หญิงสาวมีอาการวูบวาบขนลุกซู่ไปทั้งตัว ไม่ใช่เพียงแค่สายลมเย็น ๆ ที่พัดผ่านเรือนร่างของเธอเท่านั้น
แต่มันเป็นเพราะท่อนเนื้อลำยาวที่อยู่ภายในเป้ากางเกงว่ายน้ำของเขามากกว่า เพราะมันกำลังเริ่มพองตัวชี้ส่วนหัวขึ้นมาถูไถตรงแก้มก้นของเธอ ระหว่างที่เขากำลังอุ้มอยู่ต่างหาก
“ข้างไหนที่เป็นตะคริวครับ” ภานุถามเธอหลังจากที่เขากำลังใช้สองมือเริ่มบีบนวดเรียวขาขาวเนียนของคนแกล้งเป็นตะคริวอยู่
“ข…ข…ข้างซ้ายค่ะ” หญิงสาวตอบกลับด้วยเสียงกระเส่า เพราะเธอรู้สึกเสียวสยิวที่ต้นขาซึ่งห่างจากเนินสวาทหวงห้ามไปไม่ถึงหนึ่งฟุต
ภานุใช้มือทั้งสองยกขาข้างซ้ายของวิกกี้ขึ้นมาแล้วบีบนวดไปทั่ว ทั้งต้นขา และปลายเท้าของเธอ
“อุ๊ย!...เอ่อ…คุณภานุคะ ไม่ต้องทำถึงขนาดนี้ก็ได้ค่ะ ปล่อยไว้เดี๋ยวมันก็คงหายไปเอง”
เธอพูดด้วยอาการเขินอาย เพราะการที่เขาจับขาเธอยกขึ้นแบบนี้มันทำให้หว่างขาของเธออ้าออก
จนกลีบเนื้อภายในบิกินี่ที่ไม่มีซับในแทบจะปลิ้นหลุดออกมาจากขอบเสียให้ได้
ระหว่างที่ภานุกำลังบีบนวดเรียวขาของวิกกี้อยู่นั้น เขาก็เผลอเหลือบมองลงไปเห็นเนินโหนกนูนและไรขนดกดำตรงวงขาของเธอ
‘ว้าว...เลขาคนนี้มีดีกว่าที่คิดเอาไว้เยอะเลย’
ภานุบอกกับตัวเองในใจ
“คุณภานุปล่อยขาฉันเถอะค่ะเดี๋ยวมันก็หาย แล้วอีกอย่างแฟนทั้งสองคนของคุณก็กำลังมองตาเขียวอยู่นะคะ ฉันกลัวว่าพวกเธอจะเข้าใจผิด”
“คนที่เข้าใจผิดน่าจะเป็นคุณนะ วิกกี้ เพราะสาวสวยทั้งสองในสระเธอไม่ใช่แฟนของผมนะครับ”
“อ้าว...แล้วเมื่อกี้นี้ คุณ..เอ่อ..มีอะไรกัน”
“คือผมกับสองสาวนั่นไม่ได้มีความรู้สึกอะไรทางใจกันเลยครับ เราเป็นเพียงเจ้านายกับลูกน้อง แบบว่า...อยากเมื่อไหร่ก็เรียกมา ไม่ต้องผูกพัน อาชีพของผมมันไม่ควรจะมีพันธะผูกพันอะไรกับใครน่ะครับ”
“ห๊า!...มีแบบนี้ด้วยเหรอคะ สัมพันธ์สวาทกันลึกซึ้งขนาดนี้ แต่ไม่ได้คิดอะไรกันเลย”
สายลับสาวนึกถึงสิ่งที่ผู้กองจักรกฤษณ์บอกเอาไว้ เกี่ยวกับลูกน้องสาวสวยสองคนของภานุ ซึ่งก็น่าจะเป็นแม่สองคนนี้แน่ ๆ
“ผมไม่มีเวลาเอาหัวใจไปให้ใครหรอกครับ วัน ๆ ก็ต้องเจอกับเรื่องเสี่ยง ๆ เลยไม่มีแฟนสักที”
หญิงสาวได้ยินเขาพูดแบบนั้นเธอก็แอบดีใจเล็ก ๆที่หัวใจเขายังว่างอยู่
เธอตอบตัวเองไม่ได้ว่าทำไมถึงรู้สึกเช่นนั้น อาจจะเป็นเพราะความเป็นสุภาพบุรุษที่อุ้มเธอขึ้นมาจากสระน้ำ
ความหล่อเหลาทั้งหน้าตาและรูปร่าง หรือลีลากับอารมณ์ของเขากันแน่ที่ทำให้เธอเริ่มหวั่นไหว
