6

1376 Words
ประเด็นสำคัญคือธรแต่งงานแล้วนี่แหละ เธอไม่อยากกลับไปเห็นเขาอยู่กับผู้หญิงคนอื่น คนที่ภัคธีมาคิดถึง เขาก็กำลังคิดถึงเธออยู่เหมือนกัน บิดามารดาของธรยินดีที่ลูกชายเป็นฝั่งเป็นฝา พวกท่านพูดว่าผู้หญิงไม่ได้มีคนเดียวในโลก ผู้หญิงสาว ๆ สวย ๆ เยอะแยะ และที่แสนดีก็เยอะแยะไปหมด แต่สำหรับธรแล้ว ผู้หญิงที่ดี ที่สวย นิสัยดี แต่เข้ากับเราได้ก็ใช่จะหาได้ง่าย ๆ “พี่ธรคิดถึงเธออยู่เหรอคะ” วิไลลักษณ์เอ่ยถามสามี “วิมีอะไรหรือเปล่าครับ” ธรรีบเก็บรูปภาพของผู้หญิงที่เขารักเอาไว้ในกล่องทันที “อย่าเปลี่ยนเรื่องสิคะ แค่ก ๆ” วิไลลักษณ์พูดแล้วไอออกมาสองสามครั้ง “ป่วยเหรอครับ” ธรเอ่ยถามอย่างห่วงใย ก่อนที่จะกระชับผ้าพันคอเพื่อให้เธออุ่นขึ้นมากกว่าเดิม เธอมักเป็นภูมิแพ้ โดยเฉพาะภูมิแพ้อากาศ ซึ่งรักษายาก ต้องทำให้ตัวเองอบอุ่นอยู่ตลอดเวลา ส่วนอาหารนั้นเธอก็แพ้เป็นบางอย่าง เช่นพวกอาหารทะเล อาหารหมักดอง หรือผักบางชนิด รับประทานแล้วจะมีผื่นขึ้นเต็มตัวไปหมด “ขอบคุณค่ะ” เธอกล่าวขอบคุณเขา ธรไม่เหมือนสามี แต่เขาเหมือนพี่ชาย ยิ่งเขาเป็นสุภาพบุรุษเธอก็นับถือในน้ำใจของเขาเป็นที่สุด “พี่ธรคิดถึงคุณภัคธีมาก็ยอมรับออกมาตรงๆ ก็ได้นะคะ กับวิน่ะไม่เป็นอะไรหรอก วิเข้าใจ” เธอพอจะรู้เรื่องของเขากับภัคธีมาผ่านทางคนในบ้านบางคนที่แอบเล่าให้เธอฟัง นั่นก็คือพวกสาวใช้ แต่เธอรับปากว่ารู้แล้วจะปิดปากเงียบ ก่อนแต่งงาน ธรเองก็บอกเธอว่าเขารักผู้หญิงคนหนึ่งมาก ไม่สามารถรักเธอหรือใครได้อีก แต่ที่เขาแต่งงานเพราะแค่อยากช่วยเธอเท่านั้น “พี่ธรช่วยวิเอาไว้จากแม่เลี้ยงใจร้าย วิรักและนับถือพี่ธรเหมือนพี่ชาย สิ่งไหนที่จะทำให้พี่ธรมีความสุขได้ วิจะทำมันในทันทีค่ะ” วิไลลักษณ์เอ่ยกับธรด้วยสายตาเปล่งประกาย “เขาแต่งงานแล้ว พี่ก็แค่ได้คิดถึงเขาครับ” “พี่ไม่ได้ตามข่าวเขาเลยเหรอคะ” “เขามีสามีแล้ว พี่ไม่อยากทำให้เขาต้องอึดอัดใจ ไม่อยากไปตามตอแยให้เขาถูกเข้าใจผิดครับ” “พี่ธรเป็นคนดี เป็นสุภาพบุรุษเสมอ แต่วิมีเรื่องสำคัญจะบอกพี่ธรค่ะ” วิไลลักษณ์จำต้องเรื่องสำคัญนี้กับเขา เธอเองไม่รู้จะมีชีวิตยืนยาวไปได้อีกนานแค่ไหน “มีเรื่องอะไรเหรอครับ” “วิท้องคะ” “ครับ” เขารับคำเหมือนหลุดอุทานเสียมากกว่า “มีเรื่องอะไรที่ยังไม่ได้เล่าให้พี่ฟังหรือเปล่าครับ” ประโยคอบอุ่นของธรทำให้วิไลลักษณ์ร้องไห้ออกมาในทันที เธอปล่อยโฮออกมาอย่างสุดกลั้น ก่อนจะเล่าทุกอย่างให้เขาฟัง ไม่ใช่แค่มารดาเลี้ยงที่จ้องจะทำร้ายเธอ แต่ลุงเขยที่ดีกับบิดา มาเยี่ยมเธอวันนั้นเห็นว่าเธออ่อนแอป่วยอยู่ก็รังแกจนเธอได้เสียกับเขา และตกเป็นของเขา ที่เธอต้องขอร้องให้ธรแต่งงานด้วย และธรเผอิญรู้ว่าเธอกำลังจะโดนขายให้เสี่ย เพราะมารดาเลี้ยงหมายมั่นเอาไว้ว่าหากเธอไม่แต่งงานออกเรือนไป และมีสินสอดมาให้ ก็จะจับไปขายเสี่ย ให้เธอไปเป็นเมียน้อยก็ได้เงินเหมือนกัน “ไม่ต้องร้องนะ” เขาดึงเธอมากอดเอาไว้ พลางลูบหลังลูบไหล่ให้เบา ๆ อย่างปลอบโยน “วิไม่กล้าพูดเรื่องอัปยศนี้ให้ใครฟังเลย วิกลัว วิอาย วิทำอะไรไม่ถูก จนได้เจอกับพี่ธร พี่ธรคือแสงสว่างในชีวิตของวิ” เธอกราบไปที่อกของเขา “ไม่ต้องคิดมาก พี่จะรับเด็กคนนี้เป็นลูกของพี่เอง แล้วพี่ก็จะไม่บอกเรื่องนี้กับใครเด็ดขาด” “พี่ธร” เธอเรียกเขาอย่างซาบซึ้งใจ “ไม่ต้องคิดมากนะครับ พี่รู้ถึงความจำเป็นของวิ” “แต่วิจะคลอดก่อนเก้าเดือน จะบอกทุกคนว่ายังไงคะ” “ก็บอกว่าคลอดก่อนกำหนด วิไม่ต้องคิดอะไรมาก พี่จะจัดการเรื่องนี้เอง” วิไลลักษณ์กราบที่อกเขาอีกครั้ง เธอรู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณของเขายิ่งนัก วิไลลักษณ์ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง การที่เธอตั้งครรภ์คือข่าวดีของคนในครอบครัว เพราะธรนั้นบอกทุกคนว่าภรรยาของเขาท้อง แต่เด็กก็อยู่กับหล่อนได้ไม่นาน ก็ต้องเสียลูกไป รวมถึงตัววิไลลักษณ์เองก็เสียชีวิตตามไปด้วย ในวันที่ธรจัดงานศพให้วิไลลักษณ์ ภัคธีมาก็เจ็บท้องคลอด แม่ลูกจอมวายร้าย เตรียมทำตามแผนการทันที ลูกก็มีแผนการ แม่ก็มีแผนการ แต่ก็ต่างมีแผนการเอาไว้ในใจ “ไหนลูกของมลล่ะคะ” ภัคธีมาเอ่ยถาม “เธอเพิ่งคลอด ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง ฉันจะเลี้ยงเอาไว้เอง” นราเอ่ยขึ้น หลังจากที่ภัคธีมากลับมาพักฟื้นที่บ้าน ยังไม่ทันที่ภัคธีมาจะได้คุยอะไรกันอีก เสียงโทรศัพท์มือถือของนราก็ดังขึ้น นราคิดว่าเบอร์แปลกจึงไม่ได้กดรับสาย แต่สายนั้นก็โทร. มาไม่หยุดหย่อน “ใครโทร. มานี่ ไม่รับก็ยังจะโทร. มาอยู่ได้” นราอารมณ์ไม่ดี กดรับและกะว่าจะด่าให้เต็มคราบ แต่ประโยคจากปลายสายทำให้นราแทบทำมือถือตกพื้น “อะไรนะคะ ไม่จริง ไม่จริง” นราล้มทั้งยืน “คุณแม่เป็นอะไรคะ” “นทีตายแล้ว นทีตายแล้ว ฮือ ๆ นทีลูกแม่” ปลายสายคือพยาบาลที่โทร. มาจากโรงพยาบาล “คุณแม่ทำใจดีๆ เอาไว้นะคะ” ภัคธีมากอดร่างของนราที่เอาแต่ร้องห่มร้องไห้ เมื่อนราเอาแต่โศกเศร้าเสียใจ ภัคธีมาจึงต้องจัดงานศพให้สามีด้วยตนเอง โดยมีบิดามารดามาคอยช่วยเหลือ บิดานั้นไม่เอ่ยปากเรื่องปัญหาทางการเงิน และไม่รู้ด้วยว่ามารดาแอบเล่าให้เธอฟัง เธอรู้นิสัยของบิดาดีว่าเป็นคนหยิ่งในศักดิ์ศรีเพียงใด “ลูกกลับไปอยู่กับพ่อกับแม่ไหมจ๊ะ” ทิพย์สุคนเอ่ยขึ้น เธอนึกเป็นห่วงลูกสาวอย่างที่สุด “คุณนี่อะไรกัน ลูกชายเขาเพิ่งตาย คุณนราเขาไม่มีใคร คุณก็จะพาลูกกลับบ้านแล้วทิ้งเขาไว้คนเดียวหรือไง” พฤกษ์ตำหนิภรรยา “ฉันขอโทษค่ะ แต่ฉันเป็นห่วงลูกนี่คะ” ทิพย์สุคนกล่าวขอโทษ นางรู้สึกว่าแววตาที่นรามองลูกสาวของตนมันดูน่ากลัวแปลก ๆ คนเป็นแม่อย่างเธอก็นึกเป็นห่วงลูกเป็นธรรมดา งานศพทุกอย่างผ่านพ้นไป ภัคธีมาเริ่มเห็นว่าแม่สามีมักเอาลูกไปเลี้ยง ไปนอนด้วย พอเธอขอลูกมาเลี้ยงก็บอกว่าคิดถึงนที พสุธาคือตัวแทนของนที ลูกชายของเธอถูกคนเป็นย่าเลี้ยงดูไม่ให้ห่างกาย แค่เธอจะเข้าหาลูก แตะต้องตัวลูกก็โดนตวาดลั่นบ้าน “เธอจะไปไหนก็ไป ฉันเลี้ยงตาดินเอง” นราดึงหลานชายไปกอดเอาไว้แนบอก ก่อนจะไล่แม่ของหลานไปไกลๆ ภัคธีมายิ่งเครียดเมื่อเห็นท่าทีของแม่สามี เธอเริ่มคิดถึงคำพูดมารดาว่าไม่ไหวก็กลับไปอยู่บ้าน จึงรีบคุยโทรศัพท์กับมารดาอย่างจริงจัง เรื่องแผนการจะพาลูกหนี “คุณแม่ค่ะ หนูมีเรื่องสำคัญจะคุยกับคุณแม่ค่ะ” ภัคธีมายอมเปิดเปากเล่าบางส่วนให้มารดาฟัง และนัดแนะกันในทันที “ถ้าหนูเอาลูกมาได้ หนูจะรีบหนีออกไป คุณแม่กับคุณพ่อให้คนมารอรับหนูด้วยนะคะ” “ได้จ้ะ ลูกดูแลตัวเองให้ดีนะจ๊ะ” ทิพย์สุคนกำชับลูกสาว ถ้ารู้ว่าแต่งงานไปแล้วไม่ดี เธอจะไปพาลูกสาวกลับมาตั้งแต่ตอนนั้น นัดแนะกันอย่างดีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่อีกวันบิดามารดากลับประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตกะทันหัน ทำให้ภัคธีมาต้องล้มทั้งยืน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD