ตอนที่ 6 เปิดใจคุยกัน

1640 Words
หลังจากกลับมาถึงคอนโด นัทธีกับลลัลนาแยกย้ายกันกลับเข้าห้องของตัวเอง หญิงสาวถอดสร้อยคอกับสร้อยข้อมือออกเก็บในกล่องกำมะหยี่แล้วใส่ไว้ในลิ้นชักโต๊ะข้างหัวเตียง ก่อนจะเดินหายไปเข้าในห้องน้ำ แล้วออกมาหลังชำระล้างร่างกายเสร็จ ลลัลนามีนิสัยเฉพาะตัวอย่างหนึ่ง ถ้าอารมณ์ไม่ดีหญิงสาวจะอาบน้ำเพื่อคลายหงุดหงิด สายน้ำทำให้เธอผ่อนคลายและใจเย็นลง ยังไม่ทันที่ลลัลนาจะได้ก้าวเท้าออกจากห้องนอนประตูห้องก็ถูกเปิดออก หญิงสาวได้แต่มองอย่างทำใจ ว่าชีวิตเธอคงไม่มีความเป็นส่วนตัวอีกต่อไป ก็นัทธีเล่นเข้าออกห้องของเธออย่างกับห้องของตัวเองแบบนี้ “ออกไปห้องนั่งเล่นเถอะค่ะ” ลลัลนาถอนหายใจออกมาเบาๆก่อนจะเดินนำเขาออกไปนั่งที่โซฟา “มีอะไรคะ” หญิงสาวถามผู้มีสถานะสามีอย่างถูกต้องตามกฎหมายพลางเช็ดเส้นผมที่เพิ่งสระ โดยมีร่างสูงตามมานั่งข้างๆเธอ “ไม่มีคำถามอะไรเหรอ” ชายหนุ่มถามเสียงเรียบ ก่อนจะดึงผ้าขนหนูผืนเล็กในมือของหญิงสาวมาเช็ดเส้นผมให้ “ไม่มีค่ะ” ลลัลนาขยับตัวหันหลังปล่อยให้เขาเช็ดผมให้เธอ “แพรเป็นแฟนเก่าของฉัน แต่ฉันรู้สึกว่าเขาเป็นผู้หญิงที่เข้ากับฉันไม่ได้เลย ฉันเลยเลือกที่จะไม่ไปต่อ” “ค่ะ ลัลก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่คะ” ดูจากการกระทำวันนี้ เธอเองก็พอจะเข้าใจว่าทำไมเขาถึงไม่คบกับแพรวาต่อ “ไม่หึง?” “ไม่ค่ะ” “อยากให้หึง” “คะ…” ไร้เสียงตอบจากนัทธี แต่ร่างบางที่กำลังนั่งชันเข่ากลับถูกอุ้มขึ้นมานั่งบนตักแกร่ง “อยากให้หึง” ชายหนุ่มพูดพลางโอบเอวเล็กเอาไว้ “พี่นัทกำลังจีบลัลเหรอคะ” “ใช่ ฉันกำลังจีบภรรยาตัวเอง” เขาตอบพร้อมกับสบตากลมโต “งั้นพี่นัทแทนตัวเหมือนเดิมได้มั้ยคะ เหมือนตอนเราเป็นเด็ก” ลลัลนาไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธ แต่หญิงสาวกลับบอกสิ่งที่เธอต้องการกับเขาไป “อืม พี่กำลังจีบลัล” ชายหนุ่มยอมแทนตัวเองว่าพี่เหมือนเมื่อก่อน สมัยที่เขากับเธอยังเป็นเด็กพร้อมกับรอยยิ้มน้อยๆ ลลัลนาชะงักไปอึดใจ วงแขนเรียวยกขึ้นคล้องลำคอหนาเงียบๆ เธอรู้สึกได้ว่าเขาอึ้งไปเล็กน้อย ก่อนที่วงแขนแกร่งจะกอดเธอตอบ นัทธีกับลลัลนาเข้าใจกันท่ามกลางความเงียบที่ไม่จำเป็นต้องมีใครเอ่ยปากพูดอะไร ทั้งคู่ก็เข้าใจกันได้ “พี่เคยบอกลัลหรือยัง” “อะไรคะ” “พี่รอลัลมาตลอด รอวันที่ลัลจะเป็นผู้ใหญ่ วันที่พี่จะได้อยู่กับลัล” “ไม่เคยเห็นบอกอะไรลัลเลยนี่คะ พี่ไปเงียบๆ ทิ้งลัลไปเลย” “ก็ตอนนั้นลัลยังเด็ก พี่กลัวใจตัวเอง” “ชอบลัลมานานแล้วหรือคะ” “อืม ตั้งแต่เด็ก” “งั้นเราก็คงใจตรงกันนะคะ” “หมายความว่าไง” “ลัลเอง ก็รอพี่หันมามองลัลเหมือนกัน” นัทธีคลายอ้อมกอด มองหญิงสาวด้วยความแปลกใจ ลลัลนาไม่ได้พูดอะไร เธอยิ้มให้เขา ชายหนุ่มสบตากับเธอก่อนจะยิ้มออกมา มือหนาจับต้นคอเรียวระหงให้โน้มใบหน้ามาหา ก่อนจะแตะปลายนิ้วลูบไล้ที่ริมฝีปากบางของเธออย่างแผ่วเบา คนบนตักไม่ได้ต่อต้านอะไร เธอปล่อยให้เขาทำตามที่เขาต้องการ นัทธีโน้มต้นคอลลัลนาลงมาแนบริมฝีปากเขาที่รออยู่ด้วยอย่างแผ่วเบา ฟันคมกัดงับที่ริมฝีปากบางอย่างมันเขี้ยว หญิงสาวเผยอริมฝีปากให้เขาได้ตักตวงความหวานอย่างเต็มที่ ก่อนจะถอนใบหน้าออกเล็กน้อยเพื่อสูดอากาศเข้าปอด เจ้าของตักแกร่งอาศัยจังหวะที่ลลัลนาถอนใบหน้าออกกดแนบปากไปที่ลำคอระหง ขบเม้มเนื้ออ่อนแรงๆจนเกิดรอย หญิงสาวสะดุ้งแต่ก็เอียงคออำนวยความสะดวกให้เขา เพียงชั่วครู่ใบหน้าคมก็ถอนริมฝีปากออก กดจูบบนลำคอแผ่วเบาแล้วถอนใบหน้าออกมา “พอแล้ว เดี๋ยวอดใจไม่ไหว ลัลยังต้องใช้เวลาปรับตัว” เขาบอกกับหญิงสาวด้วยแววตาเอ็นดู ก่อนจะจูบหน้าผากของเธอแผ่วเบา ระหว่างที่ทั้งคู่กำลังใช้เวลาอยู่ด้วยกันพลันมีเสียงกดรหัสดังมาจากประตู ลลัลนาหันไปมอง เธอเดาว่าน่าจะเป็นบิดามารดาของเธอ เพราะถ้าเป็นฟางข้าวเธอจะโทรมาหาก่อนทุกครั้ง ไม่ถึงนาทีบานประตูก็ถูกผลักเปิดเข้ามา พร้อมกับร่างบิดามารของหญิงสาวที่ก้าวเข้ามาภายในห้อง ศรัญกับกานดาชะงักกับภาพที่เห็นตรงหน้า ลลัลนาที่กำลังนั่งอยู่บนตักแกร่งของนัทธีหัวเราะเล็กน้อยเมื่อเห็นท่าทีของมารดา ก่อนจะยิ้มกว้างแล้วลุกออกจากตักแกร่ง “แม่มารบกวนหรืออเปล่า เหมือนแม่จะมาผิดเวลานะ” กานดาแซวบุตรสาวกับบุตรเขยยิ้มๆ “เปล่าค่ะ ทำไมไม่บอกลัลก่อนล่ะคะว่าจะมา ลัลจะได้เตรียมของทานเล่นไว้ให้” หญิงสาวพูดพลางเดินเข้าไปกอดมารดา “ไม่เป็นไร แม่กะว่าจะมาชวนลูกไปทานข้าวกันเนี่ยแหละ” กานดาตอบก่อนจะอ้าแขนรับกอดจากบุตรสาว “ไปมื้อเย็นนะคะ ลัลเพิ่งทานมื้อเที่ยงมาจากข้างนอกค่ะ” ลลัลนาบอกก่อนจะโอบเอวมารดาเดินไปนั่งที่โซฟา โดยมีบิดาของเธอเดินตามมานั่งข้างๆ นัทธีทักทายบิดามารดาของหญิงสาวก่อนจะเงียบเสียงลง โดยที่เขานั่งอยู่ข้างเธอเงียบๆ ศรัญหันมาชวนนัทธีคุยเบาๆ ปล่อยให้กานดาเป็นคนพูดคุยกับลลัลนาเอง “แม่จองโต๊ะที่โรงแรมไว้ เลยว่าจะมาชวนไปทานมื้อเย็น ลุงชลิตก็ไปด้วยนะ” “ลัลยังไงก็ได้ค่ะ พรุ่งนี้ลัลหยุดอีกวัน” “นัทล่ะลูก” “ผมแล้วแต่ลัลครับ” ชายหนุ่มตอบมารดาของลลัลนาก่อนจะยกมือขึ้นมาลูบผมเธอเล่นเบาๆ “แหม หวานกันจริง” กานดาหัวเราะด้วยความชอบใจ หลังจากนั่งคุยกันสักพักใหญ่ก็เตรียมตัวออกไปทานอาหารกัน นัทธีขอตัวไปเอากุญแจรถ กับกระเป๋าสตางค์ ก่อนที่ร่างหนาจะลุกขึ้นเต็มความสูงเดินออกจากห้องไป “อะไรยังไงเนี่ยลัล ทำไมตานัทบอกว่าไปเอาของ” “ก็พี่นัทอยู่ห้องฝั่งนู้นไงคะ อีกห้องหนึ่งที่เคยว่างตอนนี้มีคนซื้อแล้วค่ะ พี่นัทเป็นคนซื้อ” “ตายจริง บังเอิญขนาดนั้นเลยหรอ” กานดาอุทานด้วยความแปลกใจ “ลัลก็ไม่ทราบนะคะว่าบังเอิญหรือเปล่า” เธอบอกมารดาไปตามตรง หญิงสาวนั่งคุยกับบิดามารดาเพียงไม่นาน นัทธีก็กลับเข้ามาพร้อมกับเปลี่ยนเสื้อผ้ามาเรียบร้อย ลลัลนาจึงเข้าห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้าบ้าง เพราะเธอยังอยู่ในชุดกางเกงขาสั้นกับเสื้อยืดตัวหลวมโคร่ง ปล่อยให้นัทธีอยู่กับบิดามารดาของเธอ เมื่อหญิงสาวแต่งตัวเสร็จก็ออกมาจากห้องนอน เธอใส่กางเกงยีนส์ขายาวกับเสื้อชีฟองเปิดไหล่สีขาว ผมยาวสลวยถูกรวบมัดขึ้นสูงตามสไตล์สาวมั่นแต่แฝงไว้ด้วยความอ่อนหวาน เมื่อเห็นว่ามากันพร้อมแล้วก็พากันทยอยออกจากห้อง นัทธีหันมาปิดแอร์พร้อมกับสายตาคมที่มองกวาดไปทั่วห้องเพื่อสำรวจความเรียบร้อยก่อนจะออกจากห้องตามหลังทุกคนไป “รถลัลล่ะลูก” ทันทีที่มาถึงที่จอดรถ กานดามองไปรอบๆแต่ไม่เห็นรถของบุตรสาวจึงหันมาถาม “อยู่กับยัยข้าวค่ะ ยัยข้าวเป็นคนขับกลับไป วันจันทร์ถึงจะขับมาให้ลัลค่ะ” “อ๋อ จ้ะ ไปกันเถอะ” กานดาเดินตามสามีไปขึ้นรถที่จอดอยู่ไม่ไกล ลลัลนาขึ้นรถไปกับนัทธี ก่อนจะขับตามกันไปยังร้านอาหาร “คุณลุงสวัสดีค่ะ” ลลัลนาโผเข้าไปกอดชายวัยกลางคนอย่างดีใจที่ได้เจอ หลังจากเปิดประตูห้องส่วนตัวแล้วเจอชลิตนั่งรออยู่ “คุณลุงอะไร เรียกพ่อได้แล้ว” ชลิตบอกกับลูกสะใภ้เพียงคนเดียวด้วยน้ำเสียงใจดี “ลัลไม่ชินเลยค่ะ” ลลัลนาตอบเขินๆก่อนจะเดินไปนั่งเก้าอี้ข้างๆที่นัทธีขยับให้เธอ หลังจากมากันพร้อมจึงเริ่มสั่งอาหาร นัทธีกับลลัลนานั่งคุยกันเบาๆสร้างความแปลกใจให้กับชลิตไม่น้อย “หนูลัลกับเจ้านัทสนิทกันแล้วหรือ” ชลิตถามออกมาด้วยความแปลกใจ เธอกับเขายิ้มตอบบางๆ “เอาน่า เด็กๆคืบหน้ากันก็ดีแล้วไง แล้วจะจัดงานฉลองเมื่อไหร่ดี” ศรัญแกล้งปรามชลิตเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยถามออกมา “ขอลัลทำวิทยานิพนธ์จบก่อนนะคะ” “ผมแล้วแต่ลัลครับ” “เออ ดีจริงๆ แล้วแต่น้องทุกอย่างเลย อนาคตกลัวเมียนะเนี่ย” ศรัญเอ่ยแซวนัทธีอย่างชอบใจ “เขาเรียกให้เกียรติค่ะ” กานดาเอ่ยขัดสามี สายตาส่งค้อนให้เบาๆ ไม่นานนักอาหารก็เริ่มทยอยมาเสิร์ฟ ทุกคนจึงลงมือรับประทานอาหารกัน หลังจากตกลงกันได้ว่าจะจัดงานฉลองสมรสเมื่อไหร่ ทุกคนก็แยกย้ายกันกลับ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD