะ” เด็กน้อยเอ่ยถามอย่างสงสัย กะพริบตาปริบๆ คเชนทร์มองคู่หมั้นตัวน้อยของตัวเองแล้วแทบหลุดขำ
“เอ่อ...” กริชกรอกตาไปมา จะอธิบายยังไงดีหนา เขาหันไปขอความช่วยเหลือจากคเชนทร์ คเชนทร์เป็นลูกชายของเพื่อนรักบิดามารดา พวกท่าน มาเยี่ยมเยียนครอบครัวของเขา และเขาก็ยังรู้ด้วยว่าพวกท่านหมั้นหมาย แก้วกัลยาน้องสาวของเขาเอาไว้กับคเชนทร์
“โตขึ้นจะรู้เองแหละครับ” คเชนทร์เป็นคนตอบ
“หนูยังโตไม่พอเหรอ” ประโยคนี้อีกแล้ว เด็กหญิงตัวน้อยทำปากยื่น
“ยังเด็กอยู่ครับ ฟันแท้ยังไม่ขึ้น มีแค่ฟันน้ำนมแถมยังหลอด้วย”
“มาว่าหนูฟันหลอได้ยังไงกัน” เธอแยกเขี้ยวใส่ คเชนทร์ไม่กลัว แต่ยิ้มเอ็นดูส่งมาให้
“เราชอบกินลูกอมแล้วไม่แปรงฟัน ฟันเลยหลอ ถ้าขี้เกียจแปรงฟันอีก โตขึ้นไม่สวย พี่ไม่รู้ด้วยนะ” กริชหัวเราะเบาๆ อย่างเอ็นดูน้องสาว ขณะจูงมอเตอร์ไซค์และให้น้องสาวนั่งอยู่บนเบาะ เพื่อเดินกลับบ้าน
“ต่อไปจะแปรงฟันทั้งเช้าและเย็นเหมือนที่คุณแม่บอกก็ได้ค่ะ” เด็กน้อยรีบบอก สองหนุ่มน้อยหัวเราะประสานเสียงกันในทันที
“ตายแล้วยายแก้ว แอบหนีออกไปปั่นจักรยานจนหกล้มเลยเห็นไหม”
เสียงของมารดาทำให้แก้วกัลยาหนีไปแอบอยู่ด้านหลังพี่ชาย
“คนที่แม่จะจัดการก่อนใครคือกริช ชอบตามใจน้อง สอนน้องให้เป็นลิงทโมน น้องไม่ใช่ผู้ชายนะกริช”
“น้องอยากออกไปปั่นจักรยานเล่นบ้างครับ”
“ให้โตกว่านี้หน่อย ออกไปคนเดียวได้ยังไง อันตรายมากเลยนะ เกิดโดนคนไม่ดีจับตัวไปจะทำยังไง”
“ถ้าคุณแม่จะตีน้อง ตีผมแทนก็ได้ครับ” กริชเหลือบไปมองคนที่ยืน เกาะขาอยู่ทางด้านหลังก็นึกสงสาร คงกลัวโดนตี แต่เวลาซนไม่ยักนึกกลัว
“แม่ตีเราแน่ วันหลังจะได้ดูน้องให้ดีๆ” กริชโดนตีจริงๆ โทษฐานที่ไม่ดูแลน้องให้ดี
หลังจากแก้วกัลยาเห็นพี่ชายคนเดียวโดนตีก็ไม่ค่อยกล้าหนีเที่ยวคนเดียวอีก นอกจากจะแอบหนีไปกับพี่ชาย ทำให้มารดาหัวหมุนไม่น้อย เพราะอยากอบรมสั่งสอนให้ลูกเป็นผู้หญิงเรียบร้อย ไม่ใช่เป็นลิงทโมน กลัวโตขึ้นจะกลายเป็นทอมบอยแทนเป็นผู้หญิงนี่สิ
“สัญญาแล้วนะว่าจะแต่งงานกับพี่” คเชนทร์นั่งยองๆ อยู่ตรงหน้าคู่หมั้นตัวน้อยก่อนจะดึงนิ้วก้อยเล็กๆ มาเกี่ยวกับนิ้วก้อยของตัวเอง ตีเนียนว่าอีกฝ่ายยินยอมพร้อมใจไปกับตน
“พี่เชนจะกลับแล้วเหรอคะ” เด็กน้อยไม่ได้รับปากแต่เอ่ยถามแทน
“ครับ พี่ต้องกลับแล้ว คุณพ่อกับคุณแม่ต้องเดินทางไกล อีกนานกว่าจะได้เจอกัน ต้องคิดถึงพี่ด้วยนะ”
