บทที่ 12 ฝันร้าย
ด่านที่สองคือเป้านิ่ง ก็คงให้ยิงเป้านั่นแหละ มันน่าจะไม่มีอะไรพิเศษมาก มาถึงก็รีบรายงานตัวทันที เพราะอยากให้จบภารกิจก่อนที่พวกพี่ๆตำรวจจะมา
ผ่านไปสิบนาที...
ภารกิจจบแล้ว พวกพี่ตำรวจมาถึงพอดี แต่...ความหน้าอายมันไม่จบนี่สิ เพราะสุดท้ายเขาก็จะพูดถึงความแม่นยำที่ตรงเป้าของแต่ละคนด้วย
“ สิบโทหญิงศิริพร วาลาลักษ์ ได้คะแนนสูงสุดยิงตรงเป้าห้านัด ” กระสุนที่ให้มาเมื่อกี้เพียงคนละสิบนัด
“ และคนที่ได้คะแนนต่ำสุด ยิงตรงเป้าแค่หนึ่งนัดก็คือ สิบโทหญิงเวนิส ตะวันฉาย ”
หน้าอายสุดๆ วันนี้ทำไม มันดูพลาดไปหมดนะ ไม่สมกับเป็นฉันเลย ดูไม่มีสมาธิเอามากๆเลย
“ จำได้ว่าปีที่แล้ว นางสาวเวนิส ทำได้คะแนนเยอะอยู่นะ ” ปีที่แล้วก็ส่วนปีที่แล้วสิ เห้อ! พี่วิษกับเพื่อนๆคงได้ยินหมดแล้วสินะ
หลังจากนั้นพวกเราก็เสร็จสิ้นจากด่านนี้ แล้วไปตามที่ต่อไป จะเป็นโรงเลี้ยง พักกลางวัน แต่ตอนนี้พวกเราก็ต้องพากันไปเปลี่ยนชุดก่อน ตอนที่ลงน้ำในด่านแรกยังไม่เปลี่ยนเลยเพราะรีบ
“ รอพวกพี่ก่อนนะ ไปพร้อมกัน ” ตอนที่เดินออกมาสวนทางกับพวกพี่ตำรวจที่กำลังเดินเข้าไปพอดี
“ คือว่าเพื่อนๆหิวแล้วค่ะ น้องเลยต้องรีบไปก่อน ” พูดขึ้นโดยที่ไม่กล้าสบตาพี่เขาเลย
“ น้องทำดีที่สุดแล้ว ” พูดแบบนี้ให้กำลังใจหรือเปล่า?
“ แล้วเจอกันนะคะ ” ฉันรีบเดินออกมาทันที ในระหว่างนั้นก็คิดอะไรเพลินๆ
“ แกโกรธฉันปะ เรื่องตอนที่ฉันพูดขัดตอนรายงานตัวอะ ถ้าฉันไม่พูด คนอื่นก็ไม่รู้หรอกว่าแกยศอะไร อยู่ค่ายอะไรเนอะ มีแค่ทีมพวกเราแหละที่รู้ ฉันไม่น่าพูดเลย ทำให้แกรู้สึกไม่ดี ฉันขอโทษ ” ครีมพูดขึ้น
“ อย่าคิดมาก มันคือความผิดพลาดของฉันเองแหละ แกไม่ต้องกังวลไปหรอก ” ฉันพูดแค่นั้นแล้วก็เดินไปอย่างเงียบๆตามแผนที่ ไม่ได้เคืืองโกรธอะไรจริงๆ แต่แค่รู้สึกไม่ดีกับตัวเองแค่นั้นเลยเลือกที่จะเงียบและซึมไป
โรงเลี้ยงกลางป่า
พอมาถึงทุกคนก็รีบไปเข้าแถวเพื่อเอาอาหารกัน ทีมแรกที่มาถึงน่าจะเป็นทีมพวกเรามาก่อนใคร หิวจริงๆแหละ ดูจากทุกคนที่กินกันอย่างว่องไว คงมีแค่ฉันที่ดูจะกินไม่ค่อยลง
