ตอนที่ 1.คนที่ไม่ควรเจอ
มันน่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของความวุ่นวายในชีวิตกันตา สาเหตุมาจากการไปฉลองความสำเร็จหลังเรียนจบกับเพื่อนเก่า การย้อนกลับมาเจอกันครั้งนั้น ก่อให้เกิดปัญหาที่ตามมาแบบกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
หนึ่งอาทิตย์ก่อน...
“คืนนี้ว่างมั้ยยัยตา พวกเรานัดรวมตัวกันไปฉลองเรียนจบกัน เธอจะไปไหม?” กานดาถามเสียงใส ตอนนี้รอบตัวมีแต่สีสดใส พอปลดระวางเรื่องเรียนได้ จากนี้ไปมีเรื่องเดียวที่ทำให้กังวลได้ คือการหางานทำ
แต่นั่น...จะเกิดขึ้นหลังจากนี้
ช่วงเวลาที่มีความสุขช่วงนี้ ต้องเก็บเกี่ยวไว้ให้มากที่สุด พอถึงเวลาหางานทำ คงไม่มีเวลามาสังสรรค์อีกต่อไปแล้ว ไหนๆ เพื่อนเก่าๆ จะย้อนมาเจอกันอีกครั้ง มันยิ่งควรต้องไป
“ก็ได้นะ กี่โมงดี”
ธรรมดากันตาไม่ชอบงานปาร์ตี้สักเท่าไหร่ แต่ครั้งนี้คงขัดไม่ได้ เธอหาเรื่องเลี่ยงไม่ได้อีกแล้ว ในเมื่อเพื่อนกลุ่มนี้รู้ไส้รู้พุ่งเธอเป็นอย่างดี กันตาหางานทำได้แล้วหลังเรียนจบ เธอไม่ต้องวิ่งเต้นหางานทำเพราะวิชาเรียนที่กันตาเลือก เธอถูกจองตัวตั้งแต่ลงเรียนแล้ว ถึงช่วงนี้เธอจะต้องฝึกหนักสักหน่อยก็เถอะ
“เริ่มตั้งแต่สามทุ่ม จะมาตอนไหนก็ได้” กานดาตอบแล้วก็ขยิบตาให้กับเพื่อนคนอื่นที่รอลุ้นอยู่
“ได้ คงไปราวๆ สี่ทุ่มนะ เพราะฉันมีงานต้องเคลียร์”
พอตกปากรับคำไปแล้ว กันตาก็ไม่ได้สนใจอะไรอีก เธอเข้าเวรเช้า กว่าจะเลิกงานก็คงราวหกโมงเย็น โชคดีที่วันนี้ไม่ต้องควงเวร ไม่อย่างนั้นเธอคงหาทางเลี่ยงงานปาร์ตี้ครั้งนี้ได้
แต่เพราะกันตาเป็นคนจริงจังและอยากกอบโกยวิชาจากอาจารย์หมอให้ได้มากที่สุด อาชีพของเธอขึ้นอยู่กับความเสี่ยง หากตัดสินผิดพลาดมันส่งผลถึงชีวิตคนคนหนึ่งทีเดียว
“หากยัยตามันรู้ว่าไอ้หมอนั่นมา คงหาทางเลี่ยงอีกตามเคย” กานดาบ่นพึมพำ
“เรื่องมันยังไงกันแน่ ทำไมเพื่อนรักกันถึงแตกคอกันได้?” ลลิตาถามกลับ ความที่ไม่ค่อยสนิทกันนักเลยทำให้ไม่ค่อยรู้ข่าววงในเหมือนกานดาที่เรียนด้วยกันกับกันตามาเกือบสิบปี
“เพื่อนเล่น จะเล่นเพื่อนนะสิ”
ลลิตาขมวดคิ้ว “ใครเล่นใครนะ”
กานดาถอนใจแรงๆ “คนของเรานะสิยัยริด ยัยตามันคิดเกินเพื่อนไปหน่อย แต่ก็รู้ หนุ่มฮอตอย่างไอ้เคนท์มันไม่เล่นด้วยหรอก ยัยตาเลยต้องถอยออกมา เลยห่างๆ กันไป”
“อ้อ แบบนี้เอง ยังดีนะที่ยังเป็นเพื่อนกันต่อได้”
“มันก็ไม่ได้สนิทเหมือนเก่าแล้วแหละ เหมือนมีแผลในใจ”
กานดาอดบ่นไม่ได้ ความจริงเธอเองก็ไม่ได้เห็นด้วยตั้งแต่แรก คีรีเป็นหนุ่มฮอตประจำโรงเรียน มีทั้งรูปสมบัติ แถมพ่วงด้วยนามสกุลดัง ฐานะค่อนข้างดีอีกด้วย โชคดีที่กันตาเลือกเรียนวิชาที่แตกต่างออกไป ไม่อย่างนั้นเหรอ...คงต้องทนมองความมีเสน่ห์ของคีรีอีกหลายปี เพราะคนดังหน้าตาดี ไปไหนก็มักจะมีสาวๆ รุม
“ก็ว่าไม่ได้นะ ไอ้หมอนั่นมันก็เสน่ห์แรงเอาเรื่องเสียด้วย”
“อือ ฉันเองก็ยังปลื้มเลย ยัยตาของเราจะไม่ปลื้มได้ยังไง”
“ช่างมันเถอะ เรื่องมันแล้วไปแล้ว ไอ้หมอนั่นมันมีดีแค่เรื่องหน้าตาเรื่องเดียวนั่นแหละ นอกนั้นเหลือรับประทาน”
ใครๆ ก็รู้ คีรีเป็นที่หมายปองจากสาวๆ เกือบทุกราย เพราะเขาหน้าตาดี แถมยังเป็นนักกีฬาด้วย พอเป็นนักศึกษา เขาก็ถูกโหวตให้เป็นเดือน ถูกจองตัวให้ช่วยโปรโหมดทีมฟุตบอล เป็นตัวเก็งที่จะได้ติดทีมชาติด้วย หากคีรีเอาดีทางด้านนั้นนะ
แต่เพราะเขามีฐานะ ไม่มีความกระเหี้ยนกระหือรือที่อยากเป็นคนดัง คีรีชอบฟุตบอลเพราะเป็นคนชอบออกกำลังกาย เขาเลยไม่อยากปิดทางคนที่อยากใช้ทางนี้เพื่อเป็นทางลัดสำหรับการได้มีโอกาสเป็นนักศึกษาตามโควตา
คีรีเรียนระดับปริญญาตรีได้แค่ปีสอง ครอบครัวของเขาก็ส่งไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ นั่นคือสิ่งที่คนภายนอกรู้ ความจริงแล้ว เขาถูกบิดาเฉดหัว เพราะทำตัวกระด้างกระเดื่องใส่แม่เลี้ยงนั่นเอง
กันตามองนาฬิกาข้อมือ เธอเสียเวลากับเรื่องงานจนเวลาล่วงเลยจนเกือบถึงเที่ยงคืน ความจริงกันตาตั้งใจจะเบี้ยว แต่ระหว่างที่เดินทางกลับนั่นเอง “ยัยตา แกจะเบี้ยวไม่ได้นะ เพื่อนคนอื่นมาครบแล้วขาดแกแค่คนเดียว” กานดาโทรศัพท์มาพูดดักทางไว้
“ฉันเพิ่งเลิกงานน่ะ ฉันไปตอนนี้พวกแกจะกร่อยหรือเปล่า ตัวฉันมีแต่กลิ่นยา”
“ทำไมเลิกดึกขนาดนี้ละ?”
“พอดีรุ่นพี่ติดธุระนิดหน่อย เลยให้ฉันอยู่ต่อ”
“แกทำงานหนักเกินไปแล้วนะ ไหนจะเรียนไหนจะต้องไปเป็นอินเทิร์นอีก”
“ไม่หรอก ไหวอยู่” กันตาพึมพำตอบ โชคดีที่พรุ่งนี้เป็นวันหยุด ไม่อย่างนั้นนัดคืนนี้เธอคงต้องปฏิเสธ
หลังจากวางสายกันตาก็มองหาเส้นทางเพื่อไปยังจุดนัดหมาย เธอตั้งใจว่าจะแวะเข้าไปสักพัก แล้วค่อยหาทางกลับทีหลัง เพื่อนเก่าต่างรู้กันดี ช่วงนี้เธอทั้งเรียนทั้งฝึกงาน คงไม่มีใครทักท้วง หากกันตาจะขอกลับก่อน
แต่ทุกอย่างกลับไม่เป็นอย่างที่คิด
ทันทีที่กันตาไปถึง เธอแทบอยากเปลี่ยนใจ
ความจริงเธอไม่ควรใจอ่อนเดินทางมาปาร์ตี้ครั้งนี้เลย
คนที่ไม่เจอหน้ากันเกือบสี่ปีเต็ม คนที่ทำให้เธออับอายแทบกัดลิ่นตาย
‘ใครจะไปชอบเธอยัยแว่น’
คำตอบของเขาหลังเธอสารภาพความในใจ
เพื่อนที่เคยสนิท แต่ตอนนี้สถานะนั่นไม่ใช่เสียแล้ว
คีรี พิพัฒไพบูรณ์
กันตาชะงักกึก ขาที่กำลังจะก้าวไปข้างหน้าชะงัก หลังสบตาใครบางคนที่นั่งยิ้มแฉ่งอยู่ท่ามกลางเพื่อนเก่า
“ยัยตา ทางนี้” กานดาโบกมือ ส่งเสียงแข่งกับเสียงดนตรี
คีรีเหลือบมอง เขาขมวดคิ้วแล้วก็เอียงตัวถามเพื่อนที่นั่งข้างๆ
“ใครวะ?” เอกทศตอบพร้อมกับยิ้ม
“มึงจำเพื่อนสนิทสมัยม.ปลายไม่ได้แล้วหรือวะ?”
คีรีเพ่งมองซ้ำ เขามั่นใจว่าตนเองไม่เคยมีเพื่อนหน้าตาสวยขนาดนี้มาก่อน ผู้หญิงรูปร่างสูงโปร่งหน้าตาดีไม่ใช่เล่นขนาดเห็นไกลๆ ออร่าความสวยยังพุ่งแทงในตา
“ใครละ กูไม่เห็นจำได้”
เอกทศเอียงตัวกระซิบบอก “ยัยแว่นกันตา คนที่สารภาพรักกับมึงไงวะ”
คีรีหันไปมองซ้ำ ไม่น่าเชื่อช่วงเวลาแค่สี่ปีจะเปลี่ยนหล่อนเปลี่ยนแปลงได้ถึงขั้นนี้
“ยัยนั่นไปศัลยกรรมมาเหรอ?”
เสียงหัวเราะดังคลืน เพราะทุกคนในกลุ่มได้ยินกันหมด
“แค่ดัดฟันยะ คนสวยน่ะ ไม่ต้องพยายาม” กานดาเป็นคนตอบเสียงเอง กันตาไม่ต้องพยายามสวย เธอสวยมาตั้งแต่เด็ก แค่ซ่อนเอาไว้เพราะมีดีมากกว่าหน้าตา
“เป็นว่าที่คุณหมอด้วยนะ เนื้อหอมตั้งแต่เป็นเงาะถอดรูปแล้วว่ะ”
คนพูดไม่ได้พูดเกินจริง หลังจบมัธยมปลาย กันตาเปลี่ยนไปจนเพื่อนแทบจำไม่ได้ อันดับแรกเพราะไม่อยากใส่แว่นอีก เธอเลยควักเงินเก็บไปทำเลสิกตา จากนั้นก็จัดฟันให้เข้ารูป โครงหน้าที่สวยอยู่แล้วเลยเข้าที่เข้าทาง
“มาๆ มาช้าต้องดื่มชดเชยนะ” ลลิตาส่งแก้วเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์นิดหน่อยให้
“ฉันขับรถมานะ” กันตาพยายามปฏิเสธ และเพราะสายตาของใครบางคนมองเธอไม่วางตา เธอเลยฉวยแก้วที่ลลิตาส่งให้เพื่อลดอาการขัดเขิน
และคงเพราะท้องว่างไม่มีอะไรอยู่ในท้องตั้งแต่หลังหกโมงเย็นมาแล้ว ทันทีที่เครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์อ่อนๆ นั่นตกถึงท้อง เธอร้อนวาบไปทั้งตัวทีเดียว
“ไง ไม่คิดจะทักทายกันเลยเหรอกันตา” คีรีเป็นฝ่ายที่ทนรอไม่ไหว
เขาส่งเสียงทักไปก่อน กันตารีบปรับสีหน้า เธอเงยหน้ามองสบตาเขา แล้วก็ยิ้มบางๆ
“เคนท์เองเหรอ กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ละ”
กานดายกหัวแม่มือให้กับการสำรวมท่าทางไม่ให้อีกฝ่ายเห็นความประหม่าของตนเองได้
คีรีไหวไหล่ “สักพักแล้ว”
“อือ” กันตาพยักหน้าและเพราะความประหม่าอีกนั่นแหละ เธอเลยฉวยแก้วเครื่องดื่มมาดื่มอีกอึกใหญ่ๆ กานดามองตาโต แก้วเครื่องดื่มในมือกันตาว่างเปล่า สีหน้าของกันตาแดงก่ำขึ้นมาทันที
“ยัยตา เดี๋ยวเมา” กานดาปรามเบาๆ
แต่ไม่ทันเสียแล้ว เธอมองหน้ากานดาแล้วก็ยิ้มหวาน