แทนตานั่งแท็กซี่มาถึงร้านอาหารกึ่งผับ ภายในตกแต่งหรูหราเหมาะสมกับราคาที่นักเที่ยวต้องจ่าย ไนต์คลับแห่งนี้มีชื่อเสียงในหมู่นักเที่ยวราตรีในระดับหนึ่ง ทางร้านมีการคัดเลือกลูกค้า นักท่องราตรีที่จะเข้ามาที่นี่ได้ต้องเป็นสมาชิกเท่านั้นหรืออาจมีเงื่อนไขอื่นหากวันนั้นโต๊ะไม่เต็มคนนอกก็สามารถเข้ามาใช้บริการได้แต่ก็ยังมีการสกรีนที่เข้มวงด ทั้งจากรูปลักษณ์การแต่งกาย และสิ่งที่บ่งบอกสถานะ การแต่งตัวต้องดูดีในระดับหนึ่งในร่างกายบางส่วนต้องโชว์ให้คนอื่นเห็นเครื่องประดับแบรนด์เนมเพื่อจะได้รับการบริการดีขั้นสุด
แทนตาสวมชุดแซกสีดำมีเลื่อมระยิบระยับความยาวเหนือเข่า สะพายกระเป๋าแบรนเนมด์สีแดงที่ผู้หญิงหลายคนอยากเป็นเจ้าของ ปล่อยผมยาวที่เป็นลอนคลื่นแบบธรรมชาติ แต่งหน้าบาง ๆ เน้นแค่ริมฝีปากสีแดงเหมือนนางร้ายในละครที่คนดูเห็นครั้งแรกก็รู้เลยว่านางนี่ตัวร้ายแน่นอน ส่วนรองเท้าเป็นหุ้มส้นสีขาวที่ดูจะไม่ค่อยเข้ากับชุดนักเนื่องจากตอนออกมาเท้ายัดคู่ไหนได้ก่อนก็ใส่ออกมาเลย วันนี้เธอไม่พิถีพิถันเรื่องการแต่งตัว เพราะไม่ได้ตั้งใจจะมาเที่ยวตั้งใจจะมาตามผู้ชายของเธอแล้วรีบกลับ หญิงสาวผ่านเข้ามาข้างในได้อย่างไม่มีปัญหา มองเห็นภายในร้านที่แบ่งเป็นสองโซน โซนโซฟานั่ง และโซนเต้นสนุก ๆ
หญิงสาวกวาดสายตามองหาเป้าหมายสลับกับก้มมองจุดแดง ๆ ในหน้าจอสมาร์ตโฟนที่ยังยืนยันตำแหน่งว่าเขายังอยู่ในนี้ไม่ไปที่อื่น แสงไฟที่ฉวัดเฉวียนไปมาและนักท่องเที่ยวที่แน่นขนัดเป็นอุปสรรคต่อการค้นหา ทว่าสายตาของเธอก็พยายามกวาดหา จนในที่สุด... ก็เจอ
...ผัวเฮงซวยกำลังจะลูบ...นังนั่น!
“คุณปุณ!”
เสียงแหลมสูงดังแหวกอากาศมาสะท้อนเข้าหูชายหนุ่ม เขาหันไปมองจังหวะที่ผู้หญิงคนหนึ่งเดินผ่านไปร่างโปร่งบางของยัยตัวร้ายที่เขาไม่ปรารถนาจะคิดถึงในตอนนี้ก็ปรากฎขึ้น ใบหน้าที่เขาเห็นว่างดงามแต่ตอนนี้กลับเหมือนนางยักษ์ขมูขี ดวงตากลมโตของเธอที่เขาเคยชื่นชมกำลังส่งประกายไฟ ริมฝีปากสีแดงสดเม้มแน่น ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคำพูดเผ็ดร้อนมารออยู่เต็มพิกัด
แทนตาตรงดิ่งเข้ามาจ้องหน้าเขาและหันไปจ้องหน้าผู้หญิงในชุดสีเดียวกันกับเธอ ผิวขาวของหล่อนผ่องราวแทบจะเรืองแสง หน้าตาออกไปทางลูกครึ่งฝรั่งจะเป็นชาติไหนเธอไม่สนใจ แต่ก็พูดได้เต็มปากว่า สวยระดับดาราฮอลลีวูดเลยล่ะ หญิงสาวไม่อยากสนใจคนอื่นยกเว้นผัวของเธอ ถึงภาพตรงหน้าจะทำให้ชอกช้ำใจแค่ไหนแต่ขอกลับไปเคลียร์กันเองที่บ้าน เธอรู้ว่าเขาหล่อและเสน่ห์แรงแค่ไหนในสถานที่แบบนี้ และครั้งหนึ่งเธอก็เคยหลงใหล
หญิงสาวเดินเข้ามากระแทกก้นแทรกตัวลงไปนั่งตรงพื้นที่เล็ก ๆ ระหว่างสาวสวยคนนั้นกับผัวของเธอจนผู้หญิงคนนั้นอุทานออกมาด้วยความไม่พอใจ
“โอ๊ย บ้าปะเนี่ย”
แทนตาหันไปมองด้วยสีหน้าไม่รู้ไม่ชี้ เลิกคิ้วให้อย่างยียวน
“ฉันจะนั่งข้างผัวฉัน ถ้าเธอรู้แล้วว่าผู้ชายคนนี้มีเจ้าของก็กลับไปอยู่ในที่ของเธอซะ หน้าตาสวย ๆ อย่าคิดแย่งผัวชาวบ้านเลย”
“ฉันไม่ได้แย่ง”
“จะบอกว่าเขามาเองงั้นเหรอ เหอะ”
แทนตาบิดริมฝีปากใส่แม่สาวสวยที่ไม่รู้จะวางสีหน้ายังไง จะโกรธก่อนหรืออายก่อนที่ถูกด่า ดูทรงแล้วเธอคนนั้นคงพูดภาษาไทยได้ไม่มากถึงดูอึกอัก คิดคำโต้แย้งไม่ออก เจ้าหล่อนถึงได้ไหวไหล่แล้วเบะปากกลับ ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงทำให้เห็นเต็มตาว่าหล่อนมีสัดส่วนที่โคตรเอกซ์และอึ๋มอย่างที่ผู้ชายอยากนำไปทำแม่พันธุ์แล้วพูดกับปุณวริทธิ์เป็นภาษาอังกฤษ ใจความประมาณว่า
“This woman is darn insane. How could you get trapped with this one?”
“ผู้หญิงคนนี้ประสาทเสียที่สุด คุณไปติดกับยายนี่ได้ยังไง”
ก่อนจะเดินจากไป แทนตาจะลุกตามไปตอกกลับเสียหน่อย เพราะเธอฟังภาษาที่แม่นั่นพูดเมื่อกี้รู้เรื่องทุกคำ แต่ก็ถูกกระชากข้อมือไว้อย่างแรงจนตัวเองเซลงมากระแทกโซฟา ถึงกับมีเสียงร้องออกมา
“โอ๊ย”
“มาที่นี่ได้ยังไง”
เขาเค้นเสียงถาม มือหนาแกร่งยังไม่ปล่อยจากข้อมือเล็กและยังรัดแน่นขึ้นเรื่อย ๆ จนหญิงสาวเบ้หน้า
“โอ๊ย เจ็บนะ”
“แล้วที่เธอกระแทกตัวลงมาคิดว่าผู้หญิงคนนั้นไม่เจ็บรึไง”
เขาย้อนเสียงกระด้าง แววตาต่อว่าต่อขานราวกับว่าเธอทำผิดร้ายแรงจนชวินเพื่อนของปุณวริทธิ์ที่นั่งอยู่ด้วยเห็นว่าเขากำลังใช้ความรุนแรงกับผู้หญิงจึงรีบห้าม
“เฮ้ย เบาเพื่อน มีอะไรค่อยพูดค่อยจากัน”
เขาคลายนิ้วมือที่กำข้อแขนเล็กนั้นออก สีหน้าที่ดูคล้ายว่าขยะแขยงเหมือนเธอเป็นตัวอะไรสักอย่างทำให้คนมองเม้มปาก น้ำตาตกอยู่ข้างใน
“ฉันถามว่ารู้ได้ยังไงว่าฉันอยู่ที่นี่”
“ก็เดาเอา รู้ว่ามาที่นี่บ่อย”
“หึ เดาเก่งนะ”
เขาเค้นเสียงประชด นัยน์ตาเหมือนมีกองไฟลุกอยู่ด้านในจนแทนตาต้องก้มหน้างุดลง มือเรียวบางอีกข้างนวดคลึงข้อมือที่ถูกเขาบีบแน่นเมื่อสักครู่ มียายนี่มานั่งอยู่ด้วยเขาก็คงไม่มีอารมณ์สนุกต่อหรอก จึงหันไปบอกชวิน
“กูกลับก่อน ไว้เจอกันใหม่”
“เออ กลับดี ๆ มีไรค่อย ๆ พูดกัน”
ร่างสูงลุกขึ้นแล้วเดินออกไปจากร้านโดยไม่รั้งรอหญิงสาว แทนตาได้กำลังใจทางสายตาจากชวินที่เขาส่งให้ก็ยิ้มรับก่อนจะรีบตามเขาออกไปให้ทัน ก่อนจะถึงทางออกก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินชนกระแทกไหล่เธอเข้าเต็ม ๆ จนเกือบจะล้มดีที่ทรงตัวได้ด้วยตัวเอง หันไปมองก็เป็นแม่สาวลูกครึ่งคนที่เพิ่งเจอ แต่คราวนี้นางแสยะยิ้ม ส่งสายตาเยาะเย้ยให้เธอด้วย พร้อมทั้งทิ้งประโยคสำหรับคนที่เพิ่งเจอกันให้อย่างแสบสัน
“ฉันว่าเขาคงเบื่อเธอแล้วแหละ”