โรมเดินตามประกบเจบีคู่ไปกับเจสที่กำลังเดินไปยังหอประชุมคณะแพทย์ของมหาวิทยาลัย เพราะวันนี้เจบีมาเป็นวิทยากรบรรยายให้นักศึกษาฟัง ตลอดทางที่เดินก็จะมีเสียงพูดคุยรวมทั้งเสียงร้องกรี๊ดกร๊าดของบรรดาสาว ๆ ดังมาให้ได้ยินตลอดทางซึ่งเป็นเรื่องปกติที่พบเจอจนชินชาไม่เว้นแม้แต่เขากับเจสก็พลอยเป็นที่สนใจของสาว ๆ ด้วยเหมือนกัน
‘‘กรี๊ดดดด กรี๊ดดดดด คนอะไรหล่อวัวตายควายล้ม เบ้าหน้าฟ้าประทาน ว่าแต่เขาเป็นใคร มาทำอะไรที่นี่ อยากรู้จัง’
‘คนนั้นฉันจองย๊ะ ฉันจะเอาแกห้ามยุ่ง’
‘ต้องอ่อยยังไงถึงจะได้เขา’
‘กรี๊ดดดด แกสองหนุ่มที่เดินมาด้วยก็หล่อนะฉันขอคนซ้าย’
‘งั้นฉันเอาคนขวา กรี๊ดดดด’
‘ทำไงดีฉันอยากได้อยากโดน ไปขอเบอร์เลยไหม’
‘ไปสิ ขอของหนุ่มอีกคนมาเผื่อด้วยนะ หล่อแบบดิบเถื่อนกระชากใจจริง ๆ’
‘อร๊ายยย’
“ถ้าได้นักศึกษาสาว ๆ สวย ๆ สักคนสองคนติดมือกลับไปด้วยก็คงจะดี คืนนี้กูคงกระชุ่มกระชวยน่าดู หึหึ” เจสที่เดินตามเจบีคู่กับโรมปรายตามองสาวรอบ ๆ ด้วยสีหน้ามีความสุขพร้อมกับการโปรยเสน่ห์ให้สาว ๆ ด้วยรอยยิ้มพิฆาต ที่เขายิ้มเมื่อไหร่จะต้องได้สาวติดมือกลับไปด้วยทุกครั้ง
ต่างจากโรมผู้มีฉายาหน้านิ่งไม่สนโลกไม่สนสาว ชีวิตทั้งชีวิตทุ่มเทให้กับเจบีผู้เป็นนายคนเดียวเท่านั้น เพราะเจบีช่วยชีวิตเขาให้ฟื้นขึ้นมาจากความตาย
“ไร้สาระ”
“หึหึ มีสาว ๆ สนใจไอ้คนหน้านิ่งอารมณ์ตายด้านแบบมึงด้วยนะ” เจสอดที่จะแซวโรมไม่ได้หลังได้ยินเสียงสาว ๆ พูดถึงคู่หูคู่ซี้ข้างกายเขา ตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาเขาไม่ยังเคยเห็นโรมสนใจหรือแตะต้องผู้หญิงคนไหนเลยสักคนยิ่งกว่าเจ้าชายน้ำแข็งก็โรมนี่แหละ
ขณะที่เจบีกำลังทำหน้าที่วิทยากรอยู่บนเวทีก็มักจะมองไปที่จุดจุดหนึ่งอยู่ตลอดเวลาจนโรมต้องมองตาม การกระทำเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเจบีคนอื่นอาจจะไม่เห็นแต่ยกเว้นโรมที่อยู่กับเจบีมานานจนจับสังเกตเห็นว่าเจบีมองไปตรงจุดนั้นบ่อยเกินความจำเป็น
ถ้ามองจากจุดที่โรมยืนอยู่ก็เห็นว่าตรงนั้นมีสาวสองคนนั่งอยู่ คนหนึ่งหน้าตาน่ารักท่าทางเรียบร้อยแต่อีกคนกลับดูแตกต่างโดยสิ้นเชิง และเขาคิดว่าคนที่เจบีสนใจก็คนเป็นคนน่ารักที่มีดวงตากลมโตหวานที่กำลังตั้งใจฟังการบรรยายคนนั้นแน่นอน เพราะสายตาของเจบีมักจะวกกลับไปมองเจ้าของดวงตากลมโตหวานนั้นอยู่ตลอดเวลา
“หึ” โรมเค้นเสียงในลำคอพร้อมกดยิ้มมุมปากด้วยความชอบใจ หลังจากนี้คงมีเรื่องสนุก ๆ ตามมาแล้วละสิ เพราะเจบีไม่เคยชายตามองหรือสนใจผู้หญิงคนไหนมาก่อนในชีวิต
“เป็นอะไรของมึง ท่าทางแปลก ๆ หรือเจอสาวถูกใจวะ ถ้าเป็นแบบนั้นต้องรีบจัดเลยนะเว้ย”
“ไร้สาระ”
“อ้าว!!! ไอ้โรมอย่าให้กูรู้ทีหลังนะมึงกูจะล้อยันลูกบวชเลยคอยดู” เจสคาดโทษใส่โรมที่เหมือนจะมีเรื่องอะไรน่าสนใจแต่ไม่ยอมแบ่งปันให้เขาได้รู้บ้าง
หลังจบบรรยายเจบีเดินลงมาข้างเวทีที่มีโรมและเจสยืนอยู่เพื่อเตรียมตัวกลับแต่ยังไม่ทันที่จะได้ก้าวเดินก็มีอาจารย์ของขวัญสาวสวยประจำมหาลัยเดินส่งยิ้มหวานมาทางที่พวกเขายืนอยู่
“สวัสดีค่ะ คุณหมอเจบี คือทางเราอยากเชิญคุณหมอไปร่วมรับประทานอาหารด้วยกันเย็นนี้เพื่อเป็นการขอบคุณค่ะที่ให้เกียรติมาเป็นวิทยากรวันนี้”
“ผมไม่ว่าง”
“ถ้างั้นขวัญขอเบอร์คุณหมอได้ไหมคะ เอาไว้คุณหมอว่างเรานัดไปทานอาหารขอบคุณวันนั้นก็ได้ค่ะ” ถึงแม้จะโดนเจบีปฏิเสธแบบไร้เยื่อใยแต่อาจารย์สาวก็ไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ เธอยื่นโทรศัพท์ของตัวเองไปตรงหน้าเขา
เจบีไม่ได้รับโทรศัพท์จากของขวัญเขาเพียงแค่หันมามองสบตากับโรมและเจสที่ยืนอยู่ เพียงแค่นั้นเจสก็เป็นคนรับโทรศัพท์จากมือของขวัญมากดเบอร์โทรให้ก่อนจะส่งคืนให้เจ้าของเครื่องกลับไป
“ขอบคุณค่ะ เอาไว้ขวัญจะติดต่อไปนะคะ” อาจารย์สาวยิ้มหวานให้ทั้งสามหนุ่มด้วยความดีใจที่ได้เบอร์ติดต่อมา แต่เธอไม่มีทางรู้หรอกว่าเบอร์ที่ได้ไปมันไม่ใช่เบอร์โทรของเจบีแต่เป็นเบอร์โทรของไอ้กะล่อนเจส คนอย่างเจบีไม่สนก็คือมาสนเพราะถ้าสนใจเขาจะเป็นคนเข้าหาเอง
วันต่อมาโรมขับรถไปจอดที่หน้าคณะแพทย์ของมหาลัยนั้นอีกครั้ง เขาต้องการรูปถ่ายของนักศึกษาที่เจบีสนใจคนนั้นเพราะเขาต้องเอาไปให้ลูกน้องในการสืบประวัติของเธอ โรมจอดรถรอไม่นานก็เจอกับเธอนั่งอยู่ที่โต๊ะกับผู้หญิงคนเดิมที่อยู่ด้วยกันเมื่อวานที่มองเห็นแล้วก็ไม่เข้าใจว่าทำไมคนท่าทางเรียบร้อยจะสนิทกับคนท่าทางห้าว ๆ แบบนั้นได้ ถึงจะสงสัยแต่มันไม่ใช่เรื่องที่เขาจะต้องมาสนใจ เขาไม่รอช้าหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายเสร็จก็ขับรถออกไปทันที
