6| เจ็บ 1/2

1142 Words
“แน่นอน ไม่เชื่อเหรอเดี๋ยวจะทำให้ดู” ฉันยกมือปิดปากเมื่อเห็นว่าน้องทำจริง เปิดห้องแรกแล้วกวักมือเรียกฉันให้ไปดู “อะไรวะ ! “ ฉันรีบส่ายหน้าเพราะแขกในห้องแรกไม่ใช่พี่แม็กผู้ชายที่ฉันกำลังตามหา “แบบนี้จะไม่ดีนะ มันดิบไป น้องจะเดือดร้อน” “ชักช้าจะไม่ได้เรื่องนะ” ฉันต้องรีบทำอะไรสักอย่างก่อนที่น้องจะเปิดห้องถัดไป ถ้าเกิดในห้องกำลังโบ๊ะบ๊ะกันอยู่ล่ะแบบนั้นจะถูกฟ้องมั้ย เสียชื่อร้านแล้วจะเอาปัญญาจากไหนมาชดใช้ “โทรก่อน ใจเย็นๆพี่กำลังโทร” ฉันรีบหยิบมือถือออกมาจากกระเป๋าสะพายก่อนที่ห้องต่อไปจะถูกเปิด “อายุเท่าไหร่แล้ว ทำไมคิดว่าผมเป็นน้อง” ฉันเหลือบตาขึ้นมองเขาแวบนึงก่อนที่จะเลื่อนหาชื่อของพี่แม็กต่อ “หน้าพี่แก่กว่ามั้ง” เพราะฉันเคยหน้าแตกไปเรียกคนอื่นว่าพี่ก่อนแล้วไง หลังจากนั้นก็คิดว่าตัวเองเป็นพี่ตลอดเลย เล่นตัวเองก่อนจะได้ไม่เจ็บหนัก “ตรงไหน ไม่นะ” “เดี๋ยวเลี้ยงเหล้าเลยพูดงี้ แต่ไม่ใช่ร้านนี้นะ ไม่มีปัญญาจ่าย แพงเกิน” พอกดโทรออกฉันก็เดินเลี่ยงออกมาจากตรงนั้นเล็กน้อย ด้านบนเป็นโซนวีไอพีอย่างที่เขาบอกจริงๆ ได้ยินเสียงดนตรีจากด้านล่างเพียงเล็กน้อยเท่านั้น “ฮัลโหลพี่แม็ก อยู่ไหนอ่ะวันนี้มารับก้อยหน่อยได้มั้ย” ฉันเหลือบตามองร่างสูงที่ยืนมองอยู่ไม่ไกล ยังกระดกเหล้าอย่างชิลล์ๆไม่ยอมไปไหน (เลิกกี่ทุ่ม ทำโอเหรอ) “ที่บริษัทมีงานเลี้ยงน่ะ พี่แม็กอยู่ไหนเหรอ ร้านเหล้าหรือว่าบ้านเพื่อน” ระหว่างที่ถามก็ชะเง้อคอมองประตูห้องวีไอพีไปด้วย (พี่อยู่ข้างนอก ก้อยเลิกกี่ทุ่มถ้าไม่ดึกมากพี่จะไปรับ พรุ่งนี้พี่มีงานเช้ากลัวตื่นไม่ทัน) “ก็เกือบเที่ยงคืนเลยอ่ะ บริษัทจัดงานเลี้ยง”ฉันไม่เคยอ้อนพี่แม็กให้ทำแบบนี้เลย เรื่องไปรับ-ส่งฉันไม่เคยรบกวนเขาเลยเชื่อมั้ยเพราะคิดว่าเป็นเรื่องไม่ได้ลำบากอะไรเลย แต่คนเป็นแฟนกันคบกันมาตั้งสามปีมันก็ควรมีบ้าง แต่ฉันเลือกปัดทิ้งเพราะเราทั้งคู่ต่างก็ทำงานมีภาระหน้าที่ แต่ตอนนี้ฉันกำลังอ้อนเขาอยู่ อ้อนเขาให้ทำในสิ่งที่ฉันไม่เคยมีโอกาสได้รับ (จิ๋วล่ะ ว่างมั้ย) “ไม่เป็นไร ก้อยกลับเองก็ได้” (โกรธพี่หรือเปล่า) “พี่แม็กอยู่ไหน บอกก้อยได้มั้ย” (ก้อย เป็นอะไรหรือเปล่าปกติก้อยไม่เซ้าซี้พี่แบบนี้นี่) “ก้อยก็แค่อยากรู้ไม่ได้เหรอ” (แค่นี้ก่อนนะ พี่กำลังคุยงานกับเพื่อนอยู่) ฉันยังไม่ยอมวาง เดินไปตามทางแล้วแนบหูกับประตูห้องเผื่อได้ยินเสียง “พี่แม็ก มีอะไรโกหกก้อยอยู่หรือเปล่า” แกร็ก (ก้อยกำลังงี่เง่าอยู่รู้ตัวมั้ย) ประตูห้องข้างหน้าถูกเปิดออก พร้อมปรากฏร่างสูงที่คุ้นเคยของผู้ชายที่ฉันรัก “อยู่นี่ทำไมไม่บอกคะ” “พี่แม็กก็ไหนบอกเลิกแล้วไงคะ พลอยทนไม่ไหวแล้วนะ” “พลอยพี่กำลังจะเคลียร์อยู่นี่ไง” แขนหมดแรงโทรศัพท์แทบหลุดจากมือ ถึงจับไม่ได้คาหนังคาเขาว่าทั้งคู่แอบคบกันแต่ปฏิกิริยาของผู้หญิงคนนั้นเป็นใครก็มองออกว่ากำลังหวงพี่แม็กอยู่ “ก้อยจะไม่อาละวาด ออกมาคุยกันดีๆ” “ได้ พี่ก็อยากคุยกับก้อยนานแล้วเหมือนกัน” นานแล้วเหรอ ก็แสดงว่าแอบนอกใจกันมานานแล้ว ฉันเข้าใจถูกมั้ย ฉันเดินตามพี่แม็กมาที่บันไดหนีไฟ เป็นสถานที่สงบเหมาะสำหรับการเคลียร์ใจในครั้งนี้ ฉันขอให้มีแค่เราสองคน ไม่อนุญาตให้บุคคลที่สามเข้ามาอย่างเด็ดขาด “พี่แม็กเริ่มก่อนสิ” “ก้อย” แค่ได้ยินเสียงเรียกชื่อน้ำตาฉันก็จะไหลแล้ว “พี่มีคนอื่นใช่มั้ย”ตลอดเวลาที่คบกันฉันไม่เคยคิดเรื่องอื่นเลยรู้มั้ย ฉันรักผู้ชายคนนี้มาก เขาดีกับฉันอยู่ข้างฉันมาตลอดแม้ในวันที่ฉันไม่มีอะไรเขาก็ยังไม่ไปไหน ทำไมวันนี้เขาถึงเปลี่ยนไปทำร้ายความรู้สึกจนฉันจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว “ใช่” “ทำไม เป็นเพราะครอบครัวก้อยใช่มั้ยหรือเพราะก้อยดูแลพี่ไม่ดี พี่อยากให้ก้อยเอาใจแบบผู้หญิงคนนั้นใช่มั้ย ก้อยก็ทำได้อ่ะ ทำไมไม่บอกก้อย” ฉันพยายามควบคุมสติ พูดคุยกันด้วยเหตุผลแต่ก็ไม่ไหว “ก้อยก็รู้ว่าแม่พี่ไม่ชอบครอบครัวก้อย แต่งกันไปก็มีปัญหาอยู่แล้ว” “ก็เลยเลือกนอกใจกันแบบนี้เนี่ยเหรอ” “พี่ตั้งใจจะบอกอยู่แล้ว” “ตั้งใจกี่โมง ไม่รักแล้วก็บอกมาดิจะได้ทำใจ ทำร้ายกันแบบนี้ทำไม ชีวิตก้อยมันยังแย่ไม่พออีกเหรอ พี่รู้มั้ยว่าก้อยทะเลาะกับแม่จนไม่มีที่อยู่” “ทำไมก้อยไม่บอกพี่” “พี่ละเลยก้อยมานานแล้วรู้ตัวบ้างมั้ย” คนเปลี่ยนไปมักไม่รู้สึกตัวหรอก หรือบางทีเขาอาจจะตั้งใจก็ได้ “ก้อย พี่ขอโทษ” ฉันมองหน้าพี่แม็กนิ่ง ไม่พูดต่อเพราะรู้อยู่แล้วว่ามันจะจบลงยังไง “เราเลิกกันเถอะ ก้อยขอเป็นคนพูดนะเพราะไม่อยากถูกนินทาว่าโดนผู้ชายทิ้ง” มันไม่ได้แย่เลยสักนิดก็แค่เสียใจฟูมฟายอยู่สักพักเดี๋ยวก็หาย สามปีที่ผ่านมาฉันไม่เสียดายเพราะมันดีมากๆ ถึงแม้ตอนจบจะไม่แฮปปี้ก็ไม่เป็นไร “น้องเบียร์ขวดนึง” เขาไม่รั้ง ไม่ห้ามและไม่บอกลาฉันเลยสักคำ เป็นฉันเองที่ก้าวออกมา “เจ็บฉิบหาย” เดินออกมาจากผับพร้อมกับเบียร์หนึ่งขวด กระดกดื่มมาเรื่อยแล้วมาหยุดอยู่ที่ป้ายรถเมล์ ปรือตามองรถเมล์เที่ยวสุดท้ายที่เพิ่งขับออกไปแล้วหัวเราะกับตัวเอง ปี๊น ปี๊น “ไหวมั้ย” เสียงแตรและตามมาด้วยประโยคคำถามของน้องพนักงานทำให้ฉันตาโตเพราะรถที่ขับมาจอดไม่ธรรมดา “ไหว” “กลับไง” “เดินมั้ง รถไปนู่นแล้ว” “ไปส่ง ขึ้นรถเร็ว” แล้วฉันก็ใจง่ายขึ้นรถไปกับน้องพนักงาน “เล่นเป็นขวดเลยเหรอ” “ถือแก้วด้วย ไม่ไหว เอามั้ย” “เอาอะไร” “เบียร์ไง รังเกียจมั้ยล่ะ” ยื่นทั้งขวดให้ “ผมพาไปเลี้ยงดีกว่า อยากดื่มต่อมั้ยล่ะ” “เอาดิ” "จบยังไง" "เป็นคนบอกเลิกเอง อย่างเศร้าเลย" ________

Great novels start here

Download by scanning the QR code to get countless free stories and daily updated books

Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD