7
อีกแค่สองวันก็จะถึงการแข่งขันแมตช์แรกของทีมเรา บีไอและรุ่นน้องคนอื่นๆ ในทีมทุ่มฝึกซ้อมกันอย่างแข็งขัน พวกเขาดูเอาจริงเอาจังกันน่าดู ถึงแม้จะเป็นแค่การแข่งแมตช์แรกที่ทีมคู่แข่งไม่ได้น่ากลัวอะไรเลยสักนิด (ไม่ได้ดูถูกทีมตรงข้ามนะ แต่เพราะทีมเราชนะทีมนี้ทุกแมตช์ที่แข่งกันตั้งแต่สี่ปีก่อนจนกระทั่งตอนนี้...)
“พักดื่มน้ำกันก่อนเร็ว” ฉันตะโกนบอก บีไอจึงยกมือขึ้นเป็นสัญญาณให้หยุดพัก ทุกคนทยอยกันวิ่งออกมาจากสนามแล้วรับน้ำจากฉันไปคนละขวดพร้อมกับผ้าเย็นหนึ่งผืน
“การแข่งขันใกล้เข้ามาทุกทีๆ พวกนายคงต้องเหนื่อยกันหน่อยนะ” ฉันบอกอย่างให้กำลังใจ ซึ่งทุกคนก็ชูสองนิ้วกลับเป็นการบอกถึงพลังที่เต็มเปี่ยมและความตั้งใจจริง
“รุ่นพี่พอจะมีแผนรุกแล้วก็แผนรับอะไรดีๆ บ้างมั้ยฮะ ทีมที่ญี่ปุ่นเขามีวิธีรุกยังไงเหรอ”
รุ่นน้องคนหนึ่งในทีมถาม แผนการเล่นของทีมฉันอย่างนั้นเหรอ... มันเป็นทีมเบสบอลหญิง จะใช้ได้กับทีมเบสบอลชายหรือเปล่านะ
“ฉันจะลองเอาแผนการเล่นของทีมฉันมาปรับเข้ากับแผนการเล่นของทีมเราในตอนนี้ดูก็ละกัน บีไอ นายเอารายละเอียดแผนการเล่นของทีมเราทั้งหมดที่นายคิดไว้มาให้ฉันด้วยนะ งานนี้ต้องลุยให้ถึงที่สุด”
ฉันบอกอย่างเอาจริงเอาจัง บีไอพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม ฉันรีบหลบสายตาให้พ้นจากรอยยิ้มพิฆาตใจนั่นทันที ถึงฉันจะยอมกลับมาเป็นเหมือนเดิมกับพวกเขา แต่ก็ใช่ว่าฉันจะลืมเรื่องที่บีไอทำไว้กับฉันได้สักหน่อย ยังไงเขาก็เคยทำร้ายจิตใจฉันมาก่อน ฉันจะใจอ่อนให้กับเขาง่ายๆ ไม่ได้เด็ดขาด ถึงแม้ว่าหน้าตาน่ารักๆ ของเขาจะทลายความตั้งใจจริงของฉันไปจนเกือบหมดแล้วก็ตาม
“เอาล่ะๆ ฝึกกันต่อ อีกสักสองรอบก็แยกย้ายกันกลับได้”
บีไอบอกและให้สมาชิกทุกคนไปประจำยังจุดของตัวเอง ก่อนจะหันกลับมาทางฉัน
“วันนี้ฉันไปส่งที่บ้านนะ ^^~”
เขาไม่รอให้ฉันตอบตกลงหรือปฏิเสธ รีบวิ่งกลับลงไปในสนาม บางทีนายควรจะเรียบเรียงประโยคซะใหม่ ไม่ก็เปลี่ยนประโยคใหม่ยกชุดไปเลยนะว่า ‘วันนี้ฉันจะไปส่งเธอที่บ้านเอง’ -_-
ฉันนั่งดูพวกเขาซ้อมต่อไปเรื่อยๆ เพื่อสังเกตสไตล์การเล่นของแต่ละคน ร่วมทั้งแผนการรุกการรับของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นแบตเตอร์ (ผู้ตี), พิทเชอร์ (ผู้ขว้าง), หรือแคทเชอร์ (ผู้รับลูกเบสบอลที่พิทเชอร์ขว้างออกไปในกรณีที่แบตเตอร์หวดไม้ไม่โดนลูก) ก็ถือว่าฝีมือเยี่ยมด้วยกันทั้งนั้น ส่วนบีไอ...ไม่ต้องพูดถึง หมอนั่นอัจฉริยะโดยสายเลือด -_- ปกติแล้วพิทเชอร์ส่วนมากจะไม่เก่งเรื่องการตีลูก พิทเชอร์จึงมักจะได้พักในขณะที่ทางทีมเราเป็นฝ่ายรุก เพราะพิทเชอร์ต้องใช้พลังแขนมาก แต่บีไอเป็นกรณียกเว้น เขาสามารถเป็นได้ทั้งพิทเชอร์และแบตเตอร์โดยไม่มีการพลาด! ลูกโฮมรันของเขาเป็นความมหัศจรรย์ที่ทุกคนพากันตะลึง แต่ละอินนิ่ง* บีไอจะทำคะแนนให้กับทีมจนชนะขาดลอยทุกครั้ง
“รอนานมั้ย ^^”
บีไอเดินยิ้มแย้มเข้ามาหาฉันที่นั่งอยู่บนเบาะหลังจักรยานรอเขาอยู่ที่ประตูหน้าโรงเรียน ระหว่างที่ฉันกับเขาจะพ้นประตูโรงเรียน ก็มีโทรศัพท์จากบีโอเรียกบีไอเข้าไปประชุมด่วนที่ห้องสภาเรื่องการแข่งขันประกวดประธานนักเรียนดีเด่นระดับประเทศที่จะมีขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้
“ไม่“ ฉันตอบกลับนิ่งๆ จะแสดงออกว่าใจเต้นแรงไม่ได้ คนอย่างหมอนี่ต้องได้ใจแน่ๆ ถ้าเขารู้ว่าฉันชุ่มชื่นในหัวใจมากแค่ไหนที่เขากำลังจะไปส่งฉันที่บ้านแบบนี้
“เดี๋ยวเราแวะที่สนามเด็กเล่นกันก่อนมั้ย”
“ถึงฉันบอกว่าไม่ ยังไงนายก็จะแวะอยู่ดีไม่ใช่หรือไง“
“ครับ ^^”
งั้นจะถามฉันหาพระแสงอะไรล่ะ -___-*
“สนามเด็กเล่นนั่น...ไม่เปลี่ยนไปเลยนะ” ฉันเอ่ยปากหลังจากกระโดดขึ้นเบาะหลังเรียบร้อย บีไอออกแรงปั่นไปอย่างช้าๆ ราวกับเขากลัวว่าเวลาจะเดินเร็วเกินไป
“มันไม่มีวันเปลี่ยนไปหรอก”
“ทำไมถึงมั่นใจขนาดนั้น“
“เพราะฉันจะไม่ยอมให้มันเปลี่ยนไปเด็ดขาดไงล่ะ ^^”
“ฉันลืมไป ไอ้นิสัยชอบทำตัวเป็นเจ้าของโลกของนายมันคงทำได้ทุกอย่าง“
ได้ทีก็ขอเหน็บแนมหน่อยเถอะ หมั่นไส้กับนิสัยแบบนี้ของหมอนี่มานานแล้ว จริงอยู่ว่ารอยยิ้มของเขาช่วยรักษาบาดแผลในใจของผู้อื่นได้ แต่อีกนัยหนึ่ง ถ้านำไปใช้ในทางที่ผิด รอยยิ้มของเขาก็ถือเป็นอาวุธร้ายกาจที่สามารถใช้ครอบครองโลกใบนี้ได้เช่นกัน พวกมีรอยยิ้มอันตราย -_-//
“ทำไงได้ ก็สนามเด็กเล็กนั่นมันมีความทรงจำเรื่องของเธอกับฉันอยู่เยอะนี่นา ใครจะยอมให้เปลี่ยนแปลงไปล่ะ”
“.....” ฉันเงียบไม่ตอบ ค่อยๆ ยกมือขวาขึ้นไปทาบกับหัวใจตัวเอง มันเต้นแรงจนตัวฉันเองก็ควบคุมไม่อยู่ ความรู้สึกมันเริ่มก่อตัวขึ้นจนกลายเป็นพายุลูกใหญ่ และรอคอยวันที่จะทะลักออกมา
“ฉันรู้ว่ามาพูดดี ทำดีเอาตอนนี้มันคงสายเกินไป แต่ฉันก็แค่อยากจะบอกให้เธอรู้ก็เท่านั้นว่าทุกความทรงจำที่เกี่ยวกับเธอ มันสำคัญกับฉันมาก ทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเธอ ฉันอยากให้มันเป็นของฉันคนเดียว ฉันคนเดียวเท่านั้น...”
บีไอเบรกจักรยานที่หน้าสนามเด็กเล่นทันทีที่เขาพูดจบ แสงสีส้มของพระอาทิตย์ฉาบไปทั่วทุกบริเวณ ฉันลงจากจักรยานไปยืนอยู่ที่ทางเข้า บีไอตามมายืนข้างๆ เราสองคนจ้องมองไปที่ชิงช้าทั้งสองตัว มันดูใหม่และสวยเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนจริงๆ
“ไปเล่นชิงช้ากันนะ ^^”
บีไอพูดพลางหันมายิ้มกว้าง ฉันพยักหน้ารับเบาๆ เขาจึงยื่นมือซ้ายของตัวเองส่งให้ฉัน
“เชิญครับ เจ้าหญิงสโนว์ไวท์ ^^”
“.....”
ฉันไม่ตอบอะไรที่เป็นคำพูดออกไป ส่งมือขวาไปให้บีไอกุมไว้หลวมๆ เขาพาฉันเดินไปที่ชิงช้าตัวที่เราสองคนเคยเล่นด้วยกันเมื่อสมัยที่เรายังเป็นแฟนกันอยู่ แสงของพระอาทิตย์ยามเย็นช่างอบอุ่นเหลือเกิน
“ยังเป็นตำแหน่งที่ดีเหมือนเดิมเลยนะ ตรงนี้น่ะ”
บีไอก้มลงมากระซิบข้างหูจากด้านหลัง หลังจากที่พาฉันมานั่งบนชิงช้าแล้วตัวเขาก็เดินอ้อมไปยืนข้างหลังฉันเพื่อจะคอยไกวชิงช้าให้ จากมุมที่เราสองคนอยู่ สามารถเห็นพระอาทิตย์ตกได้พอดิบพอดี มันจะลับหายไปหลังบ้านเรือนของผู้คนละแวกนี้ ตอนเด็กๆ ฉันกับซีคอนเคยวิ่งหาพระอาทิตย์ที่ตกมาบนหลังคาบ้านเกือบตาย เพราะคิดว่าจะเจอพระอาทิตย์จริงๆ = =//
เอี๊ยด! เอี๊ยด!
นอกจากสภาพและตำแหน่งของชิงช้านี้จะยังไม่เคยเปลี่ยนแล้ว เสียงอันแสนสยองเวลาไกวก็ยังคงไม่เปลี่ยนเช่นกัน มันยังคงดังเอี๊ยดอ๊าดๆ เหมือนจะถล่มลงภายในไม่กี่วินาที ถึงแม้ว่ามันไม่เคยแม้แต่จะมีน็อตหลุดออกมาเลยก็ตามเถอะ
“เย็นสบายดีนะ เธอว่ามั้ย”
ฉันพยักหน้ารับ ค่อยๆ แหงนหน้าขึ้นฟ้าและเอนตัวไปข้างหลังเล็กน้อย มือทั้งสองข้างจับโซ่ของชิงช้าไว้เป็นที่ยึด หลับตาลงเพื่อสูดอากาศที่แสนสดชื่นเข้าไปให้เต็มปอด รู้สึกดีเหลือเกิน...
จุ๊บ...
“O_O”
ฉันลืมตาโพลงอย่างตกใจเมื่อรับรู้ได้ถึงสัมผัสอันแผ่วเบาที่ริมฝีปาก! และพอลืมตาขึ้นมาก็พบกับบีไอที่โน้มหน้ามาจากข้างหลังกำลังจูบฉันที่หลับตาและแหงนหน้ามองฟ้าอยู่!!!
แมตช์ที่ 1 ของการแข่งขันมาถึงอย่างรวดเร็ว มีการปรับเปลี่ยนแผนการรับและรุกเล็กน้อย โดยที่ฉันได้เอาแผนการทั้งหมดของบีไอมาปรับเปลี่ยนใหม่บางอย่าง ซึ่งทุกคนในทีมก็เห็นด้วยและให้การยอมรับ วันนี้ฉันเลยตื่นตั้งแต่ไก่ยังไม่ขันเพื่อมาเตรียมตัวสำหรับการแข่งขันแมตช์แรกของทีมเรา ถึงแมตช์นี้จะดูแล้วไม่น่ายาก แต่เราจะประมาทไม่ได้เด็ดขาด!
“เหนื่อยแย่เลยนะสโนว์ >_<”
บีเอ็มที่ตามมาเชียร์บีไอเอ่ยขึ้น (แน่นอนว่าบีวาย บีเอ และบีโอจะต้องมาด้วย แต่คราวนี้พวกเขาไม่ได้มากันแค่สี่คน ยังมีราพันเซล ชิงเกอเบล และมู่หลานหรือก็คือยัยเด็กหน้าตุ๊กตาที่ฉันเคยเดินเข้าไปทักว่ากำไลสวยนั่นแหละ พวกเขายกโขยงกันมาเชียร์บีไอราวกับเป็นวันรวมญาติงั้นแหละ - -)
“นิดหน่อยน่ะ ว่าแต่หิวหรือเปล่า ฉันยังไม่เห็นนายกินอะไรเลยนะ”
ฉันลูบหัวบีเอ็มอย่างเอ็นดู เขารีบพยักหน้าอย่างออดอ้อนทันที
“หิวสิ เค้ายังไม่ได้กินอะไรเลยแหละ ท้องร้องจ๊อกๆ เลย”
บีเอ็มกำมือหลวมๆ สองข้างแล้วชูขึ้นประมาณไหล่ทำท่าเหมือนลูกแมวพร้อมกับเบะปากเล็กน้อยเพื่อเรียกคะแนนความน่ารัก แน่นอนว่า...เขาได้ไปร้อยคะแนนเต็มจากฉัน
“งั้นกินนี่สิ แซนด์วิชนี่ฉันตื่นมาทำเองเลยนะ”
ฉันส่งแซนด์วิชให้เขากล่องหนึ่ง บีเอ็มรับไปอย่างดีใจ แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้เปิดก็มีมือปริศนามาดึงหูเขาไว้ซะก่อน
“มาอ้อนรุ่นพี่สโนว์ถึงที่เลยนะ”
ชิงเกอเบลนั่นเอง เธอดึงหูบีเอ็มขึ้นลงๆ จนเขาร้องจ๊าก น้ำตาใสๆ เล็ดออกมาจากดวงตาทั้งสองข้างของเขา
“เค้าก็แค่คิดถึงสโนว์อ่า (._.)”
บีเอ็มเอานิ้วชี้ทั้งสองข้างมาจิ้มจึกๆ เหมือนเด็กทำผิดแล้วถูกจับได้ ชิงเกอเบลหัวเราะร่าอย่างสนุกสนานที่ได้แกล้งเขา
“ไอ้เพี้ยนนี่มารบกวนอะไรเธอหรือเปล่า!” บีโอที่เดินเข้ามาพร้อมกับคนอื่นๆ ถามเสียงแข็ง โดยที่ชิงเกอเบลกับราพันเซลทำหน้าที่มาช่วยกันดึงบีเอ็มที่เกาะแขนฉันแน่นเป็นปลิงออกไป
“รุ่นพี่สโนว์ต้องเข้าไปดูแลบีไอในสนามก่อนนะตัวเอง อย่าเพิ่งงอแงสิ” ชิงเกอเบลดุและพยายามแงะมือบีเอ็มออก แต่เขาก็ไม่ยอมปล่อยง่ายๆ
“ก็เค้าอยากอยู่กับสโนว์อ่า น้าๆ สโนว์ให้เค้าเข้าไปในสนามด้วยน้า T^T”
“คือ...”
“ไม่ได้! ไปนั่งที่สแตนด์คนดูกับฉันเดี๋ยวนี้!”
คราวนี้เป็นราพันเซลที่ออกคำสั่ง บีเอ็มทำปากเบะหน้างอง้ำอย่างขัดใจ เท่าที่ฉันรู้มาก็คือ ห้าคนนี้เป็นบอดี้การ์ดของราพันเซล พวกเขาเลยเรียกเธอว่าคุณหนู และไม่ว่าเธอจะสั่งอะไร พวกเขาก็มีหน้าที่ทำตามเท่านั้น
“คุณหนูง่ะ T^T”
โป๊ก!
“โอ๊ยยยยยยย TOT!!”
