บทที่ 2 บอบช้ำ

1671 Words
ฉันรับรู้และได้ยินเสียงทุกอย่างที่อยู่รอบๆตัว แต่จิตใจของฉันมันบอบช้ำเกินกว่าจะตื่นขึ้นมารับรู้ ฉันอยากให้ภาพผู้ชายคนนั้น ความรัก ความจริงใจที่ฉันมอบให้เขามันเลือนลางหายไปพร้อมกับความบอบช้ำทางด้านจิตใจ หัวใจให้มันหายไปพร้อมร่างกายนี้ที่ถูกทิ้งไว้ตรงกลางทาง "นินินลูกอย่าเจ็บกับอะไรอีกเลยนะ กลับมาอยู่กับพ่อกับแม่พวกเราจะอยู่เคียงข้างลูกเอง อย่าทิ้งพ่อกับแม่ไปไหนอีกเลยหัวใจพ่อกับแม่แทบจะขาดใจตามไปด้วย" เสียงพร่ำเรียกและเสียงปลอบโยนหัวใจที่ร้าวรานจากคนที่ทิ้งขว้างและไม่เห็นค่าความรักของฉันที่มอบให้ไปทั้งใจ เสียงเรียกของพ่อกับแม่มันเตือนสติให้ฉันกลับมา เสียงนั้นยังตามติดฉันมา หลังจากที่ฉันถูกช่วยให้รอดกลับมา ทั้งที่ฉันพยายามปล่อยลมหายใจให้จากไปไม่อยากอยู่บนโลกใบนี้ "นินินแกจะทิ้งฉันไปไหนอีกไม่ได้แล้วนะ แกต้องเข้มแข็งกลับมาอยู่กับพ่อแม่แล้วยังมีฉันอีกคน" ฉันได้ยินเสียงของญาดาที่ดังอยู่ใกล้ๆ ฉันรับรู้ทุกอย่างตั้งแต่ตอนที่ฉันถูกเข็นขึ้นรถพยบาลจนมาถึงโรงพยาบาล แต่ฉันอ่อนแอทั้งร่างกายจิตใจจนไม่อยากลืมตาตื่นขึ้นมาอีกเลย ได้แต่รับฟังคำพูดนั้นยังมีภาพผู้ชายคนนั้นกับผู้หญิงอีกคนที่ตามหลอกหลอนแม้กระทั่งตอนที่ฉันกำลังจะทิ้งลมหายใจสุดท้ายไป "ไม่ว่าลูกจะมีเหตุผลอะไรที่คิดทำอย่างนี้แต่พ่อพร้อมที่จะเข้าใจรับฟังเหตุผลของลูกเสมอกลับมานะเข้มแข็ง เราจะอยู่ด้วยกัน" เสียงสุดท้ายของพ่อที่ยังดังอยู่ไม่ห่าง คำพูดปลอบใจของทุกคนฉันรับรู้ถึงความห่วงใยในน้ำเสียงเหล่านั้น น้ำตาแห่งความเสียใจที่ฉันทำอะไรอย่างคนที่โง่งม ตัดสินใจหนีปัญหาอ่อนแอจนไม่สามารถเผชิญความจริง น้ำตาหยดเล็กๆไหลออกมาเป็นทางตามหางตาที่ยังไม่สามารถลืมขึ้นมาดูหน้าทุกคนได้ มันยังคงเหนื่อยง่วงเหลือเกิน แกร็ก เอี๊ยด เสียงล้อรถเข็นที่ถูกเข็นไปยังห้องๆหนึ่งที่ฉันได้ยินคุณหมอกับพยาบาลพูดคุยกันจะให้ฉันไปพักอยู่ในห้องนั้น ในเสี้ยวนาทีระหว่างความเป็นกับความตาย ที่คุณหมอและพยาบาลต่อสู้เพื่อแย่งชิงลมหายใจของฉันกลับมาตอนอยู่ในห้องนั้น ฉันเองก็กำลังจะตัดสินใจว่าจะอยู่ต่อหรือจากโลกนี้ไปโลกใหม่ ฉันอาจไม่เจอความเจ็บปวดอีกเลย แต่เสียงของญาดาที่ยังดังในโสตประสาทการรับรู้ เสียงพร่ำบอกตลอดทางที่นั่งรถมาด้วยกันบอกให้ฉันกลับมาหาเธอ ช่วงที่ฉันกำลังจะทิ้งลมหายใจไปฉันคิดได้วินาสุดท้ายว่าฉันต้องกลับมา ฉันจึงสู้เพื่อกลับมาทุกคนที่พยายามช่วยฉันอยู่ คนอื่นยังพยายามช่วยฉัน แล้วทำไมตัวฉันจึงไม่สู้ด้วยตัวเอง ความคิดในเสี้ยววินาทีนั้นทำให้ฉันยังนอนอยู่บนเตียงที่ถูกเข็นออกจากห้องนั้นออกมาได้อย่างปลอดภัย และเสียใจที่รู้ตัวช้าพลอยทำให้คนรอบข้างเจ็บปวดตามไปด้วย "นินินฉันดีใจนะที่แกยอมกลับมาอยู่ตรงนี้กับฉัน" หลายวันผ่านไปที่ฉันยังนอนรักษาตัวในห้องสี่เหลี่ยมสีขาว ร่างกายฉันเริ่มกลับมามีแรงทำอะไรได้ด้วยตัวเอง เหลือเพียงหัวใจบอบช้ำที่ต้องใช้เวลารักษา ฉันยิ้มให้กับญาดาที่นั่งเฝ้ามองพูดคุยชักถามอยู่ข้างเตียง ญาดาอยู่เป็นเพื่อนพูดคุยปลอบใจดูแลให้กำลังใจ ฉันคิดถูกแล้วที่ตัดสินใจกลับมา ยังมีคนดีๆที่รอฉันอยู่รอบตัว พ่อกับแม่มาเยี่ยมฉันทุกวันทำอาหารดีๆมาให้ ไม่เคยตอกย้ำซ้ำเติมพูดถึงเรื่องที่ผ่านมา นั่นยิ่งทำให้ฉันเสียใจมากที่ทำให้พ่อกับแม่เป็นทุกข์แม้พวกท่านทั้งสองจะพยายามปกปิดมันแล้วก็ตาม "ฉันก็ดีใจที่ได้กลับมาหาแก ฉันขอโทษที่ทำเรื่องโง่ๆ ทำให้พ่อกับแม่ แล้วแกเสียใจฉันขอโทษฉันผิดไปแล้ว" น้ำตามันไหลรินออกพร้อมกับคำขอโทษและความเสียใจ ญาดาเอามือตัวเองมาเกาะกุมมือฉันลูบวนเพื่อปลอบโยน "ไม่เป็นไรแกเรื่องมันผ่านไปแล้วเราจะไม่พูดถึงมันอีก ขอแค่แกยังอยู่ตรงนี้และเข้มแข็ง อย่าไปเสียใจกับคนเลวๆคนนั้นวันหนึ่งเขาต้องได้รับกรรมกับสิ่งที่เขาเคยทำกับแกไว้ แกต้องสู้และเดินหน้าใช้ชีวิตดีๆและมีความสุข อย่าให้เขาสะใจที่เห็นว่าเราเจ็บปวดเป็นทุกข์เพราะเขาอีกเลย ทำให้เขาเห็นว่าแกมีความสุขมากแค่ไหนตั้งแต่เขาเดินออกไปจากชีวิตแก" นั่นสิฉันควรทำตัวเป็นตัวกรรมที่คอยสนองให้เขาเอง เขาไม่เคยมารับรู้เลยด้วยซ้ำว่าฉันเสียใจมากแค่ไหนจากการกระทำของเขา ไม่เคยรับรู้ความเสียใจจากการถูกหักหลังจากคนที่รัก เขายังใช้ชีวิตอย่างมีความสุขโดยที่ไม่เคยรู้สึกผิดต่อฉัน แล้วทำไมฉันจะต้องไปเจ็บปวดและร้องไห้เพราะผู้ชายคนนั้นอีก "ขอบใจแกมากนะญาดาถ้าไม่ได้แกมาช่วยวันนั้น ฉันคงถูกทอดทิ้งไว้ในห้องนั้นอยู่เพียงคนเดียว จากไปพร้อมกับความโดดเดียวและเสียใจเพียงลำพัง" ฉันบีบมือญาดาเบาๆตอนที่มันยังนั่งกุมมือฉันเอาไว้ ความอบอุ่นจากมือทั้งสองมันแผ่ซ่านเข้าไปในหัวใจทำให้มันมีเลือดเนื้อกลับมาอบอุ่นอีกครั้ง "วันนั้นฉันโทรหาแกเป็นสิบๆสายแกไม่รับสายฉันเลยขับรถมาหาแกที่คอนโดกดกริ่งเรียกหลายครั้งแกไม่ยอมเปิด ฉันเอะใจรู้สึกใจไม่ดีจึงไปอ้อนวอนขอคีย์การ์ดจากนิติคอนโดแล้วให้เขาเปิดห้องเข้าไปดูแก ฉันเห็นแกนอนอยู่บนเตียงมีกระปุกยาตกข้างตัว ฉันเป็นแทบบ้ารีบโทรเรียกรถฉุกเฉินมารับแก ถ้าวันนั้นฉันไม่รู้สึกร้อนรนใจแปลกๆวันนี้แกคงไม่ได้นอนอยู่บนเตียงพูดคุยกับฉันได้ "ฉันสัญญาต่อไปนี้ฉันจะไม่ทำเรื่องโง่ๆอย่างนั้นอีก ฉันจะเป็นไฟมารทำลายล้างคนพวกนั้นเอง ฉันจะอยู่อย่างเข้มแข็งไม่อ่อนแอ ไม่มีหัวใจเอาไว้ให้ใครรังแกฉันได้อีก" ฉันรู้สึกว่าความหวาดกลัวในหัวใจ กำลังจะเปลี่ยนไปฉันจะไม่หลงเหลือคราบนินินคนเก่า ตอนนี้ในใจเหมือนมีกองไฟที่มันคอยสุมให้มันร้อน มันค่อยๆก่อตัวขึ้นตอนที่ฉันต่อสู้อยากมีชีวิตรอดกลับมาเพื่อทำให้เขาเจออย่างที่ฉันเคยเป็น เมื่อสวรรค์ยังให้โอกาสให้ทางรอดฉันมาอยู่ตรงนี้ได้ ฉันจะใช้โอกาสนั้นเป็นแรงผลักดันในการมีชีวิตอยู่เพื่อเอาคืน ความรักโง่ๆมันจะไม่มีวันเกิดขึ้นมาอีกกับผู้หญิงที่ชื่อนินินคนใหม่ เพราะนินินคนเก่าได้ตายจากไปโลกนี้แล้ว "แกคิดจะทำอะไรอีกนินิน แกอย่าเขาตัวเองเข้าไปเกี่ยวข้องกับคนพวกนั้นอีกเลย ปล่อยให้กรรมมันตามทันคนพวกนั้นเองดีกว่า แกใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ไม่ทุกข์ไม่เจ็บดีกว่านะฉันว่ามันมีความสุขมากกว่า" ญาดามองฉันด้วยความเป็นห่วง และความกังวลของมันแสดงออกมาทางแววตาอย่างเห็นได้ชัด "ญาดาแกยังคิดว่าทุกวันนี้กรรมมันยังทำงานเร็วอยู่อีกเหรอ ฉันยังเห็นพวกคนเลวๆใช้ชีวิตอย่างมีความสุข อยู่บนกองเงินกองทองโดยไม่ทุกข์ร้อนอะไรเลย มีแต่คนอย่างเราๆนี่แหละที่ยังทุกข์ร้อนอยู่เลย ฉันจะเป็นกรรมติดจรวดให้ผู้ชายกับผู้หญิงคนนั้นเอง" ฉันยังจำแววตาของผู้หญิงคนนั้นได้ดีที่มองเหยียดมา และยิ้มเยาะเย้ยตอนที่เธอตามธารมาบอกเลิกฉัน สายตาของธารเองก็ไม่เหลือเยื่อและความรักที่เคยมีให้ฉันมากมันได้จางหายไปจากแววตานั้น คำขอโทษที่ไม่จริงใจ คำลาที่บอกให้ฉันลืมเขาไป ถ้ามันทำได้ง่ายเหมือนที่เขาทำฉันคงไม่อยู่ในสภาพนี้ ความรักของฉันมันเริ่มต้นจากศูนย์จนถึงร้อย แต่ความรักจากเขามันเริ่มจากร้อยจนเหลือศูนย์ เขายังคงใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในสังคมของเขาโดยที่ไม่หันกลับมามองดูผู้หญิงคนที่หนึ่งที่ยกหัวใจให้เขาทั้งดวง เมื่อมันจะต้องสูญเสียไปแล้วมันจะไม่ใช่แค่ฉันคนเดียว คนรอบตัวฉันเสียใจเพราะผู้ชายคนนั้น เพราะฉะนั้นรอบตัวเขาจะได้รับผลอย่างนั้นเช่นกัน "แกไม่ต้องเป็นกังวลอะไร แกแค่คอยช่วยปลอบและเป็นกำลังใจให้ฉัน ต่อไปนี้ฉันจะกลับมาเข้มแข็งเพื่อคอยเวลาทำให้คนพวกนั้นเจอความเจ็บปวดอย่างที่ฉัน แก แม่กับพ่อฉันเจอเช่นกัน เมื่อพวกเขาเห็นแก่ตัวฉันก็จะเป็นคนเห็นแก่ตัวเช่นกัน แกต้องช่วยฉันนะญาดา" ฉันบอกความตั้งใจของฉันให้ญาดาฟัง แววตาของฉันที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและจะไม่มีใครทำให้ฉันเปลี่ยนความคิดจากเรื่องนี้ไปได้ ในแววตาที่เต็มไปด้วยไฟแค้นและไฟมารมันจะไม่หลงเหลือรอยใจใดๆ ฉันจะฝังกลบความรู้สึกพวกนั้นให้มันจมลงไปที่ก้นบึ้งหัวใจ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD