จู่ๆ เนตรดาวที่โผล่มาจากไหนไม่รู้ เดินเข้ามาเกาะแขนติณเหมือนต้องการจะแสดงความเป็นเจ้าของ
แค่นั้นยังไม่พอมีการหันมามองจิกฉันอีกต่างหาก
เหอะ อย่างกับว่าฉันสนใจอีตานั่นงั้นแหละ
ติณแกะมือเนตรดาวที่จับแขนของเขาออก สายตาเขาไม่ชำเลืองมองไปทางหล่อนเลยแม้แต่น้อย เอาแต่จ้องฉันไม่วางตา ทำเอาเนตรดาวทำหน้าเหวอ
แต่ทว่าก็ยังคีพลุคไว้ได้อย่างรวดเร็ว เพราะคงไม่อยากเสียหน้า
“รู้จักกันเหรอคะ?” เนตรดาวทำเสียงใส
ฉันมองออกเลยว่าเธอกำลังพยายามทำตัวเป็นนางเอกอารมณ์ดีที่เป็นมิตรกับคนทั่วไป แต่ในใจคงอยากจะจิกหัวฉันแล้ว
อ๋อ ที่พี่ส้มโอบอกว่ายัยนี่มีเสี่ยกระเป๋าหนักเลี้ยง ฉันว่าฉันพอจะเดาออกแล้วล่ะว่าเป็นใคร
“บอกแฟนคุณว่าฉันขอโทรศัพท์คืนด้วยค่ะ” ฉันพูดกับเนตรดาว
เนตรดาวชำเลืองมองที่มือของติณที่กำลังถือโทรศัพท์ของฉันอยู่ เธอดูสงสัยแต่ก็พูดขึ้นว่า “ทำไมโทรศัพท์ของเธอถึงไปอยู่ที่ติณล่ะคะ?”
ติณไม่ตอบแต่กลับยื่นโทรศัพท์คืนให้ฉันอย่างว่าง่าย เหอะ สงสัยแฟนมาแล้วก็เลยไม่อยากจะทำเจ้าชู้ต่อหน้าเธองั้นสิ ให้ง่ายๆ แบบนี้แต่แรกก็จบ ฉันจะได้ไม่ต้องเหนื่อย!
ฉันรับโทรศัพท์คืนมาจากเขาแล้วเดินเชิดกลับเข้าไปในห้องแต่งตัวทันทีโดยไม่หันไปมองสองคนนั้นอีก
เดี๋ยวนะ ยังเหลือกระเป๋าของฉันอีกหนิ ในนั้นมีอะไรบ้างนะ บัตรประชาชน บัตรเครดิต เงินสดอีกเท่าไหร่ไม่รู้แต่คงไม่เยอะ หรือว่าจะช่างมันดี แต่กระเป๋าก็ไม่ใช่ถูกๆ นะ
กรี๊ดดด แต่ว่าฉันไม่อยากจะเจอเขาอีกแล้วนี่นา
ถ้าคุยกันครั้งหน้าฉันอาจจะทนไม่ไหวตบหน้าเขาก็ได้ แล้วถ้าโดนฟ้องร้องขึ้นโรงขึ้นศาลจะทำไงอะ คู่กรณีก็รวยมาด้วย เครียดดด
“ยังไงน่ะขวัญ เม้าท์”
พี่ส้มโอปรี่เข้ามาหาฉันทันทีที่เห็นฉันกลับเข้ามา
ฉันกลอกตามองบน “ไม่มีอะไรค่ะ เขาแค่เอาโทรศัพท์มาคืน”
“เอ้า แล้วโทรศัพท์เธอไปอยู่กับเขาได้ไงอะ?”
“ใช่ ฉันก็อยากรู้เหมือนกัน” เนตรดาวที่เพิ่งเดินเข้ามาโพล่งขึ้น
ท่าทางของเธอต่างจากเมื่อกี้ราวกับหน้ามือเป็นหลังตีนก็ว่าได้ พอลับหลังผู้ชายก็ลายออก นี่คงคิดว่าฉันเป็นกิ๊กคนใหม่ของแฟนเธอสินะ กะมาหาเรื่องเต็มที่ว่างั้น
หึ ผู้ชายแบบนั้นฉันไม่เอาหรอก ไม่ต้องคิดมากจ้า
“วันก่อนฉันไปเที่ยวแล้วทำกระเป๋าหายที่ผับน่ะ สงสัยเขาเจอก็เลยเอามาคืน อ้อ ฝากบอกให้เขาคืนกระเป๋ามาด้วยนะ ขอเป็นส่งไปรษณีย์หรือฝากใครที่นี่ไว้ก็ได้ เพราะไม่อยากเจอแล้ว ส่วนเงินสดที่เป็นค่าเหล้าก็เอาไปได้เลย”
เนตรดาวยิ้มเยาะ “ทำกระเป๋าหายงั้นเหรอ วิธีอ่อยผู้ชายแบบใหม่น่ะสิไม่ว่า”
ว่าไงนะ! อ่อยผู้ชายบ้านป้าเธอสิ ระบบความคิดเลวเหมือนกันกับอีตานั่นไม่ผิดเพี้ยน ถึงว่าคบกันได้!
“อย่าคิดว่าคนอื่นเขาจะเป็นเหมือนคุณสิคะ”
เนตรดาวมองฉันหัวจรดเท้าแบบเหยียดๆ
“ดูแล้วเธอก็ไม่ต่างจากฉันตรงไหน อ๋อ! ต่างกันนิดหน่อย... ตรงที่ฉันสวยกว่า”
มั่นมาก!
“เหรอคะ? แล้วไง?” ฉันถามกวนๆ
“ก็ไม่แล้วไง ก็แค่อยากจะบอกไว้ ว่ายังไงก็เจียมตัวหน่อยนะ ติณเขาไม่ชอบพวกเด็กใหม่ไร้ประสบการณ์หรอก”
เหอะ ถามฉันหรือยังว่าฉันชอบเขาไหม
“ถ้าเรื่องนั้นไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ เพราะฉันก็ไม่ได้พิศวาสอะไรอีตานั่นอยู่แล้ว”
“อีตานั่น!” เนตรดาวกับพี่ส้มโออุทานขึ้นพร้อมกัน
ทำไมอะ อีตาติณเป็นเทพเจ้าเหรอ ถึงเรียกว่าอีตานั่นไม่ได้ เรียกแล้วจะบาปเหรอ?
แต่การทะเลาะกันของเราเป็นอันต้องจบลงไปก่อนเพราะสตาฟเข้ามาบอกว่าให้เราเตรียมตัวเดินคอนเซ็ปต์ต่อไป
ถ้าเปรียบรอบที่แล้วฉันได้ใส่ชุดชั้นในสีขาวเหมือนนางฟ้า รอบนี้ก็คงเหมือนยมบาลในนรก
เพราะชุดชั้นในที่ฉันได้ คือสีแดงเพลิงร้อนแรง และมีกากเพชรระยิบระยับเหมือนมีไฟจากนกฟีนิกซ์ลุกโชนตลอดเวลา
แถมมีฟองน้ำที่ดันหน้าอกหน้าใจของฉันให้ใหญ่บึ๊บบั๊บจนเกือบถึงคอ บอกได้คำเดียวว่า
เผ็ช!
เมื่อผ้าม่านเปิดฉันก็เดินขึ้นเวทีเป็นคนแรก แต่ทำไมครั้งนี้สายตาฉันถึงเจาะจงมองไปที่นั่งวีไอพีเป็นที่แรกก็ไม่รู้
ทั้งๆ ที่รู้อยู่ว่านั่นคือที่นั่งของภัทรติณ!
ติณยิ้มให้ฉันแล้วยกนิ้วโป้งที่หมายความว่าเยี่ยมยอดให้
เหอะ กำลังใจปลอมๆ แบบนั้นฉันไม่อยากได้หรอก อยากจะถลึงตาใส่เขาชะมัดแต่ติดที่ว่าตอนอยู่บนเวทีต้องยิ้มเนี่ยสิเดี๋ยวแขกตกใจ
เมื่อเดินโชว์รอบนี้เสร็จงานวันนี้ของฉันก็เป็นอันจบลง ปกติแล้วนางแบบทุกคนหลังเลิกงานก็จะมีกินเลี้ยงกันที่นี่ต่อ แต่สำหรับฉันแล้วเมื่อรับเงินเสร็จก็เป็นอันจบงานกลับบ้านนอนจ้ะ
แต่ในขณะที่ฉันกำลังเดินฝ่าฝูงชนเพื่อจะออกจากงานนั้น ขาฉันก็สะดุดเข้ากับข้อเท้าของใครบางคน ทำเอาฉันเกือบล้มหัวฟาดพื้น
กรี๊ดดด กระโปรงเกือบเปิดแน่ะ
“อุ๊ย ขอโทษนะ ไม่ได้ตั้งใจ”
หนอยยย อีเนตรดาว!
ได้ จะเอางี้ใช่ไหม ฉันไม่เคยทำใครก่อนนะ!
“จะเอายังไง?” ฉันลุกขึ้นไปประจันหน้า คิดว่าขัดขากันแล้วจะลอยนวลไปได้ง่ายๆ เหรอ
เนตรดาวดูตกใจเล็กน้อยที่เห็นว่าฉันเอาจริง เธอคงไม่คิดว่านางแบบรุ่นน้องหน้าใหม่จะกล้าหือกับเธอสินะ
แต่นี่ใคร นี่ครองขวัญจ้า ฉันไม่เคยยอมให้ใครง่ายๆ นะบอกเลย
“ก็บอกแล้วไงว่าไม่ได้ตั้งใจ ไม่ได้อยากจะทะเลาะด้วยสักหน่อย อย่าเอานิสัยที่บ้านมาใช้ที่นี่สิ”
“นี่เธอ ดูละครมากเกินไปหน่อยไหม มุกขัดขานี่มันเก่าแล้ว ฉันไม่โง่หลงกลเธอหรอกนะยะ”