ครึ่งชั่วโมงต่อมา
น่านฟ้าพาเพื่อนน้องสาวไปส่งข้างกำแพงก่อนถึงหน้าประตูรั้วของมนสิชา สาวน้อยก้าวลงจากรถด้วยความยากลำบากเจ็บเสียดที่กลีบกายสาว ร่องรักของเธอถูกเขาตำกระแทกนับครั้งไม่ถ้วน ส่งเธอทะยานสู่สวรรค์แสนวิเศษจนแทบลืมความสุขในช่วงเวลานั้นไม่ลง
หลังจากนั้นพี่น่านก็ทำตามคำพูดที่ให้ไว้ไม่มีผ่อนปรน ก่อนกลับบ้านทุกเย็นเขากับเธอต้องมีความสัมพันธ์กันหนึ่งถึงสองรอบในเวลาจำกัด ช่วงแรกร่างกายเธอยังปรับตัวรับขนาดเขาไม่ได้ บางวันเธอถึงกับเดินขาถ่างจนสาวใช้ในบ้านทักแทบหุบขาหากันไม่ทัน
ตอนนี้เธอเริ่มเหนื่อยใจแล้ว เวลาพี่น่านมารับเธอทีไรต้องพาไปคอนโดทุกที นอกจากเรื่องเซ็กซ์แล้วเหมือนไม่มีเรื่องอื่นให้พูดกัน นี่มันห่างไกลจากคำว่าแฟน มันเหมือนกับเธอเป็นนางบำเรอคอยอ้าขาให้เขาตักตวงเอาความสุขจากเธอมากกว่า!
ให้ทุกอย่างเป็นอย่างนี้ต่อไปคงไม่ดีแน่ เธอเป็นผู้หญิงไม่ว่ามองมุมไหนก็มีแต่เสียเปรียบและเสียหาย อีกอย่างหนึ่งคือพี่น่านไม่เห็นมีท่าทีเปลี่ยนไปเลยสักนิด จะชอบเธอสักนิดก็ไม่มี
เขาไม่เคยชวนเธอคุยเรื่องในชีวิตประจำวัน ไม่เคยชวนไปเที่ยวข้างนอก หรือชวนเธอไปเลี้ยงมื้อเย็น คนเป็นแฟนกันกลับไม่มีเรื่องพูดอื่นเลย
เธอชักเริ่มท้อใจแล้วสิ ที่ว่าให้ใช้ร่างกายผูกมัดเขาไว้ก็คงเป็นได้เท่านี้
มนสิชาถอนหายใจยาวนานหลังจากตัดสินใจเรื่องสำคัญได้แล้ว วันนี้เธอเลิกเร็วจะไปหาเขาที่บริษัท เดิมทีเธอไม่อยากก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของเขา เมื่อเขาพูดว่าจะรับผิดชอบเธอก็เต็มใจเชื่อ แต่ตอนนี้เธอเชื่อคำพูดเขาไม่ไหวแล้ว
หญิงสาวนั่งรถแท็กซี่ไปยังที่ทำงานของแฟนหนุ่มที่เป็นพี่ชายของเพื่อนสนิท ช่วงนี้ยายน้ำค้างก็ดูแปลกไปเหมือนกัน ไม่รู้แอบปิดบังอะไรไว้ เธอไม่ได้ถามเพราะกำลังหัวหมุนอยู่กับพี่น่าน แค่เรื่องของตัวเองก็ชวนปวดหัวมากพอแล้ว เธอจึงปล่อยให้น้ำค้างจัดการเรื่องของตัวเองไป ยกเว้นว่ามันแก้ปัญหาไม่ได้จริงๆ เธอค่อยสอดมือไปยุ่ง
บริษัทของพี่น่านไม่ใหญ่มาก พื้นที่กะทัดรัดตกแต่งเรียบง่าย เน้นวางกระถางต้นไม้ตามมุมต่างๆ เพิ่มสีเขียวให้ดูร่มเย็น ระหว่างเดินเข้ามาในตึกมีพนักงานหลายคนมองเธอด้วยสายตาสงสัย เธอเดินไปหยุดยืนหน้าโต๊ะของฝ่ายต้อนรับลูกค้า
“คุณน่านฟ้าอยู่ที่บริษัทหรือเปล่าคะ”
“ไม่ทราบว่าคุณลูกค้าชื่ออะไรคะ และต้องการติดต่อเรื่องอะไร”
“ฉันเป็นแฟนของพี่น่านค่ะ”
“แฟน?” พนักงานสาวสวยคนเดิมเบิกตากว้างมองเด็กนักศึกษาสาวตรงหน้าด้วยสายตาไม่เชื่อ
อายุของเธอยังไม่ถึงยี่สิบด้วยซ้ำจะเป็นแฟนของคุณน่านฟ้าได้ยังไง ยายเด็กนี่ต้องแอบอ้างแน่ แล้วเธอก็ไม่เคยได้ยินว่าคุณน่านมีแฟน หรือต่อให้มีจริงก็ไม่คว้าเด็กคนนี้หรอก มีผู้หญิงหลายคนที่สนใจเจ้านายพวกเธออยู่ ถ้าจะคบหาดูใจคงจะเลือกจากบรรดาคุณหนูไฮโตมีชาติตระกูล
“ฉันเป็นแฟนจริงๆ บอกพี่น่านก็ได้ว่าน้องมิ้นท์มาหา”
“หยุดพูดจาเหลวไหลได้แล้ว คุณน่านยังโสดอยู่ ถ้ามีแฟนทุกคนในบริษัทนี้ก็ต้องรู้สิ จะเก็บซ่อนไม่ยอมบอกคนอื่นทำไม เธอรีบออกไปก่อนที่ฉันจะเรียกรปภ.มาพาตัวออกไปจะดีกว่า”
“พี่น่านไม่เคยบอกใครว่ามีแฟนแล้ว? พวกคุณไม่เคยได้ยินเรื่องนี้เลยสักนิดเหรอ”
“ก็ใช่นะสิ! เธอจะวิ่งไปถามใครก็ได้ นี่แม่หนูน้อย เธออายุเท่าไหร่กันเชียว คุณน่านทั้งเก่งทั้งมีฐานะจะมามองเด็กผู้หญิงใสซื่ออย่างเธอทำไม มีผู้หญิงตั้งมากมายเท่าไหร่ที่ใกล้ชิดกับคุณน่าน เขาไม่ชายตาแลเธอหรอกนะ กลับไปเถอะ อย่ามาสร้างความวุ่นวายที่นี่เลย”
ยายเด็กนี่ต้องคิดจะจับเจ้านายเธอแน่นอนล้านเปอร์เซ็นต์ ตัวแค่นี้ก็ริอ่านทำตัวแรดวิ่งไล่จับผู้ชายแล้ว นังเด็กหน้าไม่อาย
“ไม่ต้องไล่หรอกค่ะ ฉันเดินเข้ามาได้ก็เดินออกไปเองได้ แต่ฉันเป็นแฟนพี่น่านจริงๆ เย็นนี้เจอกันฉันจะบอกว่าคุณต้อนรับฉันดีมาก แล้วมาดูกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น”
มนสิชาฝากคำพูดทิ้งท้ายให้กับพนักงานต้อนรับคนนั้น ก่อนจะหมุนตัวเดินออกจากบริษัทด้วยสีหน้าเซื่องซึมห่อเหี่ยว เธอโบกมือเรียกรถแท็กซี่ตรงกลับบ้านเลย วันนี้เธอไม่อยากเห็นหน้าพี่น่าน ทุกคำที่เขาสัญญาไว้ไม่มีความจริงใจเจือปนอยู่เลย ถ้าเขาไม่คิดจะรับผิดชอบจริงๆ ก็ไม่น่ามาให้ความหวังกัน
เธอไม่อยากถูกเขาเก็บซ่อนไว้ในเงา เป็นได้แค่เครื่องมือบำบัดความใคร่มีหน้าที่สร้างความสุขทางกายให้เขา
เย็นวันนั้นเสียงเรียกเข้าดังหลายต่อหลายครั้ง ล้วนเป็นเบอร์ของน่านฟ้าทั้งสิ้น มนสิชาเหลือบมองแป๊บเดียวก็ละสายตาออกมา เธออาบน้ำเสร็จเตรียมตัวจะนอนพักผ่อนแล้ว หลายวันมานี้พี่น่านเพลิดเพลินกับการเล่นงานเธอมากเกินไป ถึงจะมีคำพูดปลอบประโลมมากมายล้วนเป็นการหลอกล่อให้เธอยอมมีเพศสัมพันธ์กับเขา
“พอแล้วดีกว่า คนไม่รักตื๊อไปก็เท่านั้น ได้ตัวมาแต่ไม่ได้หัวใจจะมีประโยชน์อะไร ช่างไม่คุ้มค่าเลยจริงๆ”
มนสิชาตัดสินใจส่งเมสเสจหาน่านฟ้าพิมพ์ข้อความที่คิดไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนแล้ว ก่อนกดส่งไปให้อีกฝ่าย เนื้อหาสาระมีไม่มาก เธอเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ให้น่านฟ้ารับรู้โดยละเอียด ความผิดของเขาคือการไม่ยอมบอกคนอื่นว่าเธอกับเขาคบเป็นแฟนกัน หรือถ้าไม่บอกก็ควรต้องให้คนอื่นรู้ว่าไม่โสดแล้ว แต่ไม่ยังพร้อมเปิดตัวแฟนสาวก็ได้
เขาเก็บเงียบไม่เปิดเผยอย่างนี้เหมือนจงใจเก็บเธอไว้ในความลับ แค่เล่นสนุกไปวันๆ จนเบื่อค่อยโยนทิ้ง นี่คือความรับผิดชอบของเขา ถ้าทำได้แค่นี้อย่าดีกว่า เพราะมันยิ่งทำให้เธอเสียใจที่หลงรักผู้ชายอย่างเขา
‘เรายุติความสัมพันธ์กันเพียงเท่านี้เถอะค่ะ แค่บอกทุกคนว่ามีแฟนแล้วพี่น่านยังทำไม่ได้ มิ้นท์รู้สึกผิดหวังมาก ความรับผิดชอบของพี่ก็แค่ลมปากเอาไว้หลอกผู้หญิงโง่ๆ อย่างมิ้นท์ให้หลงเชื่อ ตอนนี้มิ้นท์ตาสว่างแล้ว มิ้นท์คงไม่กลับไปเป็นของเล่นให้พี่ย่ำยีเหมือนตุ๊กตาไร้ความรู้สึก ร้องไห้หรือเจ็บปวดไม่เป็น ขอบคุณที่ดูแลมิ้นท์มาตลอดหนึ่งสัปดาห์ค่ะ’
ทันทีที่น่านฟ้าอ่านจบเหมือนมีอะไรบางอย่างมากระแทกโดนหัวใจ เขาตัวชาวาบตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ดวงตาสะท้อนเพลิงโทสะวาวโรจน์ในความมืด มือหนากำโทรศัพท์แน่นจนได้ยินเสียงกระดูกลั่น เขาอ่านข้อความที่ส่งมาจากน้องมิ้นท์หลายรอบ อ่านทวนให้แน่ใจว่าเธอส่งมันมาหาเขาจริงๆ ไม่ใช่ว่าเขาตาฝาดไป
เธอส่งมาเพื่อขอจบความสัมพันธ์ของเรา
น่านฟ้าแค่นเสียงหัวเราะเย็นชา อดสมเพชตัวเองไม่ได้ที่โดนเด็กอายุน้อยกว่าบอกเลิก เขากับน้องมิ้นท์มีความคิดหลายอย่างไม่ตรงกัน เขาไม่ได้อยากเก็บซ่อนเรื่องที่เป็นแฟนกับเธอไว้เพราะไม่อยากให้ใครรู้ แต่เพราะกลัวคนอื่นจะมองไม่ดีถึงไม่พูด ไม่ยอมบอกใครต่อใครว่ามีแฟนแล้วเพราะไม่อยากถูกซักถามเลยตัดความรำคาญโดยการไม่พูดถึงเรื่องนี้
ในเมื่อมิ้นท์ต้องการให้เขาประกาศความสัมพันธ์นี้กับทุกคน เขาย่อมทำให้เธอพอใจได้ แต่เธอจะรับผลที่ตามมาได้หรือไม่ก็ต้องดูกันอีกที
“ในเมื่อเป็นผู้หญิงของพี่แล้วก็ต้องเป็นไปตลอดชีวิต อย่าหวังว่าจะสลัดให้หลุดได้!”
นัยน์ตาแข็งกร้าวทอประกายเย็นชาแฝงแววปรารถนาลึกล้ำที่ชวนให้รู้สึกปั่นป่วน เลือดลมพลุ่งพล่าน ถ้ามนสิชาได้มาอยู่ตรงหน้าน่านฟ้าในตอนนี้คงต้องขนลุกเกรียว มองเขาด้วยสีหน้าตื่นกลัวเหมือนกับหนูตอนเผชิญหน้ากับราชสีห์ซึ่งเผยแววตาดุร้ายอันตรายอย่างนักล่าที่รู้จักเพียงคำว่า ‘ชนะ’ เท่านั้น