ชัยยืนมองหน้าสาวน้อยหริณะอยู่เป็นนาน เขาไม่รู้เลยว่าเมื่อคืนนี้นายของบ้านมหาเสกข์อนุญาตให้คนแปลกหน้าค้างอยู่ที่บ้านนี้ เขาเลี้ยงนายทั้งสองมาตั้งแต่เล็กจนโต ชัยยังไม่เคยเห็นนายมีเพื่อนมาค้าง นายเล็กหิ้วผู้หญิงมานอนด้วยบ้างแต่ไม่เคยให้ค้างคืน ห้องนอนแขกที่มีไว้มากมายก็มีไว้เพื่อผลัดเปลี่ยนให้นายเล็กและนายใหญ่สลับห้องกันวิญญาณร้ายมาตามรังควาน
ตัวชัยเองอาศัยอยู่ชั้นหนึ่ง ดังนั้นหากนายของเขาจะพาแขกไปนอนชั้นอื่นก็ยากนักที่เขาจะรู้ได้ ดังนั้นวันนี้กว่าจะรู้ว่ามีแขกมาค้างที่บ้านก็ตอนที่กุมารีแก้วไปเรียกเขานี่แหละ
“เออ...สวัสดีค่ะคุณลุงพ่อบ้าน หนู... เป็น... เออ...คือ... หนูชื่อบันนี่ค่ะ เป็นเพื่อนของเอมิกา ลูกค้าที่มาปรึกษาพี่วาฬเมื่อวานนี้ คุณลุงพ่อบ้านจำได้ไหมคะ?” หริณะแนะนำตัวเองอย่างกระอักกระอ่วน
“ครับ จำได้” พ่อบ้านวัยชรารับคำสั้น ๆ แล้วยิ้มให้สาวน้อย
เด็กสาวคนนี้เป็นแบบที่นายใหญ่ของเขาชอบ พ่อบ้านสูงวัยรู้ใจเจ้านายตัวเองดี เขาเลี้ยงนายใหญ่ตั้งแต่ยังเป็นคุณหนูวาฬที่พ่อแม่จากไปในอุบัติเหตุทางเรือ ตัวเขาเป็นศิษย์ของอาจารย์วัน มหาเสกข์ หมอเวทแห่งยุค... เมื่อเกือบร้อยปีก่อน ดังนั้นคุณหนูวาฬที่เป็นเหลนแท้ ๆ และสายเลือดตรงของอาจารย์วันจึงได้ขึ้นมาเป็นนายใหญ่ของเขาโดยปริยาย พ่วงท้ายมาด้วยนายเล็กอย่างคุณขาลซึ่งเป็นเด็กที่ผูกดวงจิตเข้ากับคุณหนูวาฬของเขา นายใหญ่นายเล็กมีกันแค่สองคนตั้งแต่เด็กจนโต จนกระทั่งถึงวันนี้ที่มีผู้หญิงอีกคนเข้ามาในชีวิตนายทั้งสอง ชายสูงวัยจึงอดดีใจแทนนายทั้งสองไม่ได้
แบบนี้สงสัยมีหวังได้เลี้ยงคุณหนูวาฬน้อย ๆ หรือไม่ก็คุณหนูขาลน้อย ๆ ก่อนตายอีกสักคนสองคนเป็นแน่
ชายชราคิดในใจแล้วเริ่มจัดโต๊ะอาหาร
“เออ... บ้านนี้มีคุณลุงพ่อบ้านทำงานคนเดียวเหรอคะ? บ้านตั้งใหญ่ตั้งโต คุณลุงพ่อบ้านอายุมากแล้วทำไหวเหรอคะ?” หริณะชวนพ่อบ้านสูงวัยคุย เธอไม่อยากให้บรรยากาศมันเงียบจนน่าอึดอัด
“นายเล็กจะจ้างคนอื่นมาให้ด้วยครับ แต่ผมไม่อยากให้คนอื่นเข้ามาเกะกะในบ้านมากเกินไป นายใหญ่เลยจ้างแค่แม่บ้านมาทำความสะอาดวันเว้นวัน ผมดูแลแต่เรื่องอาหารการกินง่าย ๆ เลขาของนายใหญ่ก็จัดการเรื่องเกี่ยวกับตารางงานอื่น ๆ ส่วนนายเล็กมีเลขาสาว ๆ หลายคนครับ ผมแทบไม่ต้องทำอะไรเลย อ้อ... แล้วเรียกผมว่าลุงชัยก็ได้ครับ ไม่ต้องเรียกคุณลุงพ่อบ้าน” ชัยตอบน้ำเสียงใจดีกว่าเมื่อวานมากจนหริณะอดแปลกใจไม่ได้
“ลุงชัยดูใจดีจังค่ะ เมื่อวานดูดุ ๆ” สาวน้อยพูดออกมา
“ก็เมื่อวานคุณเป็นคนอื่น หลังจากคุณค้างที่บ้านหลังนี้แล้วคุณก็เป็นคนในครอบครัว” ชัยพูดยิ้ม ๆ
“ใช่จ้ะ แม่นอนห้องเดียวกับพ่อใหญ่พ่อเล็กด้วยจ้ะลุงชัย เป็นคนในครอบครัวเราแล้ว” เสียงกุมารทองดังขึ้นมา
หริณะสะดุ้งน้อย ๆ แต่เริ่มชินกับการมาและไปของสองกุมารมากขึ้นแล้วจึงไม่ตกใจอีกต่อไป
ชัยมองสาวน้อยแล้วยิ้มนิดหน่อย ที่แท้เธอก็มีสัมผัสพิเศษอยู่บ้างถึงได้มองเห็นกุมารและกุมารี นี่อาจเป็นอีกจุดที่ทั้งนายใหญ่และนายเล็กยอมให้เธอก้าวเข้ามาในชีวิตของพวกเขา คนที่มีญาณย่อมเข้าใจกันดีที่สุด
“หือ? ถึงขั้นนั้นแล้วเหรอครับ? เมื่อไหร่จะย้ายเข้ามาอยู่ล่ะครับ?” ชายชราถามด้วยความตื่นเต้น
“เออ... ไม่ใช่ค่ะลุง ทองเข้าใจผิด เมื่อคืนหนูกลัวผีเลยไปค้างห้องพี่ ๆ แต่ไม่ได้... เออ... แบบ... ทำอะไรแบบที่ลุงคิดค่ะ” หริณะปฏิเสธแล้วหน้าแดง
“เมื่อคืนไม่ได้เป็นแบบที่ลุงชัยคิดหรอกครับ แต่อีกไม่นานก็จะเป็นอย่างที่ลุงชัยคิด ดังนั้นลุงเตรียมตัวรับนายหญิงของบ้านได้เลย” เสียงนายใหญ่ของบ้านดังขึ้นมาพร้อมกับเจ้าตัวที่เดินเข้ามาในห้องอาหาร
วาฬสวมเสื้อเชิ้ตสีดำ ผูกเนกไทสีดำ สวมกางเกงสแล็กส์สีเดียวกัน ผมถูกจัดทรงอย่างดี ใส่แว่นดูเคร่งขรึมราวนักธุรกิจ ส่วนนักธุรกิจตัวจริงอย่างขาลที่เดินตามเข้ามาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวปลดกระดุมบนสองเม็ด ทำท่าราวกับนายแบบมากกว่านักธุรกิจ
ไม่รู้ว่าใครสมควรจะแต่งตัวยังไง รู้แต่ว่าพี่สองคนเขาหล่อมาก หนูงี้ใจเต้นเป็นกลองโดนตีแบบจังหวะร็อคเลยแหละ
“มองทำไมบันนี่ หล่อเหรอ? เดี๋ยวจับกินแทนอาหารเช้าเลย ยิ่งหิวกระต่ายอยู่” ขาลถามขึ้นมาแล้วยิ้มเพราะเห็นอยู่ว่าน้องจ้องพวกเขาสองคนตาไม่กะพริบ
หริณะรีบหลบสายตาของสองหนุ่มแล้วก้มหน้าลงมองตักของตัวเอง
“ปละ... เปล่า... เปล่านะคะ! หนูแค่... ก็แค่มองอะ ก็คนมันมีตาก็ต้องมอง หรือจะให้ยกเท้าขึ้นมามองแทนตาล่ะคะ?” สาวน้อยเถียงไปข้าง ๆ คู ๆ เพราะไม่รู้จะแก้ตัวอย่างไร ทำเอาสองหนุ่มหัวเราะไม่หยุด
พ่อบ้านสูงวัยก็หัวเราะน้อย ๆ กับเขาไปด้วย กุมารและกุมารีตัวน้อยไม่ค่อยเข้าใจอะไรนักแต่เห็นคนในห้องหัวเราะก็หัวเราะตาม ทั้งห้องเห็นจะมีแต่หริณะที่ก้มหน้ามองตักตัวเองด้วยความอาย
“น้องอายแล้ว หยุดหัวเราะกันได้แล้ว ลุงชัยออกไปเถอะครับ เดี๋ยวพวกผมกินข้าวเช้าเสร็จจะออกไปส่งบันนี่ที่บ้าน วันนี้ผมไม่มีนัดทำพิธีให้ใคร อาจกลับเย็น ๆ หรือไม่ก็ดึกเลย” วาฬปรามทุกคนในห้องทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็ยังหัวเราะอยู่
“ทอง แก้ว พวกมึงก็ออกไปด้วย เดี๋ยวลุงชัยถวายน้ำแดงให้แก้วกับทองด้วยนะ เป็นรางวัลที่ช่วยดูแลว่าที่เมียผม” ขาลหันไปบอกสองกุมารและสั่งงานลุงชัย
เมื่อสาวน้อยได้ยินพี่ขาลเรียกเธอว่า ‘ว่าที่เมีย’ เธอก็อดเงยหน้าขึ้นมามองค้อนเขาไม่ได้
พอลุงชัยและสองกุมารออกจากห้องอาหารไปสองหนุ่มจึงเริ่มรุมเอาใจหริณะเพื่อทำแต้ม
ลุงชัยเตรียมข้าวต้มกุ้งไว้ให้เป็นอาหารเช้าของนาย วาฬตักข้าวต้มใส่ชามให้น้อง ขาลรินน้ำส้มคั้นสดจากเหยือกใส่แก้วส่งให้น้อง หนุ่ม ๆ สองคนรุมเอาใจจนหริณะทำหน้าเลิ่กลั่กเพราะไม่เคยถูกปรนนิบัติอย่างดีแบบนี้มาก่อน
“เออ... พี่ ๆ มานั่งกินข้าวเถอะค่ะ อย่ามัวแต่จัดโน่นหานี่ให้หนูเลย หนูรู้สึก... แปลก ๆ” หริณะสารภาพตามตรง
“แปลก? แปลกยังไงครับ?” วาฬทำหน้ายุ่งแล้วถามขึ้นมาก่อน
“ก็... เราเพิ่งเจอกันเมื่อวาน พี่ ๆ ทำอย่างกับว่าเรารู้จักกันมาตั้งชาติหนึ่ง” สาวน้อยตอบเสียงแผ่ว เธอเองก็ใจง่ายใช่เล่น คิดกลับไปถึงเมื่อคืนที่กลัวผีจนต้องไปนอนอยู่ในห้องของพวกเขาแล้วมันก็แปลกจริง
หรือโดนพวกพี่เขาเป่ามนตร์ใส่จริง ๆ อะ? ไม่น่านะ... ถ้าเขาทำป่านนี้คงมีเมียเต็มบ้านแล้ว...
สาวน้อยได้แต่คิดสงสัยว่าใจมันเปิดรับพวกเขาง่ายเกินไปหรือเปล่า?
“จุ๊บ! จูบกันแล้วก็ต้องถือว่าเป็นอะไรกันสักอย่างแหละ... ที่ไม่ใช่คนแปลกหน้า” ขาลก้มหน้าลงจุมพิตริมฝีปากอิ่มของคนตัวเล็กที่เหมือนจะคิดอะไรในใจจากนั้นปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาเม็ดบนสุดของเธอออกแล้วก้มลงดูดเนื้อนิ่มเหนือเนินอกแรง ๆ จนสาวน้อยที่กำลังไตร่ตรองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขวัญกระเจิง
“ว้าย! พี่ขาล อย่าดูดนมหนู! ตาบ้านี่! เดี๋ยวตีตายเลย!” คนเป็นน้องร้องโวยวายแล้วผลักหนุ่มหล่อหน้าใสออก
วาฬรีบเข้ามากระหวัดร่างน้อยออกจากเก้าอี้ที่เธอนั่งอยู่แล้วอุ้มน้องมานั่งบนตักเขาแทน ร่างใหญ่ของวาฬเหมือนเป็นเกราะกันน้องออกจากไอ้ขาล หลังบางของหริณะพิงแนบไปกับอกแกร่งของหมอเวทหนุ่มหล่อ สาวน้อยหันหลังแล้วเงยหน้าขึ้นมองพี่วาฬด้วยสายตาสงสัยปนตกใจ
“พะ... พี่วาฬทำอะไรคะ?” ยังตื่นเต้นที่ขาลดูดเนินอกไปไม่หาย พี่วาฬก็จับเธอมานั่งตักอีก
นี่มันเวลากินข้าวหรือเวลาเล่นรถไฟเหาะกันเนี่ย? ใจหนูมันเสียววูบวาบเหมือนนั่งรถไฟเหาะเลย
“ก็ไอ้ขาลมันชอบลวนลามหนู บันนี่นั่งตักพี่กินข้าวไปน่ะดีแล้ว ไอ้ขาลจะได้ไม่มายุ่งตอนหนูกินข้าวนะครับตัวเล็ก จุ๊บ!” พี่วาฬตอบเสียงหวานแล้วก้มลงหอมแก้มเนียนของหริณะ
สาวน้อยอ่อนประสบการณ์หน้าขึ้นสีทันที ทั้งอายจนอยากจะมุดดินหนีแต่ก็รู้สึกดีจนอยากนั่งบนตักกว้างของเขาตลอดชีวิตเลยทีเดียว
“เหอะ! จูบกันก็ทำไปแล้ว ก็ถือว่าไม่ใช่คนแปลกหน้าแล้วหรือเปล่า? แล้วที่ดูดเมื่อกี้มันแค่เนินอก ไม่ได้ดูดนม ดูดนมจริง ๆ มันต้องดูดที่จุก ยัยนิ่มนี่ใส่ร้ายกูว่ะไอ้วาฬ หาว่ากูดูดนม” ขาลแกล้งทำโวยวายแต่ยังมีรอยยิ้มจาง ๆ ปรากฏอยู่ที่ริมฝีปากหนา ไม่บอกก็รู้ว่าอารมณ์ดีมากกว่าจะโมโหจริงจัง
“ไม่รู้ล่ะ! จะเนิน จะเต้า จะจุก ก็คือบริเวณนมของหนู ถ้ามาดูดก็ถือว่าดูดนมหนู! ดูดถึงรู้ว่านิ่ม ดังนั้นห้ามมาดูดโดยไม่ได้รับอนุญาต!” สาวน้อยบอกขาลเสียงแข็ง
“ที่เรียกว่านิ่มไม่ได้หมายถึงนมเธอนะ พี่หมายถึงปัญญาเธอน่ะ... นิ่ม ดูดเนินอกยังหาว่าดูดนม ถ้าดูดนมจริงหัวนมไม่นิ่มหรอก... มันจะแข็ง... ลองดูไหม?” ขาลพูดยียวนแล้วยักคิ้วให้น้อง
หริณะโกรธจนตัวสั่น คว้าช้อนกระเบื้องได้ก็ปาใส่หนุ่มหล่อหน้าตี๋ทันที
เพล้ง!
ขาลเบี่ยงตัวหลบช้อนแล้วหัวเราะเสียงดัง ช้อนกระเบื้องแตกกระจายอยู่ข้างหลัง
จ๊วบ!
“หยุดดื้อแล้วกินข้าวครับตัวเล็ก ถ้ายังไม่หยุดทะเลาะกับไอ้ขาลพี่จะดูดซ้ำรอยมันที่อกหนู” วาฬก้มลงดูดต้นคอขาวเนียนของน้องแรง ๆ จนสาวน้อยตัวสั่นสะท้านก่อนจะออกมาขู่เธอ
หริณะที่กำลังโกรธพี่ขาลอยู่ลืมความโกรธไปชั่วขณะเพราะพี่วาฬไม่ได้แค่ขู่ เขาดูดต้นคอเธอไม่พอ มือใหญ่ข้างหนึ่งยังกอดรัดเอวคอดกิ่วกันเธอดิ้นตกจากตัก อีกมือเคล้นคลึงเต้านิ่มข้างที่มีรอยดูดจาง ๆ ของพี่ขาลอยู่เป็นการบอกให้รู้ว่าถ้าเธอไม่หยุดเขาจะทำอะไร
สาวน้อยเม้มริมฝีปากแน่นไม่พูดจาต่อปากต่อคำ คว้าช้อนกระเบื้องอีกคันมาตักจ้วงข้าวต้มกุ้งส่งเข้าปากทันที
วาฬยิ้มอย่างมีชัย แล้วยักคิ้วส่งให้ไอ้ขาล
เขาไม่ใช่เพลย์บอยเหมือนไอ้ขาลแต่ก็ใช่จะไร้ชั้นเชิง
คนคุมเกมได้มักได้เปรียบ... มึงมันได้แต่รุกน้อง ไม่รู้จักตะล่อมน้อง ได้สาวง่ายจนเคยตัว ถ้ามึงหวังจะกล่อมน้องให้รับรักผู้ชายทีละสองคนมึงต้องทำตัวให้เป็นผู้ใหญ่กว่านี่โว้ย ไอ้เชี่ยขาล!