บทที่ 5
เจ้าของร้านที่คิดจะเข้ามาต้อนรับนางจึงเลือกที่จะไปต้อนรับหยางพ่านชุนแทน แต่สิ่งที่ทำให้ความรู้สึกเจ็บช้ำที่คิดว่าจางหายไปแล้วของหลี่อ้ายเฉินย้อนกลับมาก็คือท่าทางที่เย็นชาของหยางพ่านชุนอดีตสามีของนาง
“ไปกันเถอะเชียงเชียง” หลี่อ้ายเฉินเรียกคนของตนก่อนจะเดินออกมาที่นอกร้าน โดยไม่ได้เห็นสายตาของคนที่มองตามมาเลยแม้แต่น้อย
“เชียงเชียงข้าเปลี่ยนใจแล้วกลับกันดีกว่า” ทั้ง ๆ ที่คิดว่าเป็นคนเดินออกมาจากความสัมพันธ์ที่ทำให้ต่างฝ่ายต่างก็เจ็บช้ำแล้วจะดีซะอีก สุดท้ายแล้วก็คงมีแค่นางสินะที่เจ็บปวดเพราะการกระทำของชายคนนี้
“แต่ว่าคุณหนู” ยังไม่ทันที่เชียงเชียงจะพูดอ้ายเฉินก็เอ่ยขัด
“ข้ารู้สึกไม่ดี”
สายตาเย็นชาเมื่อครู่ที่ได้สบกันเพียงชั่วอึดใจทำเอาร่างทั้งร่างของหลี่อ้ายเฉินไม่เป็นของตัวเองเลย นางรู้สึกราวกับหายใจไม่ออก ที่เขาบอกว่าเลือกสามีผิดคิดจนตัวตายคงเป็นเรื่องจริง ขนาดนางตายไปแล้วจนได้ย้อนกลับมา ความรู้สึกเจ็บปวดยังคงติดตามมาเลย เสียดายก็เพียงแค่รู้เมื่อสายไปหากนางไม่เลือกเขาตั้งแต่แรก เสี่ยวชิงก็คงไม่ต้องเกิดมาและตายไปอย่างทรมาน
"อ้ายเฉิน" เขาเรียกชื่อนางด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความรู้สึกไม่คุ้นเคย หยางพ่านชุนก้าวเท้ายาวเดินตรงเข้ามาหานางด้วยความสงสัย
"ทำไมเจ้าถึงมาที่นี่"
หลี่อ้ายเฉินรู้สึกตื่นเต้นและกลัวในเวลาเดียวกัน นางพยายามทำใจให้เย็นและตอบกลับด้วยเสียงที่มั่นคง
"ข้ามาทำธุระ”
"ข้าขอโทษ ข้าไม่รู้ว่าที่ผ่านมาทำให้เจ้าทุกข์ใจถึงเพียงนี้"
เพราะอย่างไรโดยเนื้อแท้แล้วเขาก็เป็นคนดี เพียงแต่ด้วยเหตุผลแวดล้อมหลายประการ ทำให้ชายหนุ่มเผลอทอดทิ้งให้ภรรยาต้องเปลี่ยวเหงา ทั้งที่ชีวิตก่อนหน้านี้เป็นเวลากว่าสิบปี เขาไม่เคยเหลียวแลนางกับลูกเลย
มันน่าเศร้าที่เขายอมออกมาตาม และสนใจนาง เมื่อตอนที่สูญเสียไปแล้ว
แต่หลี่อ้ายเฉินไม่สนใจคำขอโทษนั้น จากนี้ผ่านไปนับสิบปีเขาก็ยังคงเมินเฉยต่อนางเช่นเดิม แล้วด้วยเหตุใดจะต้องทนต่อไปเล่า
หลี่อ้ายเฉินเข้าใจที่อีกฝ่ายจัดการเมืองแห่งนี้เป็นอย่างดี แต่นางก็ไม่เคยเข้าใจเลยว่านางและลูกอยู่ตรงไหนของเขาสำหรับหยางพ่านชุน นางตัดสินใจหมุนตัวหันหลังแล้วเดินจากไป ทิ้งให้หยางพ่านชุนยืนอยู่ท่ามกลางความวุ่นวายของตลาด พร้อมกับความรู้สึกที่ไม่อาจบรรยายได้
พ่างชุนมองใบหน้าอดีตภรรยา ใจของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ทั้งความเจ็บปวดและความไม่เข้าใจ เขาไม่เข้าใจว่าตนนั้นทำผิดพลาดตรงไหน
"อ้ายเฉิน" เขาเอ่ยเรียกชื่อของนางด้วยเสียงที่อ่อนโยน แต่ก็เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด
หลี่อ้ายเฉินหันมามองเขา ใบหน้าและดวงตาของนางมีเพียงความเจ็บปวดและความไม่มั่นคง ยิ่งมองชายหนุ่มที่ควรทำให้นางมีครอบครัวที่มั่นคงและอบอุ่น แต่กลับทำลายความเชื่อมั่นนั้นลงไปแล้วครั้งหนึ่ง แม้ในตอนนี้เขาจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับนางในชีวิตก่อนหน้าก็ตาม
"ท่านตามมาที่นี่ทำไม ในจดหมายข้าว่าก็บอกชัดเจนแล้วว่าไม่ต้องการเห็นหน้าท่านอีกแล้ว เราหย่าร้างกันแล้ว มาให้เป็นเรื่องตลกในวงน้ำชาของบ้านอื่นเขาหรือไร"
หยางพ่านชุนก้าวเข้ามาใกล้ นัยน์ตาของเขาแสดงถึงความจริงใจและความสำนึกผิด จนหลี่อ้ายเฉินอดที่หวั่นไหวไม่ได้
"ข้าขอโทษจริง ๆ อ้ายเฉิน ข้ารู้ว่าข้าทำผิดไป ข้าแค่อยากให้เจ้าให้โอกาสข้าอีกครั้ง เราเพิ่งแต่งงานกันเพียงหนึ่งปีเท่านั้น อีกทั้งข้าเกรงว่าในท้องของเจ้าอาจมีบุตรชายของข้าอยู่แล้ว ให้โอกาสเราสองได้เป็นครอบครัวที่อบอุ่นกันอีกครั้งได้หรือไม่"
หลี่อ้ายเฉินมองเขาด้วยความรู้สึกที่ขัดแย้ง ใจของนางยังคงเจ็บปวดจากการที่เขาเคยละเลยนางและลูก ตอนนี้ยังมาพูดถึงลูกอีก
ใช่แล้ว!
หญิงสาวมั่นใจอย่างยิ่งว่าตอนนี้ตนเองน่าจะอุ้มท้องบุตรชายอีกครั้ง เหมือนในชาติที่แล้ว นางก็อุ้มท้องบุตรชายในช่วงเวลาประมาณนี้พอดี
แล้วแต่ตอนนั้นเกิดอะไรขึ้นกันล่ะ ในอีกไม่กี่วันนี้ หยางพ่านชุนจะต้องกลับเมืองหลวงเพื่อไปหาครอบครัวของเขา หยางพ่านชุนเป็นหนึ่งในตระกูลสาขาของตระกูลใหญ่ในเมืองหลวง
แต่เขาจะไปไม่ถึงเนื่องจากโดนดักปล้นกลางทาง และในตอนนั้นนางก็เป็นคนช่วยผลักชายหนุ่มออกจากทางของลูกธนู จนตนเองบาดเจ็บแทน และได้รู้ว่าที่แท้นางกำลังตั้งครรภ์อยู่ เพราะเหตุการณ์ครั้งนั้นนางเกือบแท้งบุตร
ริมฝีปากบางแม้มแน่น ต่อให้ครั้งนั้นนางไม่ได้แท้งบุตรในครรภ์ แต่สุดท้ายบุตรชายของนางก็ตายอยู่ดี
เมื่อตอนนี้ชายที่ไม่เคยไยดีบุตรชายของนางเลยตั้งแต่เขาเกิดมา กลับมาพูดเรื่องลูกต่อหน้า มีหรือนางจะใจเย็นอยู่ได้
"โอกาส ท่านคิดว่าท่านยังมีสิทธิ์ที่จะขอโอกาสอีกหรือท่านทำร้ายข้าและลูกของเรา"
หยางพ่านชุนหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก เขาไม่เข้าใจสิ่งที่หลี่อ้ายเฉินพูดสักคำ แต่จนถึงตอนนี้ไม่สามารถเปลี่ยนใจได้แล้ว ชายหนุ่มไม่รู้จะบอกครอบครัวของเขาที่เมืองหลวงอย่างไรว่าตอนนี้ได้หย่ากับภรรยาแล้ว หากคนตระกูลหยางรู้พวกเขาจะต้องส่งหญิงสาวในเมืองหลวงให้มาแต่งกับเขาแน่
เพราะเหตุผลที่เขาเลือกย้ายมาเป็นเจ้าเมืองเล็ก ๆ แห่งนี้ ก็เพราะไม่ชื่นชอบหญิงสาวในเมืองหลวงนั่นเอง
"วันนี้ข้ามาเพื่อสนทนากับเจ้าดี ๆ"
หลี่อ้ายเฉินหันหน้าหนีบ่งบอกว่าไม่อยากที่จะสนทนาต่อแล้ว แต่ก็ทำอย่างใจนึกไม่ได้
"แม้เราจะเพิ่งแต่งานกัน แต่เวลาเพียงแค่ปีเดียวท่านก็หมางเมินข้าเสียแล้วเห็นแก่ที่ท่านเป็นเจ้าเมือง ข้ายังไว้หน้าท่านขนาดนี้ ท่านก็ควรวางตัวให้สมกับตำแหน่งเจ้าเมืองเสียหน่อยเถอะ“
ความเงียบงันตกลงมาอีกครั้ง หยางพ่านชุนยืนขึ้นและพยักหน้า อย่างน้อย ๆ บริเวณนี้มีผู้คนมากมาย เอาเรื่องในบ้านมาพูดคงไม่ดี
“ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อให้เจ้าเห็นว่าข้ารักเจ้าและลูกของเราจริง และจะสร้างครอบครัวของเราขึ้นมาอีกครั้ง ขอเพียงเจ้าให้โอกาส"
เมื่อคิดดูแล้วที่เขาตัดสินใจแต่งงานกับหลี่อ้ายเฉินก็เพราะรักนาง แต่ไม่รู้เพราะงานยุ่ง หรือจริง ๆ แล้วกลัวการทำทุกอย่างให้ดีขึ้น จึงได้ละเลยนางไป ตลอดการแต่งงานที่ผ่านมาหนึ่งปี เขาแทบไม่ได้ใส่ใจนางจริง ๆ ดังว่า
ยังมีอีกเรื่อง แม้จะหย่าขาดกันแล้วก็ควรเอ่ยเตือนเขาสักนิด
"หยางพ่านชุน" หลี่อ้ายเฉินเรียกเขาเสียงนุ่ม แต่เต็มไปด้วยความหนักแน่น
หยางพ่านชุนเขามองนางด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย "มีอะไรหรือ อ้ายเฉิน"
หลี่อ้ายเฉินเดินมาใกล้ ๆ เขา นางรู้สึกถึงความกังวลที่ก่อตัวขึ้นในใจ "ข้ามีความรู้สึกไม่ดีเกี่ยวกับการเดินทางของท่านในครั้งนี้ ข้ากลัวว่าจะมีโจรป่าโจมตี ขอร้องท่านอย่าไปเลยได้ไหม"
แม้หยางพ่านชุนพยักหน้ารับฟังคำเตือนของนาง แต่ในใจกลับไม่ได้เชื่อสักเท่าไร เขายังคงยึดมั่นในความคิดของตัวเองและเชื่อว่าตนสามารถจัดการทุกอย่างได้
"อ้ายเฉิน ข้าเข้าใจความกังวลของเจ้า แต่ข้าเชื่อว่าสามารถดูแลตัวเองได้ และข้าไม่คิดว่าจะมีโจรป่ามาโจมตีข้า นอกจากนี้นี่เป็นการพบปะครอบครัวครั้งใหญ่ที่ทุกคนจะต้องเข้าร่วม หากไม่ไปจะต้องถูกหัวหน้าตระกุลตำหนิ ข้าต้องไปให้ได้ ในตอนแรกข้าคิดจะพาเจ้าไปด้วย แต่เรื่องที่เจ้าเขียนหนังสือหย่าเกิดเรื่องขึ้นเสียก่อน ยามนี้เมื่อเจ้าไม่ไปด้วยแล้วก็ยิ่งต้องไป เพื่อไม่ให้ท่านพ่อท่านแม่ว่ากล่าวตำหนิเจ้าที่เป็นภรรยาของข้าได้ ส่วนเรื่องเจ้า ข้าจะบอกพ่อแม่ว่าเจ้าตั้งครรภ์จึงเดินทางมาไม่ได้ก็แล้วกัน"
นางเอียงคอมองหยางพ่านชุนที่เอ่ยเรื่องที่นางไม่ได้เดินทางไปด้วยครั้งนี้ เหตุใดไม่บอกว่าหย่าขาดจากนางเสียก็สิ้นเรื่อง ไยต้องหาเหตุผลมามากมายไปแก้ตัวกับบิดามารดาของเขาที่แม้แต่งานแต่งของนางกับเขาก็ไม่เคยเดินทางมาร่วม
แต่ช่างเถอะ
หลี่อ้ายเฉินรู้สึกผิดหวังที่เขาไม่เชื่อคำเตือนของนาง นางพยายามอีกครั้ง "ข้าไม่ได้พูดเล่น ข้ามีความรู้สึกไม่ดีจริง ๆ ขอท่านเชื่อข้าสักครั้งได้ไหม"
หยางพ่านชุนถอนหายใจและยิ้มตอบกลับไปเบา ๆ
"ข้ารู้ว่าเจ้าห่วงข้า แต่ข้าเชื่อว่าข้าจะปลอดภัย ข้าจะกลับมาเร็ว ๆ ดูสิ แล้วข้าจะยอมเสียภรรยาที่รักและห่วงใยเช่นนี้ไปได้อย่างไร ห่วงข้าปานนี้ก็กลับมาอยู่กับข้าเสียเลยสิ"
เหอะ
คำพูดของเขาทำให้หลี่อ้ายเฉินรู้สึกเจ็บปวด แม้จะมีการหยอกเล่นในตอนท้าย แต่มันหมายความว่าชายหนุ่มไม่ได้เชื่อในคำพูดของนางเลย และมันเป็นเช่นนี้เสมอ ทุกครั้งเขามักจะทำตามที่ตนอยากทำโดยไม่สนใจว่านางจะเห็นด้วยหรือไม่ก็ตาม
มันทำให้รู้สึกถึงความไม่ยุติธรรมที่อีกฝ่ายไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นของตน และคิดดูว่ามันเป็นอยู่เช่นนี้ไปอีกนับสิบปี ราวกับนางไม่ได้มีตัวตน คำพูดไม่ได้มีค่าอะไรต่อสามีเลย ทั้งที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยาคู่ชีวิตด้วยซ้ำไป
"ทำไมท่านถึงไม่เชื่อข้า ข้าก็แค่ต้องการให้ท่านปลอดภัยเท่านั้น ไม่หวังสิ่งอื่นใดเลย แล้วอย่าเอาความห่วงใยของข้ามาล้อเล่น ตอนนี้ข้ากำลังจริงจังอยู่นะ"
“อย่าห่วงไปเลย ข้าจะกลับมาอย่างปลอดภัย จะไปไม่นาน ไม่ทำให้เจ้าต้องกังวลไปอีกหลายวัน”
หลี่อ้ายเฉินหมุนตัวกลับเดินไปข้างหน้า โดยไม่หันกลับมา นางถือว่าได้ทำเต็มที่แล้ว แม้เขาจะทำนางทุกข์มากมาย แต่นางก็ยังเป็นห่วงเขา ความรักนี่มันโหดร้ายเหลือเกิน เมื่อได้รักแล้ว แม้จะถูกทำร้ายซ้ำ ๆ ก็ยังรัก นางไม่สามารถทำให้หยางพ่านชุนเชื่อในคำเตือนของนางได้
เมื่อเตือนไปแล้วไม่ฟังก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรจริง ๆ