“เฮ้อ!! หวังว่าจะไม่ได้เจอกันอีกนะ” เสียงถอนหายใจด้วยความโล่งอกของอันดาดังขึ้น หลังจากที่เธอเดินทางกลับมาถึงคอนโดด้วยความโล่งใจ ไม่เคยคิดว่าชีวิตนี้จะเจอผู้ชายหน้ามึนขอให้เธอรับผิดชอบแบบผู้ชายคนนั้น จนความเมื่อยล้าเข้าเล่นงานเธอทำให้เผลอหลับไป
“อ้าว!! เจ้าของอู่มาแล้วเหรอครับ” เมื่อเห็นร่างสูงของฉลามเดินเข้าไปภายในอู่ เสียงเข้มของเฟรย์ดังขึ้น
“มึงต้องการอะไร?” ตาคมกวาดตามองไปยังรอบบริเวณ สังเกตได้ว่าเฟรย์ไม่ได้มาที่นี่เพียงคนเดียว แต่มาพร้อมกับพรรคพวกสิบกว่าคน
“มาทักทายมึงไง กลัวชีวิตมึงจะเหงา” ใบหน้ายียวนกวนประสาทของเฟรย์เหมือนตัวกระตุ้นอารมณ์ของฉลามได้เป็นอย่างดี คิดว่าฉลามคงไม่กล้าทำอะไรเขามากนัก เพราะอาจจะกลัวอู่ของตัวเองเสียหาย
“ส้นตีนกู!!” ผลัวะ!! หมัดหนัก ๆ กระแทกเข้าใบหน้าของเฟรย์อย่างแรงจนเลือดสีแดงกระเซ็นออกมา
“ไอ้ฉลาม มึงกล้าต่อยกูงั้นเหรอ?”
“เข้ามา!!” ปกติเขาไม่ชอบชีวิตวุ่นวาย หรือพูดให้มากความ ในเมื่อต้องการมาหาเรื่องเขาถึงถิ่นแน่นอนว่าฉลามไม่ปล่อยไปง่าย ๆ แน่ ยิ่งวันนี้เขาหงุดหงิดให้กับผู้หญิงอย่างอันดา และอยากหาที่ระบายความโมโหเช่นกัน จึงไม่พูดพร่ำทำเพลงให้มากความ
“จัดการมันสิวะ!!” เฟรย์ตะเบ็งเสียงสั่งให้พรรคพวกที่มาด้วยเข้ามารายล้อมฉลามที่ยืนอยู่เพียงลำพัง โดยที่เขาไม่มีท่าทีเกรงกลัวกลุ่มของเฟรย์แต่อย่างใด
“เฮียให้พวกผมช่วยมั้ย” เมื่อเห็นท่าไม่ดี บีมลูกน้องคนสนิทจึงตะโกนถามเจ้านายหนุ่มของตัวเองด้วยความเป็นห่วง บวกกับคันไม้คันมืออยากมีเรื่องพอสมควร
“ไม่ต้อง!!” เสียงเข้มตอบกลับลูกน้องคนสนิทของตัวเองด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย ไร้ซึ่งความกังวลใด ๆ แสดงออกมาให้เธอ
ฉลามตั้งท่ารับพรรคพวกของเฟรย์โดยมีเฟรย์ยืนดูอยู่ห่าง ๆ ปล่อยให้เพื่อนของตัวเองจัดการฉลามแทน ทุกอย่างดูตะลุมบอนไปหมด โดยมีฉลามถูกรุมล้อมอยู่เพียงลำพัง ไม่มีลูกน้องคนไหนกล้าเข้าไปช่วย เนื่องจากเป็นคำสั่งของเจ้านาย
หมัดแลกหมัดและฉลามก็ดูเป็นต่อกลุ่มของเฟรย์มากโข เพราะศิลปะการป้องกันตัวที่ดีบวกกับฉลามเคยผ่านเรื่องชกต่อยมาเยอะ จึงไม่แปลกที่เขาจะสู้กลุ่มของเฟรย์ได้ แต่ก็มีเสียท่าอยู่พอควร
“ไอ้เฟรย์!! มึงเข้ามาสิวะ!!” น้ำเสียงเกรี้ยวกราดของฉลามตะคอกใส่เฟรย์ด้วยความหงุดหงิดใจไม่น้อย
เมื่อเห็นตัวต้นเรื่องที่ต้องการเข้ามาหาเรื่องเขายืนดูเหตุการณ์อยู่ห่าง ๆ ไม่แม้แต่จะเข้าใกล้เขา สร้างความรำคาญใจให้กับฉลามไม่น้อยที่เจอศัตรูเก่งแค่ปากแบบนี้
“เฮ้ย!! กลับเว้ย แวะมาทักทายมันแค่นี้พอ” เมื่อเห็นท่าไม่ดี เฟรย์รีบเรียกพรรคพวกของตัวเองกลับทันที
“ถุย!! อ่อนฉิบหาย ไอ้สัด” เป็นเรื่องที่เขาเบื่อที่สุด เมื่อเจอไอ้เฟรย์กวนตีนแบบนี้ ซึ่งเขาเองก็ไม่ได้อยากมีเรื่องมากนัก แต่ก็ต้องมีถ้าหากเรื่องมาหา
“เฮียเป็นไงบ้างครับ” บีมและลูกน้องคนอื่น ๆ รีบวิ่งเข้ามาดูอาการของเจ้านายตัวเองที่มีบาดแผลฟอกช้ำ และหางคิ้วแตกจนเลือดไหลซึมออกมา
“ไปทำงาน!!” เสียงเข้มสั่งลูกน้องของตัวเองทันที เพราะเขาไม่ต้องการความเห็นใจจากใครทั้งนั้นและบาดแผลแค่นี้ไม่สามารถทำอะไรเขาได้เลยสักนิด
“แต่เฮีย”
“กูไม่เป็นไร” บาดแผลบนใบหน้าไม่ได้ทำให้ฉลามรู้สึกเจ็บแต่อย่างใด มีเพียงแค่อาการหงุดหงิดใจที่มาคุอยู่ในใจเท่านั้น
“ไอ้บีม มึงไปสืบที่อยู่ของคนนี้ให้กู”
“มาทำไมตอนนี้เนี่ย?” ใบหน้าสวยหงุดหงิดใจไม่น้อย เมื่อถูกรบกวนเวลาส่วนตัวกับซีรีส์เรื่องโปรดของตัวเองที่กำลังถึงจุดไคลแม็กซ์ของเรื่อง และถ้าให้เธอเดาคงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากฮันนี่
“มีเรื่องอะ” อันดาเปิดประตูหน้าคอนโด ตั้งใจจะด่าเพื่อนรักที่กำลังรบกวนเวลาพักผ่อนของเธอเป็นอันต้องชะงัก เมื่อบุคคลที่ยืนอยู่หน้าประตูกับไม่ใช่คนที่เธอคิดเอาไว้ก่อนหน้านี้
“นะ นาย มาทำไมที่นี่” ร่างบางราวกับชาไปทั้งตัวเพียงแค่เห็นหน้าบุคคลที่เธอไม่อยากเจออีก
“......” ไร้ซึ่งคำตอบจากฉลาม ร่างสูงเดินเข้าไปในห้องของอันดา ไร้การเชื้อเชิญจากเจ้าของห้องที่ยืนตกใจอยู่หน้าประตู
“เฮ้ย!! หยุดเดี๋ยวนี้นะ นายไม่มีสิทธิ์ถือวิสาสะเดินเข้าห้องคนอื่นแบบนี้นะ”
“ห้องเมีย!!” ฉลามตอบกลับร่างบางที่ยืนเท้าสะเอวอยู่ตรงหน้า ท่าทางหงุดหงิดของอันดาแสดงออกชัดเจนพร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเบื่อหน่าย
“งั้นฉันคิดว่า นายคงเข้าห้องผิดแล้วแหละ”
“ล้างแผล” ฉลามเดินไปนั่งบนโซฟาหน้าทีวี โดยที่เขาไม่ได้ฟังคำพูดของอันดาเลยสักนิด ยังคงตีหน้ามึนใส่เจ้าของห้อง จนเธอถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างปลงตก แถมยังสั่งให้เธอล้างแผลหน้าตาเฉย
“ฮะ”
“รีบทำ”
“แต่ฉันไม่ใช่คนใช้นายนะ” มือเล็กเสยผมที่ปกหน้าขึ้นด้วยความงุ่นง่านใจกับการกระทำของผู้ชายคนนี้
“พูดมาก!! ง่วงแล้ว” ร่างสูงเอนตัวลงพิงพนักโซฟาพร้อมกับหลับตาลง ท่าทางสบายเหมือนเป็นห้องของตัวเอง โดยปล่อยให้อันดายืนมองการกระทำของเขาอยู่ด้วยความเอือมระอา
“อะไรของนาย!! นายสมองกลับ หรือนายเป็นบ้า ถามจริง?” เท่าที่อันดาพอสังเกตได้ ผู้ชายคนนี้เป็นคนพูดน้อยต่อยหนักพอสมควร ซึ่งเขาจะใช้วิธีป่าเถื่อนกับใครก็ได้ แต่ไม่ใช่สำหรับเธอ
“........”
“ถ้าฉันล้างแผลให้นาย นายต้องรีบออกจากห้องฉันเลยนะ” ไร้ซึ่งเสียงตอบรับหรือตอบโต้จากฉลามเช่นเคย เขาหลับตาลงด้วยความเหนื่อยล้า และร่างกายที่เริ่มถูกพิษไข้เล่นงานจากบาดแผลฟกช้ำ
หลังจากที่อันดาเดินไปหยิบอุปกรณ์ทำแผลวางเอาไว้บนโต๊ะดวงตากลมโตมองสำรวจใบหน้าสุดเพอร์เฟกต์ของฉลามที่ถึงแม้จะมีรอยช้ำก็ไม่สามารถทำให้ความหล่อของเขาลดน้อยลง จนสายตามาสะดุดเข้ากับริมฝีปากของชายหนุ่ม จนพาลนึกถึงภาพเหตุการณ์อันเร่าร้อนที่เกิดขึ้นเมื่อคืน
“นายเป็นนักเลงเหรอ?”
“จะมองอีกนานมั้ย?” ฉลามพูดออกมาทั้งที่ตาคมทั้งสองข้างของเขายังหลับสนิทอยู่ ทำให้ร่างบางที่สติล่องลอยถึงกับสะดุ้งเฮือก
“ฉันแค่สำรวจว่า ควรทำแผลตรงไหนก่อนต่างหาก” มือเล็กจัดการหยิบอุปกรณ์ขึ้นมาทำแผลให้กับชายหนุ่มอย่างตั้งใจ ผู้ชายคนนี้คงเป็นคนแรกที่เธอทำแผลให้แบบนี้
“ไม่ต้องรีบมอง ยังไงก็ต้องได้มอง” ประโยคคำพูดของฉลามเรียกความสงสัยจากอันดาได้ไม่น้อย ประโยคกำกวมทำให้เธอต้องรีบเอ่ยถามชายหนุ่มด้วยใจที่ตุ้มต่อม
“หมายความว่าไง!!”
“เป็นผัวเมียกันก็ต้องอยู่ด้วยกันสิ!!” นี่คงเป็นประโยคในไม่กี่ประโยคที่ผู้ชายคนนี้พูดยาว และเป็นประโยคที่ทำให้อันดาถึงกับต้องรีบยกมือขึ้นมากุมขมับของตัวเองกับความหน้ามึนของเขา