“หยุดเพี้ยนสักวันจะได้มั้ย =_=”
บีวายที่สงสัยจะทนความดื้อเป็นเด็กของบีเอ็มไม่ไหวใช้สันหนังสือสีดำเล่มหนาของตัวเองฟาดลงมาเต็มๆ หัวของบีเอ็มจนเขาร้องโอดครวญอย่าง =___=
“ไปได้แล้วตัวเอง” ชิงเกอเบลใช้ความพยายามอีกครั้ง แต่บีเอ็มก็ยังคงไม่ปล่อยแขนฉัน เอ่อ...แขนฉันจะหลุดแล้วนะ T_T
“ไม่เอา เค้าไม่ไป ที่รักไปก่อนเถอะค่ะ T3T”
บีเอ็มหันไปจุ๊บแก้มชิงเกอเบลและผลักเธอให้กับมู่หลาน
“แซนด์วิชนี่อร่อยดีนี่ เธอทำเองเหรอยัยสโนว์แมน” บีโอที่เอากล่องแซนด์วิชที่ฉันให้บีเอ็มไปตอนไหนไม่รู้ถามขึ้น
“อร่อยมาก -_-“ บีเอเอ่ยชมอีกคน คนที่เอากล่องแซนด์วิชไปน่าจะเป็นหมอนี่นะ เพราะหลักฐานมันอยู่ในมือเขา -*-
“เฮ้ยยยย OoO” บีเอ็มชี้ไปที่กล่องแซนด์วิชอย่างตกใจ “แซนด์วิชของช้านนน T[]T”
“ของแกเหรอ -_-“ บีเอถามเสียงเรียบราวกับไม่รู้เรื่อง หมอนี่กำลังจะทำให้บีเอ็มคลั่งสินะ -__-;
“ไอ้บีเอ ไอ้บีโอ แกบังอาจกินแซนด์วิชที่สโนว์ให้ฉัน แกสองคนต้องตาย แง้ T[]T!!!”
บีเอ็มยอมปล่อยมือออกจากแขนฉันในที่สุด เขารีบไปวิ่งไล่เอาแซนด์วิชคืนจากบีโอและบีเอที่กำลังวิ่งหนี ทั้งสองผลัดกันโยนกล่องแซนด์วิชข้ามหัวบีเอ็มที่กำลังคลั่งไปมา น่าสงสารจริงๆ หมอนี่มักจะโดนสองคนนี้แกล้งตลอด ตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว
“รีบไปเถอะค่ะรุ่นพี่ ถ้ารุ่นพี่บีเอ็มกลับมาอีกคราวนี้คงแยกยาก ^^”
มู่หลานบอกแล้วรีบดันฉันเข้าไปในสนาม ความจริงฉันก็ยังไม่อยากจะเข้าไปหรอกนะ เพราะยังไม่พร้อมจะเจอหน้า ‘หมอนั่น’ สักเท่าไหร่ แบบว่า...เหตุการณ์ที่ฉันกับเขาได้อยู่ด้วยกันสองคนครั้งล่าสุดมันค่อนข้างจะ...เอ่อ =__=//
“ไฮ...สโนว์ ^^”
บีไอในชุดเบสบอลเตรียมพร้อมลงแข่งเต็มที่เอ่ยทัก พร้อมกับท่ายกมือขึ้น (มันเป็นท่าประจำของเขา -_-) ฉันถอยหลังกลับไปหลบอยู่ข้างมู่หลาน ชิงเกอเบล และราพันเซลโดยอัตโนมัติ และไม่คิดที่จะเงยหน้าสบตากับบีไอสักนิดเดียว
“เอ่อ...-O-;;”
สามสาวอ้าปากค้างอย่างงุนงง พอๆ กับบีวายที่ลดหนังสือในมือที่กำลังอ่านลง บีโอ บีเอ และบีเอ็มที่หยุดวิ่งไล่กัน นะ...นี่ฉันกลายเป็นจุดสนใจอีกแล้วใช่มั้ย T^T
“เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่าคะรุ่นพี่สโนว์ไวท์ ^^;”
มู่หลานละล่ำละลักถาม ฉันยืนตีหน้านิ่งแต่เหงื่อแตกพลั่กๆ จะ...จะบอกยังไงดีว่าไม่กล้าเจอหน้าเพราะเพิ่งโดนจู่โจมจูบไปเมื่อสองวันก่อน =___=//
“ปะ...เปล่า -_-//”
“บีไอ หรือนายทำอะไรสโนว์กัน หา!” ราพันเซลถามเสียงแข็ง บีไอรีบโบกมือส่ายไปส่ายมาปฏิเสธ
“เปล่านะ ฉันไม่ได้ทำอะไรเลย คุณหนูอย่ามองฉันในแง่ร้ายนักสิ”
“รอยยิ้มแบบนี้แหละที่ไม่น่าไว้ใจ” ชิงเกอเบลพึมพำเบาๆ
ส่วนฉันก็ยังใช้ทั้งสามสาวเป็นที่หลบบีไปเหมือนเดิม ทะ...ทำไมกลายเป็นแบบนี้ไปได้นะ T^T
* กีฬาเบสบอลจะผลัดกันรุก ผลัดกันรับ เมื่อสลับกันรุก-รับ 1รอบ เรียกว่า 1 อินนิ่ง