หวางเฟยที่ไม่ต้องการ

1593 Words
"พระชายาตื่นบรรทมเถิดเพคะเราจะต้องย้ายตำหนักแล้ว"ถิงถิง สาวใช้คนสนิทที่ติดตามมาจากจวนของท่านราชครูได้เข้ามาปลุกเจ้านายหลังจากที่นางได้รับคำสั่งจากพ่อบ้านของวังชินอ๋องให้พระชายาย้ายออกจากตำหนักทันทีเมื่อถึงเช้าของวันใหม่ ถิงถิงยังคงมืนงงและยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไมพระชายาของตนจะต้องย้ายออกไป ตำหนักแห่งนี้ไม่ใช่ตำหนักที่สร้างไว้เพื่อพระชายาของชินอ๋องหรอกหรือ ช่างใจร้ายยิ่งนักคุณหนูของนางไม่ใช่นางอุ่นเตียงเสียหน่อยพอใช้งานเสร็จแล้วก็คิดจะเฉดหัวออกไปตอนไหนก็ได้ คุณหนูของนางแต่งเข้ามาเป็นหวางเฟยไม่ใช่หรืออย่างไร "ย้าย..ย้ายไปไหนหรือ" อิงอินรวบรวมสติร่างกายของนางตอนนี้ยังบอบช้ำและเหนื่อยล้าจากการถูกท่านอ๋องเคี่ยวกรำมาทั้งคืน ไม่ใช่เพราะความพิศวาสในตัวนางหรอกนะแต่เหมือนนางจะถูกเขาระบายความโกรธใส่เสียมากกว่า "หม่อมฉันไม่ทราบเพคะ รู้แค่ว่าที่เราจะไปเป็นตำหนักหลังเก่าเพคะ" ถิงถิงรายงานเจ้านายทั้งรู้สึกสงสารอย่างจับใจ นายท่านอิงหยวนจะรู้หรือไม่ว่าตัวเองได้ส่งบุตรสาวให้มาเจอกับสิ่งใดบ้างสมรสพระราชทานอย่างนั้นหรือ มันช่างไม่มีค่าอันใดเลย "ช่วยข้าอาบน้ำทีเถอะถิงถิง" อิงอินฝืนใจบอกกับสาวใช้ "เพคะพระชายา" ถิงถิงรีบทำตามอย่างว่องไว ปกติแล้วมีหรือที่คุณหนูจะให้นางอาบน้ำให้หากไม่จำเป็นจริง ๆ ‘โธ่..ท่านอ๋อง ทำไมถึงได้รุนแรงกับคุณหนูของข้าขนาดนี้นะ’ รอยแดงเป็นจ้ำ ๆ ที่กระจายอยู่ทั่วผิวอันบอบบางของหวางเฟยทำให้ถิงถิงถึงกับโอดครวญจนอยากจะก่นด่าท่านอ๋องออกมาเลยทีเดียว สองนายบ่าวช่วยกันจัดการเรื่องส่วนตัวอย่างเร่งรีบภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วยามทุกอย่างก็เรียบร้อยจึงได้พากันออกไปจากตำหนักและได้มาพบกับพ่อบ้านใหญ่ของวังอ๋องที่มายืนรออยู่ข้างนอกแล้ว [1ชั่วยาม=2ชั่วโมง] "พระชายากระหม่อมได้รับคำสั่งมาจากท่านอ๋องให้พาท่านไปยังที่พำนักใหม่ ของใช้และสินเดิมทั้งหมดเราได้ขนย้ายไปไว้ที่ตำหนักให้แล้ว สำหรับเบี้ยหวัดของทุกเดือนกระหม่อมจะให้คนนำไปให้ที่ตำหนักในเองพ่ะย่ะค่ะและห้าคนนี้ก็คือบ่าวและนางกำนัลที่ท่านอ๋องได้มอบให้กับท่าน หากไม่มีความจำเป็นอย่าได้มาที่ตำหนักใหญ่เลยนะพ่ะย่ะค่ะ" หวั่งซุนพ่อบ้านใหญ่ของวังอ๋องร่ายยาวถึงสิ่งที่พวกนางควรจะปฏิบัติตัวเมื่ออยู่ในวังของชินอ๋องแห่งนี้ "อืม..ข้าเข้าใจแล้วนำทางสิ..ไปกันเถอะถิงถิง" อิงอินไม่ได้รู้สึกรู้สาและเสียใจอะไรนัก นางเองก็ไม่ได้รักท่านอ๋องสักหน่อยแม้แต่ใบหน้าของเขาก็ยังไม่เคยเห็น ค่ำคืนเข้าหอมันก็มืดมิดต่อให้มีแสงจันทร์สาดส่องมันก็มองเห็นเพียงแค่เลือนลางทั้งท่านอ๋องยังสวมหน้ากากปิดบังอีกครึ่งของใบหน้าเอาไว้ต่อให้เขารูปงามหรือจะอัปลักษณ์แค่ไหนมันก็ไม่มีผลอันใดกับนางทั้งนั้น นางถือว่าการแต่งงานครั้งนี้ได้เสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้วจากนี้ไปจะเป็นอย่างไรก็ช่างขอแค่ท่านพ่อไม่เป็นทุกข์ใจกับนางก็พอ นานกว่าสองเค่อพวกเขาถึงได้พากันเดินมาถึงตำหนักเก่าที่ว่า มันเก่าจริง ๆ แต่ก็ยังดีที่ไม่ได้รกร้างอย่างที่คิดคงจะมีคนมาทำความสะอาดเอาไว้ไม่เคยขาดกระมัง [1เค่อ=15นาที] ตำหนักเก่าหลังนี้ที่จริงแล้วก็ไม่ได้เล็กเลยทั้งบริเวณรอบตำหนักก็ยังกว้างขวางอยู่ไม่น้อยถือว่าท่านอ๋องผู้นี้ก็ไม่ได้ใจร้ายกับนางมากนัก ตำหนักหลังนี้อยู่โดดเดี่ยวแยกออกจากตำหนักใหญ่โดยสิ้นเชิงทั้งยังมีกำแพงอิฐและประตูบานใหญ่ปิดกั้นการเข้าออกเอาไว้อีก 'ดีเลยเหมือนนางได้มีจวนเป็นของตัวเองแล้ว' อิงอินกระหยิ่มกับความคิดของตัวเอง "ตำหนักนี้ถึงจะเป็นเพียงตำหนักเก่าแต่ก็ไม่ได้เลวร้าย กระหม่อมหวังว่าพระชายาคงจะอยู่ได้นะพ่ะย่ะค่ะ ทางด้านโน้นจะมีประตูเข้าออกเป็นประตูที่ใช้สำหรับตำหนักแห่งนี้ พระชายาสามารถใช้ประตูนั้นได้เลยจะได้ไม่ต้องเดินไกลถึงประตูหน้าวัง" หึ ๆ อิงอินอยากจะหัวเราะออกมาดัง ๆ แค่ที่พ่อบ้านใหญ่พล่ามมาทั้งหมดนางก็พอจะรู้แล้วว่าพวกเขาไม่ต้องการให้นางไปยุ่งเกี่ยวกับตำหนักใหญ่ แต่ช่างมันเถอะอย่างน้อยนางก็มีอิสระที่จะเข้าออกไปข้างนอกได้สะดวกโดยไม่ต้องรอขออนุญาตจากใคร "ขอบคุณท่านพ่อบ้าน ท่านกลับไปได้แล้วล่ะที่เหลือข้าจะจัดการเอง" อิงอินบอกกับพ่อบ้านใหญ่ด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง "เอ่อ..พ่ะย่ะค่ะ" หวั่งซุนทำตัวไม่ถูกเพราะไม่คิดว่าจะเจอกับความเฉยเมยของพระชายาเช่นนี้ เฮ้อ..ช่างเป็นความรู้สึกที่อึดอัดเหลือเกินหวั่งซุนเดินไปก็คิดไป เขาก็แค่ทำตามที่ท่านอ๋องสั่งความเอาไว้เท่านั้นแต่ทำไมถึงได้รู้สึกผิดกับพระชายาวัยเยาว์ผู้นี้นักนะ หรือเป็นเพราะว่านางไม่ได้โวยวายหรือเรียกร้องสิ่งใดจากท่านอ๋องอีก ซึ่งผิดไปจากที่เขาได้คาดเดาเอาไว้และเขาก็ไม่เข้าใจว่าทำไมท่านอ๋องถึงไม่ยอมรับนางทั้งที่ตัวท่านอ๋องเองก็ไม่ได้มีใครหรือนางในดวงใจที่ไหนอีก แล้วเมื่อไหร่จะได้มีพระโอรสและพระธิดาให้อุ้มชูสักที อายุหรือก็ไม่ใช่น้อย ๆ แล้ว แดนเหนือ... ค่ายทหารแดนเหนือนับว่าเป็นค่ายทหารที่หฤโหดและหินที่สุดของค่ายทหารสี่ทิศแต่เพราะมีหยางเล่อชินอ๋องคอยดูแลอยู่ แดนเหนือที่ว่าโหดร้ายก็ได้คลายความตึงเครียดเอาไว้ได้มากโข เพราะศัตรูที่หวังจะครอบครองแดนเหนือแค่ได้ยินนามของชินอ๋องต่างก็กลัวกันจนหัวหดแล้ว แต่ก็ยังมีพวกโจรบางกลุ่มที่กล้าหาญชาญชัยคอยออกมาสร้างความวุ่นวายอยู่ไม่ลดละ "เพิ่งจะผ่านคืนเข้าหอมิใช่หรือขอรับ ฝ่าบาทก็ให้ท่านพักยาวได้เป็นเดือนแล้วจะรีบกลับมาทำไมล่ะท่านแม่ทัพ" "......" "ฮึ..เหมือนข้าพูดกับตอไม้หรืออย่างไรเจ้าจะช่วยตอบข้าสักนิดไม่ได้เลยหรือ" รองแม่ทัพกงซานขึ้นเสียงใส่เพราะเริ่มจะมีน้ำโหกับสหายผู้นี้แล้ว "เจ้าก็รู้ว่าข้าไม่ได้เต็มใจที่จะแต่ง" "แล้วแต่งทำไมมีใครบังคับเจ้าได้หรืออย่างไร" "นางเป็นบุตรสาวของท่านราชครูหยวน" "แล้วอย่างไรล่ะ เจ้าช่วยพูดให้มันยาวกว่านี้ได้หรือไม่" กงซานเริ่มจะทนไม่ไหวกับสหายสูงศักดิ์ผู้นี้ยิ่งนักไม่รู้จะประหยัดคำไปถึงไหน "ข้าก็ไม่รู้ว่าท่านราชครูหยวนมีความสำคัญอะไรนักหนา เสด็จแม่ถึงอยากให้ข้ารับนางเป็นหวางเฟยให้ได้ หากข้าไม่ยินยอมฝ่าบาทก็จะรับนางเข้าสู่วังหลัง เจ้าก็รู้ว่าวังหลังของฝ่าบาทนั้นเป็นเช่นไร" "เจ้าแต่งกับนางแล้วยังทิ้งมาแบบนี้มันจะไปต่างอะไรกับวังหลังของฝ่าบาทกัน" "อย่างน้อยข้าก็ไม่ได้มีเมียหลายคน" "หนีมาแบบนี้คงไม่ได้เข้าหอกระมัง" "......." เมื่อเจอคำถามนี้เข้าหยางเล่อก็ไม่รู้จะตอบยังไงดีจึงใช้ความเงียบเข้าใส่หวังจะให้สหายรักหยุดถามเรื่องนี้เสียที "เฮอะ! ไม่ตอบคงจะเข้าแล้วสินะ" "ข้าเมามาก" "ฮึ..หยางเล่อแล้วเจ้าก็ทิ้งนางมาทั้งที่เข้าหอกับนางแล้วไม่ใช่ว่ากลับไปเมืองหลวงอีกทีลูกโตแล้วหรอกนะ" "ไม่มีทางหรอกน่าข้าให้พ่อบ้านหวั่งจัดการให้แล้ว" หยางเล่อคิดว่าสิ่งที่เขาได้ให้หวั่งซุนจัดการนั้นมันดีกับทั้งสองฝ่ายแล้ว ‘แบบนี้แหละถึงจะดีทั้งกับเขาและก็ตัวของนางเอง’ เฮ้อ..กงซานถอนหายใจไปอีกหลายตลบรู้สึกสงสารสตรีที่ได้มาเกี่ยวข้องกับสหายของเขาผู้นี้เหลือเกิน บุรุษไร้ใจก็คือบุรุษไร้ใจอยู่วันยังค่ำหากไม่ใช่อย่างที่เขาว่าหยางเล่อชินอ๋องก็คงจะมีหวางเฟยไปตั้งนานแล้วล่ะ คงไม่ต้องรอให้ตัวเองต้องถูกจับแต่งงานเช่นนี้หรอก ที่วังของชินอ๋อง... หวั่งซุนเดินวนไปวนมาด้วยคิดไม่ตกว่าตัวเขาเองได้ลืมสิ่งใดไปหรือไม่ รู้แต่เพียงว่ามันค่อนข้างจะสำคัญมาก ๆ เหมือนท่านอ๋องจะสั่งเอาไว้ก่อนจะกลับขึ้นไปยังแดนเหนือ..มันคืออะไรกันนะ? "เฮ้อ..ช่างมันเถอะเดี๋ยวข้าก็คงคิดออกเองนั่นแหละ" หวั่งซุนบอกกับตัวเอง นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกเสียหน่อยที่เขาจะลืมอะไรแบบนี้ ในเมื่อคิดอย่างไรก็คิดไม่ออกสักทีเขาจึงไม่คิดที่จะใส่ใจกับมันอีก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD