บทที่ 3 ตัวประกัน

1641 Words
“กัวเอินถง แม้ว่าห้าเผ่าจะยินดีมอบบรรณาการแต่แคว้นหมิง เจ้าก็รู้ธรรมเนียมดีอยู่แล้วว่ายังไม่เพียงพอจะเป็นหลักประกันให้เจิ้นเชื่อมั่นในความจงรักภักดี” น้ำเสียงของหมิงฮ่องเต้ดังกังวาน พระพักตร์ยังสงบนิ่ง “เพคะ หม่อมฉันเข้าใจดี ด้วยเหตุนี้หม่อมฉันจึงยินดีจะอยู่เป็นตัวประกันที่แคว้นหมิง” คนทั้งท้องพระโรงร้องฮือฮาไปตามๆ กัน ข้อเสนอเช่นนี้โดยทั่วไปก็คือการเสนอตัวเข้ามาเป็นพระสนมของฮ่องเต้ แต่นางเป็นเพียงหญิงพิการที่ต้องการนั่งรถเข็น นับเป็นความเสียเปรียบของแคว้นหมิงโดยแท้ หมิงฮ่องเต้ทรงหรี่พระเนตร รู้สึกเสียววูบไปพระปฤษฎางค์เพราะหลวนฮองเฮาทรงประทับเยื้องไปด้านหลัง ตามคราวก่อนองค์หญิงหานซู่ลี่จากแคว้นเว่ยที่พ่ายศึกก็เดินทางมาเพื่ออภิเษกสมรสเข้าวังหลัง แต่เพราะนางรูปร่างใหญ่โตราวกับหมีขาวจึงถูกวางแผนผลักดันให้ไปอภิเษกสมรสกับท่านอ๋องเก้า ภายหลังจึงกลายเป็นสตรีงดงามล่มเมืองจนทำให้หมิงฮ่องเต้ทรงเสียดาย ทว่ายามนี้มีหลวนฮองเฮาผู้เป็นหนึ่งเดียวในพระทัยแล้ว หมิงฮ่องเต้ที่กลายเป็นบุรุษรักเดียวใจเดียวทรงไม่อาจจะรับนางเอาไว้ ทั้งยังไม่อาจพระราชทานนางให้กับพระอนุชาทั้งหลายด้วย “ฝ่าบาทเพคะ ขุนนางที่ยังไม่แต่งงานยังมีอีกมากนะเพคะ” เสียงเตือนดังขึ้นมาจากด้านหลัง “กัวเอินถง น่าเสียดายที่วังหลังของเรายามนี้สงบเงียบยิ่งนัก ไม่อาจจะรับเจ้าเอาไว้ได้ การที่เจ้าเสนอตัวมาเป็นตัวประกัน เจิ้นจะเลือกผู้ที่เหมาะสมให้เจ้าเองก็แล้วกัน” หญิงสาวผู้มีขนตาหนายาวเป็นแพ ดวงตาเป็นประกายราวกับดาวฤกษ์ที่สุกสว่างประสานมือก้มศีรษะ “ขอบพระทัยเพคะ แต่หม่อมฉันคิดเอาไว้แล้ว” “หืม?....เจ้าคิดเอาไว้แล้วอย่างนั้นหรือ?” “เพคะ พี่ชายของหม่อมฉันกล่าวยกย่องถึงคนผู้หนึ่งอยู่เสมอ ดังนั้นเมื่อท่านพ่อต้องการให้หม่อมฉันมาเป็นตัวประกันในแคว้นหมิง หม่อมฉันจึงตั้งใจเอาไว้ว่าจะต้องแต่งงานกับคนผู้นี้เท่านั้น” ฮ่องเต้ทรงขมวดพระขนงอีกคราหนึ่ง “ผู้ใดกัน?” “ท่านแม่ทัพจีหลุนเพคะ ขอฮ่องเต้ทรงพระราชทานสมรสให้หม่อมฉันด้วยเพคะ” จีหลุนหันขวับไปมองลี่เทียนเป่าในทันที มือของเขาอ่อนลงจนแทบจะทำฮู่ป่านในมือหล่นลงพื้น ก่อนจะหันไปดูกัวเอินถงจากด้านข้าง “แม่ทัพจี เจ้าคิดเห็นอย่างไร?” จีหลุนถือฮู่ป่านขยับเท้าออกจากแถว “ฝ่าบาท กระหม่อมยังคลางแคลงใจในความจริงใจของห้าเผ่าพะยะค่ะ พวกเขารบพุ่งเพื่อหวังดินแดนหมิงอยู่สี่ปีแล้ว เหตุใดจู่ๆ จึงได้ยอมสวามิภักดิ์? กระหม่อมต้องการให้แม่นางกัวชี้แจงประเด็นนี้เสียก่อนพะยะค่ะ” “เจ้าตอบแม่ทัพจีหน่อยสิ กัวเอินถง” “ท่านแม่ทัพ ครั้งสุดท้ายที่ท่านต่อสู้กับพี่ชายข้า พี่ชายข้าได้รับบาดเจ็บสาหัสยากจะรักษาฟื้นฟู บัดนี้ห้าเผ่าปรึกษาหารือกันแล้วว่าการสู้รบที่ยืดเยื้อนี้ทำให้เกิดความเสียหาย ทำให้ราฎษรลำบากยากจน พวกเขาไม่อาจจะเข้ามาค้าขายในแคว้น หมิงได้ จึงต้องการสานสัมพันธไมตรีอย่างจริงใจ ในเมื่อตัวท่านก็ดูแลชายแดนตะวันตก ข้าแต่งให้กับท่านก็เป็นการสมควรแล้ว อีกอย่างครอบครัวของข้าก็เห็นชอบที่จะให้เลือกท่าน ข้าได้นำสาส์นยืนยันเรื่องนี้มาถวายฮ่องเต้ด้วย” จีหลุนฟังแล้วเขาถึงกับกำฮู่ป่านแน่น...แผลแค่นั้นจะถึงกับสาหัสได้อย่างไร? เขาเกรงว่าห้าเผ่าจะมีแผนการอื่น ผู้ติดตามของกัวเอินถงหยิบเอาสาส์นออกมามอบให้กับหลูกงกงอีกคราหนึ่ง หมิงฮ่องเต้ทรงหันพระพักตร์ไปหาฮองเฮา ทั้งสองสบสายพระเนตรคล้ายกำลังหารือ ฮองเฮาทรงค้อมพระเศียรแล้วตรัสเบาๆ กับพระสวามี หมิงฮ่องเต้ทรงอ่านสาส์นนั้นจบก็แย้มพระสรวลเล็กน้อย “จริงอย่างนางว่าหัวหน้าเผ่าเหลียนซาดูเหมือนจะคิดเรื่องนี้มาแล้ว ต้องการให้กัวเอินถงแต่งงานกับแม่ทัพจี ถ้าเช่นนั้นจีหลุนเพื่อความสัมพันธ์สองดินแดน เจ้ายินดีจะรับนางไว้เป็นภรรยาหรือไม่?” จีหลุนรู้สึกคล้ายจะหายใจไม่ออก เขาไม่เคยคิดว่าตนเองจะต้องแต่งงานเพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรี เดิมทีเรื่องนี้ก็อยู่ห่างไกลเขาอยู่แล้ว ซ้ำพี่ชายของนางก็ยังสร้างปัญหาใหญ่เอาไว้กับเขา ชายหนุ่มใบหน้าอึมครึม เขาอยากจะฆ่าพี่ชายของนางด้วยมือเขาเอง แต่...ครอบครัวนั้นกลับคิดจะให้เขาเป็นบุตรเขย เรื่องมันช่างน่าขำ จีหลุนคิดหาทางจะปัดนางให้พ้นตัว เขามองไปยังขาของนาง ในใจเขานึกรังเกียจที่หัวหน้าเผ่าเหลียนซาช่างคิดวิธีเอาเปรียบเขาได้ นางพิการขนาดนี้ ต่อให้แต่งกับเขา เขาก็เท่ากับต้องเลี้ยงดูสตรีที่ไม่อาจจะร่วมเตียงและมีบุตรได้ ชายหนุ่มนึกเดือดดาลอยู่ในใจ หรือว่ากัวเยี่ยนสือจะรู้ว่าเขาทำสิ่งนั้น...ไม่ได้! “ฝ่าบาท กระหม่อมยังมีเรื่องคลางแคลงใจอีกเรื่องหนึ่งพะยะค่ะ” แม่ทัพหนุ่มเดินมาด้านหน้า มองดูหญิงสาวในรถเข็นอย่างสำรวจตรวจตรา “เจ้ายังมีเรื่องใดก็ขจัดเสียตรงนี้เถิด” หมิงฮ่องเต้ทรงเอ่ยอนุญาต จีหลุนยกยิ้มมุมปาก “แม่นางกัว เจ้าเดินไม่ได้จริงๆ หรือ?” กัวเอินถงเบิกตากว้าง “ท่านคิดว่าข้าแกล้งพิการหรือไร? ถ้าเช่นนั้น ท่านก็ให้หมอหลวงมาตรวจร่างกายข้าก็ได้” หมิงฮ่องเต้ทรงถือโอกาสที่จีหลุนพูด หันไปบอกให้หลูกงกงเรียกหมอหลวงออกมาทันที “แม่นางกัว เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจของเจ้า ให้หมอหลวงตรวจสักหน่อยเถิด ไม่แน่ว่าเผื่อมีหนทางรักษาขาทั้งสองเจ้าให้หาย เจิ้นก็จะให้หมอหลวงช่วยรักษา ดีหรือไม่?” กัวเอินถงเม้มปากแน่น ครู่หนึ่งหัวหน้าหมอหลวงก็เดินเข้ามา คนผู้นั้นตรวจชีพจรของนางทั้งสองข้าง และยังใช้เข็มเงินปักทดสอบไปตามร่างกายท่อนล่างของนางจนทั่ว หญิงสาวมิได้มีอาการผิดปกติแต่อย่างใด จีหลุนจ้องนางเขม็ง แววตาของนางสงบนิ่ง ไม่สะดุ้งแม้สักน้อย “ทูลฝ่าบาท แม่นางกัวพิการจริงๆ พะยะค่ะ ร่างกายท่อนล่างของนาง ไร้สิ้นความรู้สึก” ทั่วทั้งท้องพระโรงเกิดเสียงฮือฮาขึ้นมาอีกคราหนึ่ง ขุนนางทั้งหลายต่างรู้สึกว่าหัวหน้าเผ่าเหลียนซาช่างเจ้าเล่ห์นัก ส่งบุตรสาวที่พิการท่อนล่างมาอ้างว่าขอสงบศึกด้วยการแต่งงานและส่งเครื่องบรรณาการ ทั้งๆ ที่ตัวนางนั้นเท่ากับท่อนไม้ท่อนหนึ่ง “ฝ่าบาท การค้าครั้งนี้พวกเราแคว้นหมิงขาดทุนย่อยยับนะพะยะค่ะ” หมิงฮ่องเต้ทรงใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่ง การสู้รบที่ชายแดนตะวันตกก่อให้เกิดการสูญเสียไปไม่น้อย ทั้งยังรบกันมาอย่างราวนานถึงสี่ปี นี่เป็นครั้งแรกที่ห้าเผ่ายอมเจรจาสงบศึก ซ้ำยังส่งบุตรสาวพิการของหัวหน้าเผ่าเหลียนซามาด้วยตนเอง หากจีหลุนยอมแต่งงานและตนเองรับเครื่องบรรณาการเสีย เรื่องนี้ก็จะจบลงโดยง่าย การค้าขายที่ชายแดนตะวันตกจะทำได้ราบรื่น สร้างเงินทองเข้าสู่แคว้นอีกไม่นาน “แม่ทัพจี เจ้าปรารถนาจะรบกับห้าเผ่าให้ชนะมาตลอดมิใช่หรือ?” “พะยะค่ะ” “ถ้าเช่นนั้น ข้ามอบเชลยศึกไว้กับผู้มุ่งมั่นเช่นเจ้าก็สมควรแล้ว อีกอย่างนี่เป็นความประสงค์ของหัวหน้าเผ่าเหลียนซา หากว่าเจ้าไม่ยินยอมก็เท่ากับการเจรจาครั้งนี้ล้มเหลว เจ้าอุทิศตนเพื่อแคว้นมาตลอด ยอมรับอีกสักเรื่องจะเป็นอันใด?” ขุนนางทั้งหมดรีบก้มหน้า ไม่มีผู้ใดกล้าออกหน้าแทนจีหลุนเพราะรู้ดีว่าเรื่องนี้หมิงฮ่องเต้ทรงใคร่ครวญเอาไว้แล้ว หากไม่มีสาส์นยืนยันจากหัวหน้าเผ่าเหลียนซาอาจจะผลักดันการแต่งงานไปให้ผู้อื่นได้ “พะยะค่ะ กระหม่อมน้อมรับพระบัญชา” ใบหน้าของจีหลุนเคร่งเครียด เขาค้อมศีรษะรับคำฮ่องเต้ มือที่กำฮู่ป่านมีเหงื่อซึมออกมาทั้งสองข้าง เมื่อออกมาจากท้องพระโรงได้ จีหลุนเสียบฮู่ป่านเอาไว้ที่สายรัดเอวแล้วยกมือขึ้นตบศีรษะลี่เทียนเป่าอย่างแรง ป้าบ! “โอ๊ย!” “ไหนเจ้าบอกว่าเป็นเรื่องดี? เหล่าลี่ นี่หรือเรื่องดีของเจ้า? ข้าต้องมาแต่งงานกับสตรีพิการเดินไม่ได้ แล้วนี่ข้าจะบอกกับท่านพ่อท่านแม่อย่างไร?” “แต่ตามที่กระดองเต่าของข้าทำนายออกมา นี่เป็นเรื่องดีๆ ของเจ้านะ” “ดีกับผีน่ะสิ นี่ถ้าข้าไม่กลัวฮ่องเต้สั่งตัดหัวล่ะก็ คงจะเสนอให้เจ้าแต่งงานกับนางแทนข้าแล้วล่ะ” ชายหนุ่มนิ่วหน้า “เท่าที่ดู ข้าว่าคิ้วกับดวงตาของนางคล้ายกับกัวเยี่ยนสือมากเลยทีเดียว” ลี่เทียนเป่ามองหน้าสหายอย่างชั่งใจ “นั่นสิ น่าเสียดายที่นางมิได้เปิดหน้าให้พวกเราได้เห็น ข้าอยากรู้ว่านางงดงามหรือไม่?” ************************* *พระปฤษฎางค์ คำราชาศัพท์หมายถึง แผ่นหลัง *องค์หญิงหานซู่ลี่ นางเอกจากเรื่อง “ท่านอ๋องกับชายาหมี” *ฮู่ป่าน หรือป้ายสำหรับบันทึกของขุนนางในยามถวายรายงานต่อฮ่องเต้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD