เวลาผ่านไปคุณหญิงท่านนั่งมองลูกสาวของเธอทะเลาะกับวินจิมันทำให้เธอมองว่าลูกสาวของเธอเป็นตัวของตัวเองสุดๆ และดูมีความสุขภายใต้การทะเลาะนั้นเหมือนกลบเกลื่อนความสุขไว้ด้วย เธอคิดว่าผู้ชายคนนี้รู้ทันลูกสาวเธอมากตอบโต้ได้มีเหตุผลทำให้ความเอาแต่ใจของลูกสาวเธอถึงกับยอมแพ้ให้คนตรงหน้าเพราะเถียงไม่ได้ คุณหญิงท่านเลยคิดว่าคนแบบนี้แหละจะเอาลูกสาวเธออยู่
"นี่หมูอ้วนเอาเค้กมาอีกสิ"
"คุณทานไปสองชิ้นแล้วนะคุณพิ้งค์"
"ก็มันไม่อิ่มอ่ะ ฉันไม่ได้ทานข้าวกลางวันมานะยะ"
"หิวก็ไปทานข้าวครับไม่ใช่ดื่มแต่กาแฟกับของหวาน เดี๋ยวปวดท้องไปทำงานไม่ได้จะแย่เอานะ"
วินจิเริ่มบ่นออกมาอีกครั้ง คุณพิ้งค์เป็นผู้หญิงที่ดื้อมากที่สุดในโลกคนหนึ่งเลยก็ว่าได้เพราะไม่มีใครขัดเธอได้ก็เลยนิสัยแบบนี้มาตลอดแต่เขาไม่ยอมเหมือนกันก็สู้กันไปเลยไง
"ไม่เป็นอะไรหรอกน่า"
"อยากโดนลงโทษเหรอ :)"
วินจิยิ้มมุมปากเล็กน้อย คุณพิ้งค์หันหน้าไปหาคุณแม่ก่อนจะฟ้องว่าร้ายชายหนุ่มตรงหน้า
"แม่ดูสิดูลูกรักของแม่สิคะ เขาจะลงโทษหนูแม่ยอมได้ยังไง"
"ก็ตาวินเขาพูดถูกนี่ ท้องไส้เราไม่เหมือนคนอื่นทานแบบนี้เดี๋ยวก็อาหารเป็นพิษหรอกทำตามที่วินจิบอกนะถูกแล้ว"
คุณพิ้งค์หน้างอหนักมากเพราะสองคนตรงหน้าไม่มีใครเข้าข้างเธอเลยสักคน แม่ที่รักลูกนักหนาตอนนี้แปรพรรคไปอยู่ข้างไอ้หมูอ้วนแล้ว
"หิวมากมั้ยเดี๋ยวผมพาไปทานข้าวดีกว่าแล้วค่อยกลับออฟฟิศ"
"อยากกินแต่ไม่อยากไปทานข้างนอกไม่กลัวเป็นข่าวหรือไง"
"งั้นผมไปซื้อให้แต่ห้ามทานเค้กแล้วนะ คุณแม่ครับงั้นเดี๋ยววินไปซื้ออาหารแปปหนึ่งนะครับห้ามคุณพิ้งค์สั่งเค้กแล้วนะครับ"
"จ้าๆลูก เดี๋ยวแม่จัดการให้ แม่กับยัยพิ้งค์รอตรงนี้นะ"
"ครับ"
วินจิยิ้มกว้างออกมาก่อนจะสวมหมวกใส่แว่นตาดำแล้วเดินออกไปจากตรงนั้น ส่วนคุณพิ้งค์ยังคงทานเค้กที่เหลือต่อไม่สนใจผู้เป็นแม่ที่นั่งจ้องหน้าลูกสาวอยู่
"ทำไมพูดจาร้ายกับเขานักละลูก ดูสิเอาอกใจขนาดนี้หาที่ไหนได้อีก เขารู้แม้กระทั่งลูกแม่ชอบอาหารเป็นพิษถือว่าเอาใจใส่ระดับหนึ่งเลยนะ"
"เอาใจใส่ระดับหนึ่งอะไรกันคะ แม่รู้รึเปล่าหมอนี่นะมันโรคจิตจะตายรู้ทุกเรื่องเกี่ยวกับหนูรู้ดีกว่าหนูรู้จักตัวเองอีก หนูชอบทานอะไรไม่ชอบอะไรรู้ทุกอย่างจนหนูระแวงอ่ะ"
คุณพิ้งค์เอ่ยออกไปตามตรงก่อนจะทานเค้กตรงหน้าต่อ คุณแม่ของเธอยิ้มออกมาบางๆเป็นผู้ชายคนแรกมั่งที่เธอมองว่าเขาเอาใจใส่ลูกสาวเธอมากทั้งคำพูดสีหน้า และแววตามันมีแต่ความปรารถนาดีมอบให้
"พิ้งค์ลูกเขาไม่ได้เรียกว่าโรคจิตหรืออะไรนะลูก การที่คนๆหนึ่งเอาใจใส่เรามากขนาดนี้มันหายากนะโลกใบนี้ คนที่รู้ว่าเราชอบอะไรไม่ชอบอะไรโดยที่ไม่ต้องเอ่ยปาก คนที่เป็นห่วงเรากลัวจะเป็นอะไรเขาเรียกว่าคนที่หวังดีกับเรา ถ้าลูกไม่ได้รักเขาก็อย่าไปให้ความหวังเขาให้เขาตัดใจซะแต่เนิ่นๆแล้วไปเจอคนที่รักเขาจริงๆ แต่ถ้าลูกยังพอมีความรู้สึกดีๆกับพ่อวินอยู่บ้าง แม่อยากให้ลูกพูดกับเขาดีๆหน่อย ผู้ชายนะถ้าเขารักเราเขาจะดีกับเราสารพัด แต่ถ้าลูกไล่เขา ทำท่าเกลียดเขาบ่อยๆแล้วเขาท้อถึงเวลานั้นลูกจะเสียใจนะที่เป็นแบบนั้น"
คุณพิ้งค์ชะงักไปก่อนจะเงยหน้ามองผู้เป็นแม่ด้วยแววตาที่สับสน เธอก็ไม่รู้ว่าความรู้สึกมันคืออะไรแต่มันก็ไม่แย่ที่มีวินจิอยู่ใกล้ๆ เธอชอบคนตามใจอยู่แล้วยิ่งรู้ใจเธอมากเธอยิ่งถูกใจ
"แม่ว่าวินจิเขาเป็นยังไงคะ"
"ถึงเขาจะดูทะเล้นพูดไปเรื่อย แต่จากแววตาที่เขามองลูกมันมีแต่ความห่วงใย แม่ว่าถ้าเขารักลูกมาตั้งแต่ตอนเรียนจนถึงตอนนี้ก็ยังรักแม่ว่าเขาคงไม่ได้คิดจะมาหลอกลูกหรอก มาพอดีเลยพูดกับเขาดีๆบ้างนะลูก"
คุณพิ้งค์มองตามสายตาของแม่เงยหน้าไปสบตากับวินจิที่ตอนนี้เดินยิ้มแป้นเข้ามาพร้อมกับของกินในมือเต็มถุงเลย
"มาแล้วครับอาหารกลางวันของคุณพิ้งค์ ให้ทายว่าผมซื้ออะไรมาให้ทาน"
คุณพิ้งค์เหลือบสายตามองกล่องข้าวของวินจิก่อนจะยิ้มมุมปากออกมาเล็กน้อย
"ใช่ซาชิมิรึเปล่าน้า"
"เดาเก่งจัง"
วินจิยิ้มออกมาบางๆก่อนจะเอาซาชิมิไปวางไว้ให้คุณพิ้งค์ตรงหน้า เธอยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดีเพราะจริงๆตอนแรกเธอคิดว่าจะมาลองชุดเสร็จแล้วจะไปทานพอดี แต่เขาซื้อมาแล้วถึงบอกไงว่าหมอนี่มันร้าย
