เธอรู้สึกเหนื่อยล้าเป็นอันมาก แต่ทุกอย่างก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดีด้วยความช่วยเหลือของกายสิทธิ์ ก่อนที่เขาจะกลับมาส่งเธอ เขาก็พาเธอแวะรับประทานอาหารเรียบร้อยแล้ว
เสียงข้อความไลน์ดังขึ้น เธอเปิดอ่านก็ยิ้มกว้างเพราะเป็นข้อความของกายสิทธิ์ เขาส่งข้อความมาบอกเธอว่า เขาถึงบ้านเรียบร้อยแล้ว
ทางด้านกายสิทธิ์ เขาอมยิ้มเมื่อได้รับสติ๊กเกอร์ไลน์ของเพื่อนรักที่เขาคิดไม่ซื่อด้วยว่าเธอก็อาบน้ำเตรียมเข้านอนแล้ว
ชายหนุ่มพิมพ์คุยกับเธออีกพักใหญ่ก่อนจะจัดการอาบน้ำอาบท่าและเดินไปเคาะห้องนอนของน้องสาวฝาแฝด
“ว่ายังไงคะคุณพี่ชาย มีอะไรถึงมาเคาะห้องน้องแบบนี้” กชนิภาเอ่ยถาม พลางหลีกทางให้พี่ชายเดินไปทรุดตัวนั่งลงบนเตียงนอนหนานุ่ม
ในห้องนอนกว้างของกชนิภาเป็นห้องนอนโทนสีขาวสะอาดตาและมีเครื่องใช้ภายในห้องแทรกด้วยสีชมพูหวานแหวว
“ฝันหวานโทร. หาคุณนิแล้วใช่ไหม” สรรพนามของสองพี่น้องน่ารักเสมอเมื่อใครได้ยินได้ฟัง เพราะต่างเรียกกันว่าคุณ บ้างก็เรียกพี่แทนตัวเองว่าน้องกระหนุงกระหนิง แม้จะขี้เกรงกันไปบ้าง แต่เป็นพี่น้องที่รักกันมาก
“หือ... คุณกายจะทำลูกด้วยวิธีนี้จริงๆ เหรอ” กชนิภาเอ่ยถามพี่ชาย สรรพนามที่เธอกับเขาใช้เรียกกันอย่างน่ารักนี้ ใช้เรียกกันจนติดปากมาตั้งแต่เด็ก ๆ
“ก็เขาไม่ให้ทำด้วยวิธีธรรมชาติ”
“แล้วทำไมไม่บอกยายฝันหวานไปว่าคุณกายชอบ ไม่สิ ต้องบอกว่ารักมาก รักมานานแล้ว รักมาตั้งแต่เด็ก รักมายี่สิบห้าปี ยี่สิบห้าวัน ยี่สิบห้าชั่วโมง ยี่สิบห้านาที และยี่สิบห้าวินาที” น้องสาวคนสวยนั่งลงใกล้พี่ชายก่อนจะตบไหล่พี่ชายเบา ๆ
“บอกไปแล้วเขาไม่เชื่อ หาว่าพูดเล่น”
“คุณกายก็ต้องจริงจังหน่อยสิคะ”
“จริงจังที่สุดแล้ว”
“แบบเอาดอกไม้ไปคุกเข่าขอแต่งงาน แล้วใส่แหวนเพชรเอาไว้ในช่อดอกไม้ไรงี้”
“เป็นวิธีการที่โรแมนติกมาก เคยคิดจะทำ แต่มันเหมือนลิเกไปหรือเปล่า กลัวฝันหวานจะขำแล้วปฏิเสธ ได้หน้าแตกยับเยิน แล้วการที่พี่เดินเข้าไปบอกว่ารักนะ เป็นแฟนกันนะ แบบแมนๆ มันดูไม่จริงใจเหรอ”
“อาจเพราะคุณกายเป็นเพื่อนกับยายฝันหวานมาตั้งแต่เด็กก็ได้ ยายฝันหวานเลยคิดว่าคุณกายล้อเล่นไง”
“เหรอ”
“แล้วคิดแผนการนี้นานไหม”
“แผนการอะไร” คนถามแกล้งทำไขสือ
“อยากได้เขาเป็นเมียจนต้องโกหกว่าคุณนายกชมนบังคับให้แต่งงาน ทั้ง ๆ ที่แค่อยากให้แต่งงานแต่ไม่ได้บังคับถึงขนาดนั้น” คุณนายกชมลคือมารดาของสองหนุ่มสาวนั่นเอง
“อย่ามาล้อเลียนพี่เรื่องแผนการเลย ที่เอาคุณแม่มาอ้างเพราะกันเหนียว อย่างน้อยพี่ก็ไม่ได้โกหกเขาไง” กายสิทธิ์ทิ้งตัวลงนอนบนเตียงนุ่มๆ ของน้องสาว
“ไม่ได้ล้อเลียน แต่อย่าลืมนะว่าน้องกุมความลับของคุณกายเอาไว้ ห้ามขัดใจหรือทำอะไรให้น้องไม่พอใจเด็ดขาด” เธอหัวเราะอย่างชั่วร้าย
“อย่าแกล้งพี่เลยนะ พี่อยากมีเมียจริงๆ ช่วยหน่อยนะ”
“คุณกายรู้ไหม”
“รู้ว่า”
“การฉีดน้ำเชื้อเข้าโพรงมดลูกกับทำเด็กหลอดแก้วหรือการไปทำลูกกับหมอน่ะต้องมีทะเบียนสมรสด้วยนะ"
"หือ... ต้องขนาดนั้นเลยเหรอ”
“ก็ใช่น่ะสิ ไม่อย่างนั้นก็จะเกิดคดีอุ้มบุญขึ้นได้ ถ้าคุณกายทำวิธีธรรมชาติก็ไม่ต้องบอกให้ชาวโลกรับรู้”
“ก็เพื่อนเราอยากทำวิธีนี้”
“จริง ๆ คุณกายต้องหาทางจีบยายฝันหวานให้ได้ก่อนนะ ไม่ใช่จู่ ๆ จะมาทำลูกกันแบบนี้ วิธีแบบนี้เหมือนผสมเทียมแม่วัวเลยรู้ไหม”
“แต่คิดไปคิดมา ถ้าเขาท้องขึ้นมา มีลูกด้วยกัน เขาอาจจะยอมเป็นเมียพี่ก็ได้นะ”
“คิดได้นะคุณกาย”
“ช่วยพี่หน่อยนะคุณนิ”
“ก็ได้ค่ะ ช่วยก็ได้”
“ช่วยยังไง”
“พรุ่งนี้พี่ก็พายายฝันหวานเข้ามาที่คลินิกตามเวลานัด แล้วคุณนิจะจัดการเอง”
“จัดการยังไง”
“ก็บอกวิธีการว่าจะทำลูกโดยวิธีการฉีดน้ำเชื้อเข้าโพรงมดลูกทำยังไง”
“แล้วมันทำยังไงเหรอ” กายสิทธิ์เอ่ยถาม
“ไม่บอกค่ะ”
“อ้าว...”
“เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็รู้เองค่ะ คุณนิง่วงแล้วค่ะ คุณกายจะนอนกับคุณนิไหม” สองพี่น้องนอนห้องเดียวกันมาจนโต พอมัธยมต้นนั่นแหละ บิดามารดาจึงจับแยกห้องนอน
แต่ไม่นานบิดาก็นอกใจไปมีเมียน้อย ทำให้มารดาหย่าขาดจากบิดา และเลี้ยงลูกมาคนเดียว กชนิภาคิดว่านี่คงเป็นสาเหตุหนึ่งที่เธอไม่อยากแต่งงาน และเพื่อนของเธออย่างวินิทราก็คงเจอสภาพเดียวกัน คือมีพ่อที่แย่ จึงคิดว่าหากเราต้องแต่งงานกับผู้ชายไม่ดี เราโสดน่าจะดีกว่า ทำงานหาเงินใช้เอง มีความสุข สบายใจ อยากไปไหนก็ไป ไม่ต้องคอยห่วงหน้าพะวงหลัง แต่ถ้าเจอผู้ชายดีๆ เธอก็ไม่ปฏิเสธเหมือนกัน
กายสิทธิ์นอนไม่หลับเอาเสียเลย เมื่อกลับไปนอนที่ห้องนอนของตัวเอง เขาคิดอะไรมากมายอยู่ในหัว ตื่นเต้นว่าพรุ่งนี้จะเป็นยังไง
“ทำไมตาแกเป็นหมีแพนด้าขนาดนั้น” วินิทราทักเพื่อนหนุ่ม
“เมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับ”
“เป็นอะไร ตื่นเต้นเรื่องจะทำลูกเหรอ”
“เฮ้ย! แกรู้ได้ไง”
“ก็ฉันเป็นเพื่อนแกนี่นา ฉันก็นอนไม่หลับคิดเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน จริงๆ แกลองคุยกับแม่แกดูสิ เผื่อท่านจะเปลี่ยนใจ ไม่บังคับแกแต่งงาน หรือไม่แกก็ลองเปิดใจชอบผู้หญิงดู ผู้หญิงที่แม่แกหาให้อาจจะดีเข้ากับแกได้ ก็ได้นะ”