โดยปกติผู้ที่งดงามยั่วยวนเช่นนี้นอกจากปีศาจที่ตบะแสนปีจะปลอมกายมาเขาก็ไม่อาจคิดเป็นอื่นได้ แต่เขาได้ตรวจสอบแล้วนางผู้นี้ไม่มีกลิ่นปีศาจติดกายเลย
"พวกเจ้าถอยไปปล่อยนางเข้ามา"
เสียงใสของสตรีผู้งดงามดังก้องขึ้นทั่วตำหนักทักษิณ โดยที่ไม่ต้องฟังคำสั่งซ้ำเหล่าเทพเซียนที่เฝ้าประตูและเซียนรับใช้อีกหลายคนก็หลีกทางให้นาง สายตาสงสัยอยากรู้อยากเห็นยังตามติดนางไม่ได้ห่าง
ทันทีที่ก้าวขาเข้าไปในตำหนักที่ประทับของเจ้าแม่อันคุ้นเคย จิ้งจอกเก้าหางก็พบเซียนผู้งดงามเปรียบประดุจดอกไม้ที่เบ่งบานต้อนรับอรุณผู้หนึ่ง นางมองเซียนผู้นี้ด้วยความชื่นชม เห่าออกไปสองสามที เซียนผู้นั้นเห่าตอบและแย้มยิ้มงดงามสดใสให้กับนาง
"ท่านเป็นเซียนรับใช้คนใหม่ของเจ้าแม่หรือ ท่านงามนักข้าไม่เคยพบผู้ใดงดงามเท่าท่านมาก่อน ข้าเป็นสัตว์เวทของเจ้าแม่"
นางขมวดคิ้วเมื่อพบว่าเซียนผู้นั้นเอ่ยตามนางทุกคำทุกประโยคไม่มีตกหล่น ก่อนจะชี้ไปที่นางผู้นั้น
"ท่านคือผู้ที่หยั่งรู้จิตใจข้าหรือ"
นั่นอย่างไรเล่าเซียนผู้นั้นพูดตามอีกแล้ว จิ้งจอกเก้าหางเกาศีรษะนางก็เกาด้วย นางจับใบหูสตรีผู้นั้นก็จับด้วย ถ้านางกระดิกหางเล่าสตรีผู้นั้นจะเอาหางที่ไหนมากระดิก จิ้งจอกเก้าหางมองหางของตนเองสตรีผู้นั้นก็มองด้วยเช่นเคย
เอ๊ะ แล้วหางของข้าหายไปไหน
ครั้นไม่พบหางตนเองจิ้งจอกเก้าหางจึงวิ่งวนรอบร่างเพื่อไล่หาหางของตนเป็นวงกลมชั่วครู่ใหญ่ ในที่สุดจิ้งจอกเก้าหางก็ยอมแพ้นั่งลงอย่างหมดแรง
"เจ้าเลิกเล่นแล้วหรือ" เจ้าแม่กวนอิมเอ่ยพลางยิ้มพลางหัวเราะเบาๆ
"เจ้าแม่เจ้าขา ท่านมาแล้วหรือก้อนเมฆน้อยคารวะเจ้าแม่กวนอิม เป็นนางผู้นั้นต่างหากที่เล่นและข้าเพียงแต่หาหางของตนเองไม่เจอ" นางคอตกสำนึกผิดที่ตนเองลืมสำรวมในตำหนักทักษิณ
"นางผู้ใด" เจ้าแม่กวนอิมเอ่ยขึ้น
"ผู้นั้นเจ้าค่ะ" นางชี้ไปยังอีกด้าน
"เจ้าดูดีๆ ว่าสิ่งนั้นคืออะไร"
"ท่านเซียนผู้งดงามไม่ใช่หรือเจ้าคะ"
จิ้งจอกเก้าหางเอ่ยขึ้นแล้วมองไปที่คนผู้นั้นด้วยดวงตาเบิกกว้าง พลันดวงตาก็ส่องสว่างเป็นประกายเมื่อพบว่าสิ่งที่นางคิดว่าเป็นเทพเซียนผู้งดงามคือกระจกบานหนึ่งเท่านั้นเอง
จิ้งจอกเก้าหางน้อยลุกขึ้นเดินไปด้านหลังกระจกก่อนจะกลั้นหายใจด้วยความตื่นเต้นแล้วค่อยๆ เดินมาด้านหน้า เทพเซียนผู้งดงามปรากฏอยู่เบื้องหน้า นางสำรวจร่างตนเองด้วยนิ้วมือสั่นระริก เมื่อมองจนเต็มตาก็รู้สึกยินดีปนหวาดหวั่นด้วยตกตะลึงในรูปโฉมที่งดงามของตนเอง นางก้าวถอยหลังไปหลายก้าวทั้งหยิกทั้งข่วนตนเองให้ตื่นจากฝันอันงดงามนี้ แต่นางเจ็บจริง ไม่ใช่ฝันหรอกหรือ
"เป็นตัวศิษย์หรือเจ้าคะ" แม้แต่เสียงของตนเองยังไพเราะเพราะพริ้งราวกับจิ้งหรีดกินน้ำค้างทิพย์จนจิ้งจอกน้อยตกใจ
"ข้าผู้เป็นอาจารย์ยินดีกับเจ้าด้วยในที่สุดความพยายามของเจ้าก็บรรลุผล"
เจ้าแม่เอ่ยจบแล้วตวัดแส้ในมือพาร่างของเจ้าสุนัขจิ้งจอกเก้าหางที่กลายเป็นเซียนผู้งดงามขึ้นสู่เบื้องบนของทะเลทักษิณ เหนือพื้นน้ำยามนี้ภายใต้แสงจันทร์กระจ่างจึงปรากฏร่างกายสตรีผู้งดงามสองคนลอยเด่นภายใต้วงกลมสีทองสุกสกาว
เจ้าจิ้งจอกเก้าหางยังไม่ทันได้หายตกตะลึง ก็ได้รับความปรีดายิ่งขึ้นเมื่อเจ้าแม่เอ่ยกับนางว่า
"เพราะเจ้าหมั่นภาวนาจิตใจแน่วแน่จึงบรรลุเป็นเซียนได้อย่างตั้งใจข้าขอชื่นชมนัก บัดนี้ได้เวลาทำพิธีต้องรับเจ้าอย่างเซียนผู้อื่น ภายใต้แสงจันทร์สุกสกาวของเทพจันทราข้าขอมอบชื่อให้เจ้าว่าฮวาเย่ห์หยวนหมายถึงดวงจันทร์อันงดงาม แต่เพื่อเป็นการตอบแทนสวรรค์เจ้าต้องทำภารกิจบางสิ่งให้สำเร็จ ในวันพรุ่งนี้ข้าจะนำพระราชสานจากองค์เง็กเซียนมาให้เจ้าจงรอคอยให้ดี"
"ขอบคุณท่านอาจารย์เจ้าค่ะ"
เจ้าสุนัขจิ้งจอกเก้าหางได้รับนามใหม่ว่า "ฮวาเย่ห์หยวน" มีชื่อแซ่เป็นของตนเองเปรียบประดุจคำให้พรของเจ้าแม่กวนอิมทำให้นางอิ่มเอมและมีความสุขยิ่งนัก นางสาบานต่อหน้าเจ้าแม่ภายใต้แสงจันทร์ไม่ว่าต้องเอาวิญญาณเข้าแลกนางก็จะทำภารกิจเพื่อตอบแทนสวรรค์ให้สำเร็จ