เพียงขวัญเดินไปรับกระเป๋ากับเสื้อสูทราคาแพงจากคชากรมาถือเอาไว้
สาวใช้นำน้ำมาเสิร์ฟให้ ในขณะที่คชากรรับน้ำมาดื่มก่อนกล่าวทักทายมารดาที่เคารพรัก
“วันนี้คุณแม่ไม่ออกไปไหนเหรอครับ” ปกติแล้วมารดาของเขาจะออกไปงานเลี้ยงสังสรรค์บ่อยครั้ง
“ไม่ได้ไปไหนจ้ะ” คริสาปลายตามองหลานสาวที่เดินลงมาจากชั้นบนของบ้านหลังจากที่นำเสื้อสูทและกระเป๋าเอกสารไปเก็บเรียบร้อยแล้ว
“พี่หมอคะ จะอาบน้ำเลยหรือเปล่าคะ ขวัญจะได้ผสมน้ำให้อาบ” น้ำเสียงนุ่มนวลและความเอาใจใส่ของเพียงขวัญทำให้คชากรยิ้มออกมา
“เราเพิ่งกลับมาเหรอ” เขาเอ่ยถาม
“เพิ่งกลับมาค่ะ” เธอตอบรับด้วยรอยยิ้ม คชากรมีน้ำใจเอื้ออารีต่อเธอเสมอ ดังนั้นเมื่อผู้เป็นป้าขอร้องสิ่งใด ที่จะดูแลรับใช้หรือช่วยเหลือคชากร เธอจึงยอมทำตามทุกอย่าง
“เพิ่งกลับมาก็ไปอาบน้ำอาบท่าเสียก่อนเถอะ จะได้สบายตัว พี่ขอคุยกับคุณแม่สักครู่”
“ค่ะพี่หมอ”
“ดูเอาเถอะ แม่พูดอะไรก็หาเรื่องขัดอยู่ร่ำไป พอเราพูดอะไรแม่ขวัญเขาทำตามอย่างไม่อิดออด แม่ชักน้อยใจแล้วสิ”
“โธ่... คุณป้าคะ ขวัญรักและเคารพคุณป้ามากนะคะ ขวัญไม่ได้คิดที่จะขัดคุณป้าเลยจริง ๆ ค่ะ” ท่าทีออดอ้อนของหลานสาวทำให้คริสาต้องลูบผมนุ่มของอีกฝ่ายไปมาเบา ๆ
“ก็ดีแล้ว ป้าเองก็รักเรามากเหมือนกัน”
“หนูรู้ค่ะ”
“ไปอาบน้ำเถอะ จะได้สบายตัวเหมือนพี่เขาว่า” คริสาพยักให้หลานสาว
“ค่ะคุณป้า” เพียงขวัญรับคำก่อนที่จะเลี่ยงขึ้นไปอาบน้ำบนห้องพัก
“คุณแม่มีอะไรกับผมเหรอครับ” คชากรเอ่ยถามมารดา เพราะก่อนกลับมาถึงบ้านท่านได้โทร. ไปบอกเขาว่ามีธุระต้องการจะคุยด้วย
“เรื่องแต่งงานของเรากับแม่ขวัญ” คริสาเอ่ยออกมา
“ต้องรีบขนาดนั้นเลยเหรอครับ” คชากรเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสุภาพตามแบบฉบับของเขา ภาพลักษณ์ของคุณหมอหนุ่มคือผู้ชายใจดี อบอุ่นและพูดจาไพเราะอ่อนโยน ดังนั้นคลินิกเสริมความงามของเขาจึงมีลูกค้าสาว ๆ เป็นจำนวนมาก
“ประกาศไปแล้วยังไงก็ต้องแต่งจ้ะ อีกอย่างหนึ่งยายขวัญก็บรรลุนิติภาวะแล้วด้วย มรดกที่ดินของพ่อแม่ยายขวัญก็ราคาสูงขนาดนั้น มันก็ต้องเป็นของเราสิ จะให้ตกไปเป็นของคนอื่นได้อย่างไรกัน”
“คุณแม่แค่อยากได้ที่ดินของเพียงขวัญเหรอครับ”
“รึเราไม่อยากได้ ที่ดินราคาแพงขนาดนั้น”
“เพียงขวัญรู้หรือยังครับว่าเขาได้รับมรดกเป็นที่ดินมีราคาขนาดนั้น”
“ยังจ้ะ เรื่องอะไรจะบอก ค่อยบอกตอนแต่งงานหรือไม่บอกเลยก็ได้ ใครจะมาบอกกันล่ะว่ายายขวัญได้ที่ดินเป็นมรดกมากมายมหาศาล ตอนแม่รับยายขวัญมาเลี้ยงก็ไม่มีญาติที่ไหน แม่เลี้ยงมันมาตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอย ยังไงมันก็ต้องตอบแทนบุญคุณของแม่”
“คุณแม่เลี้ยงเพียงขวัญเพราะอยากได้แค่ที่ดินมีราคาตรงนั้นแค่นั้นเองไม่ใช่เหรอครับ อย่าไปทวงบุญคุณกับเด็กมันเลย”
“นี่หยุดนะ ที่พูดจาบ่ายเบี่ยงอย่าคิดว่าแม่ไม่รู้นะ แม่ไม่สั่งให้เลิก แต่ถ้าไม่แต่งแม่ก็คงต้องใจร้ายกับเรานะตาหมอ”
“คุณแม่ก็ใจร้ายกับทุกคนนั่นแหละครับ เอาเถอะ ผมจะแต่งงานให้คุณแม่สมใจก็แล้วกันครับ”
“มันก็ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว” คำพูดเฉียบขาดของมารดาทำให้คชากรไม่พูดอะไรอีก เขายึดคติที่ว่าพูดไปสองไพเบี้ยนิ่งเสียตำลึงทอง
“เรื่องที่ร้าน คุณแม่ไม่ควรกดดันเพียงขวัญนะครับ”
“ยายขวัญฟ้องเราอีกรึ”
“ก็ไม่เชิงหรอกครับ แต่ผมคิดว่าคุณแม่ควรจ้างพนักงานเพิ่ม เพราะการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพจะทำให้เรามีรายได้เพิ่มขึ้นนะครับ”
“ที่แม่ทำแบบนี้เพราะไม่อยากให้ยายขวัญเติบโตยังไงล่ะ ขืนมีรายได้เยอะ มันก็อาจจะหาลู่ทางตีตัวออกหากเราน่ะสิ มันเก่งทั้งอาหารทั้งขนม เปิดร้านเองยังได้ ไม่ต้องพึ่งพิงเราหรอก”
“คุณแม่ระแวงไปหรือเปล่าครับ เพียงขวัญรักคุณแม่ยิ่งกว่าอะไร ไม่ทำอะไรแบบนั้นหรอกครับ ผมคิดว่าคุณแม่ควรจะสนับสนุนเพียงขวัญให้เจริญก้าวหน้าดีกว่านะครับ เพราะยังไงคุณแม่ก็มีหุ้นส่วนเยอะ จะบอกว่าเป็นเจ้าของตัวจริงยังได้เลย รายได้ทั้งหมดก็เป็นของคุณแม่นี่ครับ”
“เราคิดแบบนั้นเหรอ”
“ถ้าคุณแม่จะให้ผมแต่งงานกับเพียงขวัญ ก็ต้องอัพเกรดตัวเธอหน่อยสิครับ ให้เธอเป็นคนมีชื่อเสียงและเป็นที่สนใจ จะได้คู่ควรกับคุณหมอหนุ่มอนาคตไกล เจ้าของคลินิกเสริมความงามชื่อดังที่คุณแม่ปูทางมาตลอด คุณแม่เองก็พูดกรอกหูเพียงขวัญมาตลอดว่าต้องเป็นคนเก่งคนดีของสังคมเพื่อให้เหมาะสมกับการเป็นภรรยาของผม คุณแม่ลืมไปแล้วเหรอครับ”
“ก็จริงนะ”
“ถ้ามัวแต่คิดเล็กคิดน้อย เราจะไม่โตนะครับ งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ เหนียวตัวอยากอาบน้ำเต็มทีแล้ว” คชากรทิ้งท้ายกับมารดาเอาไว้แค่นั้น ก่อนจะเอ่ยขอตัว นั่นทำให้คริสาได้คิด แต่ความคิดของนางก็คือทำให้เพียงขวัญเป็นผู้หญิงที่ใคร ๆ ก็อยากได้ไปเป็นภรรยา แต่อยู่ภายใต้การควบคุมของเธอ เธอไม่มีทางให้เพียงขวัญหลุดกรอบไปชอบผู้ชายคนอื่นอย่างแน่นอน
“พี่หมอมาแล้วเหรอคะ แสดงว่าขวัญกะเวลาถูก ขวัญเตรียมน้ำเอาไว้ให้พี่หมอแล้วนะคะ”
“ขวัญนี่น่ารักจังเลย รู้ใจพี่ตลอด” เขาโยกศีรษะของเธอไปมาอย่างเอ็นดู ก่อนเดินเข้าห้องน้ำ จึงเห็นว่ามีผ้าขนหนู แปรงสีฟันที่บีบยาสีฟัน เตรียมเอาไว้ ส่วนบนที่นอนมีชุดที่เธอเตรียมเอาไว้ให้อย่างเรียบร้อย
“ถ้าพี่หมอต้องการอะไรก็เรียกหาขวัญได้นะคะ”
“ไม่แล้วครับ ขวัญทำงานมาเหนื่อย ๆ พี่ไม่รบกวนดีกว่าครับ พี่โตแล้วทำอะไรเองได้ ขวัญเองก็ควรมีเวลาเป็นของตัวเองบ้าง”
“แต่”
“อย่าไปฟังคุณแม่นักเลย พี่รู้ว่าคุณแม่กดดันให้ขวัญดูแลพี่ และวาดหวังจะให้ขวัญเป็นภรรยาที่ดีของพี่ แต่พี่ไม่ได้ต้องการภรรยาที่ดีที่สุดหรอกนะ เพราะไม่มีใครดีที่สุด พี่ต้องการเพียงภรรยาที่มีความสุข ที่จะอยู่กับพี่ไปตลอดชีวิตก็เท่านั้นเองครับ” ประโยคของคชากรทำให้เพียงขวัญยิ้มกว้างออกมา การได้อยู่กับพี่ชายคนนี้ทำให้เธอรู้สึกดีเสมอ
“ขอบคุณพี่หมอมากนะคะที่เข้าใจขวัญ”
“มีอะไรก็บอกพี่ได้นะ ไม่ต้องคิดมากเรื่องคุณแม่หรอก พี่ขอตัวไปอาบน้ำก่อน เดี๋ยวเรากินมื้อค่ำด้วยกันนะครับคนดี พี่รู้สึกหิวมากเลยตอนนี้”
“ค่ะพี่หมอ” เธอรับคำก่อนจะเลี่ยงออกมาจากห้อง
ปกติแล้วคชากรไม่กินอาหารหนักในมื้อค่ำ มื้อค่ำจึงเป็นแค่อาหารเบา ๆ พวกสลักผักผลไม้ และพวกถั่วต่าง ๆ มีโยเกิร์ต มีน้ำผักผลไม้ปั่นไม่ใส่น้ำตาล แค่นั้นก็ทำให้อิ่มท้องแล้ว อาหารมัน กะทิและอาหารทอดคชากรหลีกเลี่ยงเสมอ เขาไม่รับประทานมันหากไม่จำเป็น
เธอรู้ดีว่าเขาห่วงใยสุขภาพ ดังนั้นเธอจึงพลอยได้รับประทานอาหารที่ดีมีคุณภาพไปด้วย เพราะเธอต้องทำอาหารให้เขารับประทานแทบทุกมื้อ จึงทำเผื่อตัวเองด้วย
“เมนูของเราอร่อยทุกอย่าง นี่ถ้าทำเมนูเพื่อสุขภาพขายด้วยพี่ว่าต้องขายดีเป็นเทน้ำเทท่าแน่ ๆ ปัจจุบันนี้ คนหันมาใส่ใจต่อสุขภาพกันมากนะ” คชากรพูดกับเพียงขวัญขณะรับประทานอาหารด้วยกัน
“ไอเดียพี่หมอดีมากเลยค่ะ ขวัญก็คิดอยู่เหมือนกันค่ะว่าจะมีอาหารเมนูเพื่อสุขภาพเพิ่มเข้าไปในร้าน เรามีบริการส่งถึงบ้านด้วย น่าจะตอบโจทย์คนที่ไม่ค่อยมีเวลาและใส่ใจต่อสุขภาพพอสมควรค่ะ”
“พี่สนับสนุน อาหารฝีมือของเรานะ อร่อยทุกอย่าง ทำแพ็กเก็จสวย ๆ พี่ว่าต้องขายดีแน่นอน พี่เชื่อแบบนั้น”
“ขอบคุณนะคะ” เธอยิ้มกว้างให้เขา มีความสุขเสมอที่คชากรคอยสนับสนุนเธอในทุก ๆ ทาง