ตอนที่ 16 คิดถึงสามีที่ไปรบที่ชายแดน

1221 Words
ในศาลากลางทะเลสาบ ซูหลินเหม่อลอยมองดูทิวทัศน์ นางทอดสายตาไปไกลท่าทางดูกังวล จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เป็นเวลากว่าหกเดือนแล้ว ที่ท่านแม่ทัพไปออกรบ ในเช้าวันนั้นนางเป็นคนสวมชุดเกราะให้เขาด้วยตัวเอง เขาดึงนางเข้าไปไว้ในอ้อมกอด นางก็แนบหูฟังเสียงหัวใจของเขาที่กำลังเต้นดัง และทรงพลัง ในใจของนางตอนนั้นรู้สึกว้าวุ่น “ฮูหยิน เย็นแล้วอากาศเริ่มหนาว ถ้าอยู่ข้างนอกต่อไปนานๆ ท่านจะไม่สบายนะเจ้าคะ กลับห้องเถิดเจ้าค่ะ ” เสี่ยวเถาพูดเตือน น้ำเสียงของนางดูเต็มไปด้วยความกังวล ฮูหยินดูเหม่อลอยนับตั้งแต่วันที่ท่านแม่ทัพจากไป “ได้...กลับกันเถอะ เจียวเจียวก็คงคิดถึงข้าแล้ว” ซูหลินตอบเสียงเบา ระหว่างทางเดินกลับนางก็ยังคงคิดเรื่อยเปื่อยอยู่ในหัว...ตอนนี้เขาจะเจอกับนางเอกแล้วหรือยังนะ? เขาจะมีความรู้สึกดีให้กับนางเอกเหมือนในนิยายหรือไม่ ยิ่งคิดหญิงสาวก็ยิ่งกังวลทำให้ในแต่ละวัน นางใจลอยไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ในวันนั้นเขาถามนางว่า "ฮูหยิน ข้าจะต้องอยู่ที่ชายแดนอย่างน้อยสามเดือน หรือไม่ก็อาจนานถึงหนึ่งปี เจ้าจะคิดถึงข้าไหม" ในตอนแรกซูหลินนิ่งเงียบ ความรู้สึกของนางที่มีต่อเขายังคงไม่แน่ชัด เพราะที่นางหวั่นไหวอาจจะเป็นความรู้สึกคงค้างอยู่ในใจของเจ้าของร่างเดิม มันอาจไม่ใช่ความรู้สึกที่แท้จริงของนาง นางไม่รู้จะตอบอย่างไร แต่ก็ไม่อยากให้เขาเสียใจ จึงดึงปิ่นปักผมบนศีรษะของนางออกมา วางมันลงบนมือของเขา “ปิ่นนี้ต้องส่งคืนมาให้ข้า มันถือเป็นของที่ใช้แทนตัวข้า ท่านต้องกลับมายังปลอดภัยนะ” เขาพยักหน้ารับ สอดปิ่นเข้าไปในอ้อมแขน จุมพิตที่หน้าผากของนาง แล้วหันหลังเดินออกไปอย่างเด็ดเดี่ยว “รอข้ากลับมา” เมื่อเขาเดินไปที่ประตู เขาก็หยุดชะงักเล็กน้อย จากนั้นก็เดินจากไปอย่างรวดเร็ว หายไปจากสายตาของนาง ตั้งแต่เขาจากไป นางมักจะคิดถึงเขา นึกถึงช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกัน นึกคำพูดที่เขาชอบพูด นึกถึงเวลาตอนนอนที่เขากอดนางเอาไว้ เมื่อนึกถึงเรื่องราวเหล่านี้หัวใจของนางก็รู้สึกเต้นแรงตอนนี้นางค่อนข้างจะแน่ใจว่าตัวเองชอบเขา... “เฮ้อ...” นางถอนหายใจเล็กน้อย "ฮูหยิน ท่านเป็นห่วงท่านแม่ทัพหรือ" เมื่อได้ยินเสียงถอนหายใจของนาง เสียวเถาก็ถามอย่างสงสัยนางสามารถรับรู้ได้ว่าฮูหยินของนางมีอาการซึมเศร้าเหม่อลอย “เจ้ายังเด็กอยู่...ต่อให้บอกไปเจ้าก็ไม่เข้าใจหรอก” ซูหลินตอบสาวใช้อย่างเงียบๆ ไม่รู้ว่าครั้งนี้ฉางคงจะกลับมาพร้อมกับหลิวจินเหมือนกับเนื้อเรื่องในนิยายหรือไม่... “องค์ชายห้า ท่านคิดว่าข้าวาดรูปเก่งไหม” ทันทีที่ซูหลินก้าวเข้าไปในห้องโถง นางได้ยินเสียงหัวเราะที่มีความสุขของลูกสาวและเสียงของชายหนุ่มพูดแทรกออกมา เป็นองค์ชายห้าจ้าวอี้ วันนี้เขาก็มาอยู่เป็นเพื่อนเจียวเจียว ทั้งสองนั่งอยู่ที่โต๊ะหินซึ่งเต็มไปด้วยกระดาษและหมึกวาดรูป ตั้งแต่ฉางคงไปออกรบที่ชายแดน องค์ชายห้ามักจะมาที่จวนบ่อยๆ โดยบอกว่าฉางคงเป็นคนฝากฝังให้เขามาอยู่เป็นเพื่อนเจียวเจียว ซูหลินในตอนแรกไม่ค่อยชอบหน้าเขานัก แต่ภายหลังเห็นว่าองค์ชายเป็นคนไม่ถือตัว พูดจาตลกขบขันทำให้เจียวเจียวอารมณ์ดี ดังนั้นเวลาเจอหน้าเขา หญิงสาวจึงมีสีหน้าค่อนข้างเป็นมิตรให้ เมื่อเห็นว่าองค์ชายห้าอยู่ในห้องโถงด้วย นางก็อยากจะเดินเลี่ยงออกไปอย่างเงียบๆแต่ก็ถูกเขาค้นพบอย่างรวดเร็ว “พี่สะใภ้ มาดูภาพวาดของเจียวเจียวด้วยกันสิ” จ้าวอี้มองลงไปที่ภาพวาดของเด็กหญิง บังเอิญเขาเหลือบมองจากหางตาเห็นร่างที่คุ้นเคย ตั้งแต่ที่เขาพบนางในวันนั้นภาพของนางยังคงติดอยู่ในใจ แม้ว่าเขาจะพยายามหักห้ามใจ แต่เขาก็ยังอยากเห็นหน้านาง ดังนั้นเขาจึงอ้างว่าฉางคงให้มาอยู่เป็นเพื่อนเจียวเจียวโดยหวังว่าจะได้พบหน้านางบ้าง ซูหลินเดินไปที่โต๊ะหินและเห็นว่าในภาพว่ามีชายร่างสูงกับหญิงร่างเล็กกำลังอุ้มเด็กผู้หญิง ภาพนี้เห็นได้ชัดว่าเป็นครอบครัวสามคน “ท่านแม่ ดูสิ... นี่คือท่านพ่อ นี่ท่านแม่ นี่ก็ข้า” เจียวเจียวอธิบายคนในภาพด้วยน้ำเสียงที่ชัดเจน ซูหลินยิ้มมองเนื้อหาในภาพวาดด้วยใบหน้าที่อ่อนโยน “น่าเศร้าเหลือเกิน ในภาพวาดของเจียวเจียวไม่มีข้าอยู่เลย” องค์ชายเอ่ยด้วยน้ำเสียงเศร้าๆแต่ท่าทางของเขาที่แสดงออกมามันช่างดูตลก เมื่อได้ยินคำพูดของเขา เจียวเจียวก็ขมวดคิ้วแน่น “แต่ท่านพ่ออยากอยู่กับท่านแม่...” ซูหลินมองไปที่เจียวเจียว ด้วยสายตาที่เอ็นดูเด็กน้อยไม่รู้ว่าองค์ชายห้าแค่หยอกล้อนางเล่น "ครั้งหน้าเจ้าค่อยวาดรูปของเจ้ากับท่านอาสิ" หลังจากได้ยินคำพูดของนาง ดวงตาของเจียวเจียวก็โตขึ้น "จริงด้วย ท่านแม่ฉลาดมาก...ครั้งหน้าข้าจะวาดท่านอานะ" จ้าวอี้พยักหน้า ฉางคงโชคดีจริงๆที่ได้ภรรยาและแม่ของลูกที่ดีเช่นนี้ น่าเสียดายที่เขาค้นพบความงามของนางช้าไป แม้จะไม่ได้ครอบครองแต่ถ้าเขาแอบมองนางอยู่เงียบๆ คงไม่เป็นไรใช่ไหม “ถึงเวลาที่เจียวเจียวจะต้องกินอาหารเย็นแล้ว องค์ชายห้าจะมาเสวยด้วยกันไหมเพคะ” หลังจากดูภาพวาดอยู่สักครู่หนึ่ง ซูหลินก็พูดขึ้นมานางเชิญองค์ชายห้า ตามมารยาทเท่านั้น เขารู้ดีว่าไม่ควรจะอยู่รับประทานอาหารเย็นร่วมกันกับพวกนาง นางเป็นหญิงสาวที่ออกเรือนแล้วไม่ควรอยู่ร่วมกับเขานานเกินไป จ้าวอี้ลุกขึ้นแล้วพูดว่า "พี่สะใภ้ ท่านโหดร้ายมาก ทุกครั้งที่จะส่งข้าออกไปล้วนใช้เรื่องกินข้าวมาเป็นข้ออ้าง " น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความคับข้องใจ ซูหลินหัวเราะเล็กน้อย “หรือว่าท่านอยากจะเสวยที่นี่” จ้าวอี้โบกมือของเขาไปมา “ถ้าข้ากล้าที่จะอยู่ ฉางคงต้องตามมาฆ่าข้าแน่ ข้าจะกลับก่อนแล้วกัน วันหน้าจะมาเยี่ยมใหม่” ไม่ใช่ว่าเขากลัวฉางคง แต่เขากังวลเกี่ยวกับชื่อเสียงของนาง เขาไมอยากให้นางต้องทนแบกรับความอับอายจากคำติฉินนินทา ต่อจากนี้คงจะมาที่จวนนี้บ่อยๆ ไม่ได้แล้วเขาต้องคิดกับนางเป็นแค่พี่สะใภ้เท่านั้น! ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา จ้าวอี้ไม่เคยไปมาที่จวนของแม่ทัพอีกเลย ซูหลินเองก็รู้สึกสบายใจ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD