บทที่ 7 เลี้ยง
วันที่ 7 ตอนพักอยู่บ้าน...
และวันนี้พี่วิษก็จะมาที่บ้าน ซึ่งจริงๆวันนี้ฉันบอกพ่อกับแม่ว่าต้องไปเที่ยวกับเพื่อนสามวันแล้วจะกลับไปทำงานเลย แต่ความจริงก็อย่างที่บอกคือไปหาพี่วิษตามที่นัดกันไว้นั่นแหละ
ครืดด ครืดด
(“ น้องครับ พี่จะถึงบ้านน้องแล้วนะ ”)
(“ ค่ะ มาเร็วจัง ”)
(“ ก็ว่าที่พ่อตาอยากเจอไง ตื่นเต้นอะ ”)
(“ น้องไม่สบายใจเลย ”)
(“ เรื่องอะไรครับ ”)
(“ พี่กำลังขับรถอยู่ใช่ไหมคะ ”)
(“ ครับ เปลี่ยนเรื่องอีกแล้ว บอกมามีอะไรไม่สบายใจ”)
(“ งั้นค่อยคุยแล้วกัน ”)
(“ อย่าเพิ่งวางสาย พี่ขอถามก่อน พอพี่เจอพ่อน้องเสร็จแล้ว น้องจะออกมาพร้อมพี่เลยไหม ”)
(“ ต้องรอดูก่อนค่ะ ”)
(“ ครับ พี่ถึงหน้าบ้านแล้วนะ ”)
(“ อ้าว...เหรอคะ เร็วมาก ”)
หลังจากนั้นคนในสายก็วางสายไป และฉันก็รีบไปหากระจกมาส่องใบหน้าก่อนเลย พร้อมหยิบขวดน้ำหอมขึ้นมาฉีดให้หอม ผู้ชายมาบ้านทั้งทีจะทำให้หน้าตาซีดเซียวได้ไง หลังจากทำอะไรเรียบร้อยก็รีบออกจากห้องแล้วตรงไปยังห้องครัวที่ตอนนี้มีแม่อยู่
“ แม่คะพี่วิษมาแล้ว รีบออกไปเถอะ หนูกลัวพ่อมากเลยตอนนี้ ”
“ หนูไม่ไว้ใจพ่อขนาดนั้นเลยเหรอลูก ” แม่ที่กำลังปรุงอาหารบนเตาแก๊สก็หันมามองหน้าฉันทันที
“ ค่ะ เมื่อกี้ก็ไปกินเหล้าบ้านตาคล้ายมาด้วย หนูกลัวพ่อจะพูดจาไม่ดีใส่พี่เขาจังเลยค่ะ ”
“ จ่ะๆ เดี๋ยวแม่จะออกไปดูให้ ว่าแต่แม่ใส่ชุดแบบนี้ แฟนหนูโอเคไหมหรือให้แม่อาบน้ำก่อนดี ”
“ ไม่ทันแล้วค่ะ และพี่วิษเขาไม่สนใจเรื่องแบบนี้หรอกค่ะ ไปเถอะ ”
“ ดูท่าลูกพี่วุฒิคนนี้มีดีจริงๆ ถึงทำให้ลูกแม่เป็นได้ถึงขนาดนี้ ใช่มะๆ ” พี่วุฒิที่แม่เรียกก็คือพ่อพี่วิษนั่นแหละ
“ แม่อ่า~อย่าล้อหนูสิ ” ฉันบิดตัวไปมาทันทีเพราะความเขินอาย
“ ทำไมชักช้ากันห้ะ เจ้าวิษมารอได้สักพักแล้วนะ ” พ่อพูดขึ้นทันทีที่ฉันกับแม่เดินออกมาหน้าบ้าน พ่อพาพี่วิษมานั่งใต้ร่มไม้ ที่มีโต๊ะไม้หินอ่อนอยู่หน้าบ้าน
“ สวัสดีครับน้าวิ ” พี่วิษลุกขึ้นยืนพนมมือขึ้นไหว้อย่างนอบน้อมทันที
“ สวัสดีค่ะพี่วิษ ” ฉันกล่าวทักทายออกไปทันที พร้อมก้มหน้าลงนิดๆไม่ได้พนมมือใดๆ
“ ไหว้พระเถอะลูก นั่งๆทานอะไรมายังพ่อหนุ่ม เดี๋ยวน้าไปเอาน้ำมาให้นะ ”
“ ไม่เป็นไร ผมทานมาแล้ว เมื่อกี้แวะที่บ้านก่อนจะมาที่นี่ครับ ”
“ อ๋อ จ่ะ ”
“ แล้วที่บ้านรู้ไหมว่าคบกับลูกของน้า ” เป็นพ่อที่พูดขึ้น
“ ยังไม่ทราบครับ ”
“ อ้าว ทำไมไม่บอกไปล่ะหรือเห็นว่าครอบครัวน้าไม่ดีพอเลยไม่กล้าบอก ”
“ พี่ทิต! ” แม่เอ่ยปรามพ่อทันที
“ ไม่ใช่แบบนั้นนะครับ ” พี่วิษหน้าตาตื่นพร้อมปฎิเสธออกไปทันที
“ เป็นหนูเองที่ไม่ให้พี่วิษบอกค่ะ เพราะหนูยังไม่พร้อม นี่ถ้าพี่นิวไม่ปากโป้งบอกพ่อไปก่อน หนูก็คงไม่บอกให้พี่วิษมาเปิดตัวหรอกค่ะ ” ฉันพูดออกไปตามความเป็นจริงทันที
“ อ้าว นังนี่จะคบกันแบบแอบๆทำไม แค่แกบอกว่าคบกับเจ้าวิษฉันก็ไม่ว่าอะไรหรอก ”
“ ก็บอกไปแล้วว่ายังไม่พร้อม หนูเพิ่งคบกันได้ไม่นานเองนะคะ ”
“ แต่แกก็ควรจะบอกก่อน เกิดอะไรขึ้นก็จะได้รับรู้เลย ” เกิดอะไรขึ้นของพ่อนี่หมายความว่าไงกันนะ?
“ ก็บอกแล้วไงว่าหนูยังไม่พร้อม ”
“ ยัยนี่... ”
“ พี่ทิตพอเถอะ เรื่องของเด็กๆ ผู้ใหญ่อย่างเราไม่ควรยุ่งนะ ”
“ ใช่ค่ะ แม่พูดถูกมาก เอาเป็นว่าพ่อมีอะไรจะคุยกับพี่วิษก็คุยไปนะคะ พี่เขามีธุระต่ออีก และอีกอย่างหนูก็นัดกับเพื่อนไว้แล้วด้วย ”
“ จิ๊ ขัดใจมากทั้งแม่ทั้งลูก จะไปไหนก็ไป ฉันจะคุยกับเจ้าลูกเขยแค่สองคน ” และสิ่งที่กังวลก็เริ่มจะเกิดขึ้นแล้ว
“ ไม่ค่ะ หนูจะอยู่ฟังด้วย ”
“ ไม่เป็นไรหรอก ให้พี่คุยกับพ่อน้องสองคนนะ จะคุยเรื่องผู้ชายๆกันแหละ น้องไปอาบน้ำแต่งตัวเถอะ เดี๋ยวพี่จะไปส่งที่คิวรถตู้ ว่าแต่น้าทิตอนุญาตไหมครับ ถ้าผมจะไปส่งน้องที่คิวรถ ” ท้ายประโยคพี่วิษหันไปถามคนเป็นพ่อทันที
“ อ้าว คิดว่าไปด้วยกันเสียอีก เจ้าวิษไม่ได้ไปเที่ยวกับยัยเวย์หรอกเหรอ? ”
“ เปล่าครับ พอดีผมมีงานอีก ต้องรีบกลับไปทำงานอีกครับ ” ก็รู้ว่าอึดอัดใจแหละที่จำต้องโกหกผู้ใหญ่
“ อ้าวเหรอ เสียเวลาเที่ยวไปเที่ยวมาเลยนะนั้น ทำไมพ่อหนุ่มไม่ปฎิเสธค่อยมาวันที่ลาพักเลยล่ะ ” แม่พูดขึ้น
“ เอ่อ... ผมตื่นเต้นครับ อยากเปิดตัวอยู่นานแล้วเหมือนกัน 555+ ก็เลยตกปากรับคำออกไปเลย ”
“ ให้มันได้อย่างนี้สิ ลูกเขยข้า ” พ่อพูดอย่างภูมิใจสุดๆ
“ 555+ ดูพูดเข้า งั้นน้าขอตัวเข้าครัวก่อนนะ ”
“ ครับ ” แล้วแม่ก็เดินเข้าบ้านไป ส่วนฉันยังยืนอยู่ที่เดิมพร้อมมองหน้าพี่วิษ
“ ยัยเวย์แกไปอาบน้ำแต่งตัวสิ จะยืนบื้อทำอะไรอีก ” พ่อพูดขึ้น ฉันจ้องตาพี่วิษทันที พี่เขาพยักหน้า เฮ้อ! แต่ก็จำใจเดินเข้าบ้านไป...
ครึ่งชั่วโมงต่อมา....
ฉันแต่งตัวเสร็จเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเรียบร้อยแล้ว ก็ไปกอดแม่เพื่อจะลาไปเที่ยวและกลับไปทำงานเลย
“ เดินทางปลอดภัยนะลูก อะนี่ฝากเอาให้พี่เขากินนะ แม่ทำสุดฝีมือเลยเพื่อลูกเขยคนนี้ ”
แม่ยื่นกล่องอาหารที่ใส่อาหารโปรดพี่วิษมาตรงหน้าฉัน นั่นก็คือปลาดราดพริก ซึ่งก่อนหน้าก็คือเมื่อวานนี่แหละ ฉันได้บอกแม่ว่า ว่าที่ลูกเขยจะมาและบอกของโปรดไปสองสามอย่างให้แม่ฟัง...แม่เลยเลือกทำปลาราดพริกให้
“ ค่ะ ขอบคุณนะคะ แม่จะไม่ไปส่งพี่วิษเหรอคะ? ”
“ ดูตัวแม่สิเต็มไปด้วยเหงื่อแล้ว เดี๋ยวแม่จะไปอาบน้ำแล้ว ”
“ ค่ะ บ๊ายบายนะคะ แล้วเจอกันอีกสองเดือนนะคะ ”
“ จ้า ดูแลตัวเองด้วยนะลูก ”
ฉันเดินไปหน้าบ้าน พร้อมสะพายกระเป๋าเป้ออกไปด้วย มันมีเสื้อผ้าที่เอากลับมาซักที่บ้านเยอะมาก
“ อะนี่ของพี่ แม่ทำให้ค่ะ ”
“ ว้าว ของโปรดพี่เลย แม่น่ารักมาก เขาเรียกว่าเอาใจลูกเขยหรือเปล่าเนี่ย ” พี่วิษพูดยิ้มๆ
“ ว่าแต่พ่อไปไหนแล้วคะ ” ฉันออกมาก็ไม่เจอพ่อแล้ว มีแค่พี่วิษที่นั่งรออยู่คนเดียว
“ บอกว่าจะไปกินเหล้าครับ ”
“ พี่ให้เงินพ่อไปกี่บาทคะ ”
“ เปล๊า ” โกหกชัวร์ มีเหรอจะรอดพ้นเงื้อมมือพ่อไปได้
“ ทำไมเสียงสูง จริงๆเลย ให้ไปทำไมไม่รู้ น่าเกลียดอะ ”
“ ว่าพี่เหรอ? ”
“ เปล่าค่ะ หนูว่าคนที่เป็นผู้ใหญ่ต่างหากมาขอเงินเด็กได้ไง ”
“ เอาน่า ไม่เป็นไรหรอก พี่เต็มใจให้ พี่ซื้อของติดไม้ติดมือมาไม่กี่อย่างเอง เงินนั้นถือว่าให้พ่อไปหาซื้ออะไรกินเถอะ ”
“ ไม่ใช่สองสามร้อยแน่นอน เป็นพันใช่ไหมคะ บอกมากี่บาท น้องจะโอนคืนให้ค่ะ ”
“ ไม่เป็นไรครับ ขึ้นรถเถอะ ” พี่เขารีบตัดบทแล้วเอากระเป๋าฉันไปใส่ไว้ท้ายรถ
รถคันหรูเคลื่อนตัวออกจากบ้านอย่างช้าๆ มุ่งตรงไปยังถนนสายหลักทันที ครั้งนี้ นัดกันว่าจะไปเที่ยวทะเลด้วย ไปจองห้องพักแถวๆทะเลโน่น
“ ทำไมเงียบ โกรธพี่ปะเนี่ย ”
“ เปล่าค่ะ แค่คิดอะไรเพลินๆน่ะ ”
“ ถ้าง่วง นอนก่อนได้เลยพอถึงพี่จะปลุก ”
“ ไม่เอาอะ ถ้าน้องนอนเดี๋ยวพี่ก็ง่วงตาม ไม่งั้นคงได้ลงไปคุยในยมโลกแน่ๆ อยู่เป็นเพื่อนพี่ดีแล้วค่ะ ” หันไปส่งยิ้มให้คนข้างๆทันที อีกคนก็มิวายเอื้อมมือมาลูบศรีษะเล็กอย่างเอ็นดูไปด้วย
“ หิวไหม แวะหาอะไรกินก่อนหรือเปล่า? ”
“ พี่นั่นแหละ ตั้งแต่ออกมาจากบ้านพักได้กินอะไรมาหรือยังคะ ”
“ กินแล้วนะเมื่อตอนเช้า ”
“ แต่ตอนนี้มันเที่ยงแล้วนะคะ ”
“ น้องหิวหรือเปล่าล่ะ ”
“ หิวค่ะ ” จริงๆก็ไม่ค่อยหิวแต่กลัวอีกคนจะไม่ยอมกินเลยต้องบอกว่าหิวออกไป
“ ครับ งั้นพี่หาร้านก่อนแล้วกัน จะกินอะไรดีครับ ”
“ อะไรก็ได้ค่ะ ”
“ โธ่....อะไรก็ได้นี่แหละยากมาก ”
“ ก๋วยเตี๋ยวก็ได้ค่ะ ”
“ ครับ ”
ร้านก๋วยเตี๋ยวสี่แยก
หลังจากสั่งกันเสร็จแล้วก็พากันไปนั่งที่โต๊ะว่าง พี่วิษไม่ยอมนั่งฝั่งตรงข้าม ดันมานั่งใกล้และชิดฉันอีก ทั้งที่อากาศร้อนมาก
“ ตอนจ่ายเงินหารกันนะคะ ” ไม่อยากเอาเปรียบพี่เขา
“ ไม่เอา พี่จ่ายเองครับ แหม่...แค่นี้เอง ทั้งชีวิตพี่ก็เลี้ยงได้นะ ”
“ น้องก็ไม่ได้จะบอกว่าพี่จ่ายไม่ได้ แต่น้องไม่อยากเอาเปรียบพี่อะ ครั้งก่อนที่เจอกัน พี่ก็จ่ายนะ ค่าห้อง ค่าอาหารอะ แล้วครั้งนี้ค่าห้องพี่ก็จ่ายไปแล้วด้วย งั้นเอาแบบนี้ดีกว่า มื้อนี้น้องเลี้ยงเองค่ะ ”
“ คิดมากไปได้ พี่เป็นสุภาพบุรุษพอครับ พี่จ่ายเอง ”
“ ไม่เกี่ยวกับสุภาพบุรุษหรือไม่...แต่น้องคิดว่าน้องควรจะจ่ายบ้างนะคะ ”
“ พี่จ่ายเอง หยุดเลย ไม่คุยเรื่องนี้แล้วนะ ไม่งั้นพี่จะจูบกลางร้านเลย ” ขู่แบบนี้ได้ผลทันตา เพราะรู้ว่าพี่เขาทำจริงเลยนั่งเงียบๆทันที
“ โธ่ คิดว่าจะได้จูบแล้วสิ โอ๊ยๆ บิดแขนพี่ทำไมครับ อะ อะ ทำไมหน้าแดง พี่ยังไม่ได้จูบเลยนะ ” พี่เขาหันมาแซว
“ ไม่คุยด้วยแล้ว ” นี่ก็อายม้วนไปเลย
♥️_________♥️
นามปากกาผกายมาส