ต่อสู้เพียงลำพัง

911 Words
“จะทำไงดี” หล่อนพึมพำ หญิงสาวนามว่าวิชุดาติดอยู่ในคอนโดของตนมีอาหารอยู่พอเลี้ยงตนเองได้อีกเพียงสามวันและหลังจากนั้นเธอก็จะอดตายอยู่ในนี้หากเธอยังไม่ออกไปจากที่นี้ ห้องของเธอถูกปิดจากด้านในและล๊อคประตูอย่างแน่นหนา อีกทั้ง ยังมีตู้ขนาดเล็กใหญ่ต่างๆ ดันประตูไว้เพื่อไม่ให้บางสิ่งเข้ามา เธอนั่งครุ่นคิดอยู่นานว่าเธอจะออกไปได้อย่างไรและทำอย่างไรจึงจะรอดออกไปถึงค่ายกักกันอย่างปลอดภัย “เอาวะเป็นไงเป็นกัน ตายก็ตายสิ อยู่ก็ตายไม่อยู่ก็ตาย ไปตายเอาดาบหน้าละกัน" เธอพูดพลางเก็บของไปพลางนำสิ่งของจำเป็นใส่ลงกระเป๋าเป้ที่เคยไว้บรรจุของ สำหรับไปเที่ยวบัดนี้เธอต้องนำมาไว้สำหรับเดินทาง เพื่อหนีผีร้ายที่อยู่ด้านนอกไปยังค่ายกักกันที่เธอพยายามติดต่อเท่าไหร่ก็ไม่มีสัญญาณเลย เธอรู้ดีว่าสัญญาณทุกอย่างถูกตัดไปหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ที่น่ากลัวนี้ขึ้นเมื่ออยู่ๆ มีข่าวออกไปทั่วโลก ว่าให้ทุกคนกักตุนอาหารของตนเองให้เพียงพอและห้ามออกจากบ้านหรือที่อยู่อาศัยเพื่อความปลอดภัย มีคนติดเชื้อโดยการถูกกัดและเมื่อผู้ติดเชื้อนั้นติดเชื้อก็จะมีหน้าตาเปลี่ยนไปเหมือนในหนังซอมบี้ยังไงอย่างนั้นเลย เธอไม่เคยคิดว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นจริงๆ “เรียบร้อย” พรุ่งนี้ก็เดินทางได้ อาวุธที่เธอมีก็มีเพียงมีดทำครัวปลายแหลมเพียงสองสามเล่มที่เหน็บไว้บริเวณกระเป๋าคาดเอวที่เธอทำไว้สำหรับใส่มีดโดยเฉพาะ “ฮึบ เฮ้อ” เสียงถอนหายใจบวกกับเสียงลองดึงเชือกที่ผูกติดกับหน้าต่างชั้นสองปลายเชือกห้อยลงไปด้านล่างของตึก “ดีนะที่อยู่ชั้นสองขืนอยู่สูงกว่านี้คงตกลงไปคอหักตายก่อนแน่ๆ ฉัน” หล่อนถอนหายใจอย่างโล่งอก “คงต้องรอให้มืดกว่านี้หน่อยดีกว่าไม่อย่างนั้นคงหนีไม่รอดแน่ๆ” เมื่อถึงเวลาดึกสงัดทุกอย่างดูเงียบลงเธอปิดไฟในห้องและปรับสายตาให้เข้ากับเวลากลางคืน เธอค่อยๆ ปืนลงมาทางหน้าต่างช้าๆ และเงียบที่สุด เดินมุ่งหน้าไปทางศูนย์กักกันโดยเดินเท้าเพื่อให้เงียบที่สุดตึกของเธออยู่ห่างจากศูนย์กักกันประมาณห้าสิบกิโล “คุณ คุณๆ” เธอได้ยินเสียงคนเรียกดังออกมาจากตึกแห่งหนึ่ง เธอหันซ้ายหันขวาก็ยังไม่พบคนที่เรียกเธอเลยมองเข้าไปยังหน้าต่างบานเล็กบ้านหลังหนึ่งเห็นเป็นเงาคน “นายเรียกฉันเหรอ” “ใช่ คุณกำลังจะไปไหนอะ" วิชุดาไม่ตอบ แต่ปีนเข้าไปยังรั่วบ้านของชายคนนี้ “เปิดประตูให้หน่อย” “คุณไม่โดนกัดมาใช่ไหม” “ใช่ฉันยังไม่โดน เร็วๆ เข้าจากไม่โดนก็จะโดนก็ตอนนี้แหละเปิดด่วน” หลังจากนั้นชายหนุ่มก็เปิดประตูให้เธอเข้าไปด้านในบ้านพร้อมทั้งปิดประตูลงอย่างแน่นหนา “นายอยู่คนเดียวเหรอ” “ใช่ผมอยู่คนเดียว ก่อนหน้านี้ผมอยู่กับภรรยาแต่ตอนนี้เธอติดเชื้อไปแล้ว เธอติดเชื้อตอนที่ออกไปทำงานเธอไม่ทันได้กลับบ้านนะ” ชายหนุ่มเล่าถึงภรรยาขอบตาแดงก่ำ หญิงสาวนึกสงสารจับใจ “นายชื่ออะไร” “เราชื่อนพ เธอละ" “เราชื่อวิชุดา เรียกวิเฉยๆ ก็ได้” “แล้วนี่คุณกำลังจะไปไหน” “ฉันจะไปที่ค่ายกักกันนะ” “ยังมีคนอยู่ที่ค่ายนั้นด้วยเหรอ ผมลองติดต่อไปหลายครั้งเลยไม่มีใครติดต่อกลับมาเลย” “ระบบสัญญาณล่มติดต่อใครไม่ได้หรอก ฉันก็พยายามติดต่อไปเหมือนกัน แต่ถึงยังไงก็ต้องลองไปดูอะดีกว่านั่งรอความตายอีกอย่างอาหารฉันก็เหลืออีกแค่สามวันขืนอยู่ต่อก็คงอดตาย” “ก็จริงของคุณผมเองก็ใกล้จะหมดแล้วเหมือนกัน น่าจะอยู่ได้ประมาณ อาทิตย์หนึ่งงั้นผมไปด้วยนะ” “ไปสิ แต่มันอันตรายมากนะอาจจะเกิดเรื่องไม่ดีกับพวกเราก็ได้” “ไม่เป็นไรผมตัดสินใจแล้ว” “เอาละคืนนี้พักผ่อนกันแล้วค่อยไปต่อคืนพรุ่งนี้” “ทำไมไม่ไปกลางวันละ” “ไปกลางวันไม่ได้ เพราะซอมบี้พวกนี้ตอนกลางวันจะหูตาดีมากเราเลยต้องไปตอนกลางคืนกัน” “อืม ว่าแล้วเชียวตอนกลางคืนฉันนั่งสังเกตอยู่ว่าทำไมไม่ค่อยเห็นมันเดินเลย” “แต่ตอนกลางวันจะเดินเยอะกว่า” “แต่ก็ใช่ว่ากลางคืนจะปลอดภัย เวลาเดินทาง เราต้องเดินทางให้เงียบที่สุดพวกนี้หูดีมากนิดเดียวมันก็กระโจนหาเราแล้ว” “ปะ นอน มีที่ให้ฉันนานไหม” “มีๆ ” ชายหนุ่มหาที่หลับที่นอนให้วิชุดา หลังจากนั้นก็เข้านอน วิชุดาหลับจนถึงเช้าเพราะอ่อนเพลียมาก “ก๊อก แก๊ก ซ่า” เสียงทำอาหารดังมาจากในครัว วิชุดาเดินตามเสียงและกลิ่นไป “หอมจัง นายลุกมาทำอาหารแต่เช้าเลยนะ โหทำเยอะจัง" “ก็ทำเพื่อวินั่นแหละ มาๆ เสร็จพอดีเลยน่ากินไหม” “มาก!! น่ากินมากๆ” วิกล่าวออกไปด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD