แผนเก่าเอามาใช้ใหม่

2617 Words
กุกกัก.. กุกกัก.. กุกกัก.. ดึกดื่นค่อนคืน อิงอินสะลึมสะลือตื่นขึ้นเพราะเสียงที่ดังมาจากข้างนอก ใช่ที่นี่คือหวังหลวงต่อให้เป็นตำหนักหรือเรือนรับรองสำหรับท่านอ๋องก็ใช่ว่าจะไม่มีภัย ท่านอ๋องก็ยิ่งไม่ได้อยู่ด้วยนางยอมรับว่ากลัวมาก หากมีแค่นางก็คงจะไม่เป็นไรแต่นี่นางมีบุตรตั้งสองคนที่ต้องห่วง อิงอินเตรียมพร้อมแล้วนางคิดจะอุ้มลูก ๆ เอามาซ่อนไว้ใต้เตียงแต่ประตูก็ถูกเปิดเข้ามาเสียก่อน 'ไม่นะนางชักช้าเกินไปแล้ว' "อิงอินนนนน...." "หืม.." เสียงเรียกขานยานคางเหมือนคนเมาและน้ำเสียงนี้ ก็เป็นท่านอ๋องแน่ ๆ แค่นี้นางก็รู้สึกโล่งอกแล้วอย่างน้อยเราสามแม่ลูกก็ปลอดภัยหายห่วง ถึงเขาจะเมาแต่นางก็ยังอุ่นใจ..ดีจริงที่ไม่ใช่คนร้ายอย่างที่นางคิด "ท่านอ๋อง ท่านเมามากแล้วนะเจ้าคะ" นางทักท้วงเมื่อเห็นเขาเดินโซเซใกล้เข้ามาจนถึงเตียงที่อาเล่ยกับอาเอินกำลังหลับอยู่ ส่วนเขาและนางก็อยู่กันคนละฝั่งของเตียงนอน "อิงอินนน ข้าจะเล่าเรื่องตลกให้เจ้าฟัง" หยางเล่อพูดพล่ามไปฟังแล้วก็เหมือนคนเมาจริง ๆ แต่แล้วเขาก็ขยับขึ้นมาบนเตียงนอนอย่างหน้าตาเฉยและล้มตัวลงไปนอนข้าง ๆ บุตรชาย อิงอินก็ไม่คิดว่าเขาจะทำเช่นนี้ นางคิดว่าเขาแค่เข้ามาหาลูกและก็จะกลับออกไปเหมือนเช่นทุกครั้ง "ท่านเมามากแล้วนอนเถิดเจ้าค่ะ" ถึงขั้นล้มตัวลงนอนขนาดนี้ก็คงจะไล่ไม่ไปแล้วกระมัง "มีคนที่ข้าคิดอยากแต่งงานด้วยนะ..เป็นนางในดวงใจ ข้าพบนางหลังจากที่เราแต่งงานกันแล้วและข้าคิดจะแต่งให้นางเป็นหวางเฟย ทั้งที่นางก็ไม่ได้รักข้าและเราก็ไม่รู้จักกันด้วยซ้ำแต่รักแรกพบที่ข้ามีต่อนางนั้นคือของจริง ข้าถึงได้ตามหานางและอยากจะหย่ากับเจ้าเพื่อปลดปล่อยเราทั้งสองคนให้เป็นอิสระ" หยางเล่อคนเมาก็ยังพล่ามต่ออีกยืดยาว อย่างน้อยวันนี้อิงอินจะต้องได้รู้เรื่องราวบางอย่างจากปากของเขาเองบ้าง "ท่านพบนางแล้วหรือ" "อืม..พบแล้ว" ‘ข้าพบนางแล้วอิงอิน นางอยู่ไม่ไกลเลยแค่มือของข้าเอื้อมถึงแค่นั้นเองแต่ก็ทำอะไรไม่ได้รู้ไหม’ "แล้วทำไมไม่แต่งกับนางเจ้าคะ ท่านจะตามหาข้ากับลูกทำไม" นางเองก็อยากจะรู้ในเมื่อตอนนี้เขาพบนางกับลูกแล้ว ต่อไปเขาจะแต่งงานกับใครก็ได้นี่นา "ข้าได้รับข้อความลึกลับที่ส่งไปยังค่ายแดนเหนือ ในนั้นมีข่าวสารที่เกี่ยวกับเจ้าทุกอย่าง..