“เมื่อไหร่สองคนนั้นจะมาเนี่ย มันเดินมาจากดาวพลูโตกันหรือไงถึงได้นานนัก”
ภายในร้านอาหารอีสานใกล้กับมหาวิทยาลัยชื่อดัง เสียงเล็กเอ่ยขึ้นยามที่พนักงานเสิร์ฟของร้านเดินมาเสิร์ฟอาหารหน้าตาน่ารับประทานหลายจานเกือบเต็มโต๊ะ ทว่าคนที่นั่งอยู่กลับมีเพียงพวกเธอสามคน ส่วนเพื่อนที่เหลือยังเสด็จมาไม่ถึงเสียที
นี่หิวมากนะ หิวจนจะกินโต๊ะเข้าไปได้อยู่แล้ว!!
"เห็นบอกว่าออกมาแล้วนะลิซ แต่พวกแกเชื่อฉันไหมว่าทรงนี้คือยังไม่ออกจากห้องแน่" มารีน่า เอ่ยขึ้นขณะมือข้างหนึ่งยื่นมารับจานเล็กไปวางไว้ด้านหน้าตัวเอง ส่วนอีกมือหยิบโทรศัพท์เครื่องบางขึ้นมาอ่านข้อความในกลุ่มแชท ซึ่งมีพวกเธอทั้งห้าคนอยู่ในนั้น
ส่วนเพื่อนที่มารีน่าหมายถึงก็ไม่พ้น เจนิตา กับ เกณิกา เพื่อนอีกสองคนที่พวกเธอกำลังรอให้มันโผล่หัวมาเสียที เกณิกาสนิทกับเธอมาตั้งแต่สมัยประถม เรียนโรงเรียนเดียวกันสมัยมัธยม และตามติดมาเรียนในมหาวิทยาลัยเดียวกัน คณะเดียวกันแถมยังเรียนเอกเดียวกันอีก ส่วนเจนิตานั้นเพิ่งมาเจอกันตอนเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว
"ฉันไม่รอแล้วนะ หิวจนไส้จะขาดแล้วเนี่ย บอกนังสองคนนั้นด้วยนะรีน่าว่าถ้ายังโอ้เอ้ก็มาเลียจานเอา หารเท่าเดิม!" อลิศรา ว่าอย่างมีน้ำโหขณะที่ใช้ช้อนส้อมแกะปลาย่างที่วางอยู่ไม่ไกลไปใส่จานของตัวเอง และเริ่มกินโดยไม่รอใครทั้งนั้น
สาริศา ได้ยินอย่างนั้นก็หลุดหัวเราะ ส่วนมารีน่าที่นั่งอยู่ข้างเธอพิมพ์ส่งไปในกลุ่มแชทตามคำสั่งยิ้มๆ ไม่มีใครในโต๊ะนี้คิดจะห้ามอลิศราที่กำลังกินด้วยใบหน้าหงิกงอเลยสักคน
หิวมากแหละดูออก
"แรงนะลิซ เลียจานเลยเหรอ" สาริศาพูดกลั้วหัวเราะ และเมื่อเห็นว่าอลิศราลงมือแล้วเธอก็เริ่มลงมือกินบ้าง
ยามที่ตักลาบหมูแบบเผ็ดพิเศษมาใส่จานเล็ก ดวงตาเรียวตามแบบฉบับสาวหมวยก็ไล่อ่านหน้าแชทกลุ่มไปด้วย แต่ไม่ได้ละมือไปพิมพ์ตอบแต่อย่างใด
เธอปล่อยให้ห้องแชทไหลไปแบบนั้นโดยมีมารีน่าพิมพ์ตอบโต้ กระทั่งเจนิตาแชทมาว่ากำลังเดินทางแต่เกณิกามัวยืนคุยกับผู้ชาย หัวคิ้วเรียวจึงดึงดูดเข้าหากันอัตโนมัติ
"ออกมากันแล้ว แต่เห็นเจนบอกว่าซินซินมัวแต่ยืนคุยกับผู้ก็เลยช้า" มารีน่าพูดขึ้นหลังจากอ่านข้อความนั้น พาให้สาริศาต้องเอ่ยขึ้นอย่างแปลกใจ
"ผู้ไหนอีก ซินมันเพิ่งเลิกกับไอ้แชมป์ไปนี่" เพราะเกณิกาน่ะถึงจะเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดของเธอ แต่จริงๆ แล้วทัศนคติเรื่องผู้ชายของเราห่างกันลิบลับแบบขั้วโลกเหนือกับขั้วโลกใต้
เธอดูแคลนความรักและไม่อยากจริงจังกับใครมากเท่าไหร่ เกณิกาก็รักเดียวใจเดียวไม่แบ่งใครมากเท่านั้น กับไอ้แชมป์ที่เธอเพิ่งบอกว่าเลิกก็คบกันมาตั้งแต่สมัยมัธยมปลายจนช่วงสัปดาห์ก่อน นับเวลาแล้วคงได้หกปีพอดี
ขนาดไอ้แชมป์มันนิสัยเลวแบบสัตว์เลื้อยคลานเรียกพี่ แถมนอกใจอยู่ตลอดเวลาแต่เพื่อนของเธอก็ยังเฝ้ารักเฝ้าอดทน กว่าจะตัดใจเลิกได้ก็เป็นตอนที่มันนอกใจไปกับสาวในคณะ แอบไปจิ้มกันนอกสถานที่ชวนให้ช้ำใจสุดๆ
เพื่อนทั้งกลุ่มลุ้นให้เลิก เธอเองก็ลุ้นจนเท้าแทบจะไม่ติดพื้น
แต่นี่…นังตัวดีมันหยุดคุยกับผู้ชายเหรอ หรือว่าพวกเราจะมีหวังเรื่องที่เกณิกาจะไม่กลับไปคบกับตัวเหี้ยอีก!!
“เห็นว่าเป็นเพื่อนไอ้แชมป์นะ”
“โถอี นังนี่มันเจ็บไม่จำนัก!” สาริศาเบ้หน้าก่อนจะใช้ส้อมจิ้มหมูน้ำตกเข้าปากอย่างมีอารมณ์ โมโหเพื่อนก็โมโห ยิ่งได้ยินชื่อแฟนเก่าเพื่อนก็ยิ่งโมโห!เพื่อนเธอมันไม่คิดจะจำตอนที่ต้องโทรให้เธอไปรับเพราะต้องหนีมันออกจากห้องหรือไง
“แกอย่าเพิ่งองค์ลงดิวะซิด เห็นเจนิตามันบอกว่าเพื่อนคนละกลุ่มนะ แค่รู้จักเพราะเรียกเอกเดียวกันเฉย ๆ” มารีน่าสะกิดเธอก่อนจะชี้ให้ดูแชทที่เจนิตาส่งมา ซึ่งระบุว่าคนที่เกณิกาหยุดคุยนั้นไม่ใช่เพื่อนกลุ่มเดียวกับโจทย์ของเธอแต่อย่างใด
เห็นอย่างนั้นใบหน้าที่หงิกงอก็พอจะคลายลงได้บ้าง ค่อยยังชั่วหน่อย ถ้าเป็นเพื่อนไอ้แชมป์ขึ้นมาเธอกรี้ดจริงๆ นะ จะกรี้ดใส่หน้านังตัวดีให้หูแตกเลยด้วย หน้าตาก็สวยแต่ตุ้บเรื่องเลือกผู้ชายนัก!!
“ใครวะ แกรู้จักไหมซิด” อลิศราทำหน้าสงสัย อย่าว่าแต่เพื่อนนอกคณะอย่างอลิศราเลย เธอเองก็ยังสงสัย คนอย่างแฟนเก่าของเพื่อนเธอและพวก มีเพื่อนคนอื่นคบด้วยเหรอ ท่าทางแบบนั้นดูไม่น่ามีใครกล้าคบ
“ไม่อ่ะ รีน่าแกถามสองคนนั้นซิว่าใคร”
“เห็นบอกว่าชื่อเหรินนะ”
“เหรินเหรอ คนนี้ฉันรู้จัก” ทว่าคนที่พูดประโยคนั้นกลับกลายเป็นอลิศราแทนที่จะเป็นเธอซึ่งเรียนอยู่ที่คณะนิเทศ สาริศาได้แต่เลิกคิ้วมองอีกฝ่ายอย่างแปลกใจ คือ…ได้ข่าวคณะศิลปกรรมอยู่เกือบหน้ามหา’ ลัยนะ นังนี่มารู้จักผู้ชายคณะภาพยนตร์ที่อยู่คณะหลังสุดได้ยังไงเอ่ย
“แกรู้จักด้วยเหรออลิส” มารีน่าถามขณะที่ขมวดคิ้วมองหน้าอลิศราไปด้วย และคำถามในใจก็คงจะไม่ผิดกันกับสาริศามากนัก
“แหม คนสวยแซ่บอย่างฉันก็ไม่ได้สมองปลาทองนะจ๊ะเพื่อนๆ ผู้ชายหล่อทำผมสองสีเด่นขนาดนั้นถึงจะจำไม่ได้น่ะ” อลิศราเอ่ยค้าน มันจะมีสักกี่คนที่ทำสีผมแบบนั้น ต่อให้เป็นหมานอนอยู่หน้ามหาวิทยาลัย ยังไง๊ยังไงก็ต้องเคยเห็น
“ทำผมสองสีด้วยเหรอแก” มารีน่าที่ยังคงมีสีหน้าครุ่นคิดตอนนี้กลับยิ่งหนักกว่าเก่า เพราะคนทำผมสองสีนี่ต้องมั่นเบ้าพอสมควร ยิ่งทำแล้วหล่อเหมือนอย่างที่อลิศราว่าคือหาได้ยากมาก
“ก็คนนั้นไงรีน่า ที่เคยมาเลี้ยงโกโก้ซินที่หอสมุดอ่ะ ชอบเดินมากับเพื่อนหล่อ ๆ อีกคน ชื่ออะไรน้า…มิณทร์มั้ง ใช่ไหมซิด”
อลิศราหันมาขอความเห็นหลังจากทำท่านึกอยู่ครู่หนึ่ง สาริศาเองซึ่งนึกใบหน้าอีกฝ่ายออกตั้งแต่เอ่ยชื่อจึงพยักหน้าสนับสนุนไป เธอพอจะรู้จักคนในบทสนทนามาบ้างเพราะเจนทัตมักจะมาทักเกณิกาอยู่บ่อยๆ
ตอนที่เจอกันที่คณะ แถมตอนนี้ยังดูเหมือนจะเดินหน้าจีบเพื่อนของเธอสุดพลัง ส่วนมิณทร์คงเป็นผู้ชายตัวสูงอีกคนที่เดินมาด้วยกัน เธอเคยเห็นหน้าอยู่แต่ไม่ได้ทำความรู้จักอะไร
รู้แค่เป็นเพื่อนที่เกณิการู้จักคือจบ เธอไม่ได้อยากทราบล้วงลึกอะไรนักหรอก แค่เรียนเอกเดียวกันกับไอ้แชมป์ก็อยากอ้วกมากพออยู่แล้ว
“มิณทร์เหรอ คนนี้รู้สึกคุ้นๆ อยู่นะ เหมือนฮีจะเป็นคิ้วท์บอยป้ะ” มารีน่าพูดพลางไถหน้าจอโทรศัพท์ดูในเพจคิ้วท์บอยของมหาวิทยาลัย สลับกับพิมพ์ตอบเพื่อนอีกสองคนที่ยังมาไม่ถึง “อ้อ เจนมันตอบมาละ เจนิตาทัตมิณทร์ดิจิทัลฟิล์ม”
“หล่อเนิร์ดถูกใจแกแหละมารีน่า” สาริศาพูดเสียงเนือยๆ ก่อนจะหันไปตักอาหารอย่างอื่นกินไม่ได้สนใจจะพูดคุยเรื่องนี้อะไรมากนัก ซึ่งแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับมารีน่าและอลิศราที่ตอนนี้เริ่มกระดี๊กระด๊าขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด
“ว้าย ซินซินบอกว่าผู้ชายจะมานั่งกินด้วยว่ะ”
“มาทั้งคู่เลยเหรอรีน่า”
“ใช่ เห็นว่ามีเพื่อนมาอีกสองคนด้วย”
“ตายแล้ว ทาลิปก่อน!” อลิศราอุทานออกมาอย่างกระตือรือร้นพลางหยิบลิปกลอสออกมาทาฉ่ำๆ พร้อมทั้งจัดผมยาวสลวยของตัวเองจนสวยพริ้ม
เล่นเอามารีน่าที่นั่งมองการแปลงโฉมอย่างรวดเร็วปานสายฟ้าแลบนั้นถึงกับอ้าปากค้าง อดไม่ได้ที่จะหยิบลิปสีแดงเชอร์รียี่ห้อดังขึ้นมาทาบ้าง
สาริศาได้แต่มองเพื่อนทั้งสองคนด้วยสายตาว่างเปล่า
เอาเถอะ ถึงจะไม่ได้อยากรู้จักอะไรแต่เธอก็พอจะรู้มาบ้างว่าสองคนนี้เรียนดีกิจกรรมเด่นผ่านการบอกเล่าของเกณิกาในบางครั้ง ก็ถือว่าเป็นเรื่องดีที่เพื่อนเธอได้เจอหนุ่มในสเปคแหละนะ
ผู้ชายหล่อเนิร์ดเริ่ดๆ ฟังดูอนาคตไกลแบบนั้นไม่ได้มีมาให้ตกถึงท้องกันบ่อยๆ
ทว่ายังไม่ทันที่จะได้จัดผมเผ้าให้เรียบร้อย อลิศราก็รีบเก็บเครื่องสำอางลงกระเป๋าเล็กและใช้สายตาบอกให้มารีน่ารู้ว่าพวกเกณิกามาถึงแล้ว เห็นอย่างนั้นอีกฝ่ายก็รีบเก็บลิปของตัวเองก่อนจะใช้มือลูบผมลวกๆ
“มาแล้วๆ นี่กินไม่รอพวกฉันเลยเหรอ แรงมากนะ” เกณิกาที่เพิ่งมาถึงยกมือขึ้นทาบอก ขณะที่ทำเสียงตัดพ้อพวกเธอเสียเต็มประดาทว่าสาริศารู้นิสัยเพื่อสนิทดี ที่ทำไปน่ะไม่ได้เสียใจอะไรหรอก จริงแค่หนึ่งแต่เล่นใหญ่สองล้านเสียมากกว่า
“ก็นานอ่ะซิน อลิสหิวจนไส้จะขาดแล้วเนี่ยเห็นไหม” สาริศากระเซ้ายิ้มๆ ก่อนจะหลุดหัวเราะเมื่อเห็นว่าคนถูกพูดถึงหันมาถลึงตาคาดโทษเธอ แต่ทำได้ไม่นานสายตานั้นก็หลุดโฟกัสเมื่อมีคนอื่นประมาณสามสี่คนเดินเข้ามาที่โต๊ะพร้อมกับเจนิตา
สาริศาเดาว่าน่าจะเป็นกลุ่มเพื่อนของเจนทัตที่เกณิกาพามาจึงไม่ได้ตื่นเต้นอะไร เห็นเธอเจ้าชู้แบบนี้แต่เอาเข้าจริงแล้วไม่ใช่คนที่มนุษยสัมพันธ์ดีนัก ออกจากค่อนไปทางอึดอัดด้วยซ้ำถ้ามีคนไม่รู้จักมานั่งในพื้นที่ซึ่งเธออยากใช้แค่กับเพื่อนแบบนี้
แต่ก็ช่างเถอะ เดี๋ยวค่อยทักทายตอนนั่งลงกันหมดแล้วก็ได้ ยังไงเธอก็ไม่ได้คิดจะคีพคอนแท็กซ์อะไรอยู่แล้ว
คิดได้อย่างนั้นหญิงสาวจึงหยิบแก้วน้ำอัดลมมาดื่มดับกระหาย ขณะที่ขยับลุกออกจากที่นั่งให้หนุ่มๆ ยกโต๊ะมาต่อกับโต๊ะของพวกเธอจนกลายเป็นโต๊ะใหญ่ ตราบจนทุกอย่างเสร็จสิ้นเรียบร้อย เกณิกาก็นั่งลงบนเก้าอี้ตัวข้างๆ เธอโดยมีเจนทัตนั่งถัดไปอีกที เห็นอย่างนั้นสาริศาจึงหย่อนตัวนั่งลงบ้าง
ทว่าเมื่อเงยหน้าขึ้นไปกลับพบว่าคนที่นั่งลงตรงข้ามไม่ใช่เพื่อนของตัวเองอย่างที่คาดเอาไว้ เพราะเจนิตาเดินไปนั่งที่หัวโต๊ะข้างกันกับอลิศรา ในตอนนี้เบื้องหน้าเธอจึงมีเพื่อนคนหนึ่งของเจนทัตที่เธอไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน
“...”
และมันจะเป็นวันธรรมดาของเธอมาก หากว่าคนที่นั่งอยู่เบื้องหน้าไม่ใช่ผู้ชายหน้าตาคมคาย รูปร่างสูงใหญ่ดูดีราวกับนายแบบที่หลุดออกมาจากนิตยสารแฟชั่นหัวนอก เสียจนแว่นที่สวมอยู่ไม่อาจทำอะไรความหล่อได้เลยสักนิด