“ เป็นอะไร แกดูซึมๆไปนะ ยัยเวย์ ” กระต่ายพูด
“ ใช่ๆ ” ครีมพูดเสริม
“ ปวดหัวเล็กน้อยนะ ไม่เป็นอะไรมากหรอก ”
หลังจากกินข้าวเสร็จ ทุกคนก็ต่างแยกย้ายกันไปนั่งพักเพื่อย่อยอาหาร เวลาพักให้ถึงสองชั่วโมง มันเหลือเฟือ จนพวกเราต้องหาที่นั่งร่มๆใต้ต้นไม้ใหญ่เพื่อจะเอนกายกันเลยทีเดียว ต่างกันต่างเอนกายนอนทับกระเป๋าสัมภาระและกอดปืนไว้ตลอดเวลา ส่วนฉันนั่งพิงต้นไม้ใหญ่ กอดปืนแน่น เอาหมวกมาปิดหน้าเพื่อจะงีบสักครู่แล้วค่อยเดินทางต่อ
ตะวันคล้อยเริ่มบาย มีควันที่ขาวพุ่งออกมาเยอะ เลยทำให้เห็นลางๆ มีบุรุษท่านหนึ่งเดินเข้ามา ในขณะที่ฉันกำลังนั่งหลับ
“ ที่รักกินข้าวยังครับ ” ถึงจะดูเลือนลางแต่ก็จำเสียงได้ดีว่าคนคนนี้คือแฟนของตัวเอง นั่นก็คือพี่วิษ
“ กินแล้วค่ะ ”
“ พี่มีเรื่องสำคัญจะพูดด้วย ”
“ ว่ามาสิค่ะ ”
“ พี่กำลังจะแต่งงาน ”
“ คะ? ทำไมรีบจัง ” ในใจก็รู้สึกตื่นเต้น เขากำลังจะขอเราแต่งงานหรือเปล่า ใบหน้าก็ยิ้มอย่างเสียไม่ได้
“ พี่ขอโทษนะ ”
“ คะ? ”
“ พี่ทำผู้หญิงคนอื่นท้อง พี่ต้องรับผิดชอบเขา พี่ขอโทษ พี่รักน้องนะ ”
“ มัน...ไม่จริงใช่ไหมคะ ไม่นะ พี่วิษ อย่าไปค่ะ ไม่!!! ”
พี่เขาพูดจบก็เริ่มเลือนลางหายไป ในใจฉันมันไม่อาจยอมรับได้ และรู้สึกยังไม่กระจ่าง พี่เขายังพูดไม่จบ อธิบายไม่จบเลย จะหนีไปดื้อๆหรือไง ฉันที่พยายามวิ่งตามและร้องเรียก เรียกเท่าไร พี่วิษก็ยิ่งห่างไปไกล จนมันสุดจะทน ฉันถึงกับ.....
“ กรี๊ดดดดด~ พี่วิษ ฮึก~ ” หัวใจเต้นกระสับกระส่าย มันหน่วงๆยังไงไม่รู้ เหมือนจะตกใจ แต่แค่ลืมตาแค่นั้นแหละ ถึงกับสะดุ้งเพราะมันคือความฝัน....แต่เพื่อนๆนี่สิพากันตกใจหันมามองหน้าฉันกันหมดเลย
“ เวย์ แกเป็นอะไร ”
“ แกโอเคใช่ไหม ”
“ เฮ้อ...ฉันแค่ฝันไป ”
“ ฝันร้ายเหรอ? ”
“ ... ” ไม่ได้พูด ยังคงอึ้งและหน่วงหัวใจอยู่ เพราะในฝันมันเหมือนเรื่องจริงมากๆ
“ แกร้องไห้ขนาดนี้ ไม่ต้องบอกหรอกว่าฝันร้ายขนาดไหน ” มือเล็กยกขึ้นจับแก้มทันที ถึงได้รู้ว่ากำลังร้องไห้อยู่
“ โอเคจริงปะเนี่ย ” กระต่ายมาใกล้แล้วถามขึ้น
“ ฝันร้ายจริงๆ แต่ไม่เป็นไรแล้ว ”
“ ไหวแน่นะ ” ครีมมาสบทบ
“ ไหวสิ แต่ให้แกเป็นหัวหน้าแทนได้ไหม ให้กระต่ายเป็นรองหัวหน้า ส่วนฉันจะทำหน้าที่ของกระต่ายแทน ” คิดมาดีแล้ว อยากเปลี่ยนจริงๆ ไม่อยากให้ลูกทีมขายหน้าและรู้สึกไม่ดี
“ จะดีเหรอ? ” ครีมเลิกคิ้วสูง
“ ดีสิ แกเป็นนะดีกว่าฉันอีก ”
“ ไม่ดีหรอกมั้ง ” ครีมยังคงปฎิเสธ
“ ทุกคนฟังทางนี้นะ พอดีฉันรู้สึกว่าตัวเองขาดความมั่นใจ ยังคงไม่มีความกล้าหาญ และจิตใจยังไม่นิ่ง คงรับหน้าที่หัวหน้าต่อไม่ได้แล้ว ฉันจึงให้รองหัวหน้าครีม ขึ้นมาเป็นหัวหน้าแทน ทุกคนจะว่าอะไรไหม ”
ทุกคนพากันส่ายหน้าประมาณว่าไม่มีปัญหา มันก็หมายความว่าฉันไม่ดีจริงๆสินะ เห้อ! ทำไมรู้สึกใจหวิวๆจัง เฟลมากด้วย แต่ก็เป็นฉันเองนี่แหละที่ต้องการเปลี่ยนอะ จะโทษใครได้ ลูกทีมก็คงอยากเปลี่ยนอยู่แล้ว หน้าที่นี้คงไม่เหมาะกับฉันจริงๆ
“ โอเคตามนี้นะ งั้นก็ออกเดินทางได้แล้ว ไปด่านต่อไปเลย ”
พวกเราลุกขึ้นยืนแล้วเก็บสัมภาระขึ้นมา พร้อมกับต่อแถวเดินตามหลังกันติดๆเพื่อจะตรงไปยังด่านที่สาม แต่ระหว่างเดินมันก็ต้องผ่านโรงเลี้ยงก่อน ทำให้เห็นหลายๆทีมมากินข้าวกันแล้ว
“ จะไปแล้วเหรอ รอพวกพี่ก่อนสิ ” พี่วิษวิ่งมาจากไหนไม่รู้ ตรงมาหาฉัน
“ คือว่า...น้องต้องทำตามหัวหน้าค่ะ ไม่สามารถขัดได้ เอาไว้ค่อยเจอกันนะคะ ”
“ หัวหน้า? แล้วไม่ใช่น้องเป็นเหรอ? ”
“ ให้ครีมเป็นแทนแล้วค่ะ ครีมดูเหมาะสมกว่าและมีความมั่นใจกว่า ”
“ พี่รู้สึกไม่ดีเลย อยากคุยกับน้องตอนนี้ พี่รู้ว่าน้องไม่สบายใจในหลายๆเรื่อง พี่อยากรับฟัง รอพี่ก่อนได้ไหม เราจะได้เดินไปคุยไป พี่ขอไปบอกเพื่อนๆก่อนให้รีบๆ ”
“ พี่วิษคะ เรื่องส่วนตัวเอาไว้ก่อนนะคะ ให้จบทุกเรื่องแล้วค่อยคุยกันดีกว่า ไปก่อนนะ ” แล้วฉันก็รีบวิ่งตามเพื่อนๆไป ปล่อยให้พี่วิษอยู่เคว้งอยู่คนเดียว
เมื่อกี้เจอหน้าพี่เขา ทำให้รู้สึกเจ็บใจนะ ข้างในลึกๆคงเพราะเราฝันร้าย ฝันถึงพี่เขาในทางไม่ดีแหละมั้ง ทำให้ความรู้สึกโกรธแค้นในใจยังมีอยู่ เห้อ~ แต่ทำแบบนี้แล้วพี่วิษจะรู้สึกยังไง เครียดจัง!
17 : 00 น.
ถึงเวลาพักแรมที่ทุกคนรอคอย มันจบที่ด่านห้าด่านสุดท้ายของวันนี้ และพวกเราก็ได้ตั้งเต็นท์พักแรมกันที่นี่พอดี ตอนนี้ต่างคนต่างพากันไปอาบน้ำกันหมดแล้ว เตรียมตัวเข้านอนกัน เพื่อเอาแรงไปต่อสู้วันพรุ่งนี้ต่อ
มีีสามทีม ที่มาทันจบภารกิจสุดท้ายของวัน นี้ที่ด่านห้า ทีมสีแดงพวกพี่ตำรวจ ทีมสีฟ้าพวกทหารพรานหญิง และทีมสีเขียวพวกทหารบกหญิง
ดูแล้วทีมสีแดงจะคึกคักกว่าใครนะ เพราะมีแค่ทีมพวกเขาทีมเดียวที่เป็นผู้ชายล้วน นอกนั้นผู้หญิงหมด ฉันที่กำลังจะเดินกลับไปที่เต้นท์แต่ระหว่างทางก็เจอพวกพี่ตำรวจนั่งเล่นอยู่ มีผู้หญิงทหารพรานด้วยสองคนที่กำลังคุยกันตรงนั้น
“ พี่คะ ขอเบอร์ได้ไหมคะ ” ฉันรีบหาที่แอบทันทีเพื่อซ่อนตัวและอยากฟังอะไรบางอย่าง
“ ไอ้วิษน้องเขาขอเบอร์มึงอะ ให้ไปสิ ”
“ ไม่ได้ กูมีแฟนแล้ว พวกมึงก็รู้ ”
“ น้องเวย์นั่นเหรอ? ดูยังไงก็สวยแต่รูป กูว่าจูบไม่หอมหรอก หึ แล้วดูซื่อๆยังไงไม่รู้ ”
ได้ยินแบบนี้แล้วรู้สึกเลยว่าพวกพี่ๆคงวัดจากอะไรๆในวันนี้สินะ คงเห็นว่าฉันไม่ดีพอแหละมั้ง คนฟังอย่างฉันต้องรู้สึกยังไงก่อน...เอาเป็นว่าไม่เดินผ่านตรงนั้นดีกว่า กลัวพวกพี่ๆทำตัวไม่ถูกเวลาเจอหน้าฉัน เท้าเรียวกำลังจะกลับหลังหันไปอีกทางแต่...
‘ พลั๊วะ ’
‘ ว้าย ’
‘ โอ๊ย ’
“ มึงมีสิทธิ์อะไรถึงมาว่าแฟนกูวะ ไอ้เหี้ยชาติ ” พี่วิษต่อยเพื่อนร่วมทีม พร้อมตะโกนใส่หน้าเพื่อน เพื่อนๆตรงนั้นก็ต่างกรูกันมาห้าม แต่เหมือนพี่วิษจะโมโหมากและพลังเยอะ จะเข้าไปซ้ำอีกรอบ
“ พี่วิษ พี่วิษ พอเถอะค่ะ พี่ ” ฉันเห็นท่าไม่ดีเลยรีบเข้าไปขวาง
“ เวย์..มาตอนไหน ดะ...ได้ยิินอะไรหรือเปล่า ? ” จากที่ดูแข็งกร้าว กลายเป็นอ่อนโยนทันที พี่เขาจับมือฉันไปกุมพร้อมถามด้วยน้ำเสียงอ่อน
“ ได้ยินค่ะ แต่...เวย์ไม่ใส่ใจค่ะ ขอแค่พี่เข้าใจและเชื่อมั่นในตัวน้อง แค่นี้น้องก็ดีใจแล้วค่ะ ” ฉันพูดจบก็สะบัดมือพี่วิษให้หลุดจากการกุมทันที แล้วเปลี่ยนเป็นโผเข้ากอด พี่วิษดูจะงงงวยไม่ทันตั้งรับ ขาถอยหลังไปหนึ่งก้าว แต่เพียงชั่วครู่ พี่เขาก็ลูบหลังฉันเบาๆ
“ รักนะครับ ”
“ รักเหมือนกันค่ะ ”
จู่ๆก็มีผู้คุมด่านที่ห้ามาและพาพี่ๆตำรวจไปทำโทษ โทษฐานที่ก่อความไม่สงบ ทะเลาะวิวาทกัน
?____________?
นามปากกาผกายมาส
หนึ่งคอมเมนต์ = หนึ่งกำลังใจ
หนึ่งหัวใจ ❤️ - แรงบันดาลใจ กำลังใจ