DRAGO GROUP
"นายจะทำยังไงกับไรอันครับ" มือขวาเสียงเข้มเอ่ยขึ้นทั้งที่ยืนก้มหัวเล็กน้อยให้คนเป็นนายที่นั่งเงียบใช้ความคิด แต่เพียงแค่คำถามสิ้นสุดลงไม่กี่วินาทีคนที่นั่งเงียบก็เอ่ยเสียงเรียบพร้อมกับนิ้วมือเรียวที่เคาะบนโต๊ะเบา ๆ
"ผิดสัญญาก็ต้องตัดออก" นั้นเป็นเสียงของดีแลนทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลเดรโกมาเฟียอันดับต้น ๆ ที่ไม่มีใครไม่รู้จัก ทั้งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มากมายรวมไปถึงเจ้าของธุรกิจคาสิโนถูกกฎหมายในหลาย ๆ ประเทศล้วนแต่เป็นของตระกูลเดรโกเกือบทั้งหมด โดยอยู่ภายใต้การดูแลของดีแลนและคนในตระกูลรวมไปถึงธุรกิจการโรงแรมที่เขากำลังคิดตัดสินใจจะสร้างในตอนนี้
"แต่ไรอันเป็นคู่ค้ากับเรามานาน…" อีธานมือขวาคนสนิทสวนตอบอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ ทว่าสายตาของคนเป็นนายที่กดมองทำให้เขาก้มหน้าลงแล้วรีบเงียบปากอย่างรวดเร็ว
"กูตัดสินใจแล้ว ไปจัดการ"
"ครับนาย"
"ไรอันกับเดรโกไม่มีอะไรที่ต้องเกี่ยวข้องกันอีกจำคำกูไว้ให้ขึ้นใจ"
"ครับนาย!" การ์ดหลากหลายคนขานรับคำสั่งของคนเป็นเจ้านายอันสูงสุด ก่อนที่คนภายในห้องจะสลายตัวไปคุ้มกันกันนอกห้องตามปกติยกเว้นอีธานที่ยังต้องคุยงานกับประมุข
"เรื่องผู้ช่วยคนก่อนที่ออกไป นายจะให้ผมหาคนมาแทนเลยหรือเปล่าครับ?"
"อืม เอาผู้ชายเท่านั้น กูไม่อยากมีปัญหาเรื่องเดิมซ้ำซากอีก"
"ได้ครับนาย พรุ่งนี้ผมจะพามาให้นายเลือกครับ"
"อืม ออกไปได้แล้ว" มือหนาปัดมือไล่ลูกน้องคนสนิท ที่กำลังจะเดินออกไป แต่แล้วอยู่ ๆ คนที่มีเสียงดังจากหูฟังก็หันกลับไปหาเจ้านายอีกครั้ง จนคนที่กำลังจะทำงานต่อเป็นต้องเงยหน้าไปมอง
"มีอะไร?"
"คุณเจโรมและคุณไคโรมาครับ" ได้ยินดังนั้นคนที่นั่งทำงานถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ พยักหน้าให้ลูกน้องเป็นการอนุญาตแล้ววางปากกาในมือลง ความคิดที่จะทำงานทั้งวันของเขาหายวับไปแล้ว
ครืดดด ~
ไม่นานประตูหนาพิเศษก็ถูกเลื่อนเปิดเผยให้เห็นชายหนุ่มร่างสูงสองคนที่ปรากฏตัวตรงหน้า คนหนึ่งคือเจโรมทายาทตระกูลเจอาร์กรุ๊ปมาเฟียลูกครึ่งอิตาลีผมสีเทามาดกวนและอีกคนคือไคโรทายาทมาเฟียตระกูลเคลวานเจ้าของใบหน้าเงียบขรึมปากหนัก เพื่อนรักเพื่อนตายของดีแลนที่ไม่ค่อยจะสบอารมณ์ทุกครั้งที่เจอหน้ากันโดยเฉพาะเจโรมที่พูดไม่หยุด
"ไงดีแลนเพื่อนรัก~" แน่นอนว่านั้นคือการทักทายของเจโรมคนที่อารมณ์ขันที่สุดในกลุ่มมาเฟียมหาเทพที่เขาเองนั่นแหละเป็นคนสถาปนาขึ้นมาเอง
"มาทำไม?" ประโยคทักทายตอบกลับทำเอาไคโรถึงกับหลุดหัวเราะ
"หึ" พร้อมกับส่ายหัวเบา ๆ แล้วรีบลงไปนั่ง
"ทักทายเพื่อนได้น่าโดนตีนมาก"
"ตกลงพวกมึงมาทำไม?" ดีแลนยังย้ำถามคำเดิม ทั้งสองกำลังรบกวนเวลาอันมีค่าของเขาที่เพียงแค่เขาจรดปลายปากกาบนแผ่นกระดาษตรงหน้าเงินหลายล้านก็ถูกโอนเข้าบัญชีไปแล้วแต่กลับต้องมานั่งเถียงกับกลุ่มเพื่อนที่งานการไม่ค่อยเอาทำตัวไร้สาระไปวัน ๆ โดยเฉพาะเจโรม
"กูได้ข่าวว่ามึงบุกไปถึงไรอันถึงที่ มีเรื่องดี ๆ ทำไมถึงไม่บอกเพื่อนเลยวะ" เจโรมถาม เขาเป็นคนประเภทหูตาไว โดยเฉพาะในแวดวงธุรกิจมาเฟียแบบพวกเขา เพียงไม่กี่นาทีเรื่องก็ถึงหูของเพื่อนสนิทได้แล้ว
"กูก็ไม่อยากเหยียบถ้าไม่จำเป็น"
"เท่ากับตอนนี้มึงตัดหางปล่อยวัดไรอัน?" คราวนี้เป็นไคโรที่ถาม
"จะพูดแบบนั้นก็ได้ แต่กูแปลกใจที่ลูกครึ่งแบบมึงใช้สำนวนก็เป็น"
"มึงควรโฟกัสที่ไรอันมากกว่าสำนวนของกู"
"ฝรั่งใช้สำนวนไทย กูสนใจอันนี้มากกว่า"
"ถุยเหอะไอดีแลน" เจโรมเริ่มอดไม่ไหวกับเรื่องไม่เป็นเรื่องที่ดีแลนกำลังกล่าว ทว่าสำหรับเขาแล้วไม่ว่าจะเป็นเรื่องสำนวนของฝรั่งหรือไรอันล้วนเป็นเรื่องไร้สาระเหมือนกัน
"สรุปแล้วคือมึงจะไม่เอาไรอันแล้ว ทั้งที่เป็นคู่ค้ากันมานาน?"
"ไม่มีอะไรข้องเกี่ยวกันอีก ผิดสัญญาก็อยู่ใครอยู่มัน" ถึงไรอันจะทำเงินให้เขาไม่น้อย แต่ถ้ามันผิดหลักการบริหารที่เขาตั้งกฏให้ตายอย่างไรเขาก็จะไม่มีการย้อนคำพูดของตัวเอง
"ท่านดีแลนเท่สุด ๆ เลยครับ" เจโรมกระตุกยิ้มใส่เพื่อนรัก นับว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับเขามาก ไรอันถึงจะเป็นตระกูลที่มีอิทธิพลทรงอำนาจไม่ต่างกัน แต่เพราะความเจ้าเล่ห์เล่นแง่สิ่งที่เขาได้ในตอนนี้นับว่าเป็นกรรมที่สมควรได้ที่สุด
"มึงจะไม่ทำอะไรเลยเหรอ?" ไคโรถาม
"ไม่…เปลืองแรงเปล่า ๆ"
"ปล่อยไว้แบบนี้ อีกไม่นานก็คงจะฉิบหายไปเอง"
"ถ้าธุระของพวกมึงจบแล้วก็ออกไปซะ กูจะทำงานต่อ"
"เพื่อนจะทำงานเหรอ ตามสบายกูอ่านหนังสือรอ" ว่าแล้วเจโรมก็เดินรอบห้องทำงานหรู เขาหยิบหนังสือเล่มแล้วเล่มเล่าของดีแลนมาเปิดเล่น โดยไม่ได้คิดที่จะอ่านมันจริง ๆ แต่ทว่าเขากำลังกวนตีนเพื่อนสนิทที่กำลังขาดสมาธิในการทำงาน
"ไอพวกเฮึ้ย…"
"ขอบคุณสำหรับคำชมครับเพื่อน"
"ไอธานไปเอายามา กูจะบ้าตาย…"