มันบ่งบอกว่าเจ้ามีลูก แค่ข้อความนั้นก็ทำให้ข้าแทบบ้าแล้ว เจ้ารู้หรือไม่ต่อให้ไม่เคยรักแต่หากข้ารู้ว่าเจ้ามีบุตรการหย่าร้างจะไม่มีวันเกิดขึ้นแน่ ข้าเลยหยุดตามหานางในดวงใจและตามหาเจ้ากับลูกแทน ข้ารู้สึกผิดต่อเจ้ากับลูกเหลือเกิน อิงอิน ตอนที่ได้รู้ว่าตัวเองเป็นพ่อคนนั้นข้าก็ไม่คิดอยากที่แต่งงานกับใครอีกแม้จะเป็นนางในดวงใจก็ตามที" "ท่านไม่ต้องรู้สึกผิดต่อข้ากับลูก ๆ หรอกนะ ท่านแต่งงานกับนางเถิดเจ้าค่ะ" เมื่อรู้ว่าเขามีคนที่รักแล้วอิงอินก็อยากจะให้เขาสมหวัง ไม่ต้องมาคิดว่านางกับลูกคือความรับผิดชอบและจำเป็นจะต้องดูแลตลอดไป "แต่งได้ที่ไหนกัน นางไม่ได้รักข้าสักนิด" "ทำไมจะไม่ได้ล่ะ ท่านก็เกี้ยวพาจนกว่านางจะรักท่านสิ ในแคว้นนี้ยังมีสตรีที่เมินเฉยต่อชินอ๋องอยู่หรือเจ้าคะ" "ฮ่า ๆ ๆ ทำไมจะไม่มีเล่า 'ก็เจ้าอย่างไรล่ะอิงอิน' เจ้าคิดว่าข้าเกี้ยวพานางได้หรือเจ้าอนุญาตข้าแล้วใช่ไหม" หยางเล่อถามย้ำอย่างตื่นเต้นจนลืมว่าตัวเองกำลังเมา เขาไม่ได้ใช้เล่ห์กลอันใดเลยนะแต่นางออกปากอนุญาตเขาเองเลย ช่างมีจิตใจที่ดีงามเสียจริง เขาสัญญาว่าจะไม่ทำให้นางผิดหวังแน่นอน "กะ..เกี่ยวอะไรกับข้ากันล่ะจะเกี้ยวพานางก็ทำไปสิเราหย่ากันแล้วนี่เจ้าคะ" เฮอะ! เรื่องแค่นี้ไยต้องดีใจนักหนาคงจะอยากแต่งงานใหม่เต็มทีละสิ เอ๊ะ! แล้วทำไมนางต้องรู้สึกหงุดหงิดด้วยนะ "ข้าถือว่าเจ้าอนุญาตแล้วนะ แล้วอย่ามาโกรธหรือเกลียดข้าก็แล้วกัน" "ทำไมข้าจะต้องโกรธท่านด้วยเจ้าคะ" หึ ๆ ๆ ๆ คนเมาหัวเราะในลำคออย่างพออกพอใจคล้ายกับว่าเป็นผู้ชนะไปแล้ว "ท่านอ๋อง ท่านเมาจริงหรือ" "อืม..ข้ามาววว..มาวมากเลย" "คนเมาอะไรพูดได้ขนาดนั้น" นางบ่นอย่างไม่ใส่ใจแล้วก็ค่อยเอนตัวลงนอนข้างบุตรสาวเงียบ ๆ แปลกที่นางไม่ได้ตกใจหรือหวาดกลัวเขาเลยสักนิดแต่กลับรู้สึกปลอดภัยอย่างประหลาด "......." 'หึ ๆ ข้าจะเกี้ยวพานางอย่างที่เจ้าบอกอิงอิน' หยางเล่อมองฝ่าความมืดที่มีแสงจันทร์เล็ดลอดเข้ามาได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เขานึกขำที่นางนอนหันหลังให้กับอาเอิน โดยแท้จริงแล้วคงจะไม่ใช่ท่านอนที่นางเคยชินถึงได้ดูขัดตาพิกล แล้วมันก็จริงอย่างที่เขาว่า เพียงครู่เดียวนางก็พลิกกายกลับมาหาลูกน้อยก่อนจะโอบกระชับเจ้าตัวเล็กเข้าสู่อ้อมอกด้วยความเคยชิน นางงามเหลือเกินความรู้สึกที่เคยได้ครอบครองนางครั้งนั้นมันไม่คยมีอยู่ในความทรงจำแม้แต่นิดเดียว เขายอมรับว่าเมาจริง ๆ และก็จำอะไรไม่ได้ด้วยซ้ำ หากว่าได้ครอบครองนางเพราะความรักอย่างที่เขากำลังรู้สึกในตอนนี้มันจะเป็นอย่างไรนะ เฮ้อ..เขาได้แต่ถอนหายใจอย่างหนักหน่วงกับความคิดของตัวเอง แม้จะพยายามนอนตอนนี้ก็คงจะนอนไม่หลับ เขาได้แต่มองและเก็บภาพนางกับลูก ๆ ยามนี้เอาไว้ในใจตลอดไป ยามเหม่า [05.00-06.59 น.] อิงอินลุกขึ้นมาแต่เช้าท่านอ๋องกับลูกทั้งสองยังคงนอนหลับกันอยู่ นางจึงรีบทำกิจวัตรของตัวเองให้เสร็จสิ้นก่อนที่พวกเขาจะตื่นขึ้นมา อิงอินมองไปยังร่างของอดีตสามีอย่างไม่อยากจะเชื่อ เสื้อผ้าชิ้นบนหลุดลุ่ยจนเห็นมัดกล้ามสวยงามมันน่าดูชมถึงเพียงนี้เชียวหรือ นางยอมรับก็ได้ว่ามันน่ามอง คงเป็นเพราะได้ยินพี่ปินกับสองพี่น้องเหลียนพูดถึงรูปร่างของบุรุษบ่อย ๆ ความคิดของนางถึงได้ฟุ้งซ่านเช่นนี้ คงไม่ใช่นางที่เอื้อมมือมาปลดเปลื้องเสื้อผ้าของเขาออกหรอกนะ นางคงเพี้ยนไปแล้วแน่ ๆ ที่ให้เขามานอนร่วมเตียงด้วย เฮ้อ..อิงอินเจ้าจะมาอายตอนนี้ก็คงจะไม่ทันแล้วล่ะ "สำรวจครบหมดทุกส่วนหรือยัง มีส่วนใดที่เจ้าไม่พอใจบ้างหื้ม" "ท่านอ๋อง! ตะ..ตื่นนานแล้วหรือเจ้าคะ" "ก็นานพอจะรู้ว่ามีคนแอบมองอยู่" "ข้าเปล่าแอบมองนะ..ตื่นแล้วก็ลุกขึ้นเถิดเจ้าค่ะ วันนี้ข้าอยากจะไปหาท่านพ่อก่อนที่เราจะกลับอู่ซาน" พอถูกจับได้นางก็หาทางออกแทบไม่เป็น มันน่าขายหน้าสิ้นดี หึ ๆ เช้านี้ช่างสดใส แผนเดิมของเสด็จพี่ก็ยังใช้การได้อยู่ หยางเล่อไม่อิดออดต่อคำสั่งของนางสักนิดเขารีบย้ายไปยังห้องอื่น เพื่อไปทำกิจวัตรส่วนตัว พอรับมื้อเช้าจากที่นี่เรียบร้อยเขาก็ต้องพาเด็ก ๆ ไปร่ำลาเสด็จย่าจากนั้นก็จะกลับตำหนักเก่าทันที หากคิดจะเริ่มเกี้ยวพาสตรีเช่นอิงอินอย่างน้อยเขาก็รู้แล้วว่านางกับลูก ๆ ไม่ชอบวังหลวง หยางเล่อพาทุกคนเข้าเฝ้าฮองไทเฮาก่อนกลับ แม้พระนางอยากจะรั้งหลานน้อยทั้งสองเอาไว้แต่ก็ไร้ผล ไม่ใช่อดีตสะใภ้ของพระนางปฏิเสธหรอกนะแต่เป็นชินอ๋องต่างหาก เห็นว่าหลาน ๆ ต้องการจะไปเยี่ยมท่านตาที่จวนของท่านราชครูพระนางจึงไม่ได้เหนี่ยวรั้งพวกเขาเอาไว้อีก 'หึ ๆ บุตรชายคนนี้เริ่มเรียนรู้ที่จะเอาใจสตรีบ้างแล้วสินะ' ที่จวนราชครู... ราชครูอิงหยวนรอบุตรสาวและหลาน ๆ มาหาอย่างใจเย็น ที่จริงเขาไม่ได้ต้องการให้นางมาที่นี่เลย เพราะปกติเขาก็เจอนางและหลานน้อยทั้งสองอยู่บ่อย ๆ ในตลอดห้าปีเขาก็เทียวไปเทียวมาระหว่างอู่ซานกับเมืองหลวงมิได้ขาดมันทำให้สุภาพจิตของเขาดีขึ้นเยอะ ที่ไม่ต้องใช้วันหยุดอยู่กับจวนตลอดเวลาเหมือนดังแต่ก่อน "นายท่าน คุณหนูมาถึงแล้วขอรับ" พ่อบ้านประจำจวนเข้ามารายงานทันทีที่เห็นรถม้าของวังชินอ๋องผ่านประตูจวนเข้ามา อิงหยวนรีบออกไปต้อนรับบุตรสาวด้วยตัวเอง การกระทำของเขาอยู่ในสายตาของฉู่หนิงฮูหยินใหญ่ตลอดเวลา เขาทำให้นางอารมณ์เสียอีกแล้ว แม่ไม่อยู่แต่ก็ยังเหลือลูกไว้ให้เป็นหนามคอยทิ่มแทงใจของนางอยู่แบบนี้เรื่อยมา นางหรือก็แอบสะใจที่นังลูกเลี้ยงนั่นถูกชินอ๋องเฉดหัวออกไปจากวัง ความสาแก่ใจของนางเพิ่งจะผ่านพ้นไปแท้ ๆ แต่ข่าวที่ได้รับมาใหม่นั้นก็ทำให้นางอยู่ไม่เป็นสุข ยิ่งนางเห็นใบหน้าของสามีตอนนี้ความเกลียดชังต่อลูกเลี้ยงก็ยิ่งมีเพิ่มทวีคูณ นางยอมรับว่าความอิจฉาริษยาของนางนั้นมันมีมากจนล้นเหลือ "คารวะท่านพ่อ คารวะแม่ใหญ่เจ้าค่ะ" "คารวะอะไรกันเพคะ เป็นถึงชินหวางเฟยจะมาทำแบบนี้ได้อย่างไร พระชายาจะทำให้พวกเราอายุสั้นนะเพคะ" เมื่อเห็นว่าลูกเลี้ยงมาเพียงคนเดียวนางก็อดที่จะเหน็บแนมไม่ได้ "แม่ใหญ่คงเข้าใจอะไรผิดแล้วเจ้าค่ะ ข้าไม่ได้กลับไปเป็นหวางเฟยเสียหน่อย" "ห๊ะ! เจ้าว่าอะไรนะเจ้าโง่หรืออย่างไรมีลูกกับท่านอ๋องแล้วแต่ไม่ได้เป็นหวางเฟย หรือว่าท่านอ๋องจะเอาแค่ลูกแต่ไม่เอาเจ้า ฮ่า ๆ ๆ หรือว่าแท้จริงแล้วพวกมันคือลูกชู้กันแน่" "ฮูหยิน!" เพี๊ยะ!! อิงหยวนผู้ไม่เคยทำร้ายสตรียิ่งคนในครอบครัวของเขาก็ยิ่งแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่เขาลงไม้ลงมือกับภรรยา "อ๊าา ท่านพี่!! หรือว่าไม่จริงเจ้าคะ ไม่มีสตรีหน้าโง่คนไหนหรอกที่จะยอมทิ้งตำแหน่งหวางเฟยของชินอ๋องหากมันไม่ใช่อย่างที่ข้าพูดแล้วมันคืออะไร" ทั้งเจ็บที่ใบหน้าและเจ็บที่ใจนั้นยิ่งกว่า สามีของนางกล้าลงมือตบตีนางเพราะนังลูกเลี้ยงคนนี้ "อย่าห่วงเลยเรื่องบุตรของข้า เจ้าคิดว่าคนสกุลหยางหน้าโง่หรืออย่างไร เอานางไปตบปากสามสิบทีโทษฐานที่กล่าวว่าท่านอ๋องน้อยกับท่านหญิงน้อยเป็นลูกชู้ ท่านราชครูจะลงโทษนางหรือไม่ข้อหาที่นางหมิ่นเกียรติบุตรสาวของท่าน หากท่านไม่ทำข้าจะลงโทษนางเองที่บังอาจดูหมิ่นพระมารดาของท่านอ๋องน้อยและท่านหญิงน้อยว่าคบชู้สู่ชาย ท่านจะว่าอย่างไรล่ะท่านราชครู" แค่ได้ยินเสียงไม่ต้องมองหน้าก็ทำให้ผู้คนอกสั่นขวัญกระเจิงได้แล้ว หากมีคนบังอาจมองหน้าท่านอ๋องในตอนนี้ ก็คงถึงกับเข่าทรุดแน่นอน อิงหยวนได้แต่นิ่งอึ้งไม่คิดว่าท่านอ๋องจะมาด้วย ภรรยาของเขาช่างโชคร้ายนัก โทษตบปากสามสิบทีดูเหมือนจะไม่หนักหากเป็นแรงฝ่ามือของบ่าวไพร่ในจวน แต่นี่มันเป็นฝ่ามือของผู้ฝึกยุทธ์จากองครักษ์โดยแท้แค่ตบทีเดียวเลือดก็กลบปากแล้ว เขาได้แต่เหม่อมองภรรยาที่กำลังถูกองครักษ์ลากตัวออกไปแต่ก็ถือว่าเป็นโทษสถานเบาสำหรับนางแล้วล่ะ "ท่านอ๋องกระหม่อมจะขอลงโทษนางเองพ่ะย่ะค่ะ" ขืนให้ท่านอ๋องจัดการทั้งหมด นางคงได้เหลือแค่ร่างที่ไร้วิญญาณเป็นแน่ ถึงนางจะปากร้ายก็จริงแต่ก็แค่ตอนที่นางได้ยินชื่อของอิงอินเท่านั้น เหมือนนางจะควบคุมอารมณ์ไม่อยู่เขาก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่านางทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้ "ตามใจ ข้าพาอิงอินมาเยี่ยมท่านส่วนเด็ก ๆ นั้นหลับอยู่ข้าไม่อยากปลุก หากอยากเจอก็ไปหาได้ที่ตำหนักเก่า" "ท่านพ่อลูกขออภัยนะเจ้าคะ ที่กลับมาสร้างความวุ่นวาย" "ที่ไหนกันล่ะให้แม่ใหญ่ของเจ้าได้รับโทษบ้างก็ดีนางจะได้สงบปากสงบคำลงเสียที หากท่านอ๋องไม่เอ่ยปากพ่อหรือจะกล้าลงโทษนาง เจ้าก็รู้จักพ่อดีนี่" "คิก ๆ ก็ท่านพ่อเป็นคนจิตใจดีมีเมตตานี่เจ้าคะไหนเลยจะกล้าลงโทษใคร" แค่ก ๆ หยางเล่อสำลักน้ำลายแบบแห้ง ๆ ในทันทีที่นางในดวงใจพูดประหนึ่งด่าเขาทางอ้อมก็มิปาน ‘พูดแบบนี้นางคงเปรียบว่าเขาเป็นคนใจร้ายละสิ ร้ายนักนะอิงอินที่หลอกด่าว่าเราได้อย่างหน้าตาเฉย’ "การลงโทษไม่ได้หมายถึงเรื่องใจร้ายหรือใจดีเสียหน่อย หากไม่กำราบไว้เสียบ้างในภายภาคหน้าจวนของท่านราชครูก็คงได้ลุกเป็นไฟอีกครั้งแน่นอน" "ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง กระหม่อมจะจำเอาไว้" สุดท้ายแล้วท่านพ่อก็ไม่ได้เห็นหน้าของหลาน ๆ อิงอินรู้ดีว่าท่านอ๋องไม่ยอมให้พวกเขาลงมาด้วย คงกลัวว่าลูก ๆ จะขยาดหวาดกลัวตัวเองหรืออย่างไรกัน เพราะใบหน้าเกรี้ยวกราดเช่นนี้เจ้าสองแฝดนั่นเคยเห็นเสียที่ไหน "เจ้ากลัวข้าบ้างหรือไม่อิงอิน" เมื่อขึ้นรถม้าเรียบร้อยหยางเล่อจึงอยากจะรู้ว่านางคิดอย่างไรกับตัวตนของเขาอีกด้านหนึ่ง "ไม่เจ้าค่ะมันก็เป็นเรื่องปกติไม่ใช่หรือ หากจะว่าตามจริงโทษของนางคงจะหนักกว่านั้น เท่านี้ก็ถือว่าท่านปรานีนางมากแล้ว ขอบคุณท่านอ๋องเจ้าค่ะ" "ขอบใจเจ้าเช่นกันที่เข้าใจ" "ท่านพ่อท่านแม่ ท่านตาละขอรับ" "อื่อ ๆ ท่านตาล่ะเจ้าคะ" รถม้าเพิ่งจะขับเคลื่อนออกไป ลูก ๆ ที่นางคิดว่าหลับสนิท ก็ตื่นขึ้นมาพร้อมกันเหมือนดั่งได้นัดแนะกันเอาไว้ เฮ้อ..พวกเจ้าไปเอานิสัยเจ้าเล่ห์มาจากใครกันนะ "หึ ๆ ก็พวกเจ้ามัวแต่หลับนี่เจ้าขี้เซาน้อย เดี๋ยวท่านตาจะแวะไปหาที่ตำหนักเองนั่นแหละ" แม้จะรู้ว่าโดนพ่อลูกหลอกแต่นางก็ยังอดยิ้มไม่ได้กับงิ้วเล็ก ๆ ที่พวกเขาสร้างขึ้นช่างเข้ากันได้ดีเป็นปี่เป็นขลุ่ยเสียจริง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD