“แหมซิด ทำเป็นหันหลังก้มเก็บปากกาแต่ตูดนี่แอ่นไปถึงดาวอังคารเลยนะ” สาริศาชะงักมือที่กำลังวาดรูปลงบนกระดาษไปฉับพลัน นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มเหลือบมองเพื่อนสนิทที่ยังคงมองเธอมาอย่างรู้ทันด้วยหางตา
นังเพื่อนคนนี้มันจะรู้ดีเกินไปแล้ว เธอว่าทำเงียบๆ ไม่กระโตกกระตากแล้วเชียว!!
“เราไม่ได้แอ่นจ้าเพื่อน พอดีว่าตูดเราใหญ่น่ะ” จะให้เธอมากระมิดกระเมี้ยนน่ะไม่มีหรอก ในเมื่อนังตัวดีมันเห็นแล้วบ่ายเบี่ยงไปก็เท่านั้น ได้ยินเธอพูดอย่างมั่นอกมั่นใจเกณิกาก็ได้แต่เบ้ปากมองบนอย่างหมั่นไส้ กระนั้นก็ยังมีแก่ใจยื่นหน้าเข้ามากระซิบ
“แต่ฉันเห็นว่าฮีเดคมองนะ” พร้อมกับพยักเพยิดไปทางเดโค ซึ่งตอนนี้กำลังนั่งทำใบงานของวิชานี้อยู่อย่างตั้งใจ สาริศาได้แต่มองตามไปก่อนจะหันมามองหน้าเพื่อนของตัวเองอย่างไม่เชื่อหู มอง? หมายถึงมองก้นน่ะนะ ตั้งแต่เริ่มรู้จักกันมาปกติเดโคไม่เคยไล่สายตามองตรงอื่นนอกจากดวงตากับใบหน้าของเธอนี่นา
“มองจริงเหรอแก”
“จริงค่ะ ตาเป็นมัน” เกณิกาจีบปากจีบคอพูดยืนยันด้วยใบหน้าจริงจังอย่างถึงที่สุด เห็นอย่างนั้นแล้วสาริศาก็ได้แต่คิด นับจากวันที่เธอกับเขาเจอกันที่หน้าห้องพักอาจารย์จนถึงวันนี้ก็ผ่านมาสองวันแล้ว
ด้วยความที่เรียนอยู่คนละคณะกันทำให้ไม่ค่อยได้เจอกันมากนัก อีกทั้งเดโคเองแม้ว่าจะอยู่กลุ่มเดียวกับเจนิตาทัตแต่คนที่อีกฝ่ายสนิทที่สุดกลับเป็นแมทธิว เวลาที่เจนทัตมาหาเกณิกาคนที่ติดสอยห้อยตามมาด้วยจึงเป็นมิณทร์แทน
ฝั่งสาริศาเองก็ทั้งเรียนทั้งทำงาน แม้จะสนใจเขามากแต่เธอก็ไม่ได้มีเวลาไปตามหานัก ก็ไม่คิดเหมือนกันว่าเมื่อถึงเวลาที่ต้องเรียนวิชารวมแบบนี้จะมาเจอเดโคนั่งอยู่กับเพื่อนในห้องอยู่ก่อนแล้ว
นั่งเรียนก็นั่งใกล้ๆ กัน ยามที่ปากกาตกจากโต๊ะลงไปที่พื้นเธอจึงลุกขึ้นจากเก้าอี้ไปก้มเก็บ โดยหันบั้นท้ายที่ห่อหุ้มด้วยกระโปรงทรงเอผ้ายืดแบบพอดีตัวไปหาอีกฝ่าย หรือว่าเรื่องที่เธอแค่พิสูจน์เล่นๆ มันได้ผลกัน
“จริงๆ ฉันก็ทำไปงั้นแหละซิน เดาว่าฮีอยู่เมืองนอกมาตั้งแต่เด็กก็น่าจะชอบแบบนี้” เสียงหวานเอ่ยตอบอ้อมแอ้ม
ที่จริงเธอก็แค่ทำเล่นๆ หัวๆ ไปอย่างนั้นแหละไม่ได้คาดหวังอะไรมากมาย แค่อยากโชว์สิ่งที่มีให้อีกฝ่ายได้เห็น ไม่ได้หันไปมองด้วยซ้ำว่าชายหนุ่มมองอยู่หรือเปล่า
เรื่องที่รู้ว่าอีกฝ่ายอยู่เมืองนอกมาตั้งแต่เด็กเธอก็รู้มาจากนังเพื่อนตัวดีนี่แหละ เพราะตั้งแต่วันแรกที่เห็นว่าเธอสนใจเกณิกาก็จัดการไปสืบมาให้เสร็จสรรพ นอกจากจะรู้เรื่องนั้นแล้วเธอก็ยังรู้อีกด้วยว่าตอนนี้เดโคโสด
และเมื่อหมดห่วงว่าไม่ได้กำลังแย่งแฟนใคร เธอยิ่งอยากจะรุกเข้าหาเขาให้หนักมากขึ้น
