“บอกทำไม ยังไงมันก็ไม่มีประโยชน์อะไรอีกแล้ว กูรักเขาแล้วไง แล้วเขารักกูเหรอ” น้ำเสียงเข้มย้อนถามเพื่อนเสียงขรึม “เอ็งดูไม่ออกหรือไงวะ อรน่ะรักเอ็งมาตั้งนานแล้ว” “รักเหรอ รักแล้วทำไมเขาต้องปฏิเสธการแต่งงานด้วย ถ้าไม่ใช่เพราะเขาไม่อยากอยู่กับกู กูมันแย่ไง เพราะกูเคยทำแย่ๆ เคยทำร้ายความรู้สึกของเขาไง เขาเลยไม่สนใจกูแล้ว มึงเข้าใจมั้ยไอ้บอย มึงเข้าใจมั้ย!” ธันย์ธาดาเริ่มโวยวาย แข่งกับเสียงดนตรีที่ดังกระหึ่ม ซึ่งก็ทำให้โต๊ะตัวถัดไปที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล ต้องเหล่สายตามามองอย่างไม่สบอารมณ์ “ถ้ามึงรู้ตัวว่าเคยทำแย่ๆ กับเขา ก็แก้ตัวสิ ทำดีกับเขาให้มาก บอกอรไปเลยว่ามึงก็รักอรเหมือนกัน บางทีที่อรยังไม่ยอมแต่งงานกับมึง คงเพราะอยากฟังคำนี้ก่อนก็ได้ ผู้หญิงที่ไหนก็อยากฟังคำว่ารักทั้งนั้นแหละ” “ไม่โว้ย! ไม่แต่งก็อย่าแต่งสิวะ อยากจะไปไหนก็ไป คนโลเลไม่รักษาคำพูดแบบนั้น กูไม่สนใจแล้ว” ชายหนุ่มเถียงในส