Chapter 3: ผูกดวงจิต

1829 Words
วาฬอุ้มร่างเล็กของสาวน้อยที่เขาไม่รู้จักแม้กระทั่งชื่อมาวางบนเตียงใหญ่ของเขา ข้าง ๆ เตียงมีขาลยืนกอดอกมองการกระทำของเพื่อนรักอยู่ไม่ห่าง “มึงคิดจะเอายัยเด็กนี่ทำเมียจริง ๆ เหรอวะ?” ขาลถามเพื่อนขึ้นมา “ก็น้องเขาเหมาะเป็นเมียกูนี่หว่า หน้าตาแบบที่กูชอบที่สำคัญ... น้องเขาเห็นไอ้ทองกับนังแก้วด้วย” หนุ่มหล่อขยับแว่นแล้วนั่งลงมองหน้าเนียนใสที่หลับตาพริ้มอยู่บนเตียง “กูบอกตรง ๆ กูก็ชอบยัยเด็กนี่ มึงจะแย่งคนกับกูเหรอไอ้วาฬ?” ขาลนั่งลงบนเตียงข้าง ๆ เพื่อนรักแล้วถามน้ำเสียงจริงจัง “มึงน่าจะเข้าใจอะไรผิด ที่มึงชอบน้องเขาแค่เพราะดวงจิตมึงผูกอยู่กับกู เวลามึงเจ็บกูก็เจ็บ เวลากูเจ็บมึงก็เจ็บ พวกเราแชร์ความรู้สึกกัน ดังนั้นที่มึงรู้สึกว่าชอบน้องเขาแค่เพราะมึงผูกดวงจิตเข้ากับกูแค่นั้น” วาฬพยายามอธิบายให้เพื่อนที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กฟัง “เชี่ย! มึงพูดผิด กูเจอน้องเขาก่อนมึง หรือมึงไม่รู้สึกว่าใจกูเต้นแรงตั้งแต่มึงยังเข้ามาไม่ถึงห้องด้วยซ้ำ” ขาลเถียงขึ้นมา “ใจมึงเต้นเพราะมึงหิ้วผู้หญิงมาเย่อในบ้านต่างหากไอ้ขาล กูบอกมึงตั้งหลายหนแล้วว่าอย่าพาสาวมาเอากันที่บ้าน มึงก็รู้อยู่ว่ากูกับมึงผูกดวงจิตกัน ถ้าเกิดกูเห็นสาวมึงแล้วตกหลุมรักเพราะมึงชอบเขาพวกเรามีหวังแย่งผู้หญิงกันแน่ กูเตือนมึงจนไม่รู้จะเตือนยังไงแล้วเนี่ย” วาฬพูดน้ำเสียงเหมือนเบื่อหน่ายเต็มที “กูหิ้วผู้หญิงมาเย่อในบ้านเพราะกูรู้ใจตัวเองไงว่ากูไม่ได้รักผู้หญิงพวกนั้น มันแค่เรื่องเล่นสนุก ๆ ดังนั้นกูก็ไม่กลัวมึงจะเห็นสาว ๆ ที่กูหิ้วมา เพราะถึงมึงเห็นมึงก็ไม่มีทางตกหลุมรักพวกนั้น เพราะกูไม่ได้รักพวกนั้นไง แต่กูว่ากูชอบน้องเขา!” วาฬได้แต่ถอนหายใจในความหัวดื้อของเพื่อน เรื่องทั้งหมดมันเกิดขึ้นมาเพราะไอ้ขาลเพียงคนเดียว... “แล้วจะเอายังไง? ให้น้องตัดสินใจว่าเขาจะเอาใครทำผัวดีไหม?” วาฬเสนอขึ้นมาแล้วขยับแว่นถามเพื่อนรัก “ชื่อน้องเขามึงยังไม่รู้จักเลยเสือกจะเอาเขาทำเมีย เหอะ!” ขาลไม่ตอบแต่แค่นเสียงเหอะออกมา “พูดตรง ๆ นะไอ้ขาล มึงก็รู้ว่ากูชอบผู้หญิงแบบนี้ กูเคยเอารูปแฟนกูให้มึงดูทุกคน ใส ๆ ผมยาว ๆ ตาโต ๆ สเปคกูหมด น้องเขาไม่มีอะไรที่เป็นสเปคมึงเลย มึงจะเสือกมาบอกว่าชอบเขาได้ยังไง? โกหกชัด ๆ ความรู้สึกที่มึงมีมันเป็นความรู้สึกกูล้วน ๆ” วาฬยังดื้อด้านจะอธิบายต่อ “แต่กูชอบนมใหญ่ ๆ เอวเล็ก ๆ เนี่ย มึงดูนมน้อง สเปคกูชัด ๆ ที่มึงชอบน้องมันความรู้สึกกูโว้ย ไม่ใช่ความรู้สึกมึง!” ขาลเองก็เถียงไม่ลดละพร้อมถือโอกาสบีบนมน้องเบา ๆ จนวาฬต้องตีมือใหญ่ดังเพียะเพื่อให้ขาลถอนมือออกจากอกอิ่ม “เฮ้อ! เรื่องนี้จะไม่เกิดขึ้นเลยถ้ากูกับมึงไม่ผูกดวงจิตเข้าด้วยกัน” วาฬได้แต่ถอนหายใจ “ก็ทำยังไงได้ล่ะเพื่อน ถ้ากูกับมึงไม่ผูกดวงจิตเข้าด้วยกันพวกเราก็ไม่มีทางมีวันนี้ กูคงตายไปนานแล้ว มึงก็คงจนกรอบ ไม่มีทางร่ำรวยอย่างทุกวันนี้...” คำพูดของขาลทำให้สองหนุ่มหวนคิดถึงวันคืนเก่า ๆ ขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ 25 ปีก่อน สาวสวยวัยกลางคนอุ้มเด็กชายตัวผอมแห้งวัยสี่ขวบไว้ในอ้อมแขนอย่างรักใคร่ทะนุถนอม เธอลงทุนคุกเข่าอ้อนวอนชายชราที่นั่งบริกรรมคาถาอยู่หน้าโต๊ะที่วางเครื่องรางของขลังเรียงรายมากมาย “อาจารย์วันช่วยลูกชายฉันด้วยเถอะนะคะ ฉันเหลือลูกชายเพียงคนเดียว ผัวก็ตายแล้ว ถ้าลูกมาตายอีกคนสมบัติมากมายก็ไม่มีค่าอะไร ถ้าอาจารย์ช่วยลูกชายฉันได้ฉันจะยกสมบัติทั้งหมดให้เลยก็ได้ค่ะ” สาวสวยอ้อนวอนเสียงสั่น เด็กน้อยในอ้อมกอดของเธอหายใจแผ่วเบาลงทุกที ชายชราผมขาวโพลนหมดหัว รูปร่างสูงใหญ่กำยำผิดกับวัยที่ล่วงเข้าเกือบร้อยปีหันมามองหญิงสาวและเด็กน้อยในอ้อมกอดของเธอด้วยสายตาครุ่นคิด “ไอ้เด็กนี่มันดวงถึงฆาต ดวงจิตอ่อนแรง ผีห่าซาตานเตรียมเข้ารุมสูบจิต ทางเดียวที่จะรอดได้คือต้องผูกจิตกับใครสักคนที่ดวงแข็งกว่า และดวงแข็งพอที่จะต่อสู้กับเหล่าวิญญาณร้ายได้ กูมีเด็กแบบนั้นอยู่คนหนึ่ง แต่...” วันหยุดพูดแล้วขมวดคิ้วแน่นเหมือนมีปัญหาที่ไม่สามารถแก้ไขได้ “แต่อะไรคะอาจารย์? ฉันทำได้หมดค่ะ ขอแค่ให้ขาลรอด” สาวสวยอ้อนวอนอีกครั้ง “เด็กคนนั้นเป็นเหลนกู พ่อแม่ปู่ย่ามันตายไปหมดแล้ว มันเป็นเด็กกำพร้า เป็นเหลนคนเดียวที่จะสืบทอดวิชากู หากเอาไปผูกจิตกับลูกมึงเวลาลูกมึงเจ็บเหลนกูก็เจ็บด้วย เวลาลูกมึงสุขเหลนกูก็สุขด้วย ในทางตรงกันข้าม ถ้าเหลนกูเป็นอะไรไปลูกมึงก็ไม่รอดเหมือนกัน ดังนั้น... เด็กสองคนต้องช่วยเหลือเกื้อกูลและแบ่งปันกันทุกอย่างเพื่อให้มีชีวิตที่ไม่ขาดตกบกพร่อง หากพ้นเคราะห์คราวนี้ไปมึงก็ต้องให้ลูกชายมึงมาเรียนคาถาอาคมขลังกับกูเพราะจิตของเหลนกูมีอำนาจแรงกล้า มันจะทำให้ลูกมึงมีอำนาจจิตด้วย หากมีอำนาจจิตแต่ไม่รู้จักควบคุม ไม่รู้จักใช้ก็จะนำภัยมาสู่ตัวได้ มึงจะยอมหรือ? ให้ลูกมึงมาเป็นพ่อมดหมอผีน่ะ?” วันถามหญิงสาวตรงหน้าน้ำเสียงเคร่งขรึม คุณแขไข ภรรยาหม้ายของท่านเจ้าสัวคง ตั้งทรัพย์บังเกิดรีบพยักหน้ารับคำอาจารย์วันทันทีโดยไม่ต้องคิดเพราะตอนนี้คนที่เข้าตาจนคือเธอ “ยอมค่ะอาจารย์ ฉันจะให้ขาลมาร่ำเรียนวิชาอาคมฝากตัวให้เหมือนเป็นลูกเป็นหลานอีกคนของอาจารย์ ส่วนเหลนของอาจารย์ฉันรับรองว่าจะสนับสนุนอุ้มชูอย่างดีที่สุด ฉันรู้ดีว่าอาจารย์ไม่ได้ลำบาก แต่สถานะทางการเงินก็ไม่ได้ร่ำรวยเหลือกินเหลือใช้เพราะอาจารย์ไม่ได้รับทำพิธีขูดรีดเหมือนหมอเวททั่วไป ดังนั้นถ้าอาจารย์ยอมให้เหลนของอาจารย์ผูกดวงจิตกับขาล ฉันสัญญาว่าขาลมีอะไรได้อะไร เหลนของอาจารย์ก็จะต้องมีต้องได้อย่างที่ขาลมีค่ะ” แขไขรับคำอาจารย์วันหนักแน่น หมอเวทชราพยักหน้าน้อย ๆ แล้วตะโกนเรียกศิษย์คนสนิท “ชัย! ไอ้ชัย! มึงไปพาไอ้วาฬเข้ามา กูจะทำพิธีผูกดวงจิต” ชัยในวัย 35 ตะโกนรับคำอาจารย์วันแล้วรีบไปพาเหลนเพียงคนเดียวของอาจารย์วันเข้ามาในห้องประกอบพิธี เด็กน้อยตัวอ้วนกลมหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู ท่าทางแข็งแรงกว่าเด็กชายตัวผอมบางที่นอนหอบหายใจอยู่ในอ้อมกอดของมารดามากนัก “คุณทวดเรียกหนูเหรอจ๊ะ?” เด็กน้อยถามทวดตาใส “เออ กูจะให้มึงผูกดวงจิตเข้ากับไอ้เด็กนี่ มึงทำได้ไหม?” วันถามเสียงเรียบ วาฬส่ายหน้าไปมาแรง ๆ ไม่อยากผูกดวงจิตเข้ากับใคร ถึงแม้เขาจะอายุเพียงสี่ขวบแต่เขาเติบโตขึ้นมาในเขตบ้านของหมอเวท เขารู้หมดว่าไสยศาสตร์มนตร์ดำมนตร์ขาวมีอะไรบ้าง การผูกจิตจะทำให้ตัวเขาต้องแบ่งปันชีวิตกับคนอื่น เรื่องอะไรเขาจะยอม “ไม่เอาอะทวด หนูไม่ผูกจิต” เด็กน้อยเบ้หน้าคล้ายจะร้องไห้ “หนู... ชื่อวาฬใช่ไหมจ๊ะ? มาทางนี้สิ มาดูหน้าขาลหน่อย เด็กคนนี้เป็นลูกของน้า ชื่อขาล” แขไขรีบกวักมือเรียกวาฬให้เข้ามาใกล้ วาฬเดินเข้าไปหาแขไขแล้วมองหน้าซีดเผือดของเด็กชายตัวเล็กที่สลบไสลในอ้อมกอดของหญิงสาวด้วยความรู้สึกหลายอย่างระคนปนเป ทั้งสงสาร เวทนา แต่ก็กลัวที่จะต้องช่วยเหลือโดยใช้ดวงจิตของตัวเองเป็นเครื่องมือ วาฬหันหน้าไปมองทวดด้วยสายตาคล้ายขอความช่วยเหลือ “มึงต้องตัดสินใจเอาเองไอ้วาฬ กูเองอายุเกือบร้อยแล้ว จะอยู่กับมึงไปได้อีกกี่ปี? มีอะไรทวดก็พยายามจะสอนสั่งมึงให้หมด อีกหน่อยไอ้ชัยก็ต้องคอยช่วยเหลือมึง แต่มึงก็ยังเด็ก ถ้าไม่มีกูมึงจะหาเงินมาใช้จ่ายได้ยังไง? กูจะตายวันตายพรุ่งก็ไม่รู้ได้ การผูกดวงจิตใช่ว่าจะเป็นเรื่องร้ายนะไอ้วาฬ ต่อจากนี้มึงจะมีคนช่วยแบ่งเบาความเจ็บ แบ่งปันความสุข พวกมึงจะกลายเป็นเพื่อนรักเพื่อนตายที่ไม่ว่าอะไรก็จะไม่สามารถทำให้พวกมึงเกลียดกันได้ พวกมึงจะต้องคอยช่วยเหลือกันตลอดไปเพราะจากนี้ไปชีวิตมันกับชีวิตมึงคือชีวิตเดียวกัน อีกอย่าง... การช่วยชีวิตคนเป็นบุญใหญ่หลวงนะไอ้วาฬ มึงดูหน้าไอ้เด็กนั่น วิญญาณร้ายรอสูบวิญญาณมันอยู่ ถ้ามึงไม่ผูกดวงจิตกับมัน ไม่เกินสามวันมันก็ตายแล้ว” วันพยายามโน้มน้าวจิตใจเหลนเพียงคนเดียว ชายชรารู้ตัวดีว่าอาจมีชีวิตอยู่ต่อได้อีกไม่กี่ปี การหาที่พึ่งให้วาฬเร็วที่สุดเป็นสิ่งที่เขาพอจะทำเพื่อเหลนเพียงคนเดียวของเขาได้ และที่พึ่งอย่างตระกูลเจ้าสัวใหญ่ที่จะไม่มีวันทำร้ายวาฬนับเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด หากผูกดวงจิตกันแล้ว การทำร้ายวาฬก็เหมือนทำร้ายไอ้เด็กขาลนั่น ไม่มีใครกล้าทำให้เหลนกูเจ็บแน่ ๆ... วันคิดคำนวณมาอย่างดีแล้วจึงยอมให้เหลนของเขาผูกดวงจิตกับขาล ทีนี้ก็เหลือแต่กล่อมเหลนให้ยอมรับข้อตกลงนี้เท่านั้น และการกล่อมเด็กห้าขวบสำหรับชายชราอายุเหยียบร้อยปีก็ไม่ใช่เรื่องยาก “หนูจะผูกดวงจิตกับเด็กคนนั้นจ้ะคุณทวด!” วาฬพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงแน่วแน่เกินวัยสี่ขวบ จากนั้นมาชะตาของเด็กชายสองคนก็ผูกพันและต้องแบ่งปันกันทุกอย่างในชีวิต
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD