ใจกลางเมืองอันแสนวุ่นวาย ลลัลนา หญิงสาวใบหน้าหวานดวงตากลมโต ผมตรงยาวสลวย ผิวขาวเหลืองสุขภาพดี กำลังฝ่ารถติดเพื่อที่จะไปให้ทันเวลาเข้าเรียน เธอไม่เคยขาดเรียน หรือไปสายเลยถ้าไม่จำเป็นจริงๆ
หญิงสาวถอนหายใจเบื่อหน่ายกับรถติด ถึงแม้ว่าเธอจะออกจากที่พักเร็วขนาดไหน ก็ยังไม่พ้นต้องเผชิญกับปัญหานี้อยู่ดี ดวงตากลมโตมองไปข้างหน้าอย่างตั้งใจ ก่อนจะเลี้ยวรถเข้าไปยังมหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางของเธอ
หลังจอดรถเรียบร้อย มือบางหยิบกระเป๋าสะพายข้างใบโปรดของเธอ พร้อมกับหอบเอกสารประกอบการเรียน เดินตรงไปยังโต๊ะที่เธอและเพื่อนสนิทนั่งกันเป็นประจำ และเหมือนดังเช่นทุกวัน ที่ฟางข้าวเพื่อนสนิทของเธอจะมาถึงก่อนและนั่งรอเธออยู่
“ตกลงแกรู้หรือยัง ว่าจะทำธีสิสเกี่ยวกับอะไร” เสียงหวานใสของฟางข้าวดังขึ้นถามเธอ หลังจากนั่งคุยไร้สาระกันมาพักใหญ่ๆ
“ยังไม่รู้เลยอะ” ลลัลนาตอบเสียงเบื่อหน่าย
“เดี๋ยวก็เสร็จไม่ทันหรอก”
“ทันแหละ”
“แกเนี่ยนะ ไม่เตรียมตัวตั้งแต่เนิ่นๆ”
“เอาน่า ไม่มีเวลาหานี่นา”
เสียงการสนทนาของหญิงสาวสองคนดังขึ้นที่โต๊ะหินใต้อาคารเรียน ระหว่างรอเวลาขึ้นชั้นเรียน ยิ่งใกล้ช่วงเวลาเรียนจบ นักศึกษาแต่ละคนก็ต้องรีบเร่งหาเรื่องที่จะเขียนวิทยานิพนธ์ บางคนที่หาแต่เนิ่นๆ ก็มีเวลาหาที่จะทำนานหน่อย เผื่อผิดพลาดตรงไหนจะได้แก้ไขได้ การสนทนาจบลงเมื่อทั้งสองสาวพากันรวบข้าวของไว้ในอ้อมแขนแล้วพากันขึ้นชั้นเรียนไป
หลังเลิกเรียน ทั้งลลัลนาและฟางข้าวพากันไปเดินห้างสรรพสินค้าดังใกล้ๆเพื่อพักผ่อน หากวันไหนไม่มีธุระอะไรหรือไม่รีบกลับ พวกเธอก็จะพากันไปหาอะไรกินแบบเป็นประจำ
“แก ฉันไปห้องน้ำก่อนนะ” เสียงใสของลลัลนาบอกฟางข้าวก่อนรีบลุกเดินออกจากร้านไปโดยที่ฟางข้าวยังไม่ทันได้ตอบอะไร
ลลัลนารีบเดินเข้าห้องน้ำจนไม่ทันได้ระวัง เดินชนใครคนหนึ่ง เธอรีบขอโทษและเดินเข้าห้องน้ำไป โดยไม่รู้ตัวเลยว่าใครคนนั้นได้มองตามเธอจนลับตา
“แก กลับบ้านเหอะ ฉันรู้สึกไม่ค่อยดีเลยอะ เหมือนจะเป็นรอบเดือนเลย” ลลัลนาบอกฟางข้าวทันทีที่มาถึงโต๊ะที่เพื่อนสนิทของเธอนั่งรออยู่
“อือ งั้นก็กลับ คืนนี้แกนอนไหน”
“คอนโดแหละ ไม่อยากกลับบ้าน” เธอตอบเพื่อนสนิทของเธอระหว่างเดินไปชำระเงิน
สองสาวแยกย้ายกันกลับบ้าน ฟางข้าวไปรออำนวย คนของที่บ้านที่คอยรับส่งเธอตั้งแต่เด็กมารับ ส่วนลลัลนาก็ไปที่รถเพื่อขับรถกลับคอนโดของเธอ
หลังจากมาถึงที่คอนโดและจอดรถเรียบร้อย เท้าเรียวสวยก้าวลงจากรถตรงไปที่ลิฟต์ มือบางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเช็คข้อความระหว่างรอลิฟต์ ทำให้ไม่ทันสังเกตว่ามีใครบางคนมายืนอยู่ข้างๆ
จนประตูลิฟต์เปิดออก เธอจึงเงยหน้าขึ้นมอง ถึงได้เห็นว่าคนที่ยืนอยู่ คือคนที่เธอเดินชนโดยไม่ได้ตั้งใจที่ห้างสรรพสินค้า ร่างบางแอบแปลกใจ ที่เขาคนนี้ขึ้นลิฟต์ตัวเดียวกันกับเธอ เพราะลิฟต์ตัวนี้เป็นลิฟต์ที่ขึ้นไปชั้นบนสุดเท่านั้น แต่ที่ผ่านมาเธอไม่เคยเห็นเขาเลย ทั้งที่ตัวเธอเองก็อยู่ที่นี่มา 3 ปีกว่าแล้ว
เธอค้อมศีรษะลงให้เขาเล็กน้อย หลังจากที่ชายหนุ่มร่างสูงผายมือให้เธอเดินเข้าลิฟต์ก่อน ทั้งเธอและเขายืนคู่กันเงียบๆ จนกระทั่งประตูลิฟต์เปิดออก ทั้งคู่ต่างแยกย้ายเข้าห้องของตัวเองไป
เช้าวันต่อมา หลังจากที่ลลัลนากับฟางข้าวมาถึงมหาวิทยาลัย ก็ได้รีบขึ้นไปบนห้องทันที เนื่องจากวันนี้มีอาจารย์พิเศษมาบรรยายวิชาสาขารวม ที่สาขาการบัญชีของพวกเธอต้องเข้าคลาสรวมกับสาขาอื่น พวกเธอจึงต้องรีบขึ้นห้อง เพราะกลัวไม่มีที่นั่ง
วันนี้นักศึกษาสาวแต่ละคนค่อนข้างจะตื่นเต้นเป็นพิเศษ เนื่องจากอาจารย์พิเศษที่มาบรรยายนั้น เป็นถึงนักธุรกิจหนุ่มเนื้อหอมหน้าใหม่ไฟแรง ที่สาวๆทั้งหลายหมายปอง
“แก นี่มันคนที่ฉันเดินชนเมื่อวานนี่” ทันทีที่อาจารย์พิเศษเดินเข้ามาในคลาส ลลัลนาถึงกับตาโตรีบสะกิดบอกเพื่อนสนิทที่นั่งอยู่ข้างๆทันที
นัทธี ชายหนุ่มเนื้อหอม สูง 185 เซนติเมตร ตาคมดุ ผิวขาวซีดเนื่องจากการไปอาศัยอยู่เมืองหนาวเป็นเวลานาน หน้าตานิ่งขรึม บุคลิกเย็นชาพูดน้อย แต่ค่อนข้างใส่ใจคนรอบตัว
ชายหนุ่มที่เดินเข้ามาในคลาส ดวงตาคมกวาดมองไปทั่ว ก่อนจะไปสบเข้ากับหญิงสาวที่เขาจำได้ติดตา มือหนาวางของที่ถือมาลงบนโต๊ะหน้าห้อง จากนั้นการบรรยายก็เริ่มขึ้น ทั้งคลาสตกอยู่ในความสงบ จนใกล้เวลาจบคลาส
“มีใครมีคำถามอะไรมั้ยครับ”
“อาจารย์มีแฟนหรือยังคะ” สิ้นเสียงคำถาม ได้มีนิสิตใจกล้าคนหนึ่งยกมือขึ้นถาม ทำให้สาวๆแทบทั้งห้องตกอยู่ในความสงบพร้อมรอฟังคำตอบ ในขณะที่ลลัลนากับฟางข้าวกำลังเก็บของบนโต๊ะ เพราะไม่ได้สนใจคำตอบ
“คำถามนี้ไม่เกี่ยวกับที่ผมบรรยายไปนะ” พูดขึ้นพลางมองไปทางหญิงสาวคนที่เดินชนเขาเมื่อวาน และบังเอิญอยู่คอนโดที่เดียวกัน ชั้นเดียวกัน ก่อนที่เขาจะสบตากับเธอ
“ผมมีคู่หมั้นแล้ว” เขาพูดพลางมองสบตากับลัลนา เพราะเธอบังเอิญเงยหน้าขึ้นมามองพอดี
ลลัลนารู้สึกแปลกๆ ไม่รู้ว่าเธอคิดไปเองหรือเปล่า แต่ดูเหมือนว่าเขาจะจ้องมองมาที่เธอ เพราะเขาคนนั้นกำลังมองสบตาเธออยู่ โดยที่ไม่มีใครได้ทันสังเกต
หลังจบคลาส ลลัลนากับฟางข้าวได้มานั่งที่โต๊ะม้าหินใต้อาคารเรียน โต๊ะประจำของพวกเธอ
ครืด ครืด
“ค่ะแม่”
“ยัยลัล เลิกเรียนหรือยังลูก”
“เลิกแล้วค่ะ แม่มีอะไรหรือเปล่าคะ” หญิงสาวตอบมารดาด้วยความแปลกใจ เพราะปกติแล้วมารดาของเธอไม่เคยโทรมาระหว่างวัน ถ้าไม่มีเหตุอะไร
“วันนี้มาทานข้าวที่บ้านหน่อยนะ แล้วค่อยกลับคอนโด วันนี้คุณลุงชลิตจะมาทานข้าวที่บ้านเรา”
“ได้ค่ะ งั้นเดี๋ยวลัลขอจัดการงานก่อนนะคะ เสร็จแล้วลัลจะรีบไปค่ะ”
หญิงสาวกดวางสายจากมารดาของเธอก่อนจะรีบจัดการงานกลุ่มกับฟางข้าวให้เสร็จ แล้วรีบแยกย้ายกันกลับบ้าน
ขณะที่หญิงสาวกำลังจะปลดล็อกรถ ได้มีใครบางคนเดินผ่านด้านหลังของเธอในระยะประชิด ร่างบางสะดุ้งเฮือกหันกลับไปมอง แต่เขาคนนั้นได้เดินพ้นหลังเธอไปแล้ว พร้อมกับมีประโยคเบาๆลอยขึ้นมา ‘แล้วพบกัน’
ตากลมโตมองตามหลังใครคนนั้นไปอย่างคลับคล้ายคลับคลาว่าเขาคือใคร แต่เธอก็ไม่มีเวลาสนใจมากนัก หญิงสาวรีบขับรถกลับบ้าน เพราะเธอต้องฝ่าด่านรถติดของใจกลางเมือง เพื่อกลับบ้านของเธอที่อยู่ชานเมือง บ้านที่เธออาศัยอยู่ตั้งแต่เกิด