7 น่าเอ็นดู

1843 Words
สามวันต่อมา @มหาวิทยาลัยคอสตัน - หน้าเวทีการแสดง - "เอาต้นไม้หลบ ๆ กว่านี้หน่อยดีไหม ฉันว่ามันบังมุมฝั่งนี้เกินไป" เสียงวีนัสเอ่ยบอกมาลีกับนิดหน่อยที่กำลังยืนช่วยกันจัดฉากการแสดง ในตอนนี้ทุกคนกำลังตั้งใจทำหน้าที่ของตัวเองเป็นอย่างดีเนื่องจากในภาคค่ำจะมีการแสดงของทางคณะนิเทศที่กลุ่มของพวกเธอได้ถูกอาจารย์สาวที่ปรึกษายกให้เป็นคนดูแลจัดการการแสดงนี้ โดยมีรุ่นพี่คนดังอย่างมาร์มาช่วยรับบทนำ "โอเค แบบนั้นแหละ ไม่บังแล้ว" วีนัสบอกก่อนจะหันไปพูดคุยกับมาร์ที่ยืนอยู่ "พี่มาร์โอเคไหมคะ มีตรงไหนอยากปรับตำแหน่งไหมคะ บอกวีได้เลยนะ" "อื้ม..." ดวงตากลมเฉี่ยวจ้องมองไปยังด้านบนเวทีขนาดใหญ่พร้อมกับค่อย ๆ ยิ้มออกมาด้วยสีหน้าใจดี "...ไม่มีอะไรต้องปรับแล้วนะ ทุกอย่างโอเคมากเลย น้องวีนี่เก่งมาก ๆ จัดทุกอย่างได้เหมือนมืออาชีพที่พี่เคยร่วมงานด้วยเลย" สิ้นเสียงมาร์ตอบกลับ ไลลาก็ยกยิ้มขึ้นมาด้วยความนึกชื่นชมในความน่ารักเป็นกันเองแถมยังดูใจดีของรุ่นพี่สาว "พี่มาร์นี่ ใจดีเนอะ" เสียงปลายฟ้าเดินเข้ามายิ้มพูดคุยกับไลลาที่ยืนอยู่ "อืม ดูเป็นคนสวยที่ใจดีอบอุ่นมาก ๆ เลย" "ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมอยู่ ๆ ถึงได้ดังขึ้นมาทั้งที่เพิ่งเล่นละครได้ไม่กี่เรื่องเอง" "เราเคยดูเรื่องหนึ่งนะ สนุกมาก พี่เขาส่งอารมณ์ได้ดีมาก" เจ้าของใบหน้าใสตอบปลายฟ้ากลับ เนื่องจากเธอเคยดูละครที่มาร์เล่น ต้องยอมรับว่ามาร์เป็นคนที่มีฝีมือมากจริง ๆ ตอนนั้นตัวไลลาเองยังติดจนแทบไม่ได้ทำอะไรเลย เอาแต่ดูละครที่รุ่นพี่สาวเล่นทั้งวัน "ก็นะ เพิ่งเล่นสองปีได้มาไม่รู้กี่รางวัลแล้ว สุดยอดจริง ๆ " สิ้นเสียงปลายฟ้าเอ่ย คนตัวเล็กเจ้าของดวงตากลมโตราวกับตุ๊กตาบาร์บี้ก็หันไปส่งยิ้มหวานตาหยีตอบกลับด้วยความเห็นด้วยทั้งหมด "เนอะ~" "ว่าแต่วันนี้...แฟนพี่เขาไม่มาด้วยเหรอ" ใบหน้าใสที่ยิ้มหวานอยู่ในตอนแรกแปรเปลี่ยนไปทันทีที่คนด้านข้างพูดจบ เพราะทันทีที่ปลายฟ้าเอ่ยออกมา มันก็อดทำให้ไลลานึกไปถึงรุ่นพี่เย็นชาคนนั้นไม่ได้ พี่คามิล คนที่คนตัวเล็กเคยสารภาพรักไปด้วยวิธีที่แสนโง่เง่าที่สุด เธออยากเลิกนึกถึงเหตุการณ์น่าอับอายพวกนั้น... "เลิก ๆ ๆ ๆ !" ร่างเล็กเผลอตะโกนพึมพำบอกออกมาพร้อมกับยกมือตีเข้าไปที่หน้าผากมนของตัวเองเบาๆพยายามเรียกสติ ทว่าก็ต้องชะงักไปเมื่อค่อยๆเงยหน้าขึ้นไปเห็นสายตาของปลายฟ้าที่มองท่าทีของหญิงสาวอยู่ "ไลลา..." "...เธอต้องไปหาหมอแล้วนะ อาการหนักแล้ว ทำร้ายตัวเองเนี่ย" ปลายฟ้าเอ่ยก่อนจะหัวเราะออกมาหลังจากที่พูดจาหยอกล้อร่างบางที่ยืนทำหน้ายู่อยู่ ปลายฟ้ากับวีนัสมักจะล้อเลียนไลลาอยู่ประจำกับท่าทีแบบนี้ที่คนตัวเล็กมักจะเผลอทำออกมาโดยที่ไม่ทันได้รู้ตัว "ฮ่า ๆ ๆ " เสียงปลายฟ้ายังคงหัวเราะใส่เพื่อนตัวเล็กไม่หยุด "หยุดหัวเราะเราเลยนะปลายฟ้า" "ฮ่า ๆ ก็เธออะ...ฮ่า ๆ " ปลายฟ้ายังคงหัวเราะออกมาอยู่อย่างนั้นโดยมีร่างบางที่ทำหน้ายู่เป็นยักษ์จ้องเขม็งไปยังเพื่อนตัวเอง ทว่าก็ไม่เคยมีใครกลัวอะไรกับท่าทีพวกนี้ของไลลาเลย มีแต่คนบอกว่ามันน่ารักน่าเอ็นดู "ปลายฟ้า! เราโกรธจริงนะ โมโหแล้ว!" เรียวปากเล็กพูดพร้อมกับทำหน้าทำตาใส่เพื่อนตัวเองด้วยสีหน้าโกรธมาก ๆ แต่ปลายฟ้าก็ยังคงขำไม่หยุด "นะ นี่..." "อะไรกันสองคนนี้ ทะเลาะอะไรกัน" เสียงวีนัสเดินเข้ามาเอ่ยถามขึ้นทำให้ไลลารีบหันไปฟ้องคนที่เดินเข้ามาใหม่ทันที "วี! วีดูสิ ปลายฟ้าอะแกล้งเรา เราโกรธแล้วเนี่ย!" "โกรธ? นี่เธอโกรธแล้วเหรอ" วีหันมองหน้าถามคนตัวเล็ก "ใช่!" ไลลาตอบกลับไปโดยที่ยังคงทำหน้ายู่มองปลายฟ้า "เฮ้อ คนเรามันโกรธได้ตลกแล้วน่าเอ็นดูได้ขนาดนี้ได้ยังไง" วีนัสเอ่ยพึมพำพร้อมกับส่ายหัวมองเพื่อนตัวเล็ก "พี่มาร์ดูสิ เหมือนคนโกรธตรงไหน" วีนัสหัวเราะหันถามมาร์ที่ยืนอยู่ด้านข้าง "ฮ่า ๆ " มาร์ก็หัวเราะพยักหน้ายิ้มตอบกลับวีนัสอย่างเห็นด้วย "พี่มาร์คะ!" ไลลาเอ่ยเรียกชื่อรุ่นพี่ตรงหน้าก่อนจะยิ่งเบะปากงอแงที่โดนทุกคนล้อเลียนรุมแกล้ง ทว่าในตอนนั้นเอง ตึกตึก เสียงเท้าหนักของใครบางคนเดินตรงเข้ามายังทั้งสี่คนที่ยืนอยู่ทำให้ดวงตากลมโตหันไปมองด้วยความอยากรู้ เนื่องจากกลิ่นน้ำหอมราคาแพงนั้นส่งกลิ่นเข้ามาจากบริเวณด้านหลัง แล้วร่างเล็กก็ต้องชะงักนิ่งไป "คามิล..." "...ออกเวรแล้วเหรอ" มาร์เอ่ยถามคนที่เข้ามาใหม่ขึ้น ซึ่งไลลาเองก็ขยับหลบให้อีกคนเดินเข้าไปหายังรุ่นพี่สาวที่ยืนอยู่พร้อมกับก้มหน้างุดไม่พูดอะไรออกมา "อืม" เสียงทุ้มนิ่งของอีกคนตอบกลับ "วันนี้ได้วนวอร์ดไหนล่ะ" "นิติเวช" สิ้นเสียงทุ้มตอบ มาร์ก็ยิ้มเอ่ยแซว "ได้วนวอร์ดที่ไม่เคยเจอบ่อยเลยนะ ตั้งแต่ขึ้นปีห้าเนี่ย" "..." คนตัวสูงก็นิ่งไม่ตอบ ก่อนที่จะมีเสียงของใครบางคนเดินเข้ามาเอ่ยเรียกไลลาขึ้นเสียงดัง "บาร์บี้!" ใบหน้าเล็กค่อย ๆ หันไปตามเสียงเรียกก่อนจะพบว่าเป็นเสียงของต้นน้ำเพื่อนร่วมสาขาที่มักจะเรียกฉายาแทนชื่อกับร่างบางแบบนี้อยู่เป็นประจำ "บาร์บี้?" เสียงมาร์ถามขึ้นสีหน้าสงสัย "อ่อ ฉายาไลลาน่ะค่ะพี่มาร์..." "...คนในมหา’ลัยชอบบอกว่าไลลาเหมือนตุ๊กตามีชีวิตเพราะหน้าตาน่ารัก เลยตั้งฉายาให้ว่าบาร์บี้แห่งคอสตันค่ะ" ปลายฟ้ายิ้มหันไปอธิบายบอกรุ่นพี่นักแสดงสาวคนดัง "อ่อ แบบนี้นี่เอง..." "...แต่ก็จริงนะ เราหน้าตาน่ารักเหมือนบาร์บี้มีชีวิตจริงๆเลย" มาร์ยิ้มเอ่ยบอกรุ่นน้องตัวเล็กด้วยน้ำเสียงเอ็นดู ไลลาเองที่ถูกรุ่นพี่คนดังแบบมาร์เอ่ยชมก็ได้แต่ก้มหน้างุดไปด้วยความเขินอายบอกไม่ถูก "ว่าไหมคามิล" เสียงมาร์หันไปเอ่ยถามร่างสูงอีกคนที่ยืนอยู่ด้านข้าง "..." แต่คามิลก็เงียบไม่พูดอะไรกลับมา เอาแต่ใช้สายตาคมจ้องมองยังใบหน้าเรียวใสนิ่ง ก่อนจะผละสายตาหันไปมองทางอื่นด้วยแววตาเรียบนิ่งไร้ความรู้สึก ไลลาที่เริ่มอึดอัดเป็นอย่างมากกับสถานการณ์ตรงหน้าก็ตัดสินใจหันไปเอ่ยถามยังต้นน้ำที่ยืนอยู่ "เมื่อกี้ต้นน้ำเรียกเราทำไม มีอะไรหรือเปล่า" "เธอรับหน้าที่ดูชุดใช่ไหม" "ใช่ ๆ " "ช่วยไปตรวจดูอีกทีได้ไหม กันพลาดไว้ก่อน อีกสองชั่วโมง การแสดงจะเริ่มแล้ว" "อ อื้ม ได้สิ" คนตัวเล็กพยักหน้าตอบกลับต้นน้ำ เดินตามเพื่อนตัวสูงออกไปยังบริเวณด้านหลังเวทีขนาดใหญ่เพื่อทำการตรวจเช็กชุดก่อนทำการแสดงตามที่ได้รับมอบหมายหน้าที่มา "มีทั้งหมดสิบเอ็ดชุด ครบไหม" ต้นน้ำหันถามร่างบาง "อืม ครบๆ" ไลลาพยักหน้าตอบก่อนจะหยิบชุดมาเช็กดูอย่างละเอียดเพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดอะไรในการแสดง ทว่าขณะที่ดวงตากลมกำลังยืนตรวจเช็กเสื้อผ้าก่อนทำการแสดงอยู่ "ไลลา" เสียงหนึ่งในเพื่อนที่กำลังจัดเตรียมอุปกรณ์การแสดงต่างๆก็ต่างเดินเข้ามาล้อมรอบเอ่ยเรียกหญิงสาว "ฮะ" เสียงหวานขานรับตอบกลับสีหน้างุนงง "ทำไมถึงได้เอาพี่มาร์มาได้ล่ะ" เพื่อนคนหนึ่งถาม "อ่อ เพราะอาจารย์แบมเขาสนิทกับพี่มาร์น่ะ พี่มาร์เองก็อยากช่วย ก็ได้เลยได้คิวมา" ไลลายิ้มตอบ "อ่อ แล้ว..." "...พี่คามิลอะ" ทันทีที่คนตรงหน้าเอ่ยชื่อรุ่นพี่เย็นชาคนนั้นออกมา ร่างบางก็ชะงักไปในทันที "ฮ ฮะ" "พี่คามิลไง ผู้ชายที่เพิ่งมานั่นอะ พวกพี่เขาเป็นแฟนกันเหรอ" "อ อ่อ...เราก็ไม่รู้เหมือนกันอะ" เรียวปากเล็กตอบกลับด้วยสีหน้าพยายามยิ้มตามปกติ "ก็ต้องเป็นแฟนไหม มาเฝ้า มาหาขนาดนี้แล้วอะฝน" เสียงเหมียวหนึ่งในเพื่อนที่ยืนอยู่เอ่ย ทำให้ฝนที่เพิ่งถามคนตัวเล็กเมื่อกี้หันไปมองหน้าพูดคุยกับเพื่อนตัวเอง "ก็จริง แต่แอบเสียดายพี่คามิลอะ หล่อมาก" "แต่เย็นชามากมึง เพื่อนกูเคยไปตรวจกับพี่เขา แบบเวรพี่เขาพอดี..." "เพื่อนมึงตอแหลค่ะอีเหมียว ตั้งใจไปหาช่วงพี่เขาเข้าเวรก็บอก" "ก็เออน่ะสิ มันยังเข็ดจนมาถึงทุกวันนี้" "ทำไม" "พี่เขาไม่ตรวจให้ แล้วไล่กลับ แบบเย็นชาแล้วน่ากลัวมาก มันเลยไม่กล้าชอบพี่เขาอีกเลย โคตรโหด" เหมียวตอบกลับทำให้ร่างบางที่นั่งฟังอยู่เงียบ ๆ นึกถึงเหตุการณ์ของตัวเองขึ้นมา 'ไลลาจะไม่หลบค่ะ จนกว่าพี่จะ...' จุ๊บ~ ให้ตายเถอะ เธอทำไมถึงกล้าบ้าบิ่นได้ขนาดนั้น... "เออ สมควร" ฝนหัวเราะเอ่ยบอก "แต่ว่าก็ว่านะมึง มึงเคยสงสัยเรื่องแผลที่คอพี่เขาปะ" "หื้อ? แผลอะไรของมึงวะเหมียว" ฝนมองหน้าถามเพื่อน ซึ่งไลลาเองก็นั่งเงียบ ๆ ลอบฟังอยู่เช่นกันด้วยความอยากรู้ "ที่ต้นคอพี่เขาไง ทุกครั้งที่เพื่อนกูแอบไปส่องพี่เขาสมัยก่อน มันก็จะเห็นแต่ปลาสเตอร์สีเนื้อที่ปิดต้นคอไว้..." "...นี่ไง ๆ มึงลองมองออกไปดิ ตอนนี้เขาก็ติดพลาสเตอร์อยู่" ทันทีที่เหมียวพูดจบ คนตัวเล็กก็อดไม่ได้ที่จะมองไปยังรุ่นพี่หนุ่ม ซึ่งก็ต้องเห็นปลาสเตอร์แปะแผลอย่างที่เหมียวพูดจริง ๆ "เออว่ะ จริงด้วย" ฝนบอก แต่ยังไม่ทันที่ทั้งสองจะได้พูดคุยอะไรต่อ "เหลือเวลาอีกชั่วโมงกว่า เร่งมือกันหน่อย" เสียงต้นน้ำที่ยืนอยู่ไม่ไกลพูดขึ้นทำให้ทุกคนได้สติรีบกลับไปทำหน้าที่ของตัวเองรวมถึงตัวคนตัวเล็กด้วย แม้ว่าภายในหัวของหญิงสาวอดที่จะสงสัยในสิ่งที่เหมียวบอกไม่ได้ ภายใต้ปลาสเตอร์แปะแผลนั้น มันมีอะไรอยู่นะ...?
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD