ไม่น่าจะใช่คนรู้จักที่ฉันอยากเจอ ไม่ใช่พ่อ ไม่ใช่แม่ แต่เป็นผู้ชายที่หน้าดุดันในชุดนิสิตและสวมทับด้วยผ้ากันเปื้อนสีชมพูลายแมวของแม่ เขากำลังหั่นต้นหอมบนเขียงไม้ด้วยใบหน้าจริงจัง ก่อนจะเงยหน้ามามองฉัน
ตุบ!
มือถือฉันหล่นลงกับพื้น สมองของฉันว่างเปล่า เมื่อยืนมองเขาที่กำลังหยุดมือและยกมีดขึ้นมาพร้อมรอยยิ้มหวานแต่สายตาไม่หวานไปด้วยเลย
“เธอตื่นแล้วเหรอ?”
“...”
ฉันขยี้ตาแต่ว่าภาพตรงหน้าก็ไม่หายไป คิ้วย่นเข้าหากันจนเกือบชิด ไม่มีคำพูดใดๆ ออกมาจากปากของฉัน
“อยู่ดีๆ เธอก็สลบ ฉันเลยเอามือถือเธอขึ้นมาค้นเบอร์พ่อกับแม่แล้วพามาส่งที่บ้าน”
“...”
“ฉันบอกแม่เธอให้แล้วนะ ว่าเราคบกันอยู่” เขาพูดแพล่มไม่เลิกราในขณะที่ฉันยืนอึ้งนานมาก ฉันหมุนตาไปมาก่อนจะยกมือขึ้นมากุมขมับ หยิกแก้มบ้าง ตบหน้าบ้างและทุกอย่างก็บ่งบอกว่าฉันไม่ได้ฝัน!!
ไม่ได้ฝัน!! มันเป็นเรื่องจริง ฉันสาดน้ำหอมมหาเสน่ห์ใส่หมอนี่จริง หมอนี่หลงฉันจริง! และตอนนี้เขาบอกแม่ฉันว่าเราคบกันอยู่! ฉันกับเขาเราไปคบกันตอนไหนวะ!
“เราไปคบกันตอนไหน นายยังไม่เคยขอฉันคบเลยนะ” ฉันตอกกลับด้วยน้ำเสียงแข็งเหมือนจะกล้าแต่ว่าความจริงหลบฉากอยู่หลังเสาโผล่หน้าออกมาคุยกับเขาแค่คืบหนึ่ง
แหม เขาแข็งแรงกว่าฉันตั้งเยอะ แถมในมือยังมีมีด ต่อให้ตอนนี้เขาจะอยู่ในอาณาเขตบ้านของฉัน แต่มันก็ไม่มีอะไรรับประกันความปลอดภัยของฉันได้เลย จะให้ไปพึ่งพ่อฉันอ่ะเหรอ... ตัวพ่อยังกะกุ้งแห้งแค่โดนหมอนี่แตะทีก็ล้มลงไปนอนกับพื้นแล้วมั้ง!
“...”
ปึ่ก!
เฮือก!
ฉันสะดุ้งโหยงสิงเข้ากับเสามากขึ้น จากที่ตาฉันเหลือคืบนึง ก็เหลือแค่ครึ่งคืบในตอนที่เขาใช้มือทุบกับเขียงดึงปึ่กแล้วชี้ปลายมีดเข้ามาทางหน้าฉัน
“ได้ งั้นฟังนะ ฉันจะขอเธอ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งแต่หน้าดุเหมือนที่เขาเป็น ฉันสัมผัสได้ถึงรังสีอำมหิตที่พุ่งตรงมาจากปลายมีดที่เขาถืออยู่ ไม่รู้เลยว่าสิ่งที่เขากำลังทำอยู่คือการขอฉันคบหรือข่มขู่เพราะว่า...
“มาเป็นแฟนฉัน...ไม่งั้นตาย”
โอ๊ย งั้นฉันตายไปเลยดีมั้ย ฉันไม่รู้เลยว่าการเป็นแฟนเขาหรือตายไป อันไหนมันเลวร้ายกว่ากัน ฉันย่นคิ้วพร้อมกับความรู้สึกสับสนจนกระทั่งหมอนั่นสาวเท้าเข้ามากระชากแขนฉันออกจากมุมเสาด้วยสีหน้าอำมหิต
“เธอดูไม่ค่อยมีแรง ฉันเลยทำอาหารให้” เขาลากฉันมายืนอยู่ที่ห้องครัวและผายมือไปที่กระทะเหล็ก มันเต็มไปด้วยผัก หมูและอะไรบางอย่างที่ไม่น่าจะเรียกว่าเป็นของกินได้
“น่ะ นายทำมันเองเหรอ?” ฉันอึ้งๆ กับสกิลการทำอาหารให้เป็นยาพิษของเขา สภาพมันเหมือนเขาแค่หยิบของในตู้เย็นมาผัดรวมกันโดยไม่มีเหตุผล
“ใช่ เธอจะต้องชอบมัน เพราะว่าฉันเป็นคนทำ” เขาตอบกลับด้วยความมั่นหน้าและเดินไปตักอาหารสยองนั่นใส่จาน ในขณะที่ฉันกลืนน้ำลายอึก ภาวนาให้พ่อแม่หรือใครสักคนเรียกตำรวจและลากคอเขาออกไปที ฉันกำหมัดแน่นพลางคิดไม่ตกว่าจากนี้ฉันควรจะหนีไปที่ไหน
“มันกินได้แน่เหรอ?” ฉันถามเสียงไม่มั่นใจนักตอนที่หมอนั่นยื่นให้ แค่เขาปราดสายตาดุๆ กลับมา ฉันก็สะดุ้งเล็กๆ และเปลี่ยนคำพูดทันที “น่าอร่อยเนอะ”
...ให้ตายเถอะ เขาน่ากลัวมาก หน้าตาก็น่ากลัว สกิลการทำกับข้าวยังน่ากลัวอีก มีอะไรปกติมั่งเนี่ย ฮือๆ
ฉันยื่นมือรับจานนั่นมาก่อนที่คนตัวสูงจะผลักหลังฉันไปเดินไปนั่งที่โต๊ะ พ่อกับแม่ฉันหายไปไหนแล้วไม่รู้ ไม่รู้ว่าหมอนี่ทำอะไรพวกเขารึเปล่า ฉันนั่งทั้งที่มือยังแอบสั่น ไม่กล้าแม้แต่จะสบตาตรงๆ ด้วยซ้ำ
“น่ะ นายไม่กินด้วยกันเหรอ?” ฉันถามไปอย่างนั้นเพราะรู้สึกกดดันกับบรรยากาศจนเกินไป เขามองฉันด้วยสายตาน่ากลัวมาก น่ากลัวจนฉันตัวหด และก้มหน้างุด มีแค่บางครั้งเท่านั้นที่ปรายสายตาขึ้นไปแอบมองด้วยความสยองขวัญ
“ฉันไม่หิว”
“...แล้ว เอ่อ มีนัดเล่นเกมกับเพื่อนนี่ นายไม่ไปเหรอ?” ฉันพยายามหาประเด็นที่จะไล่เขากลับไปให้ได้ แต่ทว่ามันดูไร้ผลเอามากๆ เมื่อคนตัวสูงตอบกลับเสียงราบเรียบ
“ไม่ล่ะ”
“แล้วนายจะอยู่ที่นี่จนถึงเมื่อไหร่... เอ่อ” ฉันชะงักเมื่อสบตากับเขา เขามองฉันเหมือนรับรู้ได้ถึงความพยายามไล่เขากลับไป ทำให้ฉันคีพคำพูดให้ซอฟต์ที่สุด “ฉันหมายถึงว่า ฉันกลัวที่บ้านนายจะเป็นห่วง ถ้าอยู่ที่นี่นานไปน่ะ”
“ไม่มีใครห่วงฉันหรอก”
“...” สายตาของเราสบกันในครู่นึง คนตัวสูงระบายยิ้มแปลกๆ ออกมาก่อนจะเท้าคางที่โต๊ะและจ้องฉันราวกับจะกินกันเข้าไป ใจฉันสั่นเล็กๆ และเผลอกลืนน้ำลายอีกครั้ง
“ฉันหมายถึงว่า... วันนี้ฉันไม่กลับ และฉันจะนอนที่บ้านเธอ”
ไม่เข้าใจ
หรือฉันไม่พยายามจะเข้าใจในสิ่งที่เขาบอกก็ไม่รู้ ถ้าจำไม่ผิด ฉันไม่เคยอนุญาต และไม่คิดจะอนุญาตให้เขาเข้ามานอนในบ้านฉันแน่ เราไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น
เขานั่งเท้าคางแล้วจ้องฉันด้วยนัยน์ตาสีดำสนิทที่ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ และนั่นทำให้ฉันเกร็งจนเผลอกลืนน้ำลายอยู่หลายครั้ง รู้สึกเหมือนเขาเตรียมตัวจะฆ่าฉันมากกว่าจะมาจีบอีก...