ตอนที่ 1
(พี่มาทำงาน ไม่ว่างคุยอะไรทั้งนั้น!) เสียงเกรี้ยวกราดเล็ดลอดเข้ามาในสายกระตุ้นธารน้ำตาให้ร่วงเผาะลงมาเปื้อนแก้ม
‘น้องเพลง’ กระวนกระวายตั้งแต่วินาทีแรกที่เห็นภาพสามีที่นอนกอดก่ายกันทั้งคืนกำลังออกเดตกับผู้หญิงคนอื่น
เจ็บจนช้ำ น้ำตานองแก้มจนกระบอกตาร้าวไปหมด เธอพยายามโทรหาเพื่อฟังคำอธิบายที่พอจะทำให้สบายใจได้บ้าง อีกคนกลับสาดวาจาที่ไม่เคยรักษาน้ำใจกลับมาเช่นเดิม
“เพลงเห็นรูปที่พี่ภีมอยู่กับผู้หญิงคนอื่น”
(หยุดทำตัวเป็นเด็กได้แล้วเพลง พี่ทำงาน และไม่มีเวลามาคุยเรื่องไร้สาระกับเธอ!) คนในสายหงุดหงิดแค่ไหนไม่รู้
แต่คนที่ถูกวางหูใส่ครั้งแล้วครั้งเล่าได้แต่นั่งคุกเข่าลงกับพื้นอย่างหมดแรง
เมียที่ไร้ตัวตนก็แค่นี้ เมียที่ไม่เคยถูกคนเป็นสามีแนะนำกับใครต่อใคร หน้าที่เมียอย่างเธอมันมีแค่ที่เตียง ปลดเปลื้องอาภรณ์ให้เขาเชยชมจนอิ่มเต็มคราบ เรื่องของความรู้สึกอย่าไปคาดหวัง
เธอเป็นแค่เมียในอุปถัมภ์ เมียที่เขาจะเลี้ยงดูแค่เพียงหนึ่งปี!
@คฤหาสน์ประภากร
ร่างบอบบางในชุดเดรสสีครีมความยาวเพียงเข่านั่งลงบนโต๊ะอาหารหลังจากที่ตั้งโต๊ะจัดจานและกวาดมองทุกอย่างและเห็นว่าเรียบร้อยดีแล้ว
หนึ่งทุ่มตรงเป็นเวลาของมื้อค่ำ ภีมพลควรออกจากบริษัทตั้งแต่หกโมง หากจะถึงบ้านช้ากว่ากำหนดเนื่องจากรถติดก็คงกินเวลาไม่เกินสิบห้านาที แต่ตอนนี้คนรอก็รอแล้วรอเล่า เวลาล่วงเลยไปจนถึงสองทุ่ม ไร้เงานักธุรกิจหนุ่มผู้เป็นเจ้าของบ้าน อย่าคิดที่จะโทรถามไถ่หากยังกลัวว่าอีกฝ่ายจะสาดน้ำคำที่ไม่เคยรักษาน้ำใจกลับมา
“ป้าว่าคุณเพลงทานก่อนดีไหมคะ คุณภีมอาจจะมีงานด่วนที่สำคัญเลยกลับช้า” ป้าบัวที่มีสถานะเป็นแค่แม่บ้านบอกกับเจ้านายด้วยความห่วงใย
ในยามที่มองดวงหน้าหวานและประสานสายตาเข้ากับตาสวยแกมเศร้า รู้อยู่เต็มอกว่าภรรยาของเจ้านายเศร้าแค่ไหน
คนสองคนที่อยู่ร่วมกันแต่เหมือนอยู่แบบไม่ได้รัก คุณหญิงกฤตยามีลูกชายแค่คนเดียว ในวัยที่แก่ตัวลงทุกวัน คนเป็นแม่อยากอุ้มหลาน ครั้งแล้วครั้งเล่าที่หาภรรยาที่เหมาะสมมาให้ลูกเลือก กระนั้นภีมพลก็ปฏิเสธกลับทุกราย และสุดท้ายก็หาภรรยาเข้าบ้านด้วยตัวเอง
ครั้งแรกที่เห็นธัญชนกหรือคุณเพลง หญิงสาวสวยดับจิต รูปร่างหน้าตาหาที่ติไม่ได้ ทุกอย่างเหมือนจะดีและลงตัว ช่วงแรกหวานหยดจนทุกคนวางใจ ทว่าช่วงนี้ทุกอย่างกลับแปลผัน เหมือนคนสองคนมีเรื่องอะไรร่วมกันแต่คนอื่นไม่รู้แค่นั้นเอง
“เพลงอยากรอทานพร้อมพี่ภีมมากกว่า ป้าบัวไปทานข้าวที่ครัวได้เลยนะคะ เดี๋ยวทางนี้เพลงจัดการเอง”
“ให้ป้าต่อสายหาคุณภีมให้ไหมคะ ถ้าคุณภีมรู้ว่าคุณเพลงรอ…”
“อย่าดีกว่าค่ะ เพลงไม่อยากรบกวนเผื่อพี่ภีมยังคุยงานอยู่ ขอนั่งรอเงียบๆ ดีกว่านะคะ”
“โถ่คุณหนู” ป้าบัวทอดมองภรรยาเจ้านายด้วยสายตาที่อ่อนโยน
ไม่ปฏิเสธว่าเจ้านายอย่างภีมพลหาภรรยาได้เหมาะสม ธัญชนกไม่ได้มีดีแค่รูปร่างหน้าตา ทว่าเจ้าตัวยังมีฝีมือในการทำอาหาร ไม่ขี้เกียจ ทำหน้าที่เมียได้เหมาะสมจนแอบได้ยินคุณหญิงกฤตยาชมเปราะว่าอย่างน้อยๆ บุตรชายก็หาภรรยาได้คู่ควร
ขายาวภายใต้กางเกงขายาวสีดำก้าวลงจากรถก่อนที่มือขวาจะหมุนนาฬิกาข้อมือเพื่อดูเวลา
ปาไปเกือบห้าทุ่มภีมพลเพิ่งถึงบ้าน ความเหนื่อยจากงานที่ก่อปัญหาผุดขึ้นบนกรอบหน้าแต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงความดูดีหล่อเหลาราวกับนายแบบที่หลุดออกมาจากปกนิตยสาร
“พรุ่งนี้มีประชุมย่อยตอนสิบโมงเพียงอย่างเดียวครับ”
“อืม” ริมฝีปากหยักได้รูปขานรับ ขาที่ก้าวอย่างมั่นคงชะงักทันทีที่พบว่าเมื่อเข้ามาในบ้านแล้วพบกับคนที่เผลอหลับบนโต๊ะอาหาร ส่วนอาหารทุกจานยังอยู่ครบเหมือนเดิม
ลมหายใจอุ่นๆ ถูกพ่นออกมาเบาๆ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ธัญชนกทำหน้าที่เมียด้วยการนั่งรอผัว
มันไม่ผิด แต่บางครั้งเธอก็เอาชีวิตของตัวเองมาผูกติดกับเขามากเกินไป
“เอ่อ…”
“กลับไปได้แล้ว” ใบหน้าคมหันไปมองและออกคำสั่งกับลูกน้องคนสนิท
ทิศเหนือกดใบหน้ารับคำเบาๆ แว๊บหนึ่งที่มองคนที่รอจนหลับ ความห่วงใยทำงานอัตโนมัติ แต่ถึงอย่างนั้นก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากการถอยหลังและเดินกลับออกไป
“อ๊ะ! พี่ภีมกลับมาแล้วเหรอคะ” เพราะรู้สึกเหมือนถูกจ้อง คนที่รอจนหลับจึงขยับตัวและตื่นในที่สุด
ในยามที่มองสบตากับนัยน์ตาคมเข้ม ความน้อยใจเกาะกินใจจนเจ็บ ครั้งแล้วครั้งเล่าที่เขาปล่อยให้รอ ขออนุญาตโทรถามไถ่เขายังไม่อยากให้โทร
“หิวไหมคะ เดี๋ยวเพลงเอากับข้าวไปอุ่นอีกรอบ”
“พี่ทานมาเรียบร้อยแล้ว จะขึ้นไปอาบน้ำแล้วจะนอนเลย” คนฟังกัดปากตัวเองเบาๆ สรุปสั้นๆ คือเธอรอเก้ออย่างนั้นสินะ
“คุยกันหน่อยไหม”
“…”
“วันนี้ทำไมต้องโทรไปเซ้าซี้แบบนั้น ทำไมต้องทำเรื่องที่มันไร้สาระขนาดนี้ด้วยเพลง”
“เพื่อนเพลงบังเอิญเจอพี่อยู่กับผู้หญิงคนอื่นเขาเลยถ่ายรูปส่งมา เพลง…”
“แล้วทำไมไม่บอกว่าอีกไม่กี่เดือนเราก็หย่ากันแล้ว”
“พี่ภีม…”
“อย่าทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ ทีหลังไม่ต้องโทรหา ไม่ต้องโทรตาม พี่ไม่ชอบ!”