CHAPTER 2 - สามีคนใหม่
เช้าของวันรุ่งขึ้นหญิงสาวได้อาบน้ำแต่งตัวด้วยชุดสีหวานสุภาพสีชมพูขาวบริสุทธิ์ แสดงให้เห็นถึงกุลสตรีที่มีความอ่อนน้อมถ่อมตนและยังเป็นสาวบริสุทธิ์ที่ไม่เคยมีใครแตะต้องมาก่อน
" เสร็จแล้วค่ะคุณพ่อ " เสียงหวานในของคนตัวเล็กบอกชายหนุ่มวันกลางคนที่ตอนนี้อยู่ในชุดสูทสีดำแสนสุภาพเรียบร้อย วันนี้เธอกับคุณพ่อนั้นจะต้องไปที่บ้านของเจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งประเทศไทย ตระกูล 'สุวภากร'
" ลูกสาวพ่อสวยมากๆ " ชายหนุ่มวัยกลางคนเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน พร้อมกับจับมือลูกสาวของตนเองไว้ ก่อนจะพากันเดินไปขึ้นรถเบนซ์สีดำที่มีคนขับรถขับไปส่งถึงคฤหาสน์ตระกูลสุวภากร
ใครๆต่างก็รู้จักตระกูล 'สุวภากร' ไม่ว่าจะเป็นคนดังระดับโลก หรือจะนักธุรกิจระดับประเทศ เมื่อพูดถึงชื่อตระกูลนี้ทุกคนนั้นล้วนต่างเอ่ยปากด้วยคำว่า
อ๋อ... เพราะแทบจะไม่มีใครเลยที่จะไม่รู้จักนามสกุลนี้ ยกเว้นแต่หญิงสาวใบหน้าหวานสวยคนนี้ที่กำลังจะได้เป็นภรรยาของลูกชายเจ้าของบริษัทนี้ เธอนั้นแทบจะไม่รู้จักอะไรแบบนี้เลย อาจจะเป็นเพราะเธอไม่ได้คิดจะสนใจหรือใส่ใจ
" คุณพ่อคะ สุวภากรโด่งดังถึงระดับประเทศเลยเหรอคะ ? " หญิงสาวเอ่ยถามคุณพ่อตัวเองด้วยความสงสัย พลางเลื่อนสมาทโฟนของเธอไปมา ตอนนี้เธอกำลังหาข่าวสารกับตระกูลนี้อยู่
" ใช่แล้วละ... แต่ก่อนเจ้าของบริษัทเคยเป็นเพื่อนสนิทของพ่อ " ชายหนุ่มวัยกลางคนยิ้มอ่อนออกมา พลางนึกถึงอดีตที่ผ่านนานมาแล้ว เขานั้นเคยเป็นเพื่อนสนิทด้วยกันมาก่อน แต่ก็ต้องมาผิดใจกันเมื่อเขาทั้งคู่นั้นแอบรักผู้หญิงคนเดียวกัน ซึ่งผู้หญิงคนนั้นก็เป็นแม่ของขนมนั่นเอง
" เคยเป็นเพื่อนสนิทของคุณพ่อเหรอค่ะ ? "
" ใช่ แต่มันก็ผ่านมานานแล้วละ ปัจจุบันเราก็เป็นคู่แข่งกัน "
" อ๋อค่ะ... " หญิงสาวพยักหน้า เมื่อเห็นแววตาของชายหนุ่มวัยกลางคนตรงหน้านั้นดูเศร้าสร้อย เธอก็ไม่อยากจะเอื้อนเอ่ยคำถามใดๆออกมาอีกแล้ว สายตาคูาสวยก้มมองลงตรงหน้าจอโทรศัพท์ก็เห็นข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับบริษัทคู่แข่งของคุณพ่อ เขามีลูกชายอายุวัย 28 ที่อนาคตต้องขึ้นเป็นประธานบริษัทแทนพ่อของตัวเอง
" หน้าตาหล่อใช้ได้เลยแหะ... " หญิงสาวบ่นออกมาพึมพำ เมื่อจ้องมองหน้าจอโทรศัพท์ปรากฏภาพชายหนุ่มหน้าคมเข้ม ผมสีดำสนิท อยู่ในชุดสูทสีดำ ยิ่งมองเท่าไหร่ก็ชวนให้หลงใหลจริงๆ ไม่แปลกเลยที่หลายๆคนอยากจะได้เขาเป็นสามี แต่สำหรับเธอนั้นคงไม่... ต่อให้เขารวยล้นฟ้ามากแค่ไหน เธอก็อยากจะแต่งงานกับคนที่เธอรักที่สุดมากกว่า
ไม่นานนักรถเบนซ์สีดำหรูก็ขับมาจอดในคฤหาสน์ของตระกูลสุวภากร หญิงสาวกับคุณพ่อของเธอก็เดินเข้าไป พร้อมกับมีแม่บ้านนับสิบคนคอยต้อนรับเป็นอย่างดี หญิงสาวเริ่มจะทำตัวไม่ถูก เพราะคฤหาสน์หลังนี้นั่นใหญ่กว่าบ้านของเธอเป็นสิบเท่า...