“หนูจะคิดถึงพี่เชนค่ะ” เด็กน้อยยิ้มยิงฟันส่งไปให้ ก่อนจะยืนส่งพี่ชาย ใจดีที่หน้าบ้านขึ้นรถ เพราะอีกฝ่ายต้องเดินทางกลับวันนี้หลังจากมาเยี่ยมเยียนและพักค้างอ้างแรมอยู่ที่บ้านบิดามารดาของเธอหลายวัน
“ยายตัวเล็กนี่โตขึ้นหัวกระไดบ้านต้องไม่แห้งแน่ๆ เลยครับคุณแม่” กริชโยกศีรษะน้องสาวก่อนจะพูดขำๆ
“คงจะมีเด็กผู้ชายตามมาแกล้งกลับน่ะสิไม่ว่า” คุณนาราค้อนให้ลูกชายตัวดี แก้วกัลยาเรียบร้อยเสียที่ไหน ได้ทีก็แกล้งกลับอย่างเจ็บแสบเหมือนกัน ไม่เคยยอมใครเลยจริงๆ
“ถ้าใครแกล้งน้องผมจะจัดการเอง ไม่ก็สอนมวยไทยให้น้องเสียเลย”
“อกอีแป้นจะแตก ดูสิคะคุณ” นาราหันไปหาสามี
“ก็ดีนะคุณ ใครมารังแกจะได้เอาตัวรอดได้ไง”
“โอ๊ย! ทั้งพ่อทั้งลูก ไม่พูดด้วยแล้ว ยายแก้วตามแม่มาเลย แม่จะสอนเรื่องความเป็นกุลสตรีให้ อย่าไปสนใจพ่อกับพี่เรามาก จะสอนเราให้เป็นนักมวยปล้ำหญิงเฉยเลย” ถามว่าแก้วกัลยาตั้งใจทำตามที่มารดาพูดไหมก็แอบตั้งใจเวลาอยู่ต่อหน้า พอลับหลังก็ยังแอบไปเล่นเกมกับพี่ชายอย่างเมามัน ไปยิงนกตกปลา เล่นอะไรแสบๆ เหมือนเด็กผู้ชาย นั่นทำให้แก้วกัลยาสนิทกับพี่ชายคนเดียวเป็นอันมาก และกริชก็รักน้องสาวคนเดียวมากเป็นที่สุด
หลังจากนั้นเรื่องราวของคเชนทร์ก็หายไปกับสายลม แก้วกัลยาเจริญวัยขึ้นมีความสุขกับการเป็นเด็กน้อยที่ได้ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ ได้กินทุกอย่างที่ อยากกิน ได้เล่นทุกอย่างที่อยากเล่น ยิ่งเมื่อบิดามารดาเสียชีวิต กริชก็ยิ่ง เป็นห่วงน้องสาวอย่างที่สุด เขาจึงทำทุกอย่างให้น้องน้อยมีความสุขมากที่สุดเท่าที่พี่คนหนึ่งจะทำได้ เพื่อทดแทนการที่น้องสาวคนเดียวสูญเสียบิดามารดาไปอย่างกะทันหัน เขาต้องเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงหลักในการดูแลครอบครัวและมรดกที่บิดามารดาทิ้งเอาไว้ให้ก่อนตาย
แก้วกัลยาสอบไปเรียนต่อที่กรุงเทพฯ ได้ เขาจึงตามไปส่งถึงที่โน่น หาหอพักดีๆ ให้และนั่นก็ทำให้เขาได้เจอกับเพื่อนรักของน้องสาว เพื่อนที่ดีคนหนึ่งที่คอยช่วยเหลือกัน
ในโลกนี้นอกจากบิดามารดาผู้ให้กำเนิด หรือญาติพี่น้องที่ดีๆ แล้วการมีเพื่อนที่ดีมีมิตรที่ดีถือว่าเป็นของขวัญล้ำค่าของชีวิต เพราะการมีครอบครัวที่ดี ที่อบอุ่นทำให้เราเป็นคนที่ดีพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ มีมิตรที่ดีก็จะนำพาเราไปสู่สิ่งดีๆ หรือชักนำให้ทำแต่สิ่งดีๆ กริชชื่นชมในการรู้จักคบเพื่อนของ แก้วกัลยา และยังจดจำคำขอของบิดามารดาก่อนตายได้ดีไม่ลืมเลือน