"น่ากิน"
"งั้นก็ทานเยอะๆครับ"
คุณพิ้งค์ทานอาหารตรงหน้าอย่างเอร็ดอร่อยส่วนวินจิก็เท้าคางมองหญิงสาวตรงหน้าอย่างมีความสุขที่เห็นเธออารมณ์ดียิ้มที่ได้ทานของชอบ และทุกอย่างอยู่ในสายตาของผู้ใหญ่เช่นคุณหญิงท่าน เธอยิ้มออกมาอย่างพอใจในที่สุดเธอก็เจอผู้ชายที่เหมาะกับลูกสาวของเธอแล้วและเธอมั่นใจว่ามองไม่ผิด
"ยัยพิ้งค์ลูกมายังไง"
"เอารถมาค่ะตอนแรกแต่ว่าให้เลขาเอากลับไปละว่าจะขอติดรถแม่ไปส่งที่ออฟฟิศหน่อย"
"แม่จะแวะที่อื่นต่อไม่สะดวกไปส่งหรอก พ่อวินลูกสะดวกพาลูกสาวแม่ไปส่งหน่อยได้มั้ย"
คุณแม่หันไปเปิดทางให้กับว่าที่ลูกเขยวินจิพยักหน้าทันทีถึงไม่บอกเขาก็อาสาจะไปส่งอยู่แล้ว
"ผมอาสาไปส่งเองครับ เต็มใจมากเลยด้วย"
"ใครจะไปกับนายไม่ทราบยะ ฉันนั่งแท็กซี่ไปเองไม่ต้องไปส่งยะ!!"
"แม่พิ้งค์ที่แม่พูดไปนี่ไม่เข้าหัวเลยเหรอลูก หืมมมม"
คุณแม่เอ่ยออกมากดเสียงลงต่ำคุณพิ้งค์เงยหน้ามองคุณแม่ก่อนจะยิ้มออกมาแห้งๆ ก็อยากจะพูดดีด้วยแหละแต่พอเห็นแล้วหมั่นไส้อยากแกล้งมากกว่านี่
"ก็ได้ค่ะ ไปกับหมูอ้วนก็ได้ค่ะ"
คุณพิ้งค์ทำหน้าสำนึกผิดเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยออกไปเสียงเบา วินจิมองเธอด้วยสายตาที่แปลกใจเล็กน้อยเมื่อกี้สองแม่ลูกคุยอะไรกันนะคุณพิ้งค์ถึงยอมอ่อนลงแบบนี้ แต่ก็ดีนะเขาชอบแบบนี้แหละว่าง่ายน่ารัก
"งั้นดีเลยวินจิแม่ฝากยัยพิ้งค์ด้วยนะลูก แม่ไปก่อนนะทั้งสองคนไว้ว่างไปทานข้าวกับแม่ที่บ้านนะลูกวินจิ"
"ครับคุณแม่ผมจะหาเวลาว่างไปนะครับ"
"จ๊ะ แม่ไปละนะเด็กๆ"
คุณหญิงท่านลุกขึ้นเดินออกมาอมยิ้มมุมปากอย่างมีแผน เธอออกมาพร้อมกับลากผู้จัดการของวินจิมาด้วย เธออยากให้สองคนได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันให้นานที่สุด
"คุณเอ๋ไปช็อปปิ้งกับฉันนะ"
"แล้ววินจิละคะ"
"เขากลับเองเขาบอกแบบนั้น ไปๆกัน"
คุณหญิงเหลือบสายตามองเด็กทั้งสองคนก่อนจะยิ้มอย่างอารมณ์ดี หวังว่าลูกสาวเธอจะฉลาดเลือกรู้ว่าสิ่งไหนมีคุณค่ากับตัวเองนะ และเธอเชื่อว่าพิ้งค์จะไม่ทำให้เธอผิดหวัง...