เขาเอารูปของเธอที่ได้มาให้ลูกน้องไปสืบประวัติอย่างละเอียดแล้วเอากลับมาให้เขาแบบเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้หลังจากนี้ก็แค่รอ
วันถัดมาลูกน้องก็เอาประวัติของผู้หญิงคนนั้นมาให้ เขาเปิดออกมาก็เห็นรูปภาพของผู้หญิงที่ไม่ได้สวยสะดุดตาแต่เธอออกแนวสวยใสน่ารักกับดวงตากลมโตที่ออกหวาน แค่เห็นรูปยังดึงดูดขนาดนี้ไม่แปลกเลยที่จะสะกดคนเย็นชาอย่างเจบีได้ เขาอ่านประวัติก็มาสะดุดกับเพื่อนสนิทคนเดียวของเธอที่ดูสวยไม่ต่างกันแต่ที่ต่างกันคือนิสัย หึ พีพีเหรอ พออ่านจบโรมก็ได้แต่เค้นเสียงในลำคอก่อนจะเก็บเอกสารใส่ไว้ในลิ้นชักโต๊ะทำงาน
“คุณเจบีครับ” โรมเรียกเจบีที่นั่งมองเอกสารในมือแต่ดูเหมือนไม่มีสมาธิในการทำงานเอาซะเลยและก็เป็นแบบนี้มาสักพักแล้วเห็นจะได้ แต่กลับโดนเจบีตวัดสายตามองด้วยสายตาดุดันที่โดนรบกวนและไม่พอใจที่กล่าวหาว่าเขาไม่มีมารยาทเข้ามาโดยไม่ขออนุญาตทั้ง ๆ ที่เขาเคาะประตูก่อนเข้ามาแล้ว
“ผมเคาะประตูห้องแล้วนะครับ”
“มีอะไร” เสียงเย็น ๆ ติดไม่พอใจที่ออกจากปากของเจบีเล่นเอาเขาเสียวสันหลังวาบเลยทีเดียว ถึงจะเป็นแบบนั้นแต่เขาก็ต้องพูดเพราะถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้งานคงไม่คืบหน้า
“ผมว่าช่วงนี้นายดูไม่ค่อยมีสมาธินะครับ”
“....” ถึงแม้เจบีจะไม่พูดอะไรออกมาแต่แววตาและสีหน้าของเขาก็แสดงออกมาว่าตกใจไม่น้อย ที่เขาเป็นถึงขนาดคนรอบข้างสังเกตเห็นเลยเหรอ แต่ก็ไม่น่าแปลกถ้าเป็นโรมเพราะโรมนั้นเก่งเรื่องจับผิดและสังเกตคนรอบข้างอยู่แล้ว
“เกี่ยวกับเรื่องที่นายไปเป็นวิทยากรที่มหาลัยวันนั้นหรือเปล่าครับ”
“ไอ้โรม!!!” เจบีตกใจเป็นรอบที่สองตั้งแต่โรมเข้ามา นี่เขาเผยพิรุธให้โรมจับได้ตั้งแต่วันนั้นเลยเหรอ เขาว่าวันนั้นเขาไม่ได้แสดงอาการผิดปกติอะไรออกมาเลยนะ
“ผมเห็นนายมองไปทางนักศึกษาคนหนึ่งค่อนข้างบ่อย ผมคิดว่าน่าจะมีอะไรพิเศษแน่ ๆ เลยให้คนของเราไปสืบประวัติของเธอมาแล้วครับ”
“หึ” เจบีเค้นเสียงในลำคอออกมาพร้อมกับกดยิ้มตรงมุมปากอย่างชอบใจและคาดไม่ถึงว่าโรมจะรู้ใจเขาขนาดนี้ ไม่เสียแรงที่เป็นมือขวาที่รู้ใจเขาที่สุด
“ถ้านายอยากรู้งั้นเดี๋ยวผมไปเอาประวัติของเธอมาให้ครับ”