" อ้าว มาแล้วเหรอคุณภูพา " เสียงทุ้มเข้มของชายวัยกลางคนเอ่ยขึ้น ทำให้หญิงสาวสะดุ้งเฮือก พลางเหลือบไปมองผู้ชายคนหนึ่งที่มีวัยเดียวกับคุณพ่อของเธอ
" ไม่ได้เจอกันนานนะเพื่อนรัก " คุณพ่อของขนมเอายขึ้น พร้อมกับยิ้มมุมปาก ก่อนที่จะให้เจ้าของบ้านนั้นเชิญพวกเขาทั้งสองเข้าไปในห้องทำงานอันแสนกว้างใหญ่ เพื่อคุยถึงความสัมพันธ์ทางธุรกิจ
" ฉันคิดถึงนายจริงๆ "
" ฉันก็คิดถึงนายเหมือนกันภาคิน " ภูพา ชายวัยกลางคนเอ่ยขึ้นพร้อมกับเสียงหัวเราะ พลางนั่งเก้าอี้ตรงข้ามกับเกอเก่าของเขา
" ลูกนายนี่หน้าเหมือนจินดาพรจริงๆ " ชายวัยกลางคนตรงหน้าหญิงสาวเอ่ยขึิน พร้อมกับยิ้มบางๆ ทำให้เธอต้องยิ้มกลับไปตามมารยาท พร้อมกับยกมือไหว้เปรียบเหมือนสวัสดีเขา ถึงจะช้าไปหน่อยก็ตาม...
" สวยเหมือนกันใช่ไหมละ "
" ใช่ สวยมาก สมแล้วที่จะเป็นลูกสะใภ้ฉันในอนาคต " ชายหนุ่มวัยกลางคนหัวเราะพร้อมกับยิ้มคำ " อ่า... ฉันคิดว่าเราควคุยเล่นกันพอแค่นี้เถอะ มาคุยเกี่ยวกับเรื่องแต่งงานดีกว่า "
" อืม ฉันก็ว่างั้น " ภูพาพยักหน้าอย่างเห็นด้วย หญิงสาวได้แต่นั่งนิ่งลอบมองท่าทางของคนวัยกลางคนทั้งสองคน ตอนนี้เธอก็ทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน ปล่อยให้เขาคุยกันไปดีกว่า... แต่แล้วเธอก็มีคำถามที่อยากจะถาม...
" คุณภาคินค่ะ หนูมีเรื่องจะถาม... " อยู่ๆขนมก็เอ่ยถามชายวัยกลางคนตรงหน้าของเธอ
" อะไรเหรอจ๊ะ หนูเรียกว่าคุณอาก็ได้ ไม่ต้องเรียกเต็มชื่ออย่างงั้นหรอก "
" เอ่อ... คุณอาจะไม่เทคโอเวอร์บริษัทของคุณพ่อหนูได้ไหมค่ะ เดี๋ยวหนูจะหาเงินมาชดใช้ให้ได้ อาจจะนานสักหน่อย แต่ว่าคงไม่นานเกินรอหรอกค่ะ... " หญิงสาวเอ่ยออกมา ถ้าเขาเกลี้ยกล่อมคนใจดีตรงหน้าได้ เธออาจจะไม่ต้องแต่งงานก็ได้...
" หืม... เทคโอเวอร์ ? " ชายหนุ่มวัยกลางคนถึงกับขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
" นี่ๆ ภาคิน ฉันมีเรื่องจะคุยกับนาย ขอเวลาสักนิดสิ " ภูพาคุณพ่อของขนมแทรกขึ้นระหว่างบนสนทนาของทั้งสอง ก่อนที่จะซุบซิบอะไรบางอย่างกับเกอเก่าของเขา
" อ๋อ ฉันเข้าใจแล้ว... " ภาคินพยักหน้าอย่างเข้าใจภูพา
" คุณอาค่ะ ถือว่าหนูขอร้องละนะคะ " หญิงสาวบอกออกมา เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มวัยกลางคนนั้นมองมาที่เธอ เขามีแววตาที่ใจดีมากๆ คงไม่มีทางใจร้ายกับเธอได้อย่างแน่นอน แถมคุณพ่อของเธอยังเป็นเพื่อนสนิทกับเขาด้วยแท้ๆ
" อาคงตอบรับข้อเสนอหนูไม่ได้หรอก " ชายวัยกลางคนเอ่ยพร้อมกับรอยยิ้ม ทำให้หญิงสาวถึงกับหน้าซีดเผือดไปแทบจะทันที
หมดความหวัง ต้องแต่งงานจริงๆใช่ไหม
" พ่อมีอะไรก็รีบคุยสักที จะออกไปทำงานแล้ว " จู่ๆเสียงทุ้มเข้มของชายหนุ่มคนหนึ่งก็ดังขึ้นมาภายในห้องทำงาน ทำให้ทุกสายตาต้องหันไปมองต้นตอของเสียง
" อ้าวเตคิน ชักช้าจริง บอกให้ลงมาหาพ่อตั้งนานแล้ว " ชายหนุ่มวัยกลางคนซึ่งน่าจะเป็นพ่อของเขาเอ่ยบอกลูกชายตัวดีที่เอาแต่รักสนุก ทำงานแต่โลกใต้ดิน...
" เฮ้อ " ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่ พลางเหลือบมองหญิงสาวใบหน้าหวานสวย ก่อนจะนั่งลงไปบนโซฟาสีดำหรู
" เอาละเราว่าคุยเรื่องแต่งงานกันดีกว่า " ภาคินเอ่ยขึ้น
" พ่อ ไม่อยากแต่งเลยว่ะ เห็นหน้ายัยนี่แล้วหมดอารมณ์ " ปากร้ายๆของชายหนุ่มเอื้อนเอ่ยออกมา ทำให้หญิงสาวแทบจะอยากบีบคอเขา เห็นตัวจริงเขานั้นหล่อกว่าในรูปเป็นหลายเท่า แต่ทำไมนิสัยและคำพูดของเขามันช่างปากหมาอย่างนี้นะ นี่สินะที่เขาเรียกว่า สวยแต่รูปจูบไม่หอม
" ฉันก็ไม่อยากแต่งงานกับนายเหมือนกัน! " หญิงสาวพูดออกมา เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มตรงหน้าเธอนั้นมองเธอด้วยสายตาดูถูกเหยียบหยาม
" เอาน่าใจเย็นๆนะทั้งสองคน " ภูพาเอ่ยขึ้น พร้อมกับจับไหล่ของลูกสาวตัวเองให้เธอนั้นสงบสติอารมณ์ลง
" เตคินอย่ามาปากเสียกับน้องแบบนี้นะ " ผู้เป็นพ่อเอ่ยดุ ก่อนจะหยิบใบทะเบียนสมรสออกมาให้ทั้งคู่จดทะเบียนกัน " งานแต่งงานคงจะยังไม่จัด แต่อาจะให้เราทั้งสองคนจดทะเบียนสมรสกันไว้ก่อน "
" หมายความว่าไงค่ะ ? " หญิงสาวถามออกมาอย่างไม่เข้าใจ เขาจะให้พวกเธอจดทะเบียนสมรส แต่ไม่จัดงานแต่งงานงั้นเหรอ
" ใช่ เพราะอาว่ามันคงไม่เหมาะเท่าไหร่ถ้าหนูที่เป็นดารานั้นต้องมาแต่งงานตอนที่กำลังจะโด่งดัง " ชายหนุ่มวัยกลางคนเอ่ยออกมาอย่างยิ้มๆ เขานั้นรู้ดีว่าหญิงสาวกำลังจะโด่งดัง เพราะช่วงนี้เธอนั้นแทบจะแสดงละครหลายๆเรื่อง อีกทั้งยังมีงานถ่ายแบบ โฆษณาสินค้า
" คะ ค่ะ... " หญิงสาวพยักหน้า ดีแล้วที่ไม่มีการแต่งงาน แค่จดทะเบียนสมรสกันเฉยๆ ยังมีสิทธิ์หย่ากันได้...
ไม่นานนักหญิงสาวและชายหนุ่มก็โดนผู้เป็นพ่อของตัวเองบังคับให้เซ็นชื่อในทะเบียนสมรส ไม่ถึงนาทีก็เสร็จสิ้น