เจ้าหญิงซานียาห์ทอดพระเนตรมองตามพระวรกายสูงสง่าของเจ้าชายคามิลด้วยความแปลกพระทัย แต่ก็มิได้เอ่ยอะไรออกมา พระพักตร์งามหันกลับมามองพระสวามีด้วยรอยยิ้มอ่อนหวาน
“ฝ่าบาทเพคะ”
ชีคหนุ่มละสายพระเนตรจากเอกสารในพระหัตถ์ เงยพระพักตร์ขึ้นมามองเจ้าหญิงซานียา สายพระเนตรจับจ้องใบหน้าสวยอย่างค้นคว้า เจ้าหญิงองค์นี้มีปัญหาอะไรกับพระองค์นักหนา วันก่อนก็เดินเข้ามาในห้องทรงงานของพระองค์โดยไม่ได้รับอนุญาต คราวนี้ก็เช่นกัน...
“เจ้ามีธุระอะไรกับเราหรือซานียาห์”
“หม่อมฉันต้องมีธุระด้วยหรือเพคะ ถึงจะมาหาฝ่าบาทได้”
“นั่นเป็นความคิดที่ถูกต้อง”
“ฝ่าบาทเพคะ”
“เราเตือนเจ้าหลายครั้งแล้วนะซานียาห์ เราไม่ต้องการให้เจ้าหรือใครเข้ามาวุ่นวายในห้องทำงานของเรา หรือเจ้าไม่สนใจในคำสั่งของเรา” สายพระเนตรจับจ้องพระพักตร์สวยอย่างต้องการคำตอบ พระองค์ล่ะเกลียดจริงๆ กับคนลักษณะเช่นนี้ เปรียบเสมือนกับเอาน้ำไปรดหัวตอ ไม่ว่าจะรดยังไง เจ้าตอไม้ตอนี้ก็ไม่มีวันเติบโต
เจ้าหญิงซานียาห์กำพระหัตถ์แน่น เหตุใดพระสวามีถึงได้พระทัยร้ายเหลือเกิน การที่พระองค์มาหาก็เพราะคิดถึง อยากเห็นพระพักตร์ อยากดูแลปรนนิบัติ
แต่กลับได้รับเพียงแต่ความเย็นชาและท่าทีที่เมินเฉยเหมือนพระองค์ไร้ตัวตนในสายพระเนตรคู่นั้น
“แต่นี่เป็นกฎที่เจ้าควรจะปฏิบัติตามซานียาห์ เราไม่ชอบให้ใครเข้ามาวุ่นวายในห้องทำงานของเรา ไม่ว่าจะเป็นเจ้า ฮาฟีเซาะร์ หรือแม้แต่อาร์เลีย”
“ขอพระราชทานอภัยเพคะฝ่าบาท หม่อมฉัน...”
เจ้าหญิงซานียาห์ก้มพระพักตร์ลงต่ำ เก็บกลั้นหยาดอัสสุชลเอาไว้อย่างสุดความสามารถ อดน้อยพระทัยไม่ได้ หลายปีที่ผ่านมาพระองค์ทั้งรักและซื่อสัตย์ต่อพระสวามีผู้นี้ ไม่เคยทำร้ายหรือเข้าไปวุ่นวายกับบรรดานางในฮาเร็มหรือแม้แต่เจ้าหญิงอีกสองพระองค์แม้แต่น้อย ประพฤติตนอยู่ในโอวาทมาตลอด
แต่เพราะเหตุใดพระสวามีถึงไม่เคยเห็นค่าในความรักและความภักดีของพระองค์เลย เจ้าหญิงซานียาห์กำพระหัตถ์แน่นจนฝังจมลงไปเพื่อสกัดกลั้นความน้อยพระทัย
“ถ้าเช่นนั้นหม่อมฉันขอทูลลา”
“อืม”
ชีคจามิลเพียงแต่พยักพระพักตร์เล็กน้อย ก้มลงมาสนใจเอกสารในพระหัตถ์อีกครั้ง ไม่สนใจสายพระเนตรที่แสนเว้าวอนจากเจ้าหญิงซานียาห์ พระองค์ทรงเบื่อหน่ายเหลือเกินกับความพยายามของพวกเธอ ไม่รู้เมื่อไรที่พระองค์จะเจอหญิงที่พระองค์รักและพร้อมจะอยู่เคียงข้างพระองค์ไปตลอดชีวิต
/////////////
ห้าเดือนต่อมา...
มาตาวีนั่งหน้าบึ้งจ้องมองเจ้าชายคามิลด้วยความไม่พอใจ นับตั้งแต่เจ้าชายหนุ่มรู้ว่าเธอท้อง ความสัมพันธ์ที่เคยคิดว่าราบรื่น กลับกลายเป็นความห่างเหิน พูดกันแทบจะนับคำได้ ในใจรู้สึกโกรธแค้นการะเกดไม่น้อย เพื่อนสนิทคนนี้ของเธอมีอะไรดี เจ้าชายผู้นี้ถึงได้รักจนไม่ลืมหูลืมตา
“เจ้าชายจะทำอย่างนี้กับฉันไม่ได้!”
“ผมให้คุณได้แค่นี้แหละมาตาวี เพราะไม่ว่ายังไงข้อตกลงระหว่างผมกับคุณก็ยังคงเดิม”
“แต่ฉันกำลังจะมีลูกกับเจ้าชายนะคะ เจ้าชายจะทิ้งฉันกับลูกหรือคะ”
“ผมไม่ได้ทอดทิ้งคุณกับลูก ผมต้องการลูกแต่ไม่ต้องการคุณ เรื่องมันก็มีอยู่แค่นี้”
เจ้าชายหนุ่มตรัสกลับสุรเสียงแข็งกระด้าง สายพระเนตรมองไปยังใบหน้าสวยอย่างนึกแค้น เพราะความโง่ของพระองค์นี่แหละ ทุกอย่างมันถึงได้พังไม่เป็นท่าเช่นนี้ ผู้หญิงที่รักก็มาหนีหาย ตามหาอย่างไรก็ไม่เจอสักที ส่วนผู้หญิงที่ไม่รักก็ดันท้องจะคลอดอยู่อีกไม่กี่วันนี้แล้ว!
“แต่ฉันไม่ยอม! ในเมื่อฉันเป็นเมียของเจ้าชายและเป็นแม่ของลูกเจ้าชาย ยังไงเจ้าชายต้องรับผิดชอบทั้งฉันและก็ลูก แล้วอย่าคิดกลับไปหาลูกเกดเด็ดขาด เพราะฉันไม่ยอมแน่”
มาตาวีประกาศเสียงกร้าว เรื่องอะไรที่เธอจะยอมปล่อยให้เจ้าชายหนุ่มผู้นี้ไปให้ผู้หญิงอื่น ตำแหน่งพระชายาต้องตกเป็นของเธอ ซาร์มาเนียก็ถือเป็นประเทศที่ร่ำรวยติดอันดับโลก เพราะมีทั้งน้ำมัน และอัญมณีที่มีค่าหลายชนิด
เจ้าชายคามิลจ้องมองมาตาวีด้วยความหัวเสีย นึกแค้นพระทัยตัวเองที่ไม่ยอมจัดการเรื่องนี้ให้จบตั้งแต่ครั้งแรกที่พระองค์พลาดไปมีความสัมพันธ์กับเจ้าหล่อน ผลจากความใจอ่อนในครั้งนั้นกลับทำให้ความรักที่พระองค์พยายามฟูมฟักมาตลอดสามปีกับการะเกดต้องจบลง
“เธอมีสิทธิ์อะไรมาสั่งฉัน...มาตาวี อย่าทำให้ฉันโกรธเลยจะดีกว่า เพราะถ้าฉันโกรธ เธออาจจะไม่มีชีวิตรอดก็เป็นไปได้”
“จะ...เจ้าชายจะทำอะไรฉัน”
มาตาวีถามเสียงสั่น ดวงตาเรียวเบิกกว้าง มือทั้งสองข้างยกขึ้นมาซ้อนทับกันอย่างพยายามอดกลั้นความตื่นกลัว พระพักตร์คมเข้มฉายแววอำมหิตอย่างที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน แต่ไม่ว่ายังไงผู้ชายคนนี้ก็จะต้องเป็นของเธอคนเดียวเท่านั้น
“เธออย่ารู้เลยมาตาวี”
เจ้าชายคามิลรับสั่งเสียงกร้าว พลางยื่นซองเอกสารไปวางตรงหน้าหญิงสาวที่ทำให้ความรักของพระองค์ต้องพังทลายอย่างไม่มีชิ้นดี ไม่อยากโทษว่าเป็นความผิดของหล่อนเพียงคนเดียว
พระองค์เองก็มีส่วนผิดที่ไม่ยับยั้งต่อความปรารถนาของตน จนปล่อยให้เรื่องบานปลายมาถึงวันนี้!
มาตาวีสบตามองชายที่เธอหลงรักอย่างสุดใจอย่างเจ็บช้ำ เธอจะมีลูกกับเจ้าชายอีกไม่กี่วันนี้แล้ว แต่เหตุใดเจ้าชายหนุ่มถึงได้กล้าพูดทำร้ายจิตใจเธอได้เช่นนี้
“แต่เรากำลังจะมีลูกกันนะคะเจ้าชายคามิล”
“ไม่ต้องเอาลูกมาอ้างหรอกมาตาวี สำหรับฉันมันคือความผิดพลาด ฉันไม่โทษเด็กที่จะเกิดมาหรอก แต่ที่ฉันรู้สึกเกลียดและโกรธแค้นก็คือตัวเธอแล้วก็ฉันเองมากกว่า”
เจ้าชายหนุ่มรับสั่งพลางมองใบหน้าสวยที่ทรงเคยมีความรู้สึกดีๆ ให้ แต่นั่นมันก่อนที่พระองค์กับผู้หญิงคนนี้จะมีความสัมพันธ์กัน เพื่อนสนิทของหญิงที่พระองค์รักอย่างหมดใจ
“หากฉันจัดการเรื่องให้มันจบตั้งแต่ครั้งแรกที่เธอกับฉันมีอะไรกัน ป่านนี้ฉันคงจะได้แต่งงานกับลูกเกดไปแล้ว แต่ก็นั่นแหละ เพราะฉันไม่ทันระวังตัวเอง จนต้องมานั่งเสียใจและเจ็บปวดอยู่เช่นนี้”
“ฉันไม่ยอมเสียเจ้าชายให้ลูกเกดไปเด็ดขาด”
มาตาวีพูดเสียงแข็ง แค้นใจเหลือเกินที่รู้ว่าชายที่ตนรักไม่เคยสนใจและเห็นคุณค่าในความรักของเธอเลย
การะเกดมีดีอะไรเจ้าชายผู้หล่อเหลาและร่ำรวยผู้นี้ถึงได้หลงรักจนหมดใจ
///////////////
...โปรดติดตามตอนต่อไป...