ครั้นเมื่อถึงคืนวันเสาร์ ปาร์ตี้สุดสวาทก็เริ่มขึ้นที่คฤหาสน์ของนายภานุมาเฟียหนุ่มคลั่งเซ็กส์
โดยภายในงานจะมีหญิงสาวนุ่งน้อยห่มน้อยเดินกันขวักไขว่ บรรดาเพื่อน ๆ รวมทั้งลูกค้าในธุรกิจมืดของภานุต่างพากันมาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง
“หวังว่าเราคงจะได้ทำธุรกิจร่วมกันต่อไปเรื่อย ๆนะครับ เสี่ยเดชา”
ภานุบอกกับเจ้าพ่อมาเฟียอาวุโสคนหนึ่งหลังจากได้คุยรายระเอียดในธุรกิจตัวใหม่เสร็จเรียบร้อย
“ผมเองก็ดีใจนะ ที่ได้เห็นคนหนุ่มรุ่นใหม่อย่างคุณภานุได้มายืนเทียบรัศมีกับผม คุณเองก็อายุยังน้อย จะคิดจะทำอะไรมันก็ต้องเป็นไปตามขั้นตอน อย่าไปข้ามหัวใคร ไม่อย่างนั้นมันอาจจะจบไม่สวยก็ได้”
คำพูดขึงขังแบบมีนัยยะของเสี่ยเดชา เจ้าพ่อใหญ่ในวงการมาเฟียผู้ซึ่งไม่มีความจริงใจให้กับใครเลยในวงการนี้ เอ่ยขึ้นพลางหรี่ตาเจ้าเล่ห์
ภานุและเสี่ยเดชาหลังจากที่นั่งคุยธุรกิจกันเสร็จแล้วก็ออกมาจากห้องประชุมส่วนตัวชั้นบน ก่อนจะลงมาสังสรรค์กันต่อที่งานปาร์ตี้ด้านล่าง
“จัดงานปาร์ตี้เพื่อบังหน้า ที่แท้ก็แอบมาวางแผนชั่วกันอยู่นี่เอง” วิกกี้สายลับสาวนั่งแอบมองพฤติกรรมของพวกเขาอยู่ตลอดเวลา
เวลาผ่านไปจนเริ่มดึก งานปาร์ตี้เริ่มเปลี่ยนเป็นกิจกรรมมั่วสวาท ทั้งหญิงทั้งชายนัวเนียกันพัลวันไปหมด ไม่ว่าจะเป็นหนึ่งชายกับสองหญิง หรือหนึ่งหญิงกับสองชาย
ทำเอาสายลับสาวเสียวสยิวไปกับสิ่งที่เห็นจนเธอต้องปลีกตัวออกมาจากงานรุมกินโต๊ะนั่น
แล้วแอบขึ้นไปยังชั้นบนเพื่อจะได้ฉวยโอกาสตอนที่ทุกคนกำลังมั่วกามกันอยู่ เพื่อทำงานชิ้นสำคัญของเธอให้สำเร็จรุล่วงให้ได้
วิกกี้เทเหล้าราดลงบนตัวเธอเอง แล้วทำเป็นเมามาย จากนั้นเธอก็แสร้งเดินโซซัดโซเซไปตามห้องต่าง ๆ
จนเธอได้พบกับหลักฐานสำคัญบางอย่างที่จะเอาผิดและเปิดโปงขบวนการทั้งแก๊งได้
“ในที่สุดฉันก็ได้มา หลักฐานเพียงแค่นี้น่าจะทำให้พวกมันติดคุกไปทั้งชาติได้เลย”
สายลับสาวถ่ายโอนข้อมูลการซื้อขายสิ่งของผิดกฎหมายจากคอมพิวเตอร์บนโต๊ะทำงานของภานุใส่เอาใว้ในยูเอสบีอันจิ๋วที่ทำขึ้นมาเป็นพิเศษ เสร็จแล้วเธอก็รีบเผ่นออกจากห้องนั้นทันที
ขณะนั้นเองสายลับสาวก็ได้ยินเหมือนมีคนกำลังเดินขึ้นมา เธอจึงรีบวิ่งเข้าไปหลบในห้องข้าง ๆ เพื่อหวังจะซ่อนตัว
แต่เธอดันต้องมาเจอกับแม่สองสาวสวยคู่สวาทของนายภานุ ที่อยู่ในอาการมึนเมาอะไรสักอย่าง โดยเธอทั้งสองกำลังแสดงบทเลสเบี้ยนกันอยู่บนเตียง