ตอนที่ 7
ภีมะหัวเราะกลั้วคอ “ถ้าเป็นอย่างนั้น คุณหนูก็ไม่ควรปล่อยให้ผมลอยนวล” เขารีบเคลื่อนกายให้อยู่ในท่วงท่าที่โรสรินทร์จะสัมผัสเขาอย่างเต็มที่
“จัดการผมซิครับ...ทำอย่างที่ผมกำลังทำกับคุณหนู”
ภีมะทำการยั่วยุโรสรินทร์ให้เร่งทำอย่างที่เขาต้องการ โดยการเคลื่อนมือไกล่เกลี่ยนำทางไปพบกับเส้นทางแสนคับแคบซึ่งมีน้ำเอ่อซึมอยู่เล็กน้อย
“หรือว่าที่จริงแล้วคุณหนูโรสคนสวยดีแต่ปาก เอาเข้าจริงๆ กลับไม่กล้า” ไม่เพียงสัมผัสที่เขาร่ายลงไปบนบุหงาอ่อนเยาว์อย่างแผ่วเบา เพราะกลัวว่าถ้าเขาแตะต้องมันรุนแรงไป กุหลาบดอกงามที่กำลังชูช่อสว่างไสวอยู่นี่มันจะบอบช้ำเสียก่อน ยังจะมีคำพูดเพื่อทำให้โรสรินทร์กล้าสัมผัสเขากลับคืน
“ใครว่า คนอย่างโรสรินทร์ รัตนะบดินทร์ ไม่เคยกลัวใคร” แต่...เอาเข้าจริงๆ โรสรินทร์ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะทำยังไงกับกายแกร่งที่ยังมีเสื้อผ้าเกะกะกีดขวางทางอยู่
“กำจัดเสื้อผ้าผมออกไปก่อนซิครับคุณหนู...ทำให้ผมเป็นเช่นเดียวกับคุณ” เขาเอ่ยขณะเคลื่อนปากไปหากุหลาบอ่อนเยาว์ เรียวลิ้นสากร้อนตวัดไล้เกสรสีแดงชุ่มฉ่ำ
อยากทำ! แต่สัมผัสร้อนผ่าวของภีมะทำให้เธอปั่นป่วนจนหัวหมุน สองขายาวเรียวจิกเกร็ง ขณะมือก็จิกทึ้งเส้นผมนุ่มบนศีรษะทุย กล้ามเนื้อบริเวณท้องเคลื่อนไหวบีบตัวเองตอบรับสัมผัสร้อนๆ ที่เคลื่อนไหวช้าสลับเร็ว
ถ้าจะให้โรสรินทร์จัดการกับเขาบ้าง เขาคงต้องรอคอยครั้งต่อไปที่จะต้องมีอีกหลายๆ ครั้ง เขาก็อดใจรอไหว
ภีมะเองสัมผัสหญิงสาวด้วยการเคลื่อนไหวทั้งมือและปากเร็ว ระรัวถี่ยิบที่เพียงไม่นาน เขาก็ได้ลิ้มรสน้ำกุหลาบรสฝาดปนหวานอย่างใจต้องการ
เพราะนี่เป็นครั้งแรกของโรสรินทร์ สิ่งที่เขาต้องการจะต้องทนรอไปอีกนิด ค่อยๆ เติมเพลิงพิศวาสให้เธอเกิดความต้องการจนถึงขีดสุด ชายหนุ่มเคลื่อนจุมพิตมาที่เกสรฉ่ำนุ่ม แต่ยังคงวางนิ้วมือไว้ที่ท่อลำเลียงน้ำหวานใน เมื่อลิ้นสากระคายทำการทักทายยอดสวาท นิ้วยาวก็เคลื่อนเข้าไปทักทายกุหลาบอ่อนเยาว์
“โอ้ย! เจ็บ!”
โรสรินทร์สะดุ้ง เมื่อความเสียวซ่านแปรเปลี่ยนเป็นความอึดอัดระคนปวดร้าวเล็กๆ เธอรีบขยับสะโพกหนี “ถอยออกไปนะไอ้บ้า”
ภีมะเงยหน้าเปื้อนยิ้มขึ้น “ผมว่าแล้วเชียว คุณหนูโรสจะต้องขี้ขลาด แล้วก็จริงๆ ด้วย แค่นี้ก็ไม่กล้า” ชายหนุ่มท้าทายพร้อมกับนิ้วที่หยุดเคลื่อนไหว แต่ไม่ใช่ปากและลิ้น ที่ยังทำการปลุกเร้าอารมณ์พิศวาสของโรสรินทร์ไม่หยุด
“เออ...นายคิดว่าฉันโง่พอถูกหลอกซ้ำสองหรือไง ไม่มีทาง ถอยไปเลยนะไอ้บ้า หยุดทำบ้าๆ แล้วถอยไปไกลๆ เลยน่ะ”
“ไอ้การที่เราจะ...เมกเลิฟหาความสุขกัน เขาไม่เรียกว่าบ้าหรอกครับ เผลอจะเป็นคุณหนูนั่นแหละที่ไม่อยากให้ผมหยุด ร้องบอกว่าเอาอีกๆ หลายๆ รอบ”
“ใครมันจะไปทำบ้าๆ อย่างนั้นกันเล่า”
“ผมถือว่าคุณหนูท้าทายที่จะต้องรีบทำให้เป็นจริงไวๆ ”
ภีมะรีบแนบกายที่ตอนนี้ปราศจากเสื้อสูท พร้อมจัดการกับกระดุมเสื้อตัวในจนหมดในเวลาเดียวกัน ขณะปากหนาก็ฉกลงไปบนปทุมถันที่ไหวระริก พร้อมส่งมือเข้าไปไกล่เกลี่ยเส้นทางสวาท เพื่อที่จะได้ทำการมอบความสุขให้กับหญิงสาวต่อไปในกาลข้างหน้า
“ฮื้อ...” มือเธอจิกเกร็งและกำผ้าปูเตียง ขณะสองเท้าก็ถูกไถไปมา ใบหน้าก็ส่ายไปมาบนหมอน ริมฝีปากนุ่มขบกัดจนฮ้อเลือด พร้อมกับลมหายใจที่หอบพร่า เมื่อภีมะเคลื่อนไหวร่างกายรัวเร็ว โรสรินทร์รู้สึกเหมือนกับตอนนี้ตัวเองได้กลายร่างเป็นนกที่บินขึ้นไปบนฟ้ากว้าง ท่องเที่ยวไปในดินแดนที่ยังมิเคยได้พานพบมาก่อน
ภีมะปวดร้าวไปทั้งร่าง เมื่ออาวุธคู่กายชูตระหง่านด้วยความต้องการจะบุกรุกโพรงเนื้ออุ่นนุ่มในเร็วไว แต่จำต้องสะกดกลั้นเอาไว้ เพราะเขาคิดว่าโรสรินทร์ยังไม่พร้อมพอ ชายหนุ่มจึงกดจุมพิตไปทั่วเรือนกายนุ่มหวาน ก่อนจะหยุดบนทรวงอกกลมกลึงที่สวยจนเขาถึงกับร้องอู้
“ผมชอบอกคุณหนูจัง ไม่แค่นุ่มนิ่ม ยังจะชอบเชิญชวนให้ผมอยากทำอย่างนี้ตลอดเวลา”
เขาแนบปากลงไปขบเม้มเม็ดบัวสีชมพูระเรื่อ พลางทำการกำจัดอาภรณ์ส่วนที่เหลือ แต่เผอิญก็นึกขึ้นได้ว่าเคยรับปากกับใครบางคนเอาไว้ จะไม่ล่อลวงและล่วงเกินโรสรินทร์ จนกว่าหญิงสาวจะพร้อมและยินยอมเป็นของเขาโดยไม่ต้องมีการใช้กำลังหรือถูกบังคับด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตาม
“คุณหนูใจอ่อนกับผมตอนนี้ไม่ได้หรือครับ” เมื่อต้องระงับใจ แต่กายกลับร้อนรุ่ม ภีมะจึงครุ่นคิดจนหัวหมุน จะทำเช่นไรโรสรินทร์ถึงจะใจอ่อนเอ่ยยอมเป็นของเขา ไม่ใช่เพียงแค่นอนกอดกับสัมผัสเธอเพียงแค่ภายนอกอย่างนี้
“รอไปเถอะยะ ยังไงฉันไม่บ้าพอยอมเป็นของเล่นให้นายย่ำยีตามใจชอบหรอกน่ะ”
เมื่อเริ่มหายใจคล่องตัวมากขึ้น โรสรินทร์ก็นึกขึ้นมาได้ ความอายผสมกับเพลิงโทสะที่ถูกจาบจ้วงก็เพิ่มมากขึ้นเป็นทวีคูณ เธอรีบลุกขึ้นนั่นและโดยลืมไปว่าตัวเองอยู่ในสภาพใด จะยั่วยุอารมณ์คนที่พยายามอดทนกับความต้องการอยู่มากเพียงใด
หญิงสาวกวาดตาไปทั่วห้อง พบว่าเหนือเตียงไปนั้นมีโคมไฟขนาดพอเหมาะมือ และเธอก็ไม่รอช้า ยื่นมือไปคว้ามาเพื่อฝาดลงไปบนศีรษะทุย
ยังไงก็ต้องเอาเลือดหัวภีมะออกให้ได้!
“โอ๊ย!” โรสรินทร์ร้องเสียงดังลั่น ใบหน้าขาวนวลแดงและเหยเก เมื่อเจ็บที่แขนราวกับว่ามันกำลังจะหักจากน้ำมือของภีมะที่บีบลงมา
“คุณนี่มัน...เผลอเป็นไม่ได้เชียวน่ะ”
ดวงตาคมดุแวววาวด้วยเพลิงโทสะ ขณะดึงโคมไฟจากมือโรสรินทร์นำไปวางไว้ที่เดิม
“ผมอุตส่าห์ระงับใจ ยอมปล่อยคุณแล้วนะ ในเมื่อคุณหนูไม่ต้องการ งั้นเราก็มาต่อกันให้จบดีกว่า” ภีมะเอ่ยน้ำเสียงคล้ายเสือคำราม ดื้อรั้นและดึงดันอย่างนี้ ก็เตรียมตัวรับบทลงโทษที่เขาจะมอบให้ก็แล้วกัน!
“ปล่อยฉันนะไอ้บ้า ไอ้เลว” หญิงสาวทุบกายแกร่งแรงๆ เมื่อถูกดันให้นอนลงบนเตียงใหญ่อีกครั้ง ที่คราวนี้หัวใจเธอหล่นหายลงไปที่ตาตุ่ม
“ปล่อยฉันนะไอ้หมูสกปรก ปล่อย...” หากเสียงที่ก่นด่ากลับหายไปในลำคอ เพราะปากหนาที่ฉกวูบลงมา ลิ้นสากร้อนไกล่เกลี่ยเส้นทาง ก่อนสอดแทรกเข้าไปความหวานจากโพรงปากนุ่ม แต่ก็ดูเหมือนว่าโรสรินทร์เองก็รู้เลยขบริมฝีปากไว้แน่น ไม่ยอมให้ภีมะทำอย่างที่หวังได้ง่ายๆ
ภีมะหัวเราะกลั้วคอ ขณะจับมือเรียวตรึงไปไว้เหนือศีรษะ พลางส่งอีกมือที่ว่างวางบนดอกบัวตูม ซึ่งกำลังชูช่อไสวบดเบียดแนบชิดกับอกกว้าง
“ก็ปล่อยแล้วไงเมื่อกี้ แต่คุณหนูเป็นคนยั่วให้ผมต้องเริ่มใหม่”
เขาลูบไล้มือไปบนปทุมถันนุ่มหยุ่น ปลายนิ้วตวัดไล้ปลายยอดสร้างความปั่นป่วนและรัญจวนใจให้กับโรสรินทร์จนหลุดเสียงครางแผ่วเบาออกมา
ปากอิ่มเผยอออก เปิดโอกาสให้ภีมะได้สอดลิ้นร้อนเข้าไปตวัดกวัดเกี่ยว กายหนาขยับโอบรัดรอบกายนุ่มจนแทบจะไม่มีที่ว่าง มือที่ว่างอยู่ก็รีบทำการดึงอาภรณ์ที่ยังคงเหลืออยู่ติดกายเขาออกไป
“แล้วเราจะไปด้วยกัน...เชื่อใจนะ ผมจะไม่ทำให้คุณหนูโรสเจ็บปวด”
จากคลอเคลียขบกัดซอกคอระหง เขาเคลื่อนจุมพิตลงมาจนได้พบกับทรวงอกคู่งามที่ชูช่ออวดทับทิมสีสวยสด ชายหนุ่มส่งลิ้นสากร้อนแตะลงไปอย่างแผ่วเบา ก่อนที่ปากหนาร้อนจะกลืนกินปลายยอดสีทับทิมเข้าปาก อีกฝั่งก็ส่งมือไปโอบอุ้ม พร้อมมอบสัมผัสหวานๆ ให้อย่างไม่รู้จักเบื่อหน่าย
“ไม่! ฉันไม่ต้องการแบบนี้” โรสรินทร์โต้เสียงอ่อนเบา เพราะร่างกายที่เริ่มอ่อนแรงจากสัมผัสที่ภีมะทุ่มลงมา
“ไม่อยากให้ผมทำอย่างนี้จริงๆ หรือครับ” ปากอุ่นระอุลากไล้สลับกลืนกินเม็ดบัวทั้งสองข้างอย่างไม่ปรานี
ร้อนจัง!