หากย้อนเวลากลับไปเมื่อหกปีก่อน ดลยาคิดไม่ออกว่าตัวเองต้องใช้ความกล้าแค่ไหนที่จะเผชิญหน้ากับเขาแบบนี้
ทันทีที่ประตูเปิดออก อาจเพียงชั่วครู่ที่หญิงสาวปล่อยให้ความเงียบกับความอึดอัดคละคลุ้งเป็นไอโอบล้อมระหว่างคนสองคน ก่อนเสถามเขาด้วยสีหน้าปกติ เหมือนระหว่าง ‘เรา’ ไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น
“มีคนไข้หรือคะ”
เพราะเธอกับเขาไม่ใช่คนที่เพิ่งเคยรู้จัก ถึงเลิกกันแล้ว แต่อย่างไรซะก็ยังเป็นพี่รหัสน้องรหัส ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะทำตัวห่างเหิน
…แล้วมันก็ไม่มีเหตุผลอะไรเช่นกันที่จะคิดได้เมื่อเห็นผู้ชายคนนี้มายืนอยู่ตรงหน้า
ทว่าคำตอบเสียงเรียบๆ ที่ได้รับกลับมาเพียงคำเดียวสั้นๆ เรียกคิ้วเรียวของคนฟังให้ขมวดเข้าหากันอย่างสงสัย
“เปล่า”
“แล้ว…”
น่านนทีพิศมองดวงหน้ากับริมฝีปากสีซีด สายตาเชื่อมอย่างคนเป็นไข้ของคนตัวเล็กแล้วลอบถอนหายใจ ต่างจากคนถูกมองที่บอกไม่ถูกว่าตัวเองควรรู้สึกอย่างไร ตอนหลังมืออุ่นจัดทาบลงมาบนหน้าผากโดยไม่ทันตั้งตัว กับคำตอบเสียงเนือยของเขา
“แล้วถ้าพี่ไม่มาจะรู้ได้ยังไงว่าไม่สบายนอนซมแบบนี้”
มือข้างเดิมเลื่อนลงไปแตะผิวแก้ม สัมผัสจากลมหายใจอุ่นของเขายามเป่ารดแก้มพาให้ลมหายใจของเธอต้องสะดุด
“ไม่สบายทำไมไม่โทรหาพี่” เสียงทุ้มดุแต่ไม่ได้จริงจังนัก มือหนาช่วยปัดปรอยผมที่ร่วงลงประใบหน้าหวานไปทัดไว้ข้างหู
ถามอย่างนี้ แล้วจะให้เธอตอบว่าอย่างไร…
“ด้ายเกรงใจค่ะ”
“ด้ายก็รู้ว่าไม่จำเป็นต้องเกรงใจ”
“…”
“พี่เข้าไปได้หรือเปล่า”
ทั้งที่ความจริงเธอควรจะปฏิเสธออกไป แต่ไม่รู้เพราะอะไร ดลยามารู้ตัวอีกทีก็ตอนเบี่ยงตัวหลบยอมให้คนตัวโตเดินเข้าไป น่านนทีจูงมืออีกฝ่ายให้เดินตามไปด้วย ถึงชุดโซฟากลางห้องรับแขกก็กดไหล่คนเหมือนทำตัวไม่ค่อยจะถูกให้นั่งลงไป เขากวาดตามองสำรวจไปรอบๆ เห็นมีชามบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่พร่องไปไม่ถึงครึ่งถ้วยก็ลอบส่ายหน้า
แถมเป็นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสต้มยำที่ตอนทำงานเจ้าตัวคงบอกคนไข้ว่ากินไม่ได้
เห็นอย่างนี้แล้วมันน่าตีจริงๆ
ด้ายเป็นคนควบคุมตัวเองได้แค่เฉพาะเรื่องงาน แต่เรื่องส่วนตัวติดจะตามใจตัวเองไม่สนอะไรมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว นิสัยแบบนี้ไม่รู้เมื่อไรจะแก้หายสักที คงต้องโดนตีสักทีจริงๆ ละมั้ง
ชายหนุ่มคิดในใจแต่ไม่ได้บอก ทำเพียงแค่หันกลับไปมองคนตัวเล็ก เพราะตอนนี้อีกฝ่ายก็ป่วย ทั้งปวดท้องทั้งเป็นไข้ทรมานมากอยู่แล้ว ระดับความดุที่แสดงออกไปจึงเปลี่ยนจากเอสเปสโซ่เป็นลาเต้เข้มๆ
“พี่โทรมาปลุก ยังไม่ได้กินอะไรใช่ไหม เดี๋ยวออกไปซื้อข้าวมาให้”
“…”
“ไปไม่นาน อยู่คนเดียวได้หรือเปล่า”
บอกแล้วชายหนุ่มก็ลุกขึ้นยืน เลิกคิ้วถามอีกครั้ง พอเธอพยักหน้ารับก็จับร่างเล็กให้นอนลงไป แล้วบอกให้หลับตา เขายิ้มมุมปากเมื่อเด็กดื้อยอมทำตามอย่างว่าง่าย
จนได้ยินเสียงปิดประตู ดลยาจึงลืมตาขึ้นมา
ตากลมมองตามคนที่เดินออกไปแล้ว แผ่นหลังกว้างของเขาที่เธอไม่มีโอกาสได้มองเต็มตาแบบนี้มานานแสนนาน
หญิงสาวขยับตัวลุกขึ้นนั่ง สองแขนเรียวยกขึ้นกอดตัวเอง นอกจากความหนาวจากอาการป่วย เธอไม่คิดว่าตัวเองจะเป็นไปได้มากขนาดนี้
เธอเพิ่งรู้ตัวว่าคิดถึงเขาเหลือเกิน… มันลืมไม่ได้ ยิ่งเห็นหน้า ยิ่งได้มาเจอ ยิ่งคิดถึงพี่น่านสุดหัวใจ