บทที่ 1 คิดมาก…
13:23 น. คิวรถตู้
“ ไปแล้วนะคะ บ๊าย ”
“ ครับ ถึงฐานแล้วโทรหาพี่ด้วยนะ ”
มือบางยกขึ้นโบกให้คนเป็นแฟน แล้วพาตัวเองขึ้นรถตู้ไป
รู้สึกใจหายและคิดถึงในทันทีที่รถเคลื่อนตัวออก ความสุขที่มอบให้แก่กันในเวลาสองวันมันอิ่มเอมหัวใจแต่พอแยกจากกันก็ใจหายเหมือนกันนะ
ที่พวกเราพากันมาเช่านอนอยู่ในอำเภอที่พี่วิษทำงานอยู่ มีชื่อว่าอำเภอ B ส่วนฉันอยู่ในอำเภอ A นั่งรถข้ามอำเภอประมาณหนึ่งชั่วโมงได้ ก็จะถึงฐานที่ฉันทำงานอยู่
งานฉันไม่ได้บุกน้ำลุยไฟอย่างผู้ชายหรอกนะ พวกเราไม่ใช่แนวหน้า ทำงานในห้องแอร์เย็นๆ ส่วนทดสอบฝึกร่างกายปีหนึ่งจะมี ห้าครั้ง สองเดือนจะมีครั้งหนึ่ง และมีลงภาคสนามด้วยปีละครั้ง ต่อให้ทำงานในห้องแอร์ ร่างกายก็ต้องพร้อมตลอดเวลา ตอนเย็นๆเลยมักจะพากันไปวิ่งออกกำลังกายหรือบางครั้งพากันไปซ้อมยิงปืนกันบ้าง…
ฐานที่ฉันอยู่จะแบ่งย่อยออกมาจากค่ายใหญ่และเป็นฐานที่ใหญ่พอสมควรเพราะมีทหารผู้ชายอยู่ด้วย แต่จะไม่ให้อยู่หอรวมกัน จะแยกกันอยู่จะพบเจอกันก็แค่ตอนเที่ยงเวลากินข้าวและตอนเย็นเวลาออกกำลังแค่นั้น ด้วยความที่ว่าแต่ละคนต่างมีงานทำ
พวกผู้ชายส่วนใหญ่จะออกลาดตระเวรในอำเภอทั่วทุกหมู่บ้าน แบ่งเป็นกลุ่มๆกันไป
ส่วนพวกผู้หญิงจะสบายหน่อย แต่ในฐานที่อยู่จะมีผู้หญิงน้อยกว่าผู้ชาย ผู้หญิงจะสลับเวรกันอยู่ห้องพยาบาล ( ออกพื้นที่เวลามีเหตุการณ์ด้วย ) ห้องกองการณ์ทำเอกสาร และห้องครัวเพื่อทำอาหารเลี้ยงทุกคนในฐานทั้งชายและหญิง รวมพวกนายยศใหญ่ๆด้วย พวกท่านจะมีบ้านพักแยก
ผู้หญิงจะมีสามกลุ่ม กลุ่มละสิบคน จะเรียกกลุ่ม1 กลุ่ม2 กลุ่ม3 เวลาพักเป็นวันหยุด จะมีกลุ่ม1ห้าคน กลุ่ม2ห้าคน กลุ่ม3ห้าคน ได้พักก่อน สลับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป ถ้าหยุดพักทีเดียวมันจะขาดคน
วันพักจะไม่ได้มีทุกเดือนนะ ทำงานสองเดือนพักหนึ่งครั้ง พักครั้งละสิบวันแค่นั้น
เรื่องงานจะสลับเวรกันทำกลุ่มละสิบวัน พอครบสิบก็เปลี่ยนกัน จากทำงานในห้องเอกสารก็เปลี่ยนไปอยู่ห้องครัว คนที่ทำในห้องครัวก็ไปอยู่ห้องพยาบาล คนที่อยู่ห้องพยาบาลก็ไปอยู่ห้องทำเอกสาร แบบนี้เลย
“ ยัยเวย์ตรงนี้เพื่อน ” พอลงจากรถตู้ที่หน้าซอยทางเข้าฐานก็เจอกับเพื่อนสนิทสาวสวยท่านหนึ่งมีนามว่า กระต่าย เป็นคนชอบกิน กินเยอะเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน แอบอิจฉานะสิ ฉันแค่ดมน้ำหนักก็เพิ่มแล้วอะ
“ เพิ่งถึงเหมือนกันเหรอ? ” ฉันเดินไปใกล้เพื่อนสาวพร้อมเอื้อมแขนเรียวไปกอดโอบไหล่มนของเพิ่อนสาวทันที เราทั้งคู่พากันเดินเข้าไปในซอย ซึ่งฐานจะตั้งอยู่สุดซอยที่มีแค่ป่าเต็มไปหมด
“ ใช่ ว่าแต่แกมาจากไหนเหรอ บ้านแกไม่ใช่ทางนั้นหนิ ” เอาแล้วไง เพื่อนฉันที่ทำงานยังไม่มีใครรู้ว่าฉันคบกับใคร เพื่อนๆแค่รู้ว่าฉันโสดหลังจากเลิกกับเติ้ลแฟนเก่าเมื่อสามเดือนก่อนหน้าแค่นั้น
“ เอ่อ…พอดีไปหาพี่นะ ”
“ พี่ไหน พี่นิวเหรอ? พี่นิวมาทำอะไรแถวนี้อะ ” เพื่อนคนนี้ถ้าเกิดสงสัยอะไรมักจะถามจนรู้แจ้งถึงจะเลิกถาม
“ พี่นิวมาหาแฟน ฉันเลยมาพร้อมพี่เขาตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว พี่เขาไม่กล้าไปคนเดียวนะ ” หนูขอโทษพี่นุ่นด้วยนะ ที่พูดปด พี่นิวไม่ได้มาหาใครเลยค่ะ หนูขอยืมชื่อแป๊บ>< พี่นุ่นคือแฟนพี่นิว ซึ่งทำงานอยู่ที่อื่นโน่น
“ พี่นุ่นเหรอ? พี่นุ่นมาทำงานแถวนี้เหรอ? ” นั่นไง ยัยนี้รู้ทุกอย่างเพราะเวลาว่างจะส่องเฟสประจำ รู้แม้กระทั่งว่าใครเป็นญาติใครอะ
“ เออๆ ใช่ๆ มา…สัมมนา ถ้าจำไม่…ผิด ”
“ แกดูลุกลี้ลุกลนจังอะ มีอะไรปิดบังหรือเปล่า? ” ในขณะที่เดินและคุยกันยัยกระต่ายก็เคี้ยวขนมไม่ขาดปาก
“ เฮ้อ ไม่อยากจะคุยกับแกแล้ว ” ฉันเลยผละจากเพื่อนแล้วรีบเดินเพื่อเข้าฐานเดินตรงไปหอนอนทันที ถ้าขืนอยู่ต่อนางคงถามไม่จบไม่สิ้น
“ มาถึงเมื่อไหร่อะ ” ครีมเพื่อนสนิทอีกคนถามขึ้น ครีมเป็นคนน่ารัก ชอบช่วยเหลือเพื่อนๆ นางร่าเริงตลอดเวลา มีเรื่องตลกๆมาเล่าตลอด
ในหอนอนห้องพวกเราสามคนติดกัน ที่นี่ห้องไม่ได้ใหญ่โต ไม่มีห้องน้ำในตัวให้อาบน้ำหรือเข้าปลดหนักปลดเบาที่ห้องน้ำรวมแค่นั้น หอพักมีสามชั้น ชั้นละสิบห้อง แต่ละชั้นจะมีห้องน้ำรวมให้
“ อืม แกจะไปไหนเหรอ รอด้วย เดี๋ยวเอากระเป๋าไปไว้ในห้องแป๊บ ”
“ อืม ว่าจะไปโรงอาหารสักหน่อย ”
หลังจากนั้น เราสามคนก็พากันไปที่โรงอาหาร ตอนนี้เป็นเวลาเย็นแล้วด้วย ผู้คนเริ่มทยอยกันมากินข้าว
พรุ่งนี้จะเป็นหน้าที่ของพวกเราที่ต้องไปทำงานที่ห้องพยาบาลตลอดสิบวัน
“ อีกสิบวันจะต้องออกภาคสนามแล้วนะ เบื่ออะ แล้วก่อนหน้าห้าวันพวกเราต้องลงสนามฝึกอีกด้วย เดี๋ยวนี้แดดแรงมาก คงจะร้อนและไหม้เกรียมแน่ๆ ” กระต่ายพูดพร้อมทำหน้าเบื่อหน่าย
“ ทดสอบร่างกายด้วยหนิ ” ฉันพูดขึ้น
“ นี่แหละไม่ชอบเลย ” กระต่ายพูด
“ กินขนมขบเคี้ยวเยอะ แกก็ต้องออกกำลังกายบ้างสิยัยกระต่าย อย่าเอาแต่ขี้เกียจ ไปวิ่งแต่ละครั้ง วิ่งแค่ห้านาที เดินครึ่งชั่วโมง กินขนมไปอีกครึ่งวัน ” ครีมพูดขึ้น
“ แต่หุ่นฉันสวยนะ แค่น้ำหนักเยอะกว่าพวกแกนิดหน่อยเอง ” กระต่ายพูดพร้อมยักไหล่
นางกินเท่าไหร่ก็ไ่ม่อ้วน แต่ฉันสองคนยัยครีมกินนิดกินหน่อยน้ำหนักก็เพิ่ม เราสองคนเลยคุมน้ำหนัก น้ำหนักเลยน้อยกว่ายัยกระต่ายไปสักนิด
“ สามสาวพลังบวกมากินข้าวด้วยเหรอจ๊ะ ” หนุ่มทหารคนหนึ่งเอ่ยทักทันที ที่เห็นเราสามคนเดินเข้ามา
“ มาโรงอาหารมาเข้าส้วมมั้ง! ตาบอดหรือไง หรือจะเอาห้ะ! ” กระต่ายท้าวสะเอวแล้วพูดใส่อารมณ์ทันที ลืมบอกไปยัยนี่ปากร้ายด้วยแถมห้าวสะเหลือเกิน
“ ไอ้ทิวโดนบวกแน่มึง รีบออกมาจากตรงนั้นเลย ” นี่แหละฉายาชื่อแก๊งที่ได้มา พลังบวก คือพร้อมต่อยตีนะ555+ ยัยกระต่ายคนเดียวในกลุ่มก็สามารถทำให้ผู้ชายทั้งฝูงเอ้ยทั้งกลุ่มพากันหนีเตลิดแล้ว
ครืดด ครืดด
“ ครีม กระต่ายเดี๋ยวฉันมานะ ไปรับโทรศัพท์แป๊บ ” บอกเพื่อนจบก็พาร่างบางไปหาที่คนไม่ค่อยผ่านไปมาเพื่อจะคุยกับสายสนทนา
(“ ค่ะ พี่วิษ ”)
(“ ยังไม่ถึงฐานเหรอครับ ”)
(“ แง่ๆ น้องถึงแล้วนะคะ น้องขอโทษ ลืมสนิทเลย ไม่ได้โทรไปบอกพี่อะ ”)
(“ หึ ก็ว่าอยู่ทำไมนานจัง แต่ก็นะ พี่มันไม่สำคัญแล้วหนิ พอแยกทางก็จะทิ้งพี่ทันที ”)
(“ อะไรของพี่เนี่ย น้องควรพูดแบบนั้นมากกว่านะ แต่น้องลืมจริงๆขอโทษด้วยนะคะ ห้ามงอนล่ะ ตอนนี้น้องมาโรงอาหารว่าจะกินข้าวกันแล้วค่ะ พี่ทำอะไรอยู่คะ อยู่ที่พักหรือเปล่า แต่ทำไมลมแรงจังคะ ”)
(“ พี่อยู่ทะเล มากับเพื่อนๆนะ พี่คิดถึงเวย์จัง ”)
(“ งื้อ~น่ารักจัง ปากหวานด้วย ”)
(“ น้องล่ะครับ คิดถึงพี่ไหมครับ ”)
(“ คิดถึงค่ะ อิอิ ”)
(“ วิษๆ มาถ่ายรูปเร็ว ขาดนายคนเดียวแล้วนะ ก็ไหนบอกว่าโสดไง ทำไมคุยโทรศัพท์หน้าถึงแดงอะ ”)
จู่ๆก็มีเสียงผู้หญิงแทรกเข้ามาในสาย ทำให้จากที่ยืนบิดไปมาชะงักและนิ่งไปทันที
(“ น้องครับ ไว้คุยกันนะ เพื่อนเรียกพี่แล้วอะ ”)
(“ เดี๋ยวสิคะ ”)
(“ มีอะไรอีกเหรอ ”)
(“ ไปเที่ยวกับใครเหรอ เพื่อนผู้หญิงเหรอคะ เพื่อนสนิทหรือเปล่า ผู้ชายไปด้วยไหมคะ ”)
(“ น้องถามเยอะจัง ไว้พี่จะบอกนะ หนึ่งทุ่มพี่จะโทรหา ”)
(“ พะ…พี่คะ ”)
ตู๊ดๆๆ
สายก็ตัดไป ภายในใจร้อนรุ่มทันที เพราะเสียงผู้หญิงที่แทรกเข้ามาในสายแท้ๆ ทำให้เกิดความวิตกกังวลทันที
พี่วิษตอนที่เลิกกับพี่กี้ ก็เห็นพี่กี้นี่แหละแฉว่าพี่เขานอกใจ แอบคุยกับสาว และยังแคปรูปเพื่อนในเฟซบุ๊กใน ไลน์ มีแต่ผู้หญิงสวยๆทั้งนั้น มาลงโพสต์ประจานอีก
ไม่เคยลืมเรื่องนั้นที่พี่กี้โพสต์ รู้ทั้งรู้แต่ก็ยังอยากจะเล่นกับไฟ อยากจะสานสัมพันธ์กับเสือตัวพ่อ จะว่าไปแพ้คารมพี่เขาด้วยแหละ
แฟนเก่าฉันปากยังไม่หวานเท่านี้เลย คุยกันแต่ละทีแทบจะหยุมหัวกัน เขาไม่
ค่อยจะตามใจฉัน วันสำคัญก็ไม่มีเซอร์ไพรส์อะไร ไปเที่ยวทุกครั้งมักจะบอกว่าเงินเดือนยังไม่ออกและฉันก็เป็นคนจ่ายประจำ จะว่าไปเขาก็ไม่มีอะไรดีสักอย่างแต่ฉันก็มักจะมองข้ามเพราะคิดว่ารัก เขาเป็นแฟนคนแรกด้วยนะ แต่ยังไม่เคยมีอะไรกันมาก่อนเพราะฉันยังไม่พร้อมด้วยในตอนนััน
ครั้งหนึ่งฉันก็เคยรักเขานะ ตอนที่ถูกบอกเลิกใจหายและเสียใจมาก ร้องไห้มาหลายวันมาก แต่พอจิตใจเข้มแข็งถึงได้รู้ว่าไม่ควรร้องไห้กับผู้ชายพันนั้น
เพิ่งมาตระหนักเรื่องพี่วิษเมื่อไม่นานมานี่เอง เคยโทรหาพี่วิษติดสายซ้อนเกือบชั่วโมงแต่ฉันก็ทำเป็นเฉยๆเพราะอยากให้พี่เขาบอกเอง แต่เขาก็ไม่บอกนะเหมือนจะไม่สำคัญ
อีนี่เก็บไปนอยด์เลยจ้า แล้วพอมาได้ยินอะไรแบบนี้ก็คิดไม่ตกอีกแล้ว เฮ้อ!
?________?
นามปากกาผกายมาส