“ฉันว่าแกเดาถูกนะซิด เพราะสายตาที่เห็นนี่ไม่ใช่เล่นๆ” แต่พอเกณิกาเล่าด้วยสีหน้าจริงจังแบบที่ไม่น่าจะโกหก เธอก็แทบไม่อยากจะเชื่อว่าผลที่ออกมามันจะเกินคาดแบบนี้ “แต่แอบติดใจอยู่อย่างนะ”
“ติดใจอะไร”
“ที่จริงเพื่อนของเจนิตาทัตคนนี้ฉันก็ไม่ได้รู้จักอะไรมากนัก แต่แกรู้สึกไหม ว่าเดคเป็นคนดูมีอะไรในตัวเยอะจัง แบบไม่เรียบร้อยเหมือนภาพลักษณ์ภายนอกแต่ก็ไม่ได้เหี้ย” เกณิกาว่าขณะที่เหลือบมองไปทางที่เดโคกับเจนทัตนั่งที่อยู่ห่างออกไปไม่เกินสองเมตรเป็นครั้งคราว ได้ยินดังนั้นสาริศาจึงถอนหายใจพรืดใหญ่
“ไม่คิดแล้วฉันจะสนใจเขาไหมล่ะ” เรื่องเรียบร้อยน่ะตั้งแต่ที่ได้มองตาเธอไม่คิดว่าอีกฝ่ายเรียบร้อยอยู่แล้ว แค่ยังไม่รู้ระดับความร้ายก็เท่านั้น อาจจะแค่เป็นผู้ชายทั่วไปที่ไม่ได้เรียบร้อยอะไร หรือจะเป็นคาสโนว่าหลอกฟันในคราบผู้ชายเนิร์ดก็สุดจะรู้
เพราะอย่างนี้เธอจึงอยากจะพิสูจน์
“แหม พูดเต็มปากเต็มคำเลยนะ”
“ก็มันจริง แต่เรื่องนั้นก็ยังไม่น่าสงสัยเท่าเรื่องที่โสดนะ แกแน่ใจเหรอซินว่าโสดจริง ไม่ใช่ว่ามีแฟนแอบอยู่หรอกนะ” เรื่องที่น่าสนใจจริงๆ คือเรื่องที่อีกฝ่ายยังว่างอยู่ต่างหาก
หน้าตาท่าทางแบบนี้ต่อให้สนใจแต่เรื่องเรียนอย่างที่เกณิกาว่า แต่จะไม่มีสาวคนไหนมาเข้าหาเลยเหรอ คนอย่างเธอเห็นครั้งแรกยังมองตาค้างเลย
“เหรินบอกว่าแมทธิวยืนยันว่าเดคโสดนะ ฉันก็ไม่รู้ว่าเชื่อคำพูดผู้ชายได้ไหม แต่มีเรื่องหนึ่งที่ฉันว่าพอจะเชื่อได้”
“อะไร”
“เจนิตาทัตบอกฉันว่าที่ฮีโสดเพราะว่าเคยโดนสาวหักอกมา เห็นว่ากับสาวคนนั้นตอนแรกก็เป็นคนคุยแต่พอจะคบก็เกิดเรื่องบางอย่างจนไม่ได้คบ หลังจากนั้นก็ยักแย่ยักยันกันอยู่เป็นปี พอเลิกขาดกับผู้หญิงคนนั้นได้ฮีก็เลยไม่ได้คบใครอีก”
“เป็นพวกมีแผลใจหรอกเหรอ”
“ก็ไม่เชิง แต่เวลามันก็ผ่านมานานแล้วนะ ฮีอาจจะดีขึ้นแล้วก็ได้”
ฟังจบสาริศาก็ได้แต่ขมวดคิ้วอย่างครุ่นคิด บางทีอาจจะเป็นอย่างที่เกณิกาพูดเพราะสายตาของเดโคที่เธอเห็นในวันนั้นไม่ได้ดูเหมือนคนกำลังอกหักหรือมีแผลใจอะไรเลย เป็นไปได้ว่าเวลาอาจจะเยียวยาแผลนั้นไปแล้ว
คิดมาถึงตรงนี้คนอยากลองอย่างเธอก็ชักจะเริ่มชะงักไปเหมือนกัน ถ้าเดโคเคยประสบเหตุการณ์แบบนั้นมา การที่เธอเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในชีวิตเขาจะเป็นการไปตอกย้ำแผลเดิมของชายหนุ่มหรือเปล่า
หรือว่าเธอจะหยุ…
“ที่สำคัญ ฮีเป็นฝรั่งก็จริงแต่ฮีเป็นทาสรักสาวหมวยนะจ๊ะเพื่อนรัก” ทว่ายามที่กำลังคิดอย่างกังวลอยู่นั้น จู่ๆ เกณิกาก็ยื่นหน้าเข้ามาหา พร้อมทั้งกระซิบบอกด้วยน้ำเสียงเย้าแหย่
พาให้ใบหน้าสวยขึ้นสีชมพูจางๆ อย่างห้ามไม่ได้ ความคิดที่อยู่ในหัวก่อนหน้าก็คล้ายกับจะลอยหายไปไกลเสียแล้วเมื่อได้ยินประโยคนั้น
ทาสรักสาวหมวยอย่างนั้นเหรอ นั่นมันเธอเลยนี่
“อย่างแกเนี่ย สเปคฮีเลย”