ฟองมาที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งที่เปิดโต้รุ่ง ด้านหน้าก็ร้านอาหารธรรมดา แต่ด้านในนี่ไม่ใช่ มันคือร้านหล้า ที่เปิดไฟสลัว ๆ เปิดเพลงคลอ เบา ๆ สบาย ๆ และค่าอาหารค่าเครื่องดื่มก็แพงมากเลยทีเดียว
คนที่อยู่ในสถานที่แห่งนี้ส่วนใหญ่ก็เพิ่งออกมาจากผับ อารมณ์ค้างอยากเมาต่อเลยแวะมาต่อกันที่นี่ ผมนั่งโต๊ะเดียวกับฟอง มองเธอกระดกแก้วอย่างเดียว หากผมดื่มด้วยแล้วเมากันทั้งคู่ จะพากันกลับไม่ได้ ที่นี่ไม่ใช่สถานที่คุ้นเคยอย่างผับพี่เอ็กซ์ ที่เมาแล้วหลับคาผับก็ยังไม่เป็นไร แค่ฟังเสียงบ่นของเจ้าของผับและจ่ายเงินเพิ่มให้พนักงานที่ต้องรับภาระอย่างพวกผม
“เมื่อไหร่มึงจะไปเนี่ย กูจะได้มีผัวสักที” ฟองเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่ติดไปทางไม่พอใจ เธอดูหงุดหงิดมากที่ผมมาตามเฝ้าแบบนี้
“กูกลัวมึงโดนหิ้วออกไปนี่หว่า” ขนาดอยู่ผับพี่เอ็กซ์ยังห่วงจนต้องรีบมารับ แล้วสถานที่แบบนี้ผมจะปล่อยฟองทิ้งไว้ได้อย่างไรกัน
“นั่นคือสิ่งที่กูต้องการ แล้วมึงจะกลัวทำไม ตัวกูเองกูยังไม่กลัวเลย” ฟองกลอกตาไปมาด้วยท่าทางเบื่อหน่าย แก้วเครื่องดื่มถูกยกกระดกดื่มเข้าปากไปเพียงเล็กน้อย เธอก็วางแก้วลงแล้วมองไปทางด้านหลังของผม
หันมองตาม ก็เห็นว่ามีผู้ชายอีกคนกำลังมองฟองอยู่ ท่าทางของเขาคนนั้นก็ดูสนใจฟองไม่น้อย ขนาดผมนั่งอยู่ตรงนี้ เขายังส่งสายตาแบบนี้เลย ผมขยับตัวมานั่งปิดระยะที่เขาจะมองฟองได้ แต่คนตรงหน้าผมกลับส่งเสียงฮึดฮัดไม่พอใจ ที่ผมขัดเธอและเขา
“ถามจริง มึงคิดแบบที่มึงพูดจริง ๆ เหรอ” ผมถามย้ำ แม้การกระทำของเธอจะเป็นคำตอบได้เป็นอย่างดีว่าเธอคิดแบบนั้นจริง ๆ แต่ผมก็ยังคงอยากถามย้ำ ๆ เผื่อว่าในใจลึก ๆ ฟองจะไม่ได้ต้องการ เธอจะได้ลังเลจนเปลี่ยนใจ
“เออ กูอยากมีความสัมพันธ์แบบไม่ต้องรักอะ กูอยากรู้ว่าทำได้จริงเหรอวะ คนเราจะเอากันโดยที่ไม่มีความรู้สึกดี ๆ ต่อกันได้จริง ๆ เหรอวะ” ฟองยังคงยืนยันคำเดิม
“แบบกูอะนะ” ผมถามกลับไป เอากันโดยที่ไม่มีความรู้สึกดี ๆ ต่อกัน ก็เหมือนที่ผมไปวันไนต์สแตนด์กับสาว ๆ น่ะสิ
“ใช่ ก็แบบที่มึงเคยชวนกูอะ” ฟองพูดจบก็กระดกเหล้าเข้าไปอีก
ผมนั่งนึกว่าผมไปชวนฟองตอนไหน ผมเคยชวนเพื่อนด้วยเหรอวะ สักครู่หนึ่งก็นึกขึ้นได้ว่าเคยพูดเล่นตอนที่รับส่งใหม่ ๆ
“ถ้ากูตอบตกลงตอนนี้ ยังทันอยู่เปล่าวะ” ฟองลุกจากเก้าอี้ แล้วเดินมานั่งลงที่ตักผม แขนเรียวโอบกอดลำคอของผมไว้ ก่อนจะซบหน้าเข้าที่บ่าของผม
ผมลอบกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอ เข้าใจว่าฟองหมายถึงอะไร ครั้งนี้รู้สึกว่าฟองไม่ได้พูดเล่น ๆ ด้วย ผมเองก็ไม่รู้ว่าฟองโดนคนคุยนอกใจ แล้วโกหกว่าไม่ได้คิดอะไรกับผู้หญิงอีกคนหรืออย่างไร หรือฟองสติฟั่นเฟือน ถึงได้คิดจะทำตัวแบบนี้
มือเล็กลูบวนอยู่ที่แผงอกของผม ผมก้มลงมองคนบนตักที่กำลังมองผมด้วยสายตาหวานเยิ้ม ตาเยิ้มขนาดนี้ไม่ใช่รู้สึกอะไรกับผมหรอก มันเมา กระดกซะขนาดนั้น ไม่เมาก็ไม่ใช่แล้ว
“มึงอย่าทำแบบนี้ดิวะฟอง” ผมจับข้อมือของฟองไว้ หยุดลูบเสียทีเถอะ ก่อนที่อะไร ๆ มันจะตื่นขึ้นมา ยิ่งอารมณ์ค้างอยู่ด้วย
“ใคร ๆ เขาก็ทำกัน” ฟองตอบกลับแล้วเงยหน้าขึ้นมองไปรอบ ๆ ผมเลยมองตาม หนุ่มสาวบางคู่ก็กำลังคลอเคลียกันอยู่ อีกไม่นานแต่ละคู่ก็คงพากันออกไป
“กูไม่ได้หมายถึงแบบนั้น คือมึงไม่ควรทำตัวแบบนี้อะฟอง”
“เออ กูไม่ควรทำกับเพื่อน เดี๋ยวกูไปทำกับคนอื่น” ฟองพูดจบก็ลงจากตักของผมไปนั่งที่เดิมของตัวเอง
“กับใครก็ไม่ควรทั้งนั้นแหละ”
ฟองกลอกตาไปมา คงรำคาญที่ผมบ่น ยังคงกระดกเหล้าเข้าปากไม่หยุด จนกระทั่งแก้วสุดท้ายมันกระดกหมดแก้วแล้ววางกระแทกลงที่โต๊ะดังปึก! เปิดกระเป๋าสตางค์แล้วหยิบเงินวางบนโต๊ะ ก่อนที่มันจะเดินเซออกไป
“กูรู้ว่ามึงรวย แต่มึงจะโปรยเงินเล่นแบบนี้ไม่ได้” ผมบ่นพึมพำออกมา แล้วเก็บธนบัตรที่เกินจากราคาเครื่องดื่มบนโต๊ะมาใส่กระเป๋าตัวเองไว้ ค่อยเอาไปคืนให้เจ้าของ
ฟองจะให้ทิปขนาดนี้ไม่ได้!
ผมรีบเดินตามออกมาที่ลานจอดรถ ฟองขับรถผ่านหน้าผมไป ผมพยายามเรียกไว้แต่มันก็ไม่จอด ผมเลยต้องรีบไปที่รถของตัวเองแล้วขับตามออกไป รถของฟองนี่อย่างกับงูเลื้อย ดีนะที่รถไม่เยอะ ไม่งั้นมันคงไม่มีรถใช้อีกรอบแน่ ๆ
พอขับมาจอดที่คอนโด ฟองเดินเป๋ไปเป๋มา เดินชนรถคันนั้นทีคันนี้ที ผมเลยต้องลงจากรถแล้วเข้าไปประคอง ไม่งั้นมันคงขึ้นห้องในสภาพที่เยินแน่ ๆ แต่พอขึ้นมาถึงห้องปุ๊บ ฟองก็จู่โจมผมปั๊บ ไม่ทันได้ตั้งตัวเลยสักนิด
“ฟองมึงปล่อยกู อย่า ๆ กูบอกว่าอย่าลูบบบบ ไอ้ฟอง!” ผมดันฟองออกจากตัวของผม เธอเล่นลูบไปทั่วลำตัวของผมแบบนี้ ผมกลัวจะอดใจไว้ไม่ได้
ฟองย่นคิ้วเข้าหากันราวกับสงสัยอะไร เธอยืนโอนเอนไปมา ผมเลยต้องจับต้นแขนของเธอไว้ เธอทำท่าสูดกลิ่น แล้วขยับตัวเข้ามาสูดดมที่เสื้อของผม
“กลิ่นน้ำหอมผู้หญิงนี่หว่า” ผมก็นึกว่าอะไร ที่แท้ก็ได้กลิ่นน้ำหอมผู้หญิง
“ก็เออน่ะสิ กูก็วันไนต์ตามปกติ ที่ไม่ปกติคือต้องมาเฝ้ามึงเนี่ย อดเลย”
“น่าสงสารจัง” ฟองพูดแบบติดตลก สงสัยจะอารมณ์ดีขึ้นมาบ้างแล้ว เธอยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วพุ่งเข้ามากอดผมไว้แน่น เงยหน้าขึ้นมามองหน้าผม “เป็นกูแทนได้ปะ แทนผู้หญิงคนนั้น”
“กูเหนื่อยกับมึง” ผมยกมือขึ้นกุมขมับ
“กูจะอ้วกอะ กลิ่นแรงฉิบหาย” ฟองเอามือปิดปากไว้ เรียวคิ้วย่นเข้าหากัน ทำท่าทางราวกับพะอืดพะอมและต้องการปล่อยบางอย่างออกจากปาก ครู่หนึ่งถึงปล่อยมือออก
“มึงไปอาบน้ำเถอะ กูขอร้อง กลิ่นมันแรง อุ๊บ” ฟองพูดแล้วจะพ่นใส่ผม ผมนี่รีบเอามือปิดปากมันไว้เลย ถึงเราจะเป็นเพื่อนกัน แต่จะอ้วกใส่กันไม่ได้!
“โอเค เดี๋ยวกูไปอาบ แต่มึงกลืนอ้วกลงไปเดี๋ยวนี้” จะเอาอะไรมารับประกันว่าถ้าผมปล่อยมือออกจากปากของฟอง แล้วเธอจะไม่อ้วกออกมา
ฟองส่ายหน้าไปมา แววตาเป็นประกายแบบนี้ดูแปลก ๆ ผมเลยค่อย ๆ ปล่อยมือออกจากปาก บอกเลยว่าความระแวงของผมยังมีเต็มร้อย ไม่อยากทำตัวเป็นชักโครกรับอ้วกหรอกนะ
“เฮ้ย!” ผมร้องออกมาด้วยความตกใจ แล้วหลับตาปี๋ ตกใจที่อยู่ ๆ ฟองก็อ้าปากกว้าง
คิดในใจว่าเละ! กูเละแน่ ๆ
“ฮ่า ๆ ๆ” เสียงหัวเราะของฟองดังลั่น ผมเลยค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมามอง ไม่มีอ้วก ไม่มีอะไรทั้งนั้น มันแกล้ง เพื่อนเวรเอ๊ย! แบบนี้อะนะที่จะให้ขึ้นเตียงด้วย
ฟองยืนหัวเราะร่วนได้แค่แป๊บเดียว ก็เอนจนล้มลงที่พื้น สมน้ำหน้า! ผมไม่อยากจะแตะตัวฟองแล้วนะ แต่เห็นสภาพแล้วอดไม่ได้ ก็เลยเข้าไปประคองฟองพามานั่งที่โซฟา
“อึก!” ฟองส่งเสียงแปลก ๆ จะปล่อยมือออกจากแขนของเธอแล้วเดินหนี ก็กลัวว่าฟองจะล้มลงอีกครั้ง
สีหน้าของเธอไม่ค่อยดีสักเท่าไร เพียงแค่แวบเดียว… เนื้อตัวผมและฟองก